The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 18
บทที่ 18 ความมีเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล
ตามข่าวที่ยี่เคอกรุ๊ปจะเข้ามาตั้งหลักปักฐาน ทำให้ดังสนั่นกันทั่วทั้งเมือง
มีกี่บ้านที่มีความสุขและมีกี่บ้านที่ไม่มีความสุข
แค่สองวัน ราคาบ้านที่ย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง พุ่งสูงขึ้นถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์
นี่เกือบจะใกล้เคียงกับที่เฉินตงคาดไว้เลย
ราคาบ้านในย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเป็นเพราะตำแหน่งและสภาพแวดล้อม ทำให้ที่นี่แตกต่างจากที่อื่นในเมืองนี้
ข่าวการเข้ามาตั้งหลักปักฐานของยี่เคอกรุ๊ป เป็นอะไรที่ทรงอิทธิพลมากอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ราคาบ้านของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองจะเพิ่มขึ้นถึงตำแหน่งของราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์
ตามที่ราคาบ้านในย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองสูงขึ้น ทำให้พนักงานไท่ติ่งที่ตื่นตระหนกในตอนแรก พ้นจากความตระหนกนั้น กระตือรือร้นขึ้น และกำลังใจสูงขึ้น บรรยากาศภายในออฟฟิศกลับมาผ่อนคลายอีกครั้ง
เฉินตงมีความสุขที่ได้เห็นฉากดังกล่าว การได้รับชัยชนะในครั้งนี้ อย่างน้อยก็ทำให้พนักงานทุกคนเห็นความสามารถของเขา ในอนาคตไท่ติ่งจะมีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอน
พนักงานบางคนยังสงสัยว่าทำไมเฉินตงถึงเชื่อว่าสัญญาราคาสูงเสียดฟ้าจะพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดี เฉินตงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และไม่พูดถึงประเด็นนี้เลย
วันที่สาม จากการที่คนทั้งหมดในไท่ติ่งเร่งทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
สองทุ่ม เฉินตงพาพนักงานไปที่ร้านอาหาร “ท่าเรือบี้ปอ” งานเลี้ยงฉลองได้เริ่มขึ้น เฉินตงได้ดื่มเหล้าไม่น้อย ชนแก้วกับพนักงาน ไม่ปฏิเสธพนักงานที่มาชนแก้วสักคนเลย
ตลอดสามปีที่อยู่ไท่ติ่งมา ไม่ว่าจะด้วยความสามารถของเขา หรือการเข้ากับเพื่อนร่วมงาน ล้วนได้รับการยอมรับจากพนักงานทุกคน
พนักงาน บริษัท ก็รู้ดี เหตุผลที่ไท่ติ่งสามารถรักษาสถานการณ์ที่สามารถทำกำไรได้มาโดยตลอด ฮีโร่คนที่ใหญ่ที่สุดคือรองประธานมืออาชีพในการรับมือกับข้อผิดพลาดแทน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมตอนที่ไท่ติ่งเปลี่ยนเจ้าของกิจการ ทุกคนถึงอยากจะทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองไปเดิมพันสักครั้ง และเหตุที่ไม่อยากจากไปพร้อมเจ้าหลี่
ความไร้ประโยชน์ของเจ้าหลี่กับสิ่งที่เขาทำ พนักงานของบริษัทล้วนทราบดี คนโง่เท่านั้นที่เต็มใจที่จะออกไปพร้อมกับเขา
และโครงการปรับปรุงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ทำให้ความเชื่อมั่นในใจของพนักงานทุกคนที่มีต่อเฉินตงเพิ่มมากขึ้นถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
ยังไงๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินตงก็ไม่สะทกสะท้าน และไม่เคยแสดงความตื่นตระหนกมากเกินไปเกี่ยวกับสัญญาราคาสูงของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเลย
กินและดื่มกันจนได้ที่แล้ว
เฉินตงเมาหนักมากแล้ว ต่อหน้าพนักงานที่กระตือรือร้น เขาใจกว้างควักเงินหนึ่งแสนหยวนให้กับพนักงานในบริษัทเพื่อเปลี่ยนสถานที่ในการไปสนุกต่อ จากนั้นเขาก็ออกจากร้านอาหาร”ท่าเรือบี้ปอ”
ความมึนเมาของเฉินตงลดน้อยลง เพราะลมของแม่น้ำที่พัดผ่านมา
มองไปที่แม่น้ำระยิบระยับ เขาก็ถอนหายใจออกมาเป็นกลิ่นของแอลกอฮอล์
แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับจางหายไป เปลี่ยนเป็นความเศร้าโศก ดวงตาก็เริ่มแดงแล้ว
แค่ครึ่งเดือน เขาประสบกับปัญหาแม่ป่วยหนักจนอาจตายได้ หย่ากับภรรยา เพราะปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว)อย่างหวางหนันหนันได้เอาเงิน2แสนหยวนเป็นเงินจำนวนสุดท้ายสำหรับช่วยชีวิตแม่ไป เพียงเพื่อนำไปดาวน์บ้านงวดแรกสำหรับงานแต่งของน้องชายเธอ
ช่างตลกจริงๆ!
เขารักภรรยาอย่างจริงจัง แต่สุดท้ายเพื่อรวบรวมเงินดาวน์บ้านแต่งงานให้น้องชายแล้ว กลับไม่สนใจชีวิตแม่ของเขาเลย
นี่ทำให้เขารู้สึกใจแทบสลาย เลยเลือกที่จะหย่ากัน
ถ้าเป็นคนอื่น ภายใต้การโจมตีไม่หยุดแบบนี้ บางทีอาจจะใจพังทลายลงตั้งนานแล้ว
แต่เขาโชคดี พ่อที่เนรคุณก็ปรากฏขึ้น ไม่เพียงแค่ช่วยแม่ ยังทำให้เขามีเงินอีก เหมือนมือใหญ่ที่ทรงพลัง สามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตที่ทุกข์ยากของเขาได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าการกลับมาช่วยของพ่อเขาอย่างกะทันหัน ซึ่งไม่ใช่เพราะความรู้สึกผิดแน่นอน แต่เขาไม่สนหรอก
เพราะผ่านประสบการณ์มากมาย ทำให้เฉินตงรู้ดีแล้ว
เงินช่างเป็นอะไรที่เหี้ยจริงๆ แต่ถ้าไม่มีเงิน ตัวเองก็ไม่ใช่อะไรเลยทั้งนั้น
ตอนนี้ดีแล้ว ชัยชนะครั้งแรกของไท่ติ่ง มอบคำตอบที่สมบูรณ์แบบให้พ่อเขา แม่ได้รับชีวิตใหม่ที่ร่างกายกำลังฟื้นตัว ในที่สุดเขาก็ได้ยกก้อนหินออกจากอก โล่งอกสักที
ขณะที่เดินไปเรื่อยๆ ก็นึกถึงช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา แววตาที่กำลังเมาหนักขอเฉินตง กลายเป็นดุและคม ยิ้มอย่างขมขื่น “หวางหนันหนัน ถ้าวันหนึ่งคุณรู้ ผมคนที่เคยถูกครอบครัวของคุณดูถูก หลังจากหย่ากับคุณแล้วก็มีความสามารถในการแก้ปัญหาทั้งหมดในครอบคุณได้อย่างง่ายดาย คุณจะเสียใจไหมกับเรื่องที่วันนั้นไม่สนชีวิตแม่ของผมแล้วเอาเงิน2แสนหยวนไป?”
พอเงยหน้าขึ้น เฉินตงตะลึงทันที
นี่มันตึกที่ผมกับหวางหนันหนันเช่ามาก่อนไม่ใช่เหรอ?
เดินมาที่นี่ได้ยังไง?
ขำตลกตัวเอง เฉินตงนึกขึ้นได้
ท่าเรือบี้ปอห่างจากที่นี่ไม่ไกล ถึงขนาดแต่ก่อนหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเขากับหวางหนันหนันยังไปเดินเล่นที่ท่าเรือบี้ปอและยังตากลมที่นี่อยู่เลย
ในสภาพที่มึนเมา ทำให้เขาเดินไปที่บ้านเก่าโดยอัตโนมัติ
“กลับไปไม่ได้อีกแล้ว ”เฉินตงส่ายหัว กำลังจะหันหลังแล้วเดินจากไป
“คุณเฉิน!”
เสียงที่ประหลาดใจทำให้เฉินตงหยุดเดิน “คุณอาศัยอยู่ที่นี่จริงเหรอ?”
เฉินตงขมวดคิ้ว บนใบหน้าความเย็นชา
น้องสะใภ้คนนี้ ความเจ็บครั้งนั้นยังไม่ลึกซึ้งพอเหรอ?
เขาหันไป ก็เห็นหลินเสว่เอ๋อยืนอยู่ใต้โคมไฟถนนในที่ไม่ไกล มองเขาอย่างมีความสุขแบบประหลาดใจ
หลินเสว่เอ๋อสวมชุดเดรสสีขาว เผยให้เห็นผิวที่ขาวดุจหิมะ กลับถูกลมกลางคืนพัดมาจนหนาวสั่น ร่างกายที่บอบบางก็ขดตัว
“คุณหมายความว่าอะไร?” เฉินตงตอบกลับ
หลินเสว่เอ๋อมาหาอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่ขดเพราะความหนาวเย็นก็ถูกคลี่ออก ราวกับพยายามแสดงด้านที่ดีที่สุดให้เฉินตงเห็น
“หยุด!”
เฉินตงดุอย่างเย็นชา
“ทำไม?”หลินเสว่เอ๋อผงะ
“นำสัตว์ตัวน้อยของคุณเก็บไว้ ”เฉินตงหันไปด้านข้าง ไม่มองหลินเสว่เอ๋ออีก
หลินเสว่เอ๋อมองไปที่เท้าของเธอ พูดอย่างสงสัยว่า “ฉัน ฉันไม่ได้นำสัตว์ตัวน้อยมานิ”
เฉินตงถูขมับตาของเขาที่มีความเมาเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ กระต่าย ”
หลินเสว่เอ๋อตัวสั่น หน้าก็แดงทันที มองไปที่เฉินตงด้วยความเขินอาย “คุณเฉิน คุณนี่ร้ายมากเลยนะ”
แววตาเป็นประกายมีเสน่ห์อย่างน่าดึงดูด แล้วบิดเอวพริ้ว
เฉินตงเริ่มอารมณ์หงุดหงิด หันหลังแล้วเดินจากไป
หลินเสว่เอ๋อก็ก้าวไปข้างหน้า ดึงแขนของเขาไว้ พูดเสียงหวาน “เค้าก็แค่……อยากให้คุณได้ชม”
“ผมไม่สนใจในตัวคุณ”เฉินตงพยายามสะบัดมือของหลินเสว่เอ๋อออก
แต่หลินเสว่เอ๋อก็คว้ามือของเขาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง มีน้ำตาในดวงตา ร้องอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร “ขอร้องคุณอย่าไปเลยนะ คืน คืนนี้ฉันมาที่นี่ก็เพื่อมาเจอคุณ”
ทันใดนั้นเฉินตงก็ขำอย่างเย็นชา “หวางเห้าก็โง่จริงๆเลย บอกที่อยู่ของผมให้กับคุณโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง คงจะเบื่อชีวิตที่มันสงบสุขเกินไป เลยอยากโดนสวมเขาหรือไงเนี่ย?”
ที่อยู่ของบ้านเช่าที่เขาและหวางหนันหนันเช่าอยู่นั้น มีน้อยคนที่รู้ ซึ่งรวมถึงคนในตระกูลหวางด้วย
ความซื่อบื้อและไร้ประโยชน์ของหวางเห้า เพียงแค่หลินเสว่เอ๋อพูดคําสองคําออกมาก็ล้วงความลับได้อย่างง่ายดาย
หลินเสว่เอ๋อในสายตาของตระกูลหวางอาจเป็นผู้หญิงไร้เดียงสาที่รักนวลสงวนตัว แต่เขารู้ดีว่าที่จริงแล้วหลินเสว่เอ๋อเป็นนังชาเขียว(ผู้หญิงที่ดูเรียบร้อย ใสซื่อแอ๊บแบ๊ว อ่อนต่อโลก แต่ทำตัวร่าน)ต่างหาก
เขาไม่ใช่คนที่เวลาหิวแล้วจะไม่เลือก ยิ่งไม่ใช่คนโง่ด้วย
หลินเสว่เอ๋อสีหน้าตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าเฉินตงจะพูดอะไรออกมาตรงๆเช่นนี้ พูดไม่ไว้หน้าเธอเลย
แต่เมื่อนึกถึงฐานะทางบ้านของเฉินตง แม้ว่าเฉินตงจะเช่าบ้านหลังที่ดูเก่าและเล็ก แต่บัตรพันล้านใบนั้นไม่ผิดแน่นอน
ที่เธอหาหวางเห้า ก็เพื่อให้หวางเห้าเป็นตัวรับของที่ไม่ดีต่อจากคนอื่นเมื่อคนอื่นไม่ต้องการแล้ว
แต่เฉินตงนั้นดีกว่าหวางเห้าหลายสิบล้านเท่า!
เพราะคืนนั้นเธอยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อขอโทษเฉินตง นั่นเป็นเหตุผลที่เธอรวบรวมความกล้าที่จะมาหาเฉินตงในคืนนี้ คิดว่าจะลองพยายามเป็นครั้งสุดท้าย
แม้ว่า เธอจะรู้ว่าเฉินตงเป็นอดีตพี่เขยของหวางเห้า
ริมฝีปากแดงขยับเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ดวงตามีน้ำตาคลอด้วย หลินเสว่เอ๋อแสดงความน่าสงสารออกมาได้อย่างเต็มที่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงร้องไห้ “ฉัน ฉันอาจจะหมั้นกับหวางเห้าเร็วๆนี้แล้ว ก็เลยอยากมาเจอคุณในคืนนี้ อยากเจอมากๆเลยนะคะ ”
เฉินตงสะบัดมือหลินเสว่เอ๋อออก หันหลังและเดินจากไป
“โอเค ผมรู้แล้ว งั้นผมจะนำเงินห่อซองอั่งเปาให้พวกคุณก็ได้ ”