The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 24
บทที่ 24 แขกที่เคารพมากที่สุด
MG Club
หลังจากวางสายไป หลี่ต้าเป่าก็ยิ้มพลางโยนโทรศัพท์ไปอีกทาง: “ขนาดนั้นเลยเหรอ คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนงั้นเหรอ?”
เรื่องของย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เป็นเขาที่หาคนไปจัดการจริงๆ ด้วย
ในใจของหลี่ต้าเป่า เฉินตงเป็นเพียงแค่คนที่เคยกระดิกหางดุกดิกอยู่ข้างกายเขาก็เท่านั้นเอง
ถึงจะมีคนช่วยเหลือ ให้เฉินตงซื้อไท่ติ่ง แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้หมาตัวเล็กๆ นั้นมาเหยียบหัวเขาแน่นอน
ในสถานการณ์แบบนี้ ครั้งก่อนที่ตรอกภายนอกของMG Club เขาถูกคนของเฉินตงสั่งสอนไปไม่น้อย
หลังพิงพี่เขยของเขาที่เป็นเหมือนภูเขาลูกใหญ่ การแก้แค้นนี้ทำไมจะทำไม่ได้?
เขารู้ว่าเฉินตงมีคนช่วยอยู่เบื้องหลัง แต่จะช่วยอย่างไร ก็คงไม่มีทางเหมือนที่พี่เขยช่วยเขาหรอก?
“พี่ต้าเป่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” หญิงที่แต่งหน้าจัดซบอยู่ในอ้อมกอดของหลี่ต้าเป่า
หลี่ต้าเป่ายักไหล่: “ก็แค่หมาเห่านะ หมาที่คิดว่าตัวเองเป็นคนไปแล้ว คุณว่ามันตลกไหม?”
ผู้หญิงชี้ไปที่อกของหลี่ต้าเป่าก่อนจะทำนิ้ววนเป็นวงกลม พลางพูดเสียงอ่อยว่า: “พี่ต้าเป่า……”
หลี่ต้าเป่าเลิกคิ้วขึ้น ความไม่พอใจนั้นมันหายไปในพริบตา พลางเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งตัณหา
……
หลังจากวางสายไป เฉินตงก็โทรหาท่านหลง
หลี่ต้าเป่าเก่งกาจแค่ไหน เขานั้นรู้ดีกว่าใคร ทำเรื่องแบบนั้นออกมา เขามีวิธีร้อยแปดที่จะเล่นงานหลี่ต้าเป่า
แต่พี่เขยของหลี่ต้าเป่านั้น ทำให้เขาลังเล
เคยเป็นถึงเจ้านายเก่าของเขา คนคนนั้นให้ความรู้ความเคารพแก่เขา เขาถึงได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งรองผู้บริหารได้ภายในเวลาเพียงแค่สามปี
เขารู้ดี เกี่ยวกับความสามารถของเจ้านาย ไม่มีทางได้เลื่อนตำแหน่ง เพียงเพราะว่าเขาช่วยหลี่ต้าเป่าอยู่หลายครั้งหลายหน และหลี่ต้าเป่าได้มายืนอยู่ข้างกายอย่างงสง่างาม
ถ้าเกิดว่าไม่สามารถโน้มน้าวเจ้านายคนนั้น มันทำให้หลี่ต้าเป่าไม่มีทางกุมอำนาจต่อรองและหาที่พึ่งได้ ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยนิสัยที่เจ้าคิดเจ้าแค้นของหลี่ต้าเป่า ทำให้ไม่นานก็ก่อเรื่องอื่นขึ้นมาอีก
ครั้งก่อนท่านหลงสามารถซื้อขายกับไท่ติ่งได้ภายในเวลาไม่กี่นาที มันทำให้เห็นได้ชัดว่าเจ้านายนั้นรู้จักท่านหลงเป็นอย่างดี
เพียงไม่นาน ท่านหลงก็โทรกลับมา และนัดที่โรงแรมไท่ซานเวลาแปดโมง
เฉินตงตอบตกลง แต่ในใจกลับรู้สึกไร้ทางเลือกใดๆ
ความสามารถของเจ้านายในเมืองนี้ เขารู้เป็นอย่างดี ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะคำพูดของท่านหลง ให้เขาไปคนเดียว เกรงว่าเจ้านายคงจะไม่ให้โอกาสแม้แต่จะเจอหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าเขาเคยเป็นคนที่เจ้านายยกย่อง แต่คนที่เจ้านายเอ็นดูยกย่องนั้นไม่ใช่แค่เขาเพียงคนเดียว
ตอนบ่าย เฉินตงได้รับโทรศัพท์จากบริษัทแม่บ้านนั้น พี่เลี้ยงคนนั้นตอบตกลงแล้ว แต่ทว่าอยากจะเจอเฉินตงสักหน่อย
ตอนที่เฉินตงไปที่บริษัทแม่บ้านนั้น นอกจากเจ้านายวัยกลางคน ก็ยังมีผู้หญิงอีกคนนั้นอยู่บนโซฟา เป็นคนที่เหมือนกับรูปในรายละเอียดแนะนำข้อมูลเลยล่ะ
“คุณเฉิน ฉันแนะนำให้คุณก่อน นี่คือฟ่านลู่”
ชายวัยกลางคนยิ้มพลางต้อนรับเฉินตง ก่อนจะแนะนำให้เฉินตงฟัง
ฟ่านลู่ลุกขึ้นมา ก่อนจะยิ้มด้วยความสดใสให้เฉินตงพลางยื่นมือออกมา: “สวัสดี คุณเฉิน ฉันชื่อฟ่านลู่ ขอบคุณคุณมากที่รับฉันทำงาน”
เฉินตงจับมือ ก่อนจะมองฟ่านลู่
ใบหน้าของเธอนั้นไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร มันเหมือนกับในรูปเลย สวยงามสดใส มัดผมเปีย ตอนที่ยิ้มมีลักยิ้มเล็กๆ ด้วย มันทำให้รู้สึกเหมือนกับความสดใสที่หอมหวาน
ส่วนสูง170cmนั้น ทำให้เธอดูไม่เหมือนใครแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เฉินตงตกใจก็คือ ตอนที่จับมือกับฟ่านลู่นั้น เขาเพิ่งจะค้นพบ ว่ามือของฟ่านลู่นั้นด้านมาก เป็นไตแข็งๆ เต็มไปหมด
ถ้าเกิดว่าไม่ได้ทำงานหนักมาแรมปี คงจะไม่มีทางเกิดผิวด้านแบบนี้ขึ้นมาได้
แต่ทว่าเพียงแค่จับมือกันตอนนั้น ก็ทำให้เขารู้สึกได้ ถึงแรงมือที่ฟ่านลู่มี
มันทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยที่เคยฝึกการต่อสู้มา
อันที่จริงปกติเฉินตงก็ออกกำลังกาย รวมไปถึงส่วนสูง180ของเขา ทำให้คนรู้สึกได้ถึงความแข็งแรง
แต่เขามั่นใจ ว่าตัวเองนั้นไม่มีทางชนะฟ่านลู่ได้
“เงินเดือนหนึ่งหมื่น แต่ว่าคุณต้องดูแลแม่ของฉันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนนี้งานของฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลามาดูแลเธอตลอด ตอนนี้เธอป่วยอยู่ เลยไม่สามารถรับอะไรที่กระทบต่อจิตใจได้เลย”
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะให้เจ้าของบริษัทหาแม่บ้านนั้นบอกฟ่านลู่ไปแล้ว แต่เขาก็พูดอีกครั้ง: “ถ้าเกิดว่าคุณเต็มใจ ฉันอยากให้พวกเรามาทำงานกันอย่างเป็นทางการ”
“ยินดี” ฟ่านลู่พยักหน้าอย่างไม่ลังเล
เงินเดือนที่เธอคาดหวังเอาไว้นั้นคือแปดพัน เฉินตงให้เธอถึงหนึ่งหมื่น แถมแค่ดูแลคุณป้าคนเดียว สำหรับเธอ มันเหมือนลาภลอยเลยล่ะ
หลังจากเซ็นต์สัญญาการทำงานกันเรียบร้อย เฉินตงก็พาฟ่านลู่ไปที่โรงพยาบาลลี่จิง
โบกแท็กซี่คันหนึ่ง เมื่อขึ้นรถไปแล้ว ฟ่านลู่มองเฉินตงด้วยสายตาประหลาดตลอดทาง
“คุณสงสัยอะไร?” เฉินตงถาม
ฟ่านลู่ตกใจ ก่อนจะรีบก้มหน้าลง: “ขอโทษค่ะคุณเฉิน ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าไม่ควรถาม แต่แค่คิดว่าคุณสามารถจ่ายเดือนละหมื่นเพื่อหาพี่เลี้ยง แต่กลับไม่มีรถเนี่ยนะ”
เฉินตงยิ้มออกมา เขาเพิ่งจะมีเงินได้เพียงครึ่งเดือน หลังจากผ่าตัดปลูกตับให้แม่เสร็จ เขาก็ทุ่มเททุกอย่างให้กับการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เลยยังไม่ได้คิดเรื่องอื่น
“สนใจแต่งานหมดแล้ว ตอนนี้เลยยังไม่ได้ซื้อรถน่ะ” เฉินตงตอบเพียงประโยคเดียว ก่อนจะถามกลับ: “ก่อนหน้านี้คุณทำงานที่ก่อสร้างเหรอ?”
“อือ” ฟ่านลู่พยักหน้า ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “คุณเฉินรู้ได้อย่างไรกัน?”
เฉินตงยิ่งรู้สึกแปลกใจเข้าไปใหญ่ ภายนอกของฟ่านลู่นั้นก็ไม่ได้แย่ แถมยังเคยฝึกการต่อสู้มาอีก ทำไมถึงทำงานเป็นพี่เลี้ยงหรือไม่ก็กรรมกรล่ะ?
เขาชี้ไปที่มือของฟ่านลู่: “มือของคุณมันด้านแข็งน่ะ”
ฟ่านลู่เอามือทั้งสองข้างซ่อนเอาไว้ตรงขา ก่อนจะก้มหน้าลงโดยปริยาย
ผู้หญิงอายุ28ปี มีใครไม่อยากมีมือสวยๆ สะอาดๆ บ้างเหรอ?
“ยกอิฐในไซต์ก่อสร้างเหรอ?” เฉินตงถามต่อ
“ไม่ใช่” ฟ่านลู่ส่ายหัว ก่อนจะพูดเบาๆ : “บิด บิดเหล็กน่ะ”
เฉินตงลูบจมูก ก่อนจะยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ พี่เลี้ยงที่หามาให้แม่นั้น ฟ่านลู่เหมาะเหม็งมากเลย!
หลังจากไปถึงโรงพยาบาลลี่จิง เฉินตงก็พาฟ่านลู่ไปที่ห้องพักผู้ป่วยของแม่ ก่อนจะพูดเรื่องการดูแลในเรื่องต่างๆ อย่างละเอียด จากนั้นก็โอนเงินให้ฟ่านลู่เป็นจำนวนห้าพัน ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายของเธอกับแม่
หลังจากจัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จ เขาก็กลับไปที่บริษัท ก่อนจะรีบทำงานต่อ
ตอนหนึ่งทุ่ม เฉินตงออกจากบริษัท
มีโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมจอดอยู่ข้างถนน รออย่างเงียบๆ
เฉินตงขึ้นรถ ท่านหลงพูดด้วยความเคารพ: “คุณชาย เจ้านายเก่าของคุณไปรออยู่ที่ร้านอาหารของไท่ซานแล้ว เขาบอกว่าจะให้ค่าตอบแทนอย่างเหมาะสม”
“อือ” เฉินตงพยักหน้า
โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมค่อยๆ ขับออกไป
ในขณะเดียวกัน ในห้องรับรองของโรงแรมไท่ซาน
คนที่มากับพี่เขยก็คือหลี่ต้าเป่าถูกห้องรับรองของไท่ซานทำให้ตกใจอึ้งไป
โรงแรมไท่ซานนั้นเป็นโรงแรมห้าดาวเดียวในเมือง
แต่ห้องรับรองไท่ซานก็เป็นห้องรับรองห้าดาวของโรงแรมไท่ซานเช่นเดียวกัน!
ชีวิตของหลี่ต้าเป่านั้นหรูหรา แต่ก็ยังไม่เคยมาที่ห้องรับรองของไท่ซาน ส่วนใหญ่การร่วมก็จะอยู่ที่MG Clubเสียมากกว่า
แต่สถานที่ระดับสูงอย่างห้องรับรองไท่ซานนั้น เขาไม่มีสิทธิ์จะมา นี่เป็นเพราะพี่เขยเขาพามาเลยล่ะ
“ขอบคุณพี่เขยที่พาฉันมาเปิดหูเปิดตา”
หลี่ต้าเป่าตื่นเต้นจนพูดกับชายวัยกลางคนที่แก่กว่าเขาว่า: “คืนนี้มาอยู่ที่ห้องรับรองไท่ซานแล้ว แขกที่มาต้องเป็นลูกค้าระดับสูงมากเลยใช่ไหม?”
ชายวัยกลางคนนั้นมีปอยผมที่ขาว ใส่แว่นขลิบทอง ดูดีไม่น้อยเลย
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ต้าเป่า เขาก็ยิ้มแต่ก็เหมือนจะไม่ยิ้มพลางพูดว่า: “เป็นแขกที่น่าเคารพมากที่สุดเลยล่ะ!เดี๋ยวคุณทำตัวดีๆ หน่อยนะ”
“วางใจเถอะพี่เขย ฉันจะไม่ทำให้คุณเสียหน้า” หลี่ต้าเป่าทุบอกเป็นการรับประกัน โดยไม่ได้สนใจแววตาเย็นชาของพี่เขยเลย
เมื่อพูดจบ
แกร่ก……
ประตูของห้องรับรองไท่ซาน ก็ค่อยๆ ถูกเปิดออก