The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 21
บทที่ 21 สะสวยดั่งหยก
โต๊ะอาหารภายใต้แสงจันทร์ มีไวน์แดงตั้งตระหง่านอยู่
ทั้งหมดทุกอย่างนั้น มันเหมาะเหม็งมาก เลยทำให้บรรยากาศมันร้อนแรงอย่างลึกซึ้ง
หลินเสว่เอ๋อที่เริ่มเมาก็เอาตัวเข้ามาใกล้พลางซบอกของเฉินตง ไออุ่นที่แอลกอฮอล์นำมานั้น มันทำให้กลิ่นอายความหอมก็มากขึ้นตามไปด้วย
ด้วยระยะที่อยู่ไม่ห่างกัน มันทำให้เฉินตงรู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมา
ภายใต้แสงไฟนั้น หลินเสว่เอ๋อที่ใส่ชุดลูกไม้สีดำ มันทำให้ดูสะสวยเกินใคร
เขาอดไม่ได้ที่จะหรี่ดวงตาลง รอยยิ้มบนใบหน้ามันก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ นั้น จู่ๆ เฉินตงก็เปิดปากพูด: “ฉันกับคุณแค่ร่วมมือกันเท่านั้น”
เรือนร่างของหลินเสว่เอ๋อนั้นสั่นเทา ขนตายาวสวยนั้นก็สั่นไปด้วย ก่อนจะยิ้มแห้งๆ พลางพูด: “ใช่ ก็แค่ร่วมมือกันเท่านั้น”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินตงนั่นหายไป: “ฉันบอกว่า ฉันให้เงิน คุณช่วยฉัน ก็แค่นั้นเอง”
เมื่อพูดจบมือของเขาทั้งสองก็จับเอวบางๆ ของหลินเสว่เอ๋อ ก่อนจะผลักเธอออก ลุกขึ้น จากนั้นก็พูดแผนออกมา พลางหันตัวออกไป
ท่าทีก่อนและหลังที่เปลี่ยนไป ดูเด็ดขาดนั้น ทำให้หลินเสว่เอ๋อรับมือกับความกะทันหันนี้ไม่ทัน ความเมานั้นมันเลยลดลงไปแล้ว
เขาหมายความว่าอย่างไรกันนะ?
มาถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงต้องแยกจากกันด้วย?
เธอกลับไม่รู้ ว่าเฉินตงเป็นห่วงแม่ การที่ให้เธอมาห้าล้านก็เพื่อแก้แค้นให้แม่ ไม่ได้มีเป้าหมายอื่นเลย เฉินตงในตอนนั้นเองกลับไม่ได้คิดอะไรเกินไปกว่านั้น
ในสถานการณ์แบบนี้ เฉินตงรู้แล้วว่าหลินเสว่เอ๋อเป็นคนแบบไหน!
เพี๊ยะ!
หลินเสว่เอ๋อปาแก้วไวน์ในมือของเธอลงพื้น และสะบัดผมด้วยความหงุดหงิดใจ
คืนนี้เตรียมการมาตั้งมากมาย สุดท้ายกลับคว้าน้ำเหลวเสียอย่างนั้น
มันทำให้เธอเศร้าใจเป็นอย่างมาก
ติ๊งต่อง!
อ็อดของประตูดังขึ้น
หลินเสว่เอ๋อตะโกนออกไปด้วยความหงุดหงิด: “ใคร?”
“เสว่เอ๋อ ฉันเป็นพี่สาวของหวางเห้า มีเรื่องจะมาหาคุณ” ข้างนอกประตูมีเสียงของหวางหนันหนันดังขึ้น
หลินเสว่เอ๋อขมวดคิ้วเป็นปม ด้วยความอารมณ์ร้อน
แต่ทว่า เธอก็ยังลุกขึ้นไปใส่เสื้อคลุม จากนั้นก็เอาจานชามและแก้วของเฉินตงเข้าไปไว้ที่ห้องครัว เก็บกวาดแก้วที่อยู่ที่พื้น
เปิดไฟขึ้นมา หลังจากที่จัดแจงเสื้อผ้าเสร็จ ก็เปิดประตูให้หวางหนันหนันเข้ามา
เมื่อได้ฟังคำขอร้องของหวางหนันหนัน หลินเสว่เอ๋อก็รู้สึกดีใจมาก เธอกำลังหงุดหงิดใจที่เธอไม่มีแผนในการเข้าถึงเฉินตง แต่ตอนนี้ตระกูลหวางเอาโอกาสมาส่งให้ถึงที่แล้ว
หลินเสว่เอ๋อเลยตอบตกลงโดยไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย
หวางหนันหนันเห็นว่าหลินเสว่เอ๋อตอบตกลง ก็รู้สึกขอบคุณจนอยากจะร้องไห้
หวางเห้าเป็นน้องชายแท้ๆ ของเธอ
พ่อแม่รู้สึกเป็นห่วงเกี่ยวกับงานแต่งงานของหวางเห้าเป็นอย่างมาก
เธอเป็นพี่สาว เลยเอาเงินจากเฉินตงไปช่วยหวางเห้า มันทำให้ในใจของเธอรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย
ระหว่างนั้นมีเรื่องนัดบอดกับหลี่ต้าเป่า แต่เมื่อคิดว่าน้องชายจะได้แต่งงานกับหลินเสว่เอ๋อแล้ว เธอเองก็ไม่สนใจแล้ว
คนบ้านเดียวกัน อย่างไรก็เป็นคนบ้านเดียวกัน
ตอนที่หวางหนันหนันกลับไปถึงบ้าน แล้วเอาเรื่องนี้กลับไปบอกกับพ่อแม่และหวางเห้า
คนบ้านก็ดีใจเป็นอย่างมาก
“เห้อ……เสี่ยวเห้าหาผู้หญิงดีๆ มาได้แล้ว เสว่เอ๋อคนนี้เป็นคนดี คิดถึงพวกเราเป็นอย่างมาก” จางซิ่วจือมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดีใจ
หวางเห้าพยักหน้าอย่างภูมิใจ: “ไม่หรอก แม่ไม่ดูหน่อยเหรอว่าลูกคุณเป็นใคร?”
“ไอเด็กเมื่อวานซืน หลังแต่งงาน ก็ต้องทำดีกับเสว่เอ๋อ เสว่เอ๋อเรียนมาสูง แถมทำงานในธนาคาร ตอนนี้มาหมั้นกับคุณ เงินสินสอดก็ช่วยได้ส่วนหนึ่งแล้ว ผู้หญิงคนนี้ถือเป็นโชคดีของคุณนะ”
จางซิ่วจือสอนหวางเห้าอย่างจริงจัง มุมปากกลับยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว: “แต่ทว่า หลังจากนี้ เรามีสะใภ้อย่างเสว่เอ๋อ ฉันไปไหนมาไหนก็ต้องอวดกับพวกญาติๆ เสียหน่อย”
พูดไป เธอก็คิดขึ้นได้: “แล้วหนันหนัน คุณดูสิว่าหาใครมา?เฉินตงเป็นพวกเกาะพ่อแม่กิน สุดท้ายยังมาหาเรื่องหย่ากับคุณอีก มันทำให้ฉันเสียหน้า”
หวางหนันหนันมีสีหน้านิ่งเฉยไป ก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความมืดมนในจิตใจ
พรุ่งนี้เป็นงานหมั้นของหวางเห้าแล้ว เธอไม่อยากบอกเรื่องที่รู้ทั้งหมดให้พ่อแม่ฟัง แล้วทำให้เขาไม่พอใจ
“ฉันบอกคุณว่า วันมงคลแบบนี้จะมาพูดอะไร?ต้องยินดีกันหน่อย!”
หวางเต๋อเป็นเหมือนคนใหญ่สุดของบ้าน มองจางซิ่วจือ ก่อนจะเริ่มพูดออกมา: “จริงสิ เชิญญาติๆ และเพื่อนๆ มากันหมดแล้วใช่ไหม?ฉันจะไปโทรเชิญก่อนนะ”
“ใช่ๆ ฉันยังต้องโทรไปถามโรงแรมอีก อย่าทำสกปรก เดี๋ยวจะไม่ดีต่อเสว่เอ๋อ” จางซิ่วจือรีบไปทำด้วยความร้อนรน
คืนวันนี้ ความวุ่นวายที่ผ่านมาของตระกูลหวาง กลายเป็นบรรยากาศที่น่ายินดีในวันนี้
แต่ในโรงพยาบาล เฉินตงกำลังดูแลแม่อยู่ข้างเตียง
เมื่อเห็นแม่ที่นอนหลับอยู่ สีหน้าที่กลับมามีสีสันแล้ว ก็กลับซีดเผือดลงอีกครั้ง
เขารู้สึกสงสารขึ้นมา
เขาเช็ดหน้า ก่อนจะมองออกไปทางแสงไปที่สาดส่องทางหน้าต่าง พลางบ่นพึมพำว่า: “ตระกูลหวาง พวกคุณยังดีใจกันอยู่ใช่ไหม?พวกคุณเคยรู้สึกผิดต่อแม่ของฉันบ้างไหมเนี่ย?”
เขาหัวเราะเย้ย เฉินตงคิดว่าตัวเองคิดเยอะเกินไป และมองคนของตระกูลหวางสูงเกินไป
ถ้าเกิดว่าตระกูลหวางรู้สึกผิดจริงๆ หวางหนันหนันคงไม่เอาเงินรักษาแม่ไปช่วยหวางเห้าหรอก
ยิ่งไม่มีทาง หลังจากที่หวางหนันหนันทำให้แม่ของเขาป่วยหนักขึ้น ก็ไม่ถามถึงอาการป่วยเลย เอาแต่พูดถึงเรื่องเงินและโกหกไปวันๆ
“หวังว่าพรุ่งนี้พวกคุณจะไม่เสียใจภายหลังนะ” เฉินตงยิ้มขึ้นด้วยความเยือกเย็น ในดวงตาก็มีประกายเปล่งขึ้น “นี่เป็นสิ่งที่พวกคุณต้องจ่าย”
วันต่อมา
วันเช้าตรู่ เฉินตงถามคุณหมอจาง หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าแม่ไม่ได้อาการหนักแล้ว ก็รีบไปที่โรงแรมไท่ซาน จองห้องชุดใหญ่ที่สามารถเห็นห้องโถงได้ ก่อนจะเปิดไวน์ราไฟต์1982ขวดหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มดูการแสดงที่กำลังจะเกิดขึ้น
หน้าประตูใหญ่ของโรงแรม
จางซิ่วจือที่แต่งหน้าแต่งตัวอย่างสวยงามพาหวางเต๋อที่ใส่สูทสวยมาต้องรับแขก
สีหน้าของสามีภรรยาทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้มเบิกบาน ก่อนจะรีบไปพูดคุยต้องรับแขกอย่างสนุกสนาน
“ซิ่วจือ พวกคุณทั้งสองโชคดีจังเลย มีทั้งลูกชายลูกสาว แถมลูกชายก็จะแต่งงานแล้วด้วย คุณสองคนกำลังจะได้อุ้มหลานแล้ว”
จางซิ่วจือยิ้มเบิกบานใจ: “ฮ่าๆ ……ที่ไหนกันเล่า เสี่ยวเห้าเพิ่งจะจัดงานหมั่นกับเสว่เอ๋องานเอง กว่าจะได้อุ้มหลานก็อีกนาน”
“วันนี้ในงานหมั้นน่ะ คุณทำออกมาได้สง่างามและยิ่งใหญ่มาก ทั้งหมดกี่โต๊ะกันเนี่ย?”
เมื่ออยู่ต่อหน้าการถามไถ่ของญาติๆ จางซิ่วจือก็ยืดตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะยิ้มด้วยความภูมิใจพลางพูด: “ไม่ได้เยอะเท่าไหร่หรอก แค่สามสิบโต๊ะเท่านั้นเอง ญาติพี่น้องพ้องเพื่อนก็มากันครบแล้ว มาเจอเสว่เอ๋อสักหน่อย”
“เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?” ญาติๆ ต่างพากันตกใจ งานหมั้นก็จัดไปสามสิบโต๊ะแล้ว คงจะเชิญทุกคนทั้งหมดมาจนครบเลยสินะ?
“ไม่เยอะหรอกๆ !เสว่เอ๋อเกิดมาดีเรียนก็เก่งแถมยังได้งานดีๆ อีกด้วย ฉันเห็นเธอเป็นลูกแท้ๆ เลยล่ะเลยไม่สามารถทำให้ไม่ดีกับเธอได้”
จางซิ่วจือยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู: “ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าบ้านของเธออยู่ไกล พ่อแม่ของเธอสุขภาพไม่ดี เสว่เอ๋อเห็นแก่พ่อแม่ของเธอ เลยไม่ให้เชิญไป ฉันคงจะเชิญญาติๆ ของเธอมาหมด คงจะต้องจัดสักหกสิบโต๊ะได้”
เมื่อพูดออกไป ญาติๆ ก็เดินเข้าไปในโรงแรม
เดินไปเพียงไม่ไกล รอยยิ้มของพวกญาติๆ ก็หายวับไป
“หึ!มาอวดร่ำอวดรวยอะไรกัน?ไม่ใช่หวางเห้าแค่หาภรรยาดีๆ ได้เหรอ?ก็แค่โชคดีหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ดูบ้างเลยว่าลูกสาวเพิ่งจะหย่าน่ะ”
เมื่อได้ยินคำนี้ หวางเต๋อกับจางซิ่วจือก็ยิ้มเจื่อน
หวางเต๋อดึงๆ จางซิ่วจือ ก่อนจะพูดเสียงต่ำ: “คุณทำแบบนี้มันเกิดไปหรือเปล่า?”
“ก็ฉันอยากอวดให้โดดเด่นนี่หน่า!เสี่ยวเห้าของฉันหาภรรยาดีๆ ได้ คำพูดพวกนั้นของพวกเขา ก็แค่อิจฉา ถ้าเก่งมากนักก็ให้ลูกชายพวกเขาหาให้ได้บ้างสิ?” จางซิ่วจือมีสีหน้าต่างออกไป
ในตอนนั้นเอง หวางหนันหนันที่ใส่ชุดสีแดงเดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม: “พ่อแม่ พี่น้องพ้องเพื่อนมากันหมดแล้วใช่ไหม พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ”
หวางเต๋อกับจางซิ่วจือยิ้มพลางพยักหน้า จางซิ่วจือพูดกับหวางหนันหนันด้วยความรัก: “หนันหนัน ช่วงนี้คุณทำเพื่อน้องชาย คุณเหนื่อยแล้วล่ะ”
“แม่ ฉันไม่เหนื่อย ฉันเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเสี่ยวเห้านะ” หวางหนันหนันเบี่ยงความสนใจ พลางมองไปที่บรรยากาศครึกครื้นที่อยู่ตรงหน้า ความเหนื่อยของเธอนั้นคุ้มค่าแล้ว
งานหมั้นเปิดพิธีแล้ว
ภายใต้การดูแลของจางซิ่วจือ ยังเชิญพิธีกรมาด้วย
บรรยากาศครึกครื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเฮฮา บรรยากาศมีสีสันมาก
แต่ ท่ามกลางเสียงเพลงจรรโลงใจ ไฟหรี่ลง และไฟรอบๆ ก็เริ่มเปิดขึ้น
ภายใต้บรรยากาศครึกครื้นในงาน จู่ๆ ก็เงียบลง
ท่ามกลางการแนะนำตัวของพิธีกรเฉพาะ
หวางเห้าใส่สูท ในมือถือดอกไม้ ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาบนเวที
จากนั้น มีคนใส่ชุดเจ้าสาว คือหลินเสว่เอ๋อที่แต่งหน้าอ่อนๆ เดินขึ้นมาบนเวที
หลินเสว่เอ๋อสวยมาก ภายใต้แสงไฟ เมื่อเดินออกมา ทำให้ทุกคนในงานต่างจับจ้อง และอึ้งไปตามๆ กัน
หวางเห้ามองหลินเสว่เอ๋อ และยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาโดยไม่รู้ตัว
แต่ด้านล่างเวทีนั้น จางซิ่วจืออยู่บนอ้อมกอดของหวางเต๋อ สามีภรรยาทั้งสองมองบนเวทีด้วยรอยยิ้ม
หวางหนันหนันกุมมือทั้งสองข้างเอาไว้ ดวงตาแดงก่ำ พลางยิ้มอย่างเบิกบาน
“เสว่เอ๋อ คุณแต่งงานกับฉันเถอะ!”
เมื่อทั้งงานถูกเร้าบรรยากาศไปจนถึงจุดหนึ่ง หวางเห้าก็คุกเข่าลง ก่อนจะเอาดอกไม้ส่งให้ตรงหน้าหลินเสว่เอ๋อ และพูดออกมาเสียงดัง
แต่
หลินเสว่เอ๋อไม่ได้รับดอกไม้นั้น แถมยังมองหวางเห้าอยู่ตรงหน้า
บรรยากาศ ต่างนิ่งสงัดไปในทันตา
ทุกคนในที่นี้ตกใจอึ้งไป
จากนั้น หลินเสว่เอ๋อพูดด้วยความเย็นชาไร้อารมณ์: “ขอโทษนะหวางเห้า ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันยังไม่สามารถแต่งงานกับคุณได้ คุณไม่ได้รักฉันเลยแม้แต่น้อย!”
เมื่อพูดออกไป ทุกคนต่างพากันซุบซิบ ด้วยท่าทีตกใจ
งานหมั้นที่ถูกจัดเอาไว้แล้ว แต่จู่ๆ กลับไม่แต่งงาน มันหมายความว่าอย่างไรกันเนี่ย?
จางซิ่วจือทนไม่ไหมแล้ว เลยยืนขึ้นก่อนจะถามหลินเสว่เอ๋อ แต่กลับถูกหวางเต๋อกับหวางหนันหนันจับเอาไว้
“ทำไม?” หวางเห้างงเป็นไก่ตาแตก
เพียงแวบเดียว จู่ๆ ดวงตาของหลินเสว่เอ๋อก็แดงขึ้นมา ก่อนที่จะมีน้ำตาไหลออกมา
เธอเอาบัตรเอทีเอ็มออกมาก่อนจะปาใส่หน้าหวางเห้า แล้วร้องออกมาว่า: “เพราะว่าคุณโกหกฉันไง!”
ผ่าง!
ญาติๆ ทั้งสามสิบโต๊ะ ต่างพากันตกใจออกมาเสียงดัง
งานหมั้น พังแล้ว!