The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 138
บทที่ 138 เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นทั้งเมือง !
บริษัทชิงหยิ่นถือเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่
นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมทางด้านการค้าระหว่างประเทศรวมถึงการก่อสร้างขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่
แต่ทำไมเฉินตงจึงนึกไม่ถึงเลยว่า เจ้านายของกู้ชิงหยิ่ง ที่แท้ก็คือประธานของบริษัทชิงหยิ่น !
อีกทั้ง เขาเองไม่คิดว่ากู้โก๋ฮั๋วจะรู้สึกระลึกถึงบ้านเกิด ถึงได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนเหมือนที่นำเสนออยู่ในข่าว
การที่กู้โก๋ฮั๋วยังคงเก็บบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่เอาไว้ ก็ถือเป็นการระลึกถึงบุญคุณได้อย่างดีแล้ว
ถ้าคิดที่จะเข้ามาลงทุนในเมืองนี้จริง ด้วยศักยภาพของบริษัทชิงหยิ่นแล้ว ทำไมถึงมาเอาตอนนี้ ?
อีกทั้งในเมืองนี้ก็มีที่ทำเลดีมากมาย ด้วยความสามารถของบริษัทชิงหยิ่น ถ้าคิดที่จะลงทุน มีหรือที่จะสรรหาที่ทำเลดีในเมืองนี้ไม่ได้ ?
แล้วทำไมถึงได้บังเอิญมาเลือกเอาพื้นที่ที่กำลังจะล่มสลายอย่างภาคตะวันตกของเมืองกัน ?
เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นการจงใจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยไท่ติ่งของเขา
นำสิ่งที่ยี่เคอ กรุ๊ปทำไม่ได้ มาทำให้สำเร็จ
และบริษัทชิงหยิ่นจะสามารถยกระดับภาคตะวันตกของเมืองขึ้นได้อย่างแน่นอน
“มั่งคงแล้ว ตอนนี้พวกเรามั่นคงแล้ว !”
เสี่ยวหม่าไม่อาจระงับสติอารมณ์ได้อีก เขาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง : “พี่ตง ผม ผมจะรีบออกไปบอกทุกคนเดี๋ยวนี้ !”
เสี่ยวหม่าวิ่งออกไปได้ไม่นาน ด้านนอกห้องทำงาน ก็มีเสียงตะโกนโห่ร้อด้วยความยินดีดังขึ้น
ไม่มีใครนึกสงสัยเลยว่า บริษัทชิงหยิ่นจะสามารถรักษาเสถียรภาพของภาคตะวันตกเอาไว้ได้หรือไม่
อีกทั้งสถานการณ์ในตอนนี้ ขอแค่รักษาเสถียรภาพของราคาอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันตกของเมืองเอาไว้ได้ ไท่ติ่งก็จะกลับมารุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง !
เฉินตงที่กำลังฟังเสียงตะโกนโห่ร้องด้วยความยินดีอยู่นั้น สีหน้าของเขาก็เริ่มดูซับซ้อนและแปลกประหลาด เขาอยากจะหัวเราะ แต่ก็หัวเราะไม่ออก ด้วยนิสัยของเขา ไม่ชอบพึ่งพาผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไร
แต่ครั้งนี้……
เฉินตงหัวเราะออกมาด้วยความโล่งใจที่สามารถยกภูเขาออกจากอกได้แล้ว เขาลูบจมูกไปมา : “ข้าวนุ่มๆ นี่……ช่างหอมจริงๆ”
หลังจากที่มีการแถลงข่าวของบริษัทชิงหยิ่น เรื่องนี้ก็ได้รับความนิยมทันที
ภายในช่วงเวลาสั้นๆ เหมือนมีพายุลูกใหญ่เกิดขึ้นทั่วเมือง
ราวกับมีระเบิดนิวเคลียร์ลูกใหญ่พุ่งเข้าถล่มเมือง
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า จู่ๆ บริษัทชิงหยิ่นจะประกาศเรื่องการลงทุนในภาคตะวันตกของเมืองนี้ออกมา !
อีกทั้ง ยังเป็นการสานต่อโครงการที่ยี่เคอ กรุ๊ประงับไปแล้วอีกด้วย
ทุกคนต่างรู้ดีว่า ราคาอสังหาริมทรัพย?ในภาคตะวันตกจะไม่มีทางดิ่งลงอย่างแน่นอน !
ด้วยศักยภาพของบริษัทชิงหยิ่น แม้แต่ยี่เคอ กรุ๊ปก็ไม่อาจเทียบได้
เพราะอย่างไรเสีย บริษัทหนึ่งก็เป็นถึงบริษัทระดับนานาชาติ ส่วนอีกบริษัทหนึ่งเป็นเพียงแค่บริษัทระดับแนวหน้าในประเทศเท่านั้น
เป็นข้อแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน !
อีกทั้ง บรรดาผู้ซื้อที่กำลังดีใจอยู่กับการขายบ้านคืนได้สำเร็จก่อนหน้านี้เพียงแค่ครู่เดียวเหล่านั้น ตอนนี้เหมือนถูกยิงแสกเข้าไปตรงกลางหน้าผาก จนผ่านไปพักใหญ่ก็ยังไม่ได้สติ
เมื่อยี่เคอ กรุ๊ปจากไป บริษัทชิงหยิ่นก็เข้ามาทันที บริษัทยักษ์ใหญ่พวกนี้เขาเล่นอะไรกัน ?
ราคาอสังหาริมทรัพย์ไม่มีทางดิ่งลงแล้ว แล้วสัญญาการขายบ้านคืนที่อยู่ในมือล่ะ ?
ชั่วพริบตาเดียว บรรดาผู้ซื้อที่สามารถขายห้องคืนได้สำเร็จก็รู้สึกเสียใจและตีอกชกตัวในทันที
ถึงขั้นว่ามีบางคนเรียกสติกลับมาได้เร็ว จึงรีบมุ่งหน้ากลับไปยังศูนย์กลางที่ทำการขายใหม่อีกครั้ง แต่กลับพบว่าศูนย์กลางที่ทำการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งสี่แห่งของไท่ติ่งนั้น ปิดให้บริการไปนานแล้ว
เมื่อนำข้อมูลของศูนย์กลางที่ทำการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งสี่แห่งมารวมกันพบว่า ยังมีผู้ซื้ออีกประมาณ 10 % ที่ยังไม่ได้มาทำเรื่องขายบ้านคืน
อีกทั้งในขณะที่มีการรายงานข่าวเรื่องนี้ออกมา คนที่ต้องการขายบ้านคืนทั้งหมด ก็หายไปโดยพร้อมเพรียงกันทันที
ถึงขั้นว่า บางคนที่กำลังดำเนินการขายบ้านคืนอยู่นั้น ยอมที่จะฉีกสัญญา และหันหลังเดินจากไป
คนที่ยังขายบ้านคืนไม่สำเร็จ ต่างก็กำลังแอบดีใจกับตัวเองอยู่
พวกเขารู้ดีว่า หากบริษัทชิงหยิ่นเข้ามาปักหลัก บ้านที่อยู่ในมือของพวกเขาไม่มีวันที่จะราคาตกอย่างแน่นอน สิ่งที่ควรจะได้นั้นยังคงอยู่ !
อีกทั้งเมื่อส่งลูกค้าคนสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย ศูนย์กลางที่ทำการขายอสังหาริมทรัพย์ก็ปิดบริการลทันที
นี่ทำให้คนที่ต้องการจะซื้อบ้านกลับคืนมาเหล่านั้น ต่างทุบอกชกตัวด้วยความเสียใจ ร้องโฮออกมาด้วยความเสียดาย
เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงบ่าย
บริษัทชิงหยิ่นเข้ามาปักหลัก เหมือนกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้หัวใจของทุกคนในเมืองพลอยสั่นสะท้านอย่างรุนแรงไปด้วย
อีกทั้งความคิดเห็นของสาธารณชนทั้งหมด ที่ก่อนหน้านี้พูดถึงภาคตะวันตกในแง่ลบ มาตอนนี้กับเยินยอในด้านดีอีกครั้ง
ประกอบกับในช่วงเช้า สื่อแขนงต่างๆ ได้ปักหลักอยู่ที่ศูนย์กลางที่ทำการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งสี่แห่ง ได้นำเสนอภาพข่าวของบรรดาผู้ซื้อชุดสุดท้ายที่ยังดำเนินการขายบ้านคืนไม่เรียบร้อย ต่างตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ ทำให้การพูดถึงภาคตะวันตกของเมืองในแง่ดีมีเพิ่มมากขึ้นอย่างทวีคูณ
บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง
ผู้ช่วยเปิดประตูห้องทำงานของโจวจุนหลงเข้ามาอย่างตื่นเต้น
“ประธานโจว พุ่งแล้ว ราคาหุ้นของบริษัทเราพุ่งแล้ว !
โจวจุนหลงมีสีหน้าที่ซับซ้อน ไม่ได้แสดงอาการตื่นตกใจมากนัก
ตอนนี้ คำพูดที่ท่านหลงพูดกับเขาก่อนหน้านี้ จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาทันที
เขาโบกมือให้ผู้ช่วยออกไป
โจวจุนหลงลูบใบหน้าของเขา แล้วยิ้มออกมาอย่างหดหู่ แล้วพึมพำว่า : “ลมหายใจเดียวกัน นี่ฉันถูกผูกติดกับเฉินตงแล้วจริงหรือ……เรื่องของโชคชะตา ช่างอยู่เหนือการคาดเดาของคนเสียจริงๆ”
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานอันโอ่โถง
โจวเย่นชิวกำลังมองหน้าจอโทรทัศน์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมโดยไม่ขยับเขยื้อน
แต่แววตาของเขา กลับแสดงออกให้รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
ผ่านไปพักใหญ่
โจวเย่นชิวหยิบซิการ์ขึ้นมาค่อยๆ จุดไฟ หลังจากสูบแล้ว กลับรู้สึกว่ารสชาติของควันที่ลอยคลุ้งอยู่ในปากนั้น ช่างขมจนยากจะหาอะไรเปรียบได้
เขาวางซิการ์ลง จากนั้นจึงบ่นพึมพำเสียงเข้มว่า : “ยี่เคอ กรุ๊ปไป บริษัทชิงหยิ่นก็มา มีเทวดาคอยคุ้มครองจริงๆ ทั้งตระกูลเฉิน ทั้งบริษัทชิงหยิ่น เฉินตงเอ๋ย เฉินตง……เบื้องหลังชีวิตมังกรของนาย มีเทวดาคอยคุ้มครองอยู่กี่องค์กันแน่ ?”
โจวเย่นชิวเอามือลูบหน้า แววตาเป็นประกายออกมา : “มุมหนึ่งของเมืองนี้ ทำไมถึงได้มีมังกรอย่างนายแอบซ่อนตัวอยู่ ? ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฉินกับนายเป็นอย่างไรกันแน่ ? แล้วที่ฉันยอมซื้อที่ดินภาคตะวันตกเพื่อค้ำชูนายในช่วงที่เกดิวิกฤติ นายจะยอมลืมเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนเพราะที่ดินผืนนี้ไหม ?”
คำถามที่ประเดประดังเข้ามาในหัว ทำให้โจวเย่นชิวยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งขึ้น
ครั้งหนึ่งเฉินตงเคยเป็นประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา และนั่นคือที่ที่เขาให้น้องชายของภรรยาเอาไว้พักอาศัยยามแก่ชรา
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เฉินตงจะทำให้เขาต้องแปลกใจครั้งแล้วครั้งเล่า
หรืออาจพูดได้ว่า……ตกใจ !
บางครอบครัวมีความสุข บางครอบครัวโศกเศร้า
ข่าวเพียงแค่ข่าวเดียว สามารถส่งผลกระทบไปได้ทั้งเมือง
ทำให้ทั้งเมืองเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น
ช่วงบ่าย เสียงแสดงความคิดเห็นของประชาชนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น
ถึงขั้นมีบางคนเริ่มเชื่อว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ทางภาคตะวันตกจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน
หากเป็นเช่นนี้ ยิ่งทำให้บรรดาผู้ที่สามารถขายบ้านคืนได้สำเร็จเหล่านั้น ต่างรู้สึกอยากตายไปตามๆ กัน บางคนถึงขั้นว่ายอมมุ่งหน้าไปยังบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง เพื่อต้องการที่จะซื้อบ้านกลับคืนมาในทันที
แต่เฉินตงให้บริษัทปิดพักร้อนเรียบร้อยแล้ว
เข้ามอบหมายให้เสี่ยวหม่าพาเหล่าพนักงานไปผ่อนคลายสักพัก
ใน่ช่วงระยะเวลาสองวันสั้นๆ นี้ ทุกคนในไท่ติ่งคือคนที่จับมือกับเขาก้าวผ่านขุมนรกมาด้วยกัน !
ตอนนี้บริษัทชิงหยิ่นยื่นมือเข้ามาแล้ว ไท่ติ่งก็เหมือนฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง จึงควรจะเป็นเวลาที่ทุกคนได้แสดงความยินดีร่วมกัน
ส่วนตัวเขาเอง ปลีกตัวไปยังคลับยี่สิ่นตามลำพัง
ข้าวนุ่มช่างหอมอร่อย แต่สิ่งที่ควรขอบคุณก็ควรขอบคุณ
ถ้าไม่ใช้เพราะก็โก๋ฮั๋วยื่นมือเข้ามาช่วยเขาในเวลาคับขันเช่นนี้ เขาคงไม่อาจแน่ใจได้ว่า เขาจะสามารถถ่วงเวลาไปจนกระทั่งถึงผลการตัดสินระหว่างพ่อและคุณหญิงใหญ่ออกมาได้
เมื่อเห็นก็ชิงหยิ่ง เฉินคงก็ตรงเข้าไปสวมกอดกู้ชิงหยิ่งเอาไว้แน่น
เขารู้ดีว่านี่คือผลงานของกู้ชิงหยิ่ง !
หลังจากที่ทานข้าวร่วมกับกู้ชิงหยิ่ง และกู้โก๋ฮั๋วพร้อมทั้งภรรยา เพื่อแสดงความขอบคุณแล้ว เฉินตงก็กลับไป เพราะเขายังกลับไปเตรียมแผนการดำเนินงานของไท่ติ่งหลังจากนี้อีก
เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน สิ่งที่เขาควรจะเตรียมพร้อมก็ยังไม่ได้เตรียม แต่เขาแน่ใจว่าจะต้องจัดงานเลี้ยงเพื่อแสดงความขอบคุณต่อกู้โก๋ฮั๋วอย่างแน่นอน
สำหรับเรื่องนี้ กู้โก๋ฮั๋วและภรรยากลับไปได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ที่ไม่เหมาะสมอะไร
ตอนที่เฉินตงกลับไป ฟ้าก็มืดลงพอดี
กู้โก๋ฮั๋วและภรรยา หันมองกู้ชิงหยิ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จึงยิ้มออกมาด้วย
“เจ้าเด็กคนนี้ ผ่านมาสองวันแล้ว ในที่สุดก็เห็นรอยยิ้มออกมาจนได้” หลี่หวั่นชิงพูดด้วยความเอ็นดู
กู้โก๋ฮั๋วพยักหน้า : “ลูกสาวเมื่อโตแล้ว ไม่ควรจะเก็บเอาไว้ข้างตัวจริงๆ ดูสิ พอมีแฟนขึ้นมา ก็ใช้เงินพ่อไปหลายพันล้าน”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ กู้ชิงหยิ่งก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข แล้วเข้าไปสวมกอดผู้เป็นพ่อ : “ขอบคุณค่ะพ่อ ขอบคุณค่ะแม่ หนูรักพ่อกับแม่ที่สุดเลย”
กู้โก๋ฮั๋วและภรรยาหัวเราะร่าออกมา
“พ่อจะไปดูข่าวสักหน่อย” กู้โก๋ฮั๋วลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์
ทุกๆ วันเขาจคอยดูข่าวอยู่ตลอด เพื่อทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
แต่ในขณะที่เขากดเปิดหน้าเว็บไซต์ขึ้นมา จู่ๆ ตัวของเขาก็สั่น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากในทันที
เวลาเดียวกันนี้
ลูกระเบิดอีกลูกที่เหมือนอุกกาบาตกำลังตกลงสู่พื้นดิน
ถึงจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ แต่กลับมีพลังมากพอที่จะสั่นสะเทือนทั้งเมืองได้อีกครั้ง