The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 157
บทที่ 157 นี่คือค่าชดเชยในการหย่าร้างที่แม่ให้กับลูก !
เช้าตรู่
เฉินตงมาถึงท่าเทียบเรือตามที่นัดหมายกันไว้
ครอบครัวของหวางหนันหนันตั้งใจที่จะเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่
หลังจากผ่านสองวันแห่งความทรมานมา ทำให้ร่างกายของเฉินตงรู้สึกเหนื่อยล้า และอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลจนถึงขีดสุด
ความโลภของตระกูลหวาง ทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้
เฉินตงกุมบัตรธนาคารที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาเอาไว้ ด้วยท่าทีเย็นชา
ขอเพียงแค่เงินหนึ่งร้อยล้านนี่ สามารถจบปัญหาทุกอย่างได้ เขาก็ยินดีที่จะจ่าย
ปลายเดือนเป็นเวลาที่เขาจะขอกู้ชิงหยิ่งแต่งงาน ดังนั้นเขาไม่ต้องการให้เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นในช่วงเวลานี้เป็นอันขาด
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
หวางหนันหนันโทรเข้ามา
เฉินตงรับโทรศัพท์ด้วยท่าทีเย็นชา : “อยู่ที่ไหน ?”
“ท่าเทียบเรือหมายเลข 1”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ เฉินตงก็เดินตรงไปยังท่าเทียบเรือหมายเลข 1
เขามองเห็นหวางหนันหนันซึ่งสวมใส่ชุดกระโปรงสีดำ ยืนอยู่ในที่ไกลๆ ด้านข้างหวางหนันหนันยังมีกระเป๋าเดินทางอีกหลายใบ
มีลมโชยอ่อนพัดมา ทำให้เส้มผมและกระโปรงของหวางหนันหนันพลิ้วไหว
รอยยิ้มจางๆ และใบหน้าที่งดงาม ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้รู้สึกถึงสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
ถึงแม้จะยืนอยู่ที่นั่นเฉยๆ ก็สามารถดึงดูดสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ไม่น้อย
แต่ในสายตาของเฉินตงแล้ว กลับเป็นภาพที่ดูสงบนิ่งจนถึงขั้นที่ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ
“เฉินตง ทางนี้ค่ะ !” เมื่อหวางหนันหนันเห็นเฉินตง ก็ยิ้มและกวักมือ
หลังจากที่เฉินตงเดินเข้ามาใกล้ เธอก็ยิ้มแล้วพูดว่า : “ขอบคุณมากที่มาส่งฉัน”
เฉินตงมีท่าทีเย็นชา แววตาของเขาดูไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย
เขาถามด้วยท่าทีเฉยเมยว่า : “ของล่ะ ?”
เขาทักทายอย่างตรงไปตรงมา ไม่คิดที่จะเสแสร้งเลยแม้แต่น้อย
ตระกูลหวางโลภจนน่าเกลียดเช่นนี้ ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องไว้หน้าอีกต่อไป
“ของอะไร ?” หวางหนันหนันผงะไป
“เชอะ !”
เฉินตงหัวเราะออกมาทันที และแววตาของเขาเป็นประกาย : “หวางหนันหนัน คุณแกล้งโง่กับผมเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร ? คุณไม่คิดว่าทำแบบนี้มันน่ารังเกียจไปหน่อยหรือ ?”
หวางหนันหนันตัวสั่น ใบหน้าขาวผ่องของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึง
ริมฝีปากสีแดงระเรื่องของเธอเริ่มขยับ และพูดออกมาด้วยความงุนงง : “ฉัน ฉันแกล้งโง่อะไรกัน ? เฉินตง คุณหมายความว่าอย่างไร ?”
เผียะ !
เฉินตงฟาดบัตรธนาคารลงบนมือของหวางหนันหนัน : “นี่คือเงินร้อยล้านที่คุณต้องการ ส่วนรหัสคือเลข 0 หกตัว
เปรี้ยง !
หวางหนันหนันรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ตัวเธอเอง……ต้องการเงินร้อยล้านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?
ไม่ช้า หวางหนันหนันก็เรียกสติกลับคืนมาได้ ระหว่างเขาและเธอจะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ดวงตาของเธอแดงก่ำ : “คุณเห็นฉันเป็นอะไร ? ฉันแค่อยากจะให้คุณมาส่งฉัน ให้ฉันได้มีโอกาสบอกลาอดีต”
น้ำเสียงของเธอสะอึกสะอื้นและแผ่วเบา
หลังจากที่หย่าร้างกับเฉินตงแล้ว การเผชิญหน้ากันหลายครั้ง ทำให้เธอตระหนักได้ในทันทีว่า จริงๆ แล้วระยะเวลาสามปีที่ใช้ชีวิตร่วมกับเฉินตง ถึงจะเป็นเวลาที่มีความสุขที่สุด
แต่เธอรู้ดีว่า ทุกอย่างไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้แล้ว
ในที่สุดเธอก็สามารถผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดมาได้ เธอเตรียมตัวที่จะบอกลากับอดีต และต้อนรับอนาคตที่จะเกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ
แต่ทว่าตอนนี้ เฉินตงกลับทำให้เธอรู้สึกสูญสิ้นทุกสิ่ง !
“แค่มาส่งอย่างนั้นหรือ ?”
เฉินตงหัวเราะด้วยความโมโห จากนั้นเขาก็หยิบรูปที่อยู่ในซองจดหมายออกมา : “นี่คือสิ่งที่คุณพูดว่าแค่มาส่งอย่างนั้นหรือ ? หรือจะบอกว่า ที่คุณได้ไปร้อยล้านมันยังน้อยไป อยากจะโก่งราคาอีกหรืออย่างไร ?”
หวางหนันหนันอึ้งไปทันที ดวงตาของเธอเบิกโพลง สมองเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
เธอไม่ได้โง่ เมื่อเห็นรูปถ่าย เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าเพราะเหตุใดเฉินตงถึงได้โมโหขนาดนี้ และเงินร้อยล้านที่อยู่ในมือหมายความว่าอะไร !
ทันใดนั้น หวางหนันหนันก็ส่ายหัวด้วยความงุนงงในทันที เธอพึมพำออกมาด้วยความร้อนรน : “ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ……”
“เหอะๆ น่าขำ !”
ในดวงตาของเฉินตงฉาบไปด้วยประกายของความโกรธแค้น
หวางหนันหนันรีบดึงแขนของเฉินตงเอาไว้ : “เฉินตง คุณต้องเชื่อฉันนะ ฉัน ฉันไม่ได้ทำจริงๆ ที่นัดเจอกับคุณครั้งนั้น เพราะต้องการที่จะบอกลาจริงๆ ส่วนรูปถ่ายนี่ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยเลย !”
“ไม่รู้เรื่อง !”
เฉินตงหยิบกระดาษโน๊ตออกมา จากนั้นจึงยื่นให้หวางหนันหนันอย่างเย็นชา : “ถ้าอย่างนั้นกระดาษโน๊ตนี่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอย่างนั้นหรือ ?”
เขาไม่ได้ทำตามความต้องการบนกระดาษโน๊ต ที่ระบุให้โอนเงินจำนวนหนึ่งร้อยล้านเข้าบัญชีของหวางหนันหนัน แต่กลับทำบัตรธนาคารขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งใบ
หวางหนันหนันรับกระดาษโน๊ตมาด้วยความตื่นตระหนก เมื่อเห็นเนื้อหาที่เขียนอยู่ด้านบน ใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดและพูดไม่ออกในทันที
เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างไม่แยแส : “คุณบอกว่าไม่เกี่ยวกับคุณไม่ใช่หรือ ? หวางหนันหนัน ชาตินี้ผมผิดเองที่หลงเชื่อตระกูลหวางของพวกคุณ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคำมั่นสัญญาที่คุณมีให้กับผมล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งสิ้น คุณอาจทำให้คนอื่นต้องรู้สึกผิดหวังกับเรื่องนี้ แต่ไม่เคยทำให้ผมต้องผิดหวัง”
คำพูดของเขาดังก้อง เสียดแทงเข้าไปในหัวใจ
ดวงตาอันงดงามของหวางหนันหนันแดงก่ำ และเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
คำพูดของเฉินตง เหมือนกับมีดอันแหลมคมที่ถูกเผาจนร้อน ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของเธอ
หวางหนันหนันกัดริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอเอาไว้แน่น เธอหลั่งน้ำตาออกมาเงียบๆ และยังคงส่ายหัวไม่หยุด
“หวังว่าคุณจะไม่มารบกวนชีวิตของผมอีก”
เฉินตงรู้สึกผิดหวังและหันหลังกลับ : “คุณเองก็ควรที่จะขอบคุณ ปลายเดือนนี้ผมจะขอเสี่ยวหยิ่งแต่งงาน หวังว่าในช่วงนี้จะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น มิเช่นนั้นเพียงแค่เรื่องที่ครอบครัวของคุณขู่กรรโชกทรัพย์จากผม ก็คงไม่สามารถรองรับความโกรธของผมได้แล้ว !”
มองเฉินตงเดินจากไป
ดวงตาของหวางหนันหนันเริ่มมืดลง รู้สึกวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม
ทันใดนั้น เธอรู้สึกเหมือนกับโลกหมุน
เดิมทีเธอสามารถดึงความกล้าหาญออกมาเพื่อที่จะใช้ปล่อยวางอดีตได้แล้ว และกำลังจะกลับมามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง
แต่ทว่าตอนนี้ แค่คำว่าขู่กรรโชกทรัพย์ กลับทำให้เธอรู้สึกอับอายเหมือนถูกจับเปลื้องผ้า
“ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันไม่ได้เป็นคนทำเรื่องพวกนี้……”
หวางหนันหนันร้องไห้พลางพูดพึมพำ จนในที่สุดเธอก็ร้องไห้ฟูมฟายออกมา : “เฉินตง ฉันไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้จริงๆ !”
แต่เฉินตงที่อยู่ในที่ไกลๆ กลับไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เฉินตงเดินหายไปท่ามกลางฝูงชน
หวางหนันหนันก็ร้องไห้และคุกเข่าลงกับพื้น มือข้างหนึ่งกำกระดาษโน๊ตเอาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็ถือบัตรธนาคารเอาไว้แน่น
ทันใดนั้น ก็มีคนสามคนรีบวิ่งเข้ามาจากที่ที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
เมื่อจางซิ่วจือเห้นบัตรธนาคารที่อยู่ในมือของหวางหนันหนัน ดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นในทันที
จางซิ่วจือยื่นมือออกไปแย่งยัตรธนาคารที่อยู่ในมือของหวางหนันหนันมา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความละโมบ แล้วพูดว่า : “ร้อยล้าน นี่มันเงินร้อยล้านจริงๆ ! ชาตินี้ฉันยังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย ต่อไปครอบครัวของเราก็จะสบายกันแล้ว !”
“แม่ ในที่สุดครอบครัวของเราก็มีเงินแล้ว รอให้ถึงบ้านหลังใหม่ก่อน ผมอยากจะซื้อรถหรูสักคัน ต่อไปสู่ขอภรรยาก็ไม่ต้องอายใครแล้ว” หวางเห้าเองก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับจางซิ่วจือ
ส่วนหวางเต๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้แต่ตกใจจนอ้าปากค้าง
ส่วนหวางหนันหนันที่นั่งอยู่บนพื้น ก็เหมือนมีเสียงดังสนั่นก้องอยู่ในหัวของเธอ
ในที่สุดเธอก็เรียกสติกลับมาได้
แม่เป็นคนทำนี่เอง !
น้องชายเป็นคนทำนี่เอง !
ว่าแล้วเชียว !
ว่าแล้วเชียวว่าทำไมตอนที่เธอบอกว่าจะไปพบกับเฉินตง แม่กับน้องชายถึงได้รั้งพ่อเอาไว้ไม่ให้ตามมาด้วย !
“จางซิ่วจือ !”
หวางหนันหนันลุกขึ้นด้วยความโกรธ แล้วตะคอกใส่จางซิ่วจือ : “แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกสาวอีกไหม ? ทำไมแม่ถึงได้ทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้ ? ทำไมแม่ถึงต้องใช้ชื่อของหนูไปขู่กรรโชกทรัพย์จากเฉินตงด้วย ? แม้กระทั่งศักดิ์ศรีครั้งสุดท้ายที่แม่จะหลงเหลือไว้ให้กับหนูก็ไม่มีเลยอย่างนั้นหรือ ?”
คำถามถูกโพล่งออกมาเป็นชุดอย่างบ้าคลั่ง
หวางเต๋อตกใจ เกรงว่าลูกสาวจะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน
เขารีบเข้าไปปลอบ แต่หวางหนันหนันกลับไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เธอจ้องหมองจางซิ่วจือด้วยสายตาของคนที่กำลังบ้าคลั่งที่พร้อมจะฆ่าคนได้ทุกเมื่อ
จางซิ่วจือกับหวางเห้าต่างก็อึ่งไป
ทั้งสองหน้าถอดสี
จู่ๆ จางซิ่วจือก็รู้สึกหายใจไม่ออก ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงและพูดว่า : “ฉันเป็นแม่ของแกนะ ! หวางหนันหนัน ผู้หญิงที่มีตำหนิอย่างแก นี่คือวิธีที่ฉันพยายามคิดออกมาอย่างยากลำบาก เพื่อที่จะให้เฉินตงชดใช้เงินในการหย่าร้างให้กับแก ! หรือว่าแกแต่งงานกับเขาตั้งสามปี ได้แค่สองแสนก็ยอมหย่ากับเขา ถ้าอย่างนั้นไม่เท่ากับว่าปล่อยให้เขานอนกับแกฟรีๆ หรอกหรือ ?”
หลังจากตะคอกจบ จางซิ่วจือก็ก้มลงมองบัตรธนาคารที่ถืออยู่ในมือ แล้วบ่นพึมพำกับตัวเองว่า : “สมัยนี้ ต่อให้เป็นโสเภณี เวลาสามปีก็ยังทำเงินได้มากกว่าสามแสนเลย”