The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 173
บทที่ 173 เรื่องในตอนนั้น
ย้อนคิดไปถึงตอนนั้น เสียงของหลี่หลานเหมือนติดขัดอยู่ในลำคอ
อดไม่ได้ที่หยุดไปครู่หนึ่ง
สีหน้าอารมณ์เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เฉินตงขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้เร่ง
ครู่ใหญ่ หลี่หลานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์แล้ว ก็กล่าวต่อ “ตอนนั้นแม่กับพ่อของหนูเจอกันในงานเลี้ยงระดับสูงในงานหนึ่ง มันเป็นรักแรกพบ”
“และในตอนนั้น พ่อของลูกนั้นมีคุณสมบัติเป็นผู้สืบทอดแล้ว กำลังออกไปฝึกฝน เพื่อแข่งขันเป็นเจ้าบ้าน”
ภายใต้แสงไฟ สายตาที่ลึกๆของเธอ ค่อยๆเปิดประตูของความทรงจำออกอย่างต่อเนื่อง
แต่สีหน้า กลับค่อยๆดุดัน เกลียดชัง
“แม่กับพ่อของลูกมาถึงเมืองแห่งนี้ ก็ตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว สร้างธุรกิจที่เป็นของเรา พ่อนายเป็นคนที่มีความสามารถและกล้าหาญมาก เขาโดดเด่นกว่าผู้สืบทอดคนอื่นๆในตระกูลเฉิน”
“ในตอนนั้น แม่ท้องลูกอยู่ พ่อของลูกไม่อยากห่างจากเราสองแม่ลูก ก็เลยคิดอยากจะปฏิเสธตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเฉิน แต่กลับต้องประสบกับความไม่พอใจและการบีบบังคับของเจ้าบ้าน”
“แบบนี้ก็ต้องบีบบังคับด้วยเหรอ?”
เฉินตงไม่ค่อยเข้าใจ “พ่อยินดีที่จะสละตำแหน่งเจ้าบ้าน มันเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งสำหรับผู้มีสิทธิ์สืบทอดที่พ่ายแพ้ไม่ใช่เหรอ?”
“กฎของตระกูลตั้งแต่ไหนแต่ไรก็คือผู้ที่ชนะทุกคน ก็จะได้เป็นเจ้าบ้าน!”
หลี่หลานยิ้มอย่างขมขื่น “แต่หลังจากการสิ้นสุดการแข่งขัน คนสุดท้ายที่ชนะกลายเป็นเจ้าบ้านแล้ว ก็จะไม่มีโอกาสในการเลือกอีกเจ้าบ้านนั้นต้องเป็นพ่อของลูกเท่านั้น กฎของตระกูลนั้นฝ่าฝืนไม่ได้”
เฉินตงขมวดคิ้วลึกๆ บางทีนี่อาจจะเป็นความลับที่ทำให้ตระกูลเฉินรุ่งโรจน์มาโดยตลอดละมั้ง?
สิ่งที่เรียกว่าผู้แข่งขันการชนะ มันเหมือนกับการเลี้ยงกู่ เมื่อเลี้ยงจนเป็นราชากู่แล้ว ก็จะเป็นเวลาที่เจ้าบ้านคนใหม่ขึ้นรับตำแหน่ง
คนที่สามารถอยู่ในกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ชนะ ไม่ว่าความสามารถด้านไหน ก็สุดยอดทั้งนั้น!
หลี่หลานกล่าวอย่างต่อเนื่อง “ตอนนั้นเจ้าบ้านตระกูลเฉินกับคุณหญิงใหญ่คนนั้น ร่วมมือกันบีบบังคับให้พ่อของลูกกลับไปรับตำแหน่งเจ้าบ้าน สิ่งที่ใช้ในการข่มขู่ก็คือชีวิตของเราสองแม่ลูก”
ม่านตาของเฉินตงหดลง ในอกความหดหู่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
สองมือ อดไม่ได้ที่จะแอบกำหมัดเอาไว้
ใช้ชีวิตคนในการข่มขู่ ตระกูลเฉินช่างเผด็จการนัก!
“เหมือนกับที่ลูกเห็น ตระกูลเฉินนั้นไม่เห็นค่าของชีวิตคนเลย ตอนนั้นพ่อของลูกเพื่อจะปกป้องเราสองแม่ลูก จึงทำได้เพียงต้องแบกคำว่าทิ้งลูกทิ้งเมีย เพื่อกลับไปตระกูลเฉิน รับตำแหน่งเจ้าบ้าน”
ดวงตาของหลี่หลานแดงเล็กน้อย “น้ำตาคลอเบ้า อันที่จริง แม้ว่าพ่อของลูกจะจากไป แต่ธุรกิจที่แม่กับเขาสร้างกันขึ้นมานั้น มันก็เพียงพอที่จะทำให้เราสองแม่ลูกอยู่ได้ทั้งชาติ แต่แล้ว……….”
มาแล้ว!
เฉินตงตื่นเต้น ตั้งใจฟังอย่างมาก
“แต่แล้ว……….แม่เกลียดมันมาก! เกลียดที่ทำไมต้องเกิดในบ้านตระกูลหลี่? ตระกูลหลี่นั้นเป็นเหมือนสัตว์เดรัจฉานที่กินคน!”
หลี่หลานทุบหน้าอกของเธอ ในที่สุดน้ำตาในดวงตาของเธอก็ไหลอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เสียงของเธอสั่น “หลังจากที่พ่อของลูกจากไป ตระกูลหลี่ก็มาหาเราสองคนถึงบ้าน พวกเขาต้องการธุรกิจที่พ่อของลูกสร้างขึ้น และพวกเขาอาศัยที่แม่เป็นของตระกูลหลี่ยิ่งแย่งชิงมันไป!”
ขณะที่พูดอยู่นั้น ใบหน้าของหลี่หลานดูหน้าดุร้ายและบิดเบี้ยว
เกลียดชัง โกรธอารมณ์หลายต่อหลายอย่าง ได้เขียนไว้บนใบหน้าทั้งหมด
สีหน้าของเฉินตงมืดมนจนขีดสุด ความหดหู่ในใจกลายเป็นเปลวไฟแห่งความโกรธ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ตอนนั้นแม่อยากจะปฏิเสธตระกูลหลี่ เพื่อแสวงหาอนาคตที่มั่นคงสำหรับเราสองแม่ลูก แต่ในเวลานั้นตระกูลหลี่ทั้งโลภและหยิ่งผยอง ก็คือตาของลูก ที่ข่มขู่และรังแกเด็กกำพร้าและหญิงม่ายอย่างเราสองคน ใช้อำนาจของตระกูลหลี่ในการบีบบังคับ ทำให้แม่ต้องยอมมอบธุรกิจออกไป” ”
“เพราะการต่อต้านที่รุนแรงของแม่ คุณตาของลูกก็ได้คัดชื่อของแม่ออกจากบัญชีรายชื่อของตระกูลหลี่ จึงได้มีภาพความทรงจำของลูก ที่เราสองแม่ลูกต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก”
แกระ!
ข้อนิ้วมือสองข้างของเฉินตงดังขึ้น
มีแสงแห่งความเย็นชาในดวงตาของเขา มองไปยังแม่ที่น้ำตากำลังนองเต็มใบหน้า เกือบจะร้องไห้ “แต่แม่คือคนตระกูลหลี่ และแม่ก็เป็นลูกสาวของเขานะ เขาทำไมถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้?”
“เห่อๆ………ลูกสาว?”
หลี่หลานยิ้มอย่างเศร้า ๆ และเช็ดน้ำตาออกจากมุมหางตาของเธอ “ตงเอ๋อ ลูกจำเอาไว้ ในตระกูลหลี่ จะรักลูกชายมากกว่าลูกสาวลูกชายถึงจะเป็นคนที่คู่ควรในบ้าน และผู้หญิงเป็นเพียงสิ่งที่มีก็ได้ไม่มีก็ได้ แม้ว่าแม่จะมีเชื้อสายโดยตรง แต่เมื่ออยู่ในบ้านไม่เพียงไม่มีสิทธิ์ในการแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน แม้แต่ทรัพยากรอื่นๆก็ไม่ได้ด้วย!”
พูดถึงตอนท้าย หลี่หลานเกือบจะร่ำไห้
ความอยุติธรรมทั้งหมด เป็นเหมือนแผลเป็นที่ตกสะเก็ด และเมื่อย้อนความทรงจำ รอยแผลเป็นก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง
รักลูกชายมากกว่าลูกสาว?
เฉินตงหรี่ตาจนเป็นเส้นตรง และร่างกายของเขากระจายไปด้วยความเย็น
มุมปากของเขา โค้งขึ้นโดยไม่รู้ตัว ยิ้มอย่างเย็นชา
นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว?
ตระกูหลี่ยังมีความคิดที่โบราณคร่ำครึแบบนี้อีกเหรอ?
ผู้ชายอยู่ที่สูง ผู้หญิงจะมีหรือไม่มีก็ได้?
ช่างเหลวไหลสิ้นดี!
“มันน่าประหลาดใจมากใช่มั้ย? ตอนนั้นแม่ก็ประหลาดใจเหมือนกัน ยิ่งเกลียดตัวเองที่เป็นผู้หญิงและต้องมาเกิดในบ้านตระกูลหลี่”
หลี่หลานพยายามอั้นความรู้สึกที่หัวใจพังทลายเอาไว้ “เล่าต่อ ความโหดร้ายของคุณตา มันมากกว่าที่แม่คิดเอาไว้มาก ตอนนั้นไม่เพียงแต่บีบบังคับจนแย่งกิจการของพ่อของลูกไป ยังทำทุกวิถีทาง เพื่อกดขี่แม่ที่อยู่ในเมืองนี้ ไม่ให้โอกาสแม่ได้ลืมตาอ้าปากเลย!”
เสียงร่ำไห้ดังขึ้นอย่างน่าอนาถ
ร่างกายของหลี่หลานสั่นเทา ใบหน้าแดง น้ำตาไหลไม่หยุด
รอยแผลเป็นถูกเปิดออก ความเจ็บปวดที่รุนแรง หากวันนี้ไม่ใช่เพราะความลับถูกเปิดเผย จึงต้องบอกกับเฉินตง ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีวันเต็มใจที่จะทนทุกข์ทรมาน
“แม่………”
สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างมาก กอดแม่ตัวเองเอาไว้ “ไม่เป็นไรครับ มีผมอยู่ มีผมอยู่ ทุกอย่างมันต้องดีขึ้น”
เขากังวลแม่จะโกรธจนกระทบหัวใจ
ฝันร้ายนี้ ความทรงจำที่ละเอียด ไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายในตอนนี้ของแม่จะทนได้อย่างแน่นอน
เต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรม เผด็จการอย่างโจ่งแจ้ง
ตระกูลหลี่ไม่เพียงแต่รังแกเด็กกำพร้าแม่หม้ายอย่างพวกเขา ถึงขั้นไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด!
“ขอโทษด้วย ตงเอ๋อ เป็นแม่ที่ผิดต่อลูก ตอนนั้นหากแม่เข้มแข็งกว่านี้ ชีวิตวัยเด็กของลูกก็คงไม่ต้องมืดมนแบบนี้”
หลี่หลานร้องไห้อย่างเจ็บปวด เอาแต่โทษตัวเอง
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้สนใจ”
เฉินตงส่ายหัว พลางลูบหลังของแม่แล้วกล่าวปลอบ “เราได้เดินออกมาแล้ว ลูกสามารถที่จะค้ำฟ้าให้แม่ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเฉินหรือตระกูลหลี่ ก็ไม่สามารถที่จะรังแกเราได้อีก”
หลี่หลานพยักหน้า กัดริมฝีปากเอาไว้
แม้ว่าจะพยายามฝืนไม่มีเสียงร้องไห้ แต่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด
แววตานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่รุนแรง
เฉินตงปลอบโยนอย่างใจเย็น ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม อารมณ์ของหลี่หลานจึงค่อยสงบลง ออกมาจากความทรงจำที่เจ็บปวดในตอนนั้นได้
“แม่ครับ ตอนนี้คนของตระกูลหลี่มาเพื่ออะไร?”
น้ำเสียงของเฉินตงแฝงด้วยความเย็นชา ตามเสียงร้องไห้ที่เจ็บปวดของแม่ เขานั้นได้เห็นคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตาเป็นคนนอกไปแล้ว ไม่ใช่คนตระกูลหลี่เท่านั้น
น้ำเสียงของหลี่หลานยังสะอื้นเล็กน้อย
เธอยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “เพราะว่า พวกเขารู้ว่าลูกชายของหลี่หลานนั้นเก่งกาจ!”
“ก็เลยจะให้เรื่องราวในตอนนั้น เล่นซ้ำอีกครั้ง?” เฉินตงเลิกคิ้ว
ไม่สนใจสายสัมพันธ์ ไม่สนใจว่าเป็นลูกสาว ลงมือแย่งชิงกิจการที่พ่อเหลือไว้ให้แม่ ใบหน้าของคุณตาคนนั้น หากจะแสดงซ้ำอีกครั้ง เฉินตงก็ไม่มีความประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว
หลี่หลานส่ายหัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ รอยยิ้มยิ่งอยู่ยิ่งสดใส
“เขา อยากจะเชิญลูกกลับตระกูลหลี่ ไปสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้าน!”