The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 149
บทที่ 149 ขุดหลุมศพของบรรพชน?
สายลมเบาๆและแสงแดดที่อบอุ่น
ทางเดินเล็กๆ มวลดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง
เฉินตงที่นอนพักไปสองชั่วโมง ได้มาฝึกฝนวิชาปีศาจกับคุนหลุนแต่เช้า
ไม่ใช่เพราะเขาไม่ง่วง
แต่เขานั้นเข้าใจว่าตัวเองยังห่างจากผู้เก่งกาจเหล่านั้นของตระกูลเฉิน อยากจะชนะ นอกจากทุ่มเทเต็มร้อย เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกเลย
นี่คือคติประจำใจที่เขาใช้มาตั้งแต่เล็กจนโต
เงยหน้ามองภูเขา ก้มหน้าเดิน พยายามให้เต็มที่ นอกเหนือจากนั้นก็แล้วแต่สวรรค์
เมื่อฝึกฝนเสร็จ เขาที่เหงื่อท่วมตัวก็นั่งหมดแรงอยู่ตรงเก้าอี้สวนสวนสาธารณะ หายใจหอบ
การฝึกปีศาจหนึ่งรอบลงมา ทำให้เขาใช้พลังเกือบหมดตัว
แต่นี่คือจุดประสงค์ในการฝึกของเขา มีเพียงแต่ขั้นตอนการฝึกที่ใช้พลังมากในครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายถึงจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
คุนหลุนก็เหงื่อท่วมตัวเหมือนกัน เพียงแต่ท่าทางนั้นดีกว่าเฉินตงมาก
ร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่า กล้ามเนื้อที่เหมือนดั่งทองสัมฤทธิ์ ถูกส่องด้วยแสงอาทิตย์ เหมือนมันกำลังเปล่งประกาย
“คุณชาย……..” จู่ๆคุนหลุนก็เอ่ยปากขึ้น
เฉินตงเลิกคิ้ว มองไปที่คุนหลุน
คุนหลุนลังเลไปหลายวินาที แล้วกล่าว “ผมอยากจะช่วยฟ่านลู่”
จู่ๆเฉินตงก็ยิ้มขึ้นมา
คุนหลุนก็ส่ายหัว “ไม่ ผมหมายความว่า ผมอยากจะให้ครอบครัวกับเธอ ครอบครัวที่ไม่มีญาติมาเป็นตัวถ่วง”
ตัดขาดจากครอบครัว?
เฉินตงขมวดคิ้วขึ้นมา เรื่องนี้ “ฟ่านลู่ว่ายังไงบ้าง?”
เขาไม่มีเคยเจอเรื่องแบบฟ่านลู่ และก็ไม่เคยรู้สึกว่าถูกญาติพี่น้องถ่วงความเจริญ
แต่เมื่อรู้อดีตของฟ่านลู่แล้ว ก็ไม่มีความสงสัยเลย ฟ่านลู่นั้นถูกพ่อที่ใจร้ายของเธอถ่วงความเจริญของเธอจริงๆ
ตามหลักแล้ว หากฟ่านลู่นั้นตัดขาดจากพ่อที่ใจร้าย มันเป็นวิธีการปกป้องฟ่านลู่ที่ดีที่สุด
แต่มันเกี่ยวพันกับครอบครัว มันไม่ใช่สิ่งที่เหตุผลจะชี้ขาดได้?
เธอได้ตัดสินใจแล้ว
คุนหลุนกล่าวด้วยแววตาที่แน่วแน่
“มีอะไรต้องการให้ฉันช่วยมั้ย?”
เฉินตงไม่มีความประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ถามอย่างตรงๆ
ไม่ว่ายังไง ในฐานะพ่อ เพื่อต้องการใช้หนี้ กลับมัดลูกสาวตัวเองไว้บนเตียง ให้เจ้าหนี้มาหาความสุข ความสัมพันธ์แบบนี้ ฟ่านลู่ตัดสินใจแบบนี้ ไม่มีอะไรน่าตำหนิ และก็ไม่น่าแปลกใจอะไร
“ตอนนี้ยังไม่มีครับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ ควรจะต้องบอกคุณชายก่อน”
เฉินตงพยักหน้า “งั้นนายก็ไปช่วยฟ่านลู่จัดการละกัน มีอะไรที่ต้องให้ฉันช่วยเหลือ พูดออกมาได้เลย คนบ้านเดียวกันอย่าปิดบังกัน”
พักผ่อนพอประมาณแล้ว เฉินตงก็ลุกขึ้นเดินกลับไปที่บ้าน
เหลือคุนหลุนไว้ ยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิมด้วยความงุนงง บ่นพึมพำ “คนบ้านเดียว………….”
ภายใต้แสงแดด ใบหน้าของคุนหลุนปรากฏด้วยรอยยิ้มที่สดใส
จากนั้นก็ก้าวตามเฉินตงไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากทานอาหารเช้า เฉินตงก็ได้ไปที่บริษัทไท่ติ่ง
วันนี้ราคาบ้านของฝั่งตะวันตกขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ไท่ติ่งต้องทำรอให้มันสะสม หมักหมมได้ที่ก่อน ได้เวลาที่เหมาะสม ยกเลิกข้อ จำกัดในการซื้อ แล้วขายทั้งหมด
ดังนั้นงานในมือของเขาน้อยลงไปมาก
หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง ราคาบ้านฝั่งตะวันตกยังคงได้รับความเปลี่ยนแปลงและราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทชิงหยิ่นกับยี่เคอ กรุ๊ปเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเวลาเดียวกัน ทำให้คนในเมืองแทบคลั่ง
แม้ก่อนหน้านี้ราคาที่อยู่อาศัยจะทรงตัวและดิ่งลง แต่ก็ยังไม่แสดงสัญญาณของการลดลง และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พนักงานทุกคนของไท่ติ่งทุกคน ท่ามกลางความวุ่นวายของราคาที่บ้านที่สูงขึ้นนี้ ทุกคนมีแรงจูงใจอย่างเต็มที่ มีขวัญกำลังใจในการทำงานอย่างสูง
ทุกวันเวลาเข้างาน สิ่งที่เพื่อนร่วมงานคุยกันมากที่สุด ก็คือราคาบ้านเพิ่มขึ้นมากี่เปอร์เซ็นต์!
ภายใต้การควบคุมโดยเจตนาของเฉินตง โครงการทั้งสี่โครงการยังคงขายได้ห้าสิบหลังต่อวัน
ทุกอย่าง เห็นได้ชัดว่ามันเงียบสงบมาก คล่องตัวไปหมด
ในคืนนี้
หลังจากยุ่งมาทั้งวันเฉินตงก็กลับถึงบ้าน
สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ แม่ของเขานั้นไม่อยู่บ้าน
เวลานี้เป็นเวลาทุ่มกว่าแล้ว แม่จะไปไหนได้นะ?
ถามท่านหลงกับฟ่านลู่แล้ว ก็ได้คำตอบที่ไม่รู้อะไรเลย
เฉินตงก็ไม่ได้สงสัยต่อ แม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว อาจจะเพราะอารมณ์ดีก็เลยไปเดินเล่น ก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไร
เหมือนกับเรื่องของฟ่านลู่ เปอร์เซ็นต์จะเกิดในเขตวิลล่าเขาเทียนซาน เกิดขึ้นได้น้อยมาก
หลังจากที่ทานข้าวเย็นเสร็จ เฉินตงได้เรียกคุนหลุนขึ้นไปที่ดาดฟ้าพร้อมกัน
ลมโชยไปมา เฉินตงถามขึ้น “เรื่องของฟ่านลู่ จบหรือยัง?”
“ถือว่าจบแล้วมั้ง”
คุนหลุนรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ “ให้เงินพ่อเธอไปสองล้าน ตัดขาดกันโดยสิ้นเชิง”
เฉินตงพยักหน้า ก็ไม่ได้ถามต่อ
สองล้านไม่ถือว่าเยอะ แต่สำหรับพ่อของฟ่านลู่แล้ว มันเป็นเหมือนเงินที่ช่วยชีวิต!
นักพนันที่ถูกเจ้าหนี้บีบบังคับจนหมดหนทาง ไม่สามารถคาดหวังว่าเขาจะยึดมั่นในคำพูด
เพียงแต่ น้ำเสียงที่ไม่ค่อยแน่ใจของเฉินตง ทำให้เฉินตงนั้นเข้าใจ ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวมันไม่สามารถที่จะตัดกันง่ายๆ
ทันใดนั้น
“พี่คุนหลุน!”
เสียงตะโกนเรียกของฟ่านลู่ ทำให้เฉินตงกับคุนหลุนหันหน้ากลับไปพร้อมกัน
ฟ่านลู่ที่แก้มแดง วิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก จับแขนของคุนหลุนเอาไว้ “เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องกับพ่อฉันแล้ว!”
เฉินตงขมวดคิ้วเล็กน้อย
น้ำเสียงของเฉินตงกลับต่ำลง “เธอได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับเขาแล้วไม่ใช่เหรอ? ต่อไปหากเขาติดหนี้อีก ก็จะไม่เกี่ยวกับเธอ”
คำพูดที่ตรงๆ นั้นกำลังเตือนสติฟ่านลู่
ภาพเมื่อสองสามวันก่อน ทำให้คุนหลุนโกรธอย่างบ้าคลั่ง
เขาไม่สงสัยเลย หากคืนนั้นไปช้าเพียงก้าวเดียว ชีวิตของฟ่านลู่ก็คงถูกเขียนรูปแบบใหม่
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น”
ฟ่านลู่รู้สึกกังวลพร้อมกับน้ำตาคลอ “พ่อของฉันไม่เพียงแต่เสียเงินที่คุณให้ไปเท่านั้น แต่ยังติดหนี้เพิ่มอีกหนึ่งล้านกว่าหยวน ตอนนี้คนกลุ่มนี้มาทวงหนี้จากเขา พวกเขาต้องการบังคับให้ฉันไป จึงจะขุดหลุมศพของคุณปู่และคุณย่าของฉัน! ”
โครม!
คำพูดที่เหมือนสายฟ้า
เวลานี้ แม้แต่สีหน้าของเฉินตงก็ยังมืดมนลง
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ควรเหลือหนทางไว้ให้ตัวเองบ้าง อย่าให้มันเกินไป
คนพวกนั้นเพื่อต้องบีบให้คุนหลุนกับฟ่านลู่ปรากฏตัว ถึงขนาดไปขุดหลุมศพของบรรพชน?
นี่ไม่แม้แต่จะให้ความสงบสุขแก่บรรพชนเลยเหรอ?
“ไป!”
ขณะนี้คุนหลุนก็ได้จับมือของฟ่านลู่วิ่งลงบันไดไป
มองดูทั้งสองคนที่จากไป เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น บ่นพึมพำ “ คนพวกนี้ ทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ขุดหลุมฝังศพของบรรพชนเป็นเรื่องขาดคุณธรรมอย่างมาก ครั้งที่แล้วพวกเขายังไม่เข็ดกับการสั่งสอนของคุนหลุนอีกเหรอ?”
ส่ายหัว เฉินตงก็ลุกขึ้นเดินลงไปด้านล่าง
เมื่อมาถึงห้องรับแขก ก็เห็นแม่กลับมาพอดี
“แม่ครับ ดึกป่านนี้ไปไหนมาครับ?” เฉินตงยิ้มพร้อมกับถาม
เป็นเพียงคำพูดที่ห่วงใยธรรมดาคำพูดหนึ่ง แต่เมื่อเขานั้นเห็นท่าทีของแม่แล้ว หัวใจก็รู้สึกหน่วงๆ
สีหน้าของหลี่หลานนั้นแปลกมาก มีความหดหู่เล็กน้อย และเห็นได้ถึงความอ่อนเพลีย
เธอตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง ส่ายหัวแล้วยิ้มๆ “ออกไปเดินเล่นมา แม่กลับห้องไปนอนก่อนแล้วนะ ตงเอ๋อลูกก็พักผ่อนแต่หัวค่ำละ อย่าเหนื่อยมากนัก”
ขนาดที่พูด หลี่หลานก็เดินผ่านร่างของเฉินตงไปโดยตรง เดินขึ้นไปนอน
ไปเดินเล่นเท่านั้น?
เฉินตงขมวดคิ้วอยู่ที่เดิม กับแม่ที่พึ่งพากันมายี่สิบกว่าปี แม้อยู่ในช่วงเวลาที่ลำบากที่สุด แม่ก็จะยิ้มให้เขาเสมอ
แต่ท่าทีของตอนนี้ ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน!
ลังเลไปครู่หนึ่ง เฉินตงก็หันกายเดินไปห้องนอนของท่านหลง เพื่อให้ท่านหลงคอยสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของแม่แต่ตัวเอง
เมื่อกลับถึงห้อง เฉินตงก็เอียงกายนอนลงบนเตียง หัวสมองยังคงรอบล้อมไปด้วยท่าทีที่ประหลาดของแม่เมื่อกี้ คิดไปคิดมา
เวลานี้ โทรศัพท์จู่ๆก็ดังขึ้น
เป็นฟ่านลู่ที่โทรมา
หรือว่าจะเกิดเรื่อง?
เฉินตงคำนวณเวลา ตอนนี้เฉินตงกับฟ่านลู่น่าจะเพิ่งไปถึงหมู่บ้านหม่าเถียน
เพิ่งจะรับสาย
ในสายก็ดังขึ้นด้วยเสียงร้องไห้ที่หวาดกลัวของฟ่านลู่
“ฮืมๆ……..คุณ คุณเฉิน……พี่คุนหลุนถูกแทง!”