The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 161
บทที่ 161 อธิบาย? ไปจากที่นี่!
“ถึงแล้ว กำลังลงเขา”
ในสาย เสียงของกู้ชิงหยิ่งเรียบเฉยมาก
สิ่งนี้ทำให้เฉินตงขมวดคิ้วเล็กน้อย และสงสัย
ตามมาด้วย ในสาย เสียงที่เรียบเฉยของกู้ชิงหยิ่งดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณจะขอฉันแต่งงานจริงๆเหรอ?”
คิ้วของเฉินตงยิ่งลึกลงไปอีก ยิ้มกล่าว “ก็ต้องจริงสิ เพื่อวันนี้แล้ว ผมเตรียมการไปตั้งนานแหนะ”
เพิ่งจะเริ่มพูด
ในสาย จู่ๆก็ดันขึ้นด้วยเสียงของกู้โก๋ฮั้ว
“เฉินตง เรื่องรูปถ่ายมันยังไงกันแน่?”
โครม!
เฉินตงเหมือนถูกฟ้าผ่า พริบตาเดียวก็จมดิ่งไปใต้เหว ด้านหน้านั้นมองเห็นแต่ความมืด
เกิดเรื่องแล้ว!
ชั่วพริบตาเดียว เขาเต็มไปด้วยความหดหู่ และลุกโชนด้วยไฟโกรธ
พวกกู้ชิงหยิ่งรู้เรื่องนี้แล้ว มีเพียงความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว
หวางหนันหนัน………..ไม่ได้ทำตามสัญญา ที่จะทำลายรูปถ่าย!
แต่ได้เปลี่ยนมือเอารูปถ่ายของเขาส่งไปให้กู้ชิงหยิ่ง!
เฉินตงพูดอย่างรีบร้อน “คุณอา พวกท่านรอผมสักครู่ ผมจะไปหาเดี๋ยวหานี้”
หลังจากวางสาย เฉินตงก็รีบเรียกคุนหลุนมาขับรถ เหลือไว้เพียงสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน รถแล่นลงเขาด้วยความเร็วสูง
ตลอดทาง เฉินตงสีหน้าบึ้งตึง และดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยไฟโกรธ
สองมือกำหมัดแน่น จนเห็นเส้นเอ็นของหลังมืออย่างชัดเจน
เขาคิดไม่ถึงเลย เพราะตัวเองที่คิดมากไม่กล้าจัดการกับความโลภของตระกูลหวาง ในที่สุดในเวลาสำคัญที่ใกล้จะสำเร็จแบบนี้ กลับล้มเหลว
เพื่อการขอแต่งงานครั้งนี้ เขาเตรียมการมานานมาก ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ก็จัดการด้วยตัวเอง
เขาจะไม่ยอมให้เกิดความคลาดเคลื่อนใด ๆ ในขณะเขากำลังจะได้ลงเอยกับกู้ชิงหยิ่ง
ถนนบนเขา
รถเบนซ์จิ๊บสีดำได้จอดอยู่ข้างทางอย่างเงียบๆ
หลังจากรอดพ้นจากการปิดล้อมของผู้สื่อข่าว รอบข้างนั้นก็เงียบมาก
กู้ชิงหยิ่งนั่งอยู่แถวหลังด้วยสีหน้าที่อ้างว้าง มองไปนอกหน้าต่าง ดวงตาบวมแดง
เธอคิดอยากที่จะขึ้นไปบนเขาโดยตรง ยอมรับการของแต่งงาน อย่างน้อยควรที่จะให้เสร็จสิ้นพิธีของแต่งงานก่อน จึงค่อยถามข้อสงสัยที่เก็บไว้ในใจมานาน
แต่ไม่ว่าเขาจะทำยังไง เขาก็ไม่สามารถที่จะพูดให้ตัวเองทำตามได้
เรื่องรูปถ่าย มันเป็นเหมือนกับหลุม ที่เธอก้าวข้ามมันไปไม่ได้!
“เสี่ยวหยิ่งยังไม่ได้พูด คุณก็ไปพูดแทรกทำไม?” หลี่หวั่นชิงมองต่อว่ากู้โก๋ฮั้วอย่างตำหนิ
กู้โก๋ฮั้วที่ท่าทีเคร่งขรึม กำลังจะเอ่ยปาก
กู้ชิงหยิ่งกลับยกมือขึ้นห้าม “แม่คะ ไม่เป็นไรค่ะ ถึงพ่อไม่พูด หนูก็ถามอยู่ดี”
แววตาเธอเป็นประกาย ริมฝีปากแดงอ้ำๆอึ้งๆ “ในเมื่อเขาจะขอหนูแต่งงาน หนูต้องการให้เป็นการของแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากให้ต่อไปเมื่อคิดถึงมัน เหมือนมีหนาม คอยทิ่มแทงใจ”
ในเมื่อเป็นการขอแต่งงาน เธอก็อยากให้การของแต่งงานเป็นการของแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ ต่อไปในภายภาคหน้า ทุกความทรงจำ ก็จะปรากฏแต่รอยยิ้มของความสุข
หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้วแน่น นิ่งเงียบไม่พูด
มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ทำความเข้าใจเสียก่อน มีผลดีกับทุกคน!
ลูกสาวของตัวเอง ไม่สามารถที่จะยอมลำบากใจทั้งๆที่ไม่เข้าใจเรื่องราว!
กู้โก๋ฮั้วกอดกู้ชิงหยิ่งเอาไว้ “ลูกรักของพ่อ มีพ่อกับแม่อยู่ ไม่มีใครสามารถมารังแกลูกได้!”
ในระยะไกล รถโรลส์-รอยซ์แล่นมาด้วยความเร็วสูง
กู้โก๋ฮั้วพูดอย่างไม่ค่อยจะพอใจ “แค่พอจะมีผลงาน ก็เริ่มผยองขนาดนี้แล้วเหรอ?”
ยังไงก็ยังเป็นเด็ก หลี่หวั่นชิงถอนหายใจ
เอี้ยด!
รถโรลส์-รอยซ์ก็ได้หยุดลง
เฉินตงลงจากรถอย่างรวดเร็ว วิ่งไปทางรถเบนซ์จิ๊บ
บนรถ กู้ชิงหยิ่งและครอบครัว กำลังทยอยกันลงรถ
กู้โก๋ฮั้วมาขวางไว้ก่อน เอารูปถ่ายที่อยู่ในมือ ฟาดไปที่ใบหน้าของเฉินตง
“เฉินตง เรื่องนี้ นายจะอธิบายยังไง?”
มองดูรูปถ่ายที่ตกกระจายเต็มพื้น เฉินตงนั้นโกรธจนตาจะถลนออกมา ไฟโกรธเต็มทรวง
แต่เขารู้ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาโกรธ แต่เป็นเวลาที่ต้องอธิบายให้กู้ชิงหยิ่งเข้าใจ
“คุณอา ขอโทษด้วย นี่เป็นเพียงการพบหน้ากันปกติและเป็นเวลาที่สั้นมาก ผมไม่รู้เลยว่ามันจะถูกคนอื่นวางแผนหลอกใช้”
สีหน้าของเฉินตงจริงจังมาก พูดอย่างตั้งใจที่สุด
“เห่อๆ ถูกหลอกใช้?” กู้โก๋ฮั้วหัวเราะอย่างเย็นชา “ถูกใครหลอกใช้ หรือนายจะบอกฉันว่า เป็นหวางหนันหนันที่จะหลอกใช้นาย นัดเจอนาย จงใจถ่ายรูป เพื่อที่จะแยกนายออกจากเสี่ยวหยิ่งได้ง่ายขึ้น?”
เฉินตงกะพริบตา แล้วก็พูดไม่ออก
แม้ว่าความจริงจะเป็นแบบนี้
แต่ปฏิกิริยาของกู้โก๋ฮั้ว ถึงแม้เขาพูดออกไป ก็ไม่มีทางที่จะเชื่อ!
“เสี่ยวหยิ่ง……..”
เฉินตงเดินไปทางกู้ชิงหยิ่ง แต่กลับถูกกู้โก๋ฮั้วยกมือมาขวางเอาไว้
“คุณอา ให้ผมผ่านไปหน่อยได้มั้ย?” เฉินตงกล่าวขอร้อง
“มีเรื่องอะไร ก็พูดตรงนี้แหละ” กู้โก๋ฮั้วนั้นแข็งกร้าวมาก
หากไม่ใช่เพราะลูกสาวห้ามเอาไว้ วันนั้นวินาทีแรกที่เห็นรูปถ่าย เขาก็มาถามเฉินตงแล้ว
ด้วยสถานะทางบ้านของตระกูลกู้ ยังไม่เคยต้องอดทนอะไรแบบนี้มาก่อน!
“ผม……..
เฉินตงไม่รู้จะพูดอะไร มองกู้ชิงหยิ่งด้วยสายตาที่อ่อนโยน “เสี่ยวหยิ่ง คุณก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกันเหรอ?”
“เฉินตง ฉันต้องการให้คุณอธิบาย!” กู้ชิงหยิ่งเม้มปากที่แดงๆเอาไว้ ดวงตาที่บวมแดงคลอไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง
“ตระกูลหวางทำร้ายผมหนักขนาดนั้น หวางหนันหนันเกือบจะทำให้แม่ของผมตาย ผมจะกลับไปหาเธอได้ยังไง?”
ในใจของเฉินตงมีความเกลียด ตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อหวางหนันหนัน มีต่อตระกูลหวาง เหลือเพียงความแค้น!
“วันนั้นที่เจอกัน เป็นเพราะหวางหนันหนันเธอจะไปจากเมื่องนี้ ดังนั้นจึงอยากเจอผมเป็นครั้งสุดท้าย ผม……..”
“อ้อ? เจอครั้งสุดท้าย ดังนั้นนายก็เลยไป?”
กู้โก๋ฮั้วหัวเราะ “พูดอยู่เต็มปากว่าตระกูลหวางทำร้ายนายอย่างแสนสาหัส นายมันใจกว้างมากเลยน้อ บอกว่าเจอครั้งสุดท้าย ก็ไปเจอจริงๆเหรอ?”
ขณะนี้เฉินตงร้อนใจแล้ว
ท่าทีกู้โก๋ฮั้วเหมือนให้เขาอธิบายกับกู้ชิงหยิ่งตรงไหน?
เห็นได้ชัดว่ากำลังเติมน้ำมันในกองไฟ!
แต่สุดท้ายเขาก็กัดฟันกล่าว “คุณอาทั้งสอง ขอโทษ ขอโทษจริงๆ ผมนึกว่าเป็นการเจอกันธรรมดาเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดเลยว่าเรื่องราวมาจะรุนแรงแบบนี้”
“ได้โปรดเชื่อผม ผมนั้นจริงใจต่อเสี่ยวหยิ่ง ผมไม่มีทางที่จะทรยศเสี่ยวหยิ่ง”
ขณะที่พูด ก็ได้ชี้ไปยังบนยอดเขาเทียนซาน
“ที่ตรงนั้น คืนนี้จะเป็นที่ที่ผมจะให้คำมั่นสัญญากับเสี่ยวหยิ่ง!”
“นายนี่มันพูดเก่งชะมัดเลยนะ ในเมื่ออยากจะให้คำมั่นสัญญากับเสี่ยวหยิ่ง ทำไมต้องไปเจอหวางหนันหนัน? กู้โก๋ฮั้วไม่ยอมอ่อนข้อ ยังคงความโกรธ”
กู้ชิงหยิ่งกลั้นน้ำตาไม่อยู่จนมันไหลลงมา อยู่ในอ้อมแขนของมารดา
เผชิญหน้ากับเฉินตง กู้ชิงหยิ่งที่โกรธพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “เฉินตง แค่ให้คุณอธิบาย มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ถูกกู้โก๋ฮั้วนั้นประชดประชัน ตอนนี้ยังมาได้ยินคำพูดแบบนี้ของกู้ชิงหยิ่ง
เฉินตงแทบทรุดตัวลงทันที
เขาที่ตาแดง พูดขอร้องกู้ชิงหยิ่ง “ผมอธิบายมาตลอด คุณเชื่อมั้ยละ? ให้คุณเชื่อแค่ครั้งเดียว มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“นี่เป็นการอธิบายอะไรของนาย? กู้โก๋ฮั้วกล่าวอย่างโมโห “พูดปากเปล่า ใครมาเป็นพยานให้นายได้?”
เพิ่งจะพูดออกมา
ร่างกายของเฉินตงก็สั่น ตะโกนอย่างเสียงดัง “คุณอาพอได้แล้ว ตกลงคุณอาให้ผมอธิบาย หรืออยากจะทำให้ผมกับเสี่ยวหยิ่งเลิกกัน?”
โครม!
คำพูดที่เหมือนสายฟ้า
ทำให้กู้โก๋ฮั้วอึ้งไปเลย
หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้วจนสุด
กู้ชิงหยิ่งนั้นยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วกล่าว “เฉินตง คุณพูดกับพ่อฉันแบบนี้เหรอ?”
ทันใดนั้นเฉินตงจึงได้สติ
รู้ว่าตัวเองพูดผิด เขาก็รีบขอโทษ “ขอโทษครับคุณอา ผมไม่ควรใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับคุณอา”
“พอแล้ว! พ่อคะแม่คะ เรากลับกันเถอะ”
คำพูดของกู้ชิงหยิ่ง ชั่วพริบตาเดียวก็ทำให้ด้านหน้าของเฉินตงกลายเป็นความมืดมน ความรู้สึกเหมือนตกลงไปในเหว
รอจนกว่าเขาได้สติกลับคืนมา ครอบครัวตระกูลกู้ก็ได้กลับเข้าไปในรถแล้ว
รถเบนซ์จิ๊บกลับรถ กำลังจะขับลงเขา