The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 172
บทที่ 172 นอกจากฮ่องเต้ก็คือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองหลวง!
เสียงตบที่ดังสนั่นเข้าไปในหู เสียงสะท้อนดังไปทั่วลานบ้านที่เงียบสงบที่มีเพียงเสียงน้ำที่ไหล
เหมือนกับเสียงฟ้าคำรามไม่มีผิด
ทุกคนล้วนตะลึงกันไปหมดแล้ว
ใครก็คิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะลงมือกะทันหันแบบนี้
และ……..ยังเป็นการตบหน้าคุณตาตัวเองได้เด็ดขาดแบบนี้
ฝ่ามือนี้ ตบจนชายชราผมขาวเลือดซึมออกมาจากมุมปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและมึนงง
“นายท่าน!”
บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านข้าง ก็กรูกันเข้ามาทันที
“ยืนอยู่ตรงนั้น!”
ชายชราผมขาวคำรามด้วยความโกรธ “พวกแกจะซ้อมหลานของฉันหรือไง?”
บอดี้การ์ดทั้งหลายก็หยุดกะทันหัน
“ตงเอ๋อ……..” หลี่หลานพูดอย่างตื่นตกใจ
เฉินตงยกมือขึ้นห้าม สายตามที่เยือกเย็นจ้องมองชายชราผมขาว “ฉันไม่สนหรอกว่าคุณเป็นใคร ทำร้ายแม่ผม ผมก็จะทำร้ายคุณ!”
“เป็นความผิดของตาเอง”
ชายชราผมขาวพยักหน้าแล้วยิ้มอย่างขอโทษ “ตงเอ๋อตอนนี้พอใจหรือยัง?”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาเป็นคุณตาของผม?”
เฉินตงมีท่าทีที่เย็นชา คำพูดเชือดเฉือน “ยี่สิบกว่าปี ตอนที่ผมและแม่อาศัยอยู่ใต้หลังคาของคุณอื่น คุณตาอย่างคุณอยู่ไหน? ผมและแม่ยากจนจนไม่มีอาหารตกถึงท้องนั้น คุณตาอย่างคุณอยู่ไหน? ตอนที่แม่ผมป่วยหนักเกือบตาย คุณตาอย่างคุณ อยู่ไหน?”
“ฉัน………”
คำถามที่ยาวเป็นหางว่าว ทำให้ชายชราผมขาวพูดไม่ออก
“คุณตาที่ดี ตรงไหนร่มก็ไปอยู่ตรงนั้นเลย แม่ผมยอมคุณ แต่ผมนั้นแค่เห็นคุณก็ขัดหูขัดตามาก!”
เฉินตงหัวเราะ ดึงตัวหลี่หลาน หันกายก็เดินจากไป “คนที่แตะต้องแม่ผม ต่อให้ต้องตาย ต่อให้เป็นฮ่องเต้ผมก็จะจัดการมัน คุณมันก็แค่คุณตา จะแค่ไหนเชียว?”
หยาบคาย เผด็จการ
ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างคาดไม่ถึง
“ตงเอ๋อ หลานจะไม่ยอมฟังสาเหตุที่ตามาที่นี่หรือ?” เวลานี้ชายชราผมขาวร้อนใจจนหน้าซีดแล้ว
ก่อนหน้านั้นตอนที่อยู่ต่อหน้าหลี่หลานเขายังเชื่อว่าเฉินตงจะยอมก้มหัวให้กับเขา
กลับคิดไม่ถึง ต่อมาเฉินตงก็ตบหน้าเขาโดยตรง แม้แต่โอกาสที่จะเอ่ยปากพูดก็ยังไม่มีเลย
บทสรุปแบบนี้ ชายชราผมขาวไม่มีทางที่จะยอมรับมันได้!
“ไปให้พ้น!”
เฉินตงที่ดึงตัวมารดาเอาไว้ ก้าวเดินอย่างไม่หยุด กล้าวทิ้งท้ายอย่างเย็นชา
และบอดี้การ์ดเหล่านี้คิดที่อยากจะขวาง
คุนหลุนนั้นกลับก้าวขึ้นมาด้านหน้าก่อนหนึ่งก้าว แล้วทำเสียงฮึ่ม ร่างที่สูงตระหง่านทันใดนั้นก็กดดันจนบอดี้การ์ดต้องหยุดลง
ท่านหลงเดินผ่านคุนหลุน เดินไปตรงหน้าชายชราผมขาว
รอยยิ้มเต็มหน้ายกมือคารวะ “นายท่าน ไม่เจอกันหลายปี ดูท่าทางของท่าน สุขภาพร่างกายยังแข็งแรงอยู่นะ?”
ทั้งๆทักทายด้วยมารยาท แต่คำพูดกับเต็มไปด้วยความแดกดัน
“หากสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เกรงว่าคงไม่มาเชิญคุณชายถึงที่นี่หรอกมั้ง?”
ชายชราผมขาวสีหน้าบึ้งตึง กัดกรามจนแน่น “ท่านหลง นายมันก็แค่คนรับใช้ในบ้าน นี่คือน้ำเสียงที่นายใช้พูดกับฉันเหรอ?”
เมื่อก่อนใช่ว่าจะไม่เคยเห็นท่าทางของคุณ!”
“ตอนนั้น เมื่อเวลาที่คุณอยู่ต่อหน้านายท่านของบ้านผม ก็เคยคุกเข่าพยักหน้าและโค้งคำนับ” ท่านหลงหัวเราะกล่าว
ชายชราผมขาวแววตาดุร้าย “อย่าคิดว่าตระกูลหลี่จะกลัวนายนะ?”
“ผู้มีเมตตาเห็นผู้มีเมตตา ผู้มีปัญญาเห็นผู้มีปัญญา”
ท่านหลงหันหลังกลับ พลางก้าวเดิน พลางยกมือหัวเราะกล่าว “นายท่านตายใจเถอะ คุณมาช้าไปแล้ว วันนี้คุณชายเป็นคนของตระกูลเฉิน สิ่งที่กองอยู่ตรงหน้าคุณชายล้วนเป็นของอร่อยที่มีราคาแพง คุณชายไม่มีทางไปแทะกระดูกหมาอย่างแน่นอน!”
“อีกอย่าง ขอเตือนนายท่านอีกหนึ่งคำ นายท่านของบ้านผมกลับมาแล้ว คุณชายกับคุณผู้หญิง ไม่ใช่คนที่จะรังแกได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในใจคุณควรที่จะมีขอบเขตบ้าง!”
ชายชราผมขาวโกรธอย่างมาก จ้องมองท่านหลงกับคุนหลุนจากได้สายตาที่ดุร้าย
ร่างกายของเขาสั่นเทา กัดฟันจนฟันเกิดเสียง
ความโกรธเป็นเหมือนภูเขาไฟที่สะสมอยู่ในอกของเขา และอายุของเขา แทบจะไม่สามารถควบคุมมันได้
เช็ดเลือดที่มุมปากอย่างแรง ชายชราผมขาวที่หน้าตาบึ้งตึง ยิ้มกล่าวอย่างดุร้าย “ดี ไม่เสียทีที่เป็นหลานของฉัน นายต้องก้มหัว นายต้องก้มหัวอย่างแน่นอน!”
……
เมื่อออกมาจากบ่อฉุยส่วย
ระหว่างทางที่กลับบ้าน ในรถนั้นเงียบผิดปกติ
ท่านหลงที่นั่งอยู่ข้างคนขับ มองออกไปนอกหน้าต่าง
เฉินตงกับหลี่หลานนั่งอยู่ข้างหลัง ต่างปิดปากเงียบ
เฉินตงขมวดคิ้วแน่น กะพริบตา กำลังครุ่นคิด
การปรากฏตัวของคุณตา ตกใจพอ ๆ กับการปรากฏตัวของท่านหลงกับพ่อในตอนนั้น
สิ่งที่เหมือนกัน ในใจเขานั้นมีความโกรธ
สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือ ท่านหลงปรากฏตัวได้ช่วยแม่ของเขา สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งพ่อคนนั้น ขึ้นมาเล็กน้อย
แต่การปรากฏตัวของคุณตา กลับเป็นเรื่องตลก “กับคำพูดที่ว่าความรักที่ลึกซึ้งของพ่อแม่”
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็สงสัย ว่าความจริงของเรื่องในตอนนั้นคืออะไร?
หลี่หลานก้มหน้าเอาไว้ สองมือจับไว้ด้วยกัน
ภาพเมื่อกี้ การแสดงออกของเฉินตงเหมือนกับที่เขาพูดกับผู้เป็นพ่อเลย มันไม่ทำให้เธอผิดหวัง
แต่ความเด็ดขาดของเฉินตง ทำให้เธอตกอกตกใจ
เดิมทีเธอนั้นไม่อยากจะบอกเรื่องในอดีตให้เฉินตงรู้ แต่วันนี้หน้าต่างกระดาษฉีกขาดไปแล้ว ปิดบังไม่ได้อีกแล้ว….
รถโรลส์-รอยซ์ขับรถเข้ามาในบริเวณวิลล่า
หลังจากรถได้จอดในโรงจอดแล้ว
ท่านหลงได้บอกให้คุนหลุนลงรถไปก่อน
และเฉินตงกับหลี่หลาน ต่างก็ไม่ขยับตัวกันเลย
“แม่ ยังเจ็บอยู่มั้ย?” เฉินตงเป็นคนทำลายความเงียบ
“ไม่เจ็บแล้ว”
หลี่หลานลูบแก้มของตัวเอง ในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้ว “ตงเอ๋อ ลูกโตแล้ว เรื่องเหล่านี้เป็นเพราะเมื่อก่อนแม่คิดผิดไปเอง รู้สึกว่าควรจะปิดลูก นึกว่าแม่สามารถที่จะจัดการมันได้ แต่ตอนนี้ แม่รู้สึกว่าควรที่จะบอกให้ลูกได้รับรู้”
เฉินตงยิ้มบางๆ รอฟังต่อไป
แววตาของหลี่หลานกะพริบ ราวกับว่ากำลังย้อนความทรงจำ และเหมือนกำลังเรียบเรียงความคิด
ในที่สุด เธอก็ค่อยๆเล่ามาออกมา
“ลูกรู้จักตระกูลหลี่ที่อยู่ในเมืองหลวงมั้ย?”
เฉินตงตะลึง: พักอาศัยอยู่ที่เทียนจื่อเจี่ยว นอกจากฮ่องเต้แล้วตระกูลหลี่ก็คือมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองหลวง?
หลี่หลานพยักหน้า
สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เมืองแต่ละเมืองต่างมีมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งอาศัยอยู่
แต่ละเขตแดนก็มีมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งอาศัยอยู่
ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเขตแดนหรือเมือง ทั้งหมดเป็นเพียงพลังสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง
แต่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเทียนจื่อเจี่ยว แต่กลับไม่เหมือนธรรมดาทั่วไป
แม้ว่าจะเป็นเพียงมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมือง แต่พลังอำนาจและความมั่งคั่งที่มี มันสามารถเทียบได้กับมหาเศรษฐีในเขตแดน
ในขณะที่เฉินตงรู้สึกตกใจและแปลกใจนั้น ในหัวของหลี่หลานก็มีภาพที่น่าตกใจกลัวแล้ว
“แม่เป็นคนของตระกูลหลี่ และยังเป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรง เป็นสายเลือดของเจ้าบ้าน!”
โครม!
เฉินตงเหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อย่าจะเชื่อ
จากนั้น ความสงสัยหลายอย่างก็เหมือนกับน้ำล้นเขื่อน ทะลักออกมาพร้อมกัน
มารดานั้นเป็นคนของตระกูลหลี่ที่อยู่ในเมืองหลวง อีกทั้งยังเป็นผู้สืบทอดของสายเลือด
แล้วทำไม เขากับแม่จึงต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันถึงยี่สิบปี ใช้ชีวิตที่ยากจนข้นแค้น?
ก่อนอื่นเขารู้ฐานะของผู้เป็นพ่อแล้ว ยังสงสัยอยู่เลย ว่าพ่อกับแม่นั้นรู้จักกันได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่ใช่เจ้าโง่ที่มีชีวิตเหมือนในนิยายแล้ว
เหมือนกับในนิยาย ที่เจ้าชายรักกับซินเดอเรลล่าในความเป็นจริง มันเห็นได้น้อยมาก
แม้แต่เขากับกู้ชิงหยิ่ง ก็เพราะว่าตอนที่เข้าหาวิทยาลัยแล้วได้เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันจึงค่อยๆรู้สึกดีต่อกัน และพ่อของกู้ชิงหยิ่ง ก็เป็นเศรษฐีใหม่
เศรษฐีใหม่เมื่อเทียบกับผู้ดีเก่า ธรรมเนียมนั้นต่างกันมาก มันถึงได้มีเขากับกู้ชิงหยิ่งในตอนนี้
แต่หากแม่เป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรงของตระกูลหลี่ กับพ่อก็มีฐานะที่สมกัน โอกาสที่จะร่วมชีวิตด้วยกันนั้นก็มีมากแล้ว!
หลี่หลานนั้นไม่ได้สนใจอาการตกใจของเฉินตง แต่น้ำเสียงเรียบเฉย ค่อยๆกล่าวขึ้น
“ตระกูลเฉินของพ่อนาย การเลือกเจ้าบ้านนั้นคือผู้มีสิทธิ์ที่ชนะจะได้เป็นเจ้าบ้าน แต่ว่าตระกูลหลี่นั้นสืบทอดตามบรรดาศักดิ์ ผู้สืบเชื้อสายโดยตรงมีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุดในบ้าน และตอนนั้น………”