The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 33
บทที่ 33 ผู้มาเยือนที่ไม่หวังดี
พอทำการตรวจครั้งใหญ่แล้ว โชคดีที่หลี่หลานไม่ได้เป็นอะไรมาก
แต่ก็ทำให้ฟ่านลู่และคุณหมอจางรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย
ตอนที่เฉินตงไปถึงโรงพยาบาลในตอนกลางคืน หลี่หลานและฟ่านลู่ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้เลย
ถือว่าคนเป็นแม่รักและเป็นห่วงลูกชาย
ความเหน็ดเหนื่อยของเฉินตง หลี่หลานเห็นกับตาตัวเองมาตลอด เธอไม่อยากให้เรื่องของตนเองทำให้เฉินตงยิ่งรู้สึกกดดันมากไปกว่านี้
แต่ฟ่านลู่ มองๆเฉินตงแล้วอยากจะบอกหลายครั้ง แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา นึกถึงคำขอร้องของหลี่หลาน สุดท้ายก็อดใจเอาไว้ในที่สุด
“ตงเอ๋อ ช่วงนี้ลูกดูเหนื่อยมากเลยนะ”
หลี่หลานมองดูเฉินตงด้วยความรักใคร่ ดวงตาแดงเล็กน้อย
เธอป่วยและผ่าตัด เฉินตงและหวางหนันหนันหย่ากัน มันเกิดขึ้นภายในเวลาอันสั้นๆที่ไม่ถึงหนึ่งเดือนเท่านั้น
ไม่ว่าเรื่องไหน คนปกติทั่วไปก็ยอมรับไม่ได้
แต่เฉินตงกลับทนรับมันและเผชิญด้วยตัวคนเดียว อีกทั้งยังรีบทำงานหาเงิน เพื่อค่ารักษาพยาบาลที่แสนแพงของเธอ
“แม่ ไม่เป็นไรครับ”
เฉินตงยิ้มๆ เห็นแม่อาการดีขึ้นเรื่อยๆทุกวัน ทำให้ความกดดันในใจของเขาค่อยๆรู้สึกเบาลง
ส่วนเรื่องความเหนื่อย ก็เหน็ดเหนื่อยมากจริงๆ นอกจากความกดดันแล้ว ยังมีเรื่องงานของบริษัทไท่ติ่งที่เยอะแยะมากมาย
แต่ เขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมันคุ้มค่า
พยายามให้ถึงที่สุด ถึงจะได้สิ่งที่เขาอยากได้
“เฮ้อ……เพราะแม่ทำให้ลูกเหนื่อย ไม่อย่างนั้นลูกก็คงไม่ลำบากขนาดนี้” หลี่หลานก้มหน้าพูดด้วยความรู้สึกผิด
เฉินตงส่ายหัว: “แม่ ห้ามแม่พูดแบบนี้อีกนะครับ แม่เลี้ยงดูผมจนเติบใหญ่ ผมดูแลแม่จนแก่เฒ่า ตั้งหลายสิบปีมานี้ แม่ยังไม่เคยพูดว่าเหนื่อยเลยแม้แต่คำเดียว ทำไมกลับรู้สึกกลัวผมจะเหนื่อยล่ะครับ งานของผมที่ทำอยู่ มันเบากว่าที่แม่ไปทำให้คนอื่นจนดึกดื่นในเมื่อก่อนเสียอีก”
ตั้งแต่เล็กจนโต เพื่อเลี้ยงดูเขา แม่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จึงทำให้สุขภาพแย่ในตอนนี้
เทียบกับงานของแม่แล้ว เขารู้สึกเบากว่าเยอะ
สำหรับแม่แล้ว เขามีแต่จะรู้สึกขอบคุณเท่านั้น
เกลียด ต้องใช้กับชายคนนั้นที่ใจร้ายทิ้งพวกเขาไป
“ลูกโง่เอ๋ย” หลี่หลานมองหน้าเฉินตงด้วยหน้าดุนิดๆ
เฉินตงยักคิ้วและยิ้มพูด: “แม่ พักผ่อนและรักษาตัวเองให้ดีๆ รอให้แม่ออกจากโรงพยาบาล ผมมีอะไรเซอร์ไพรส์แม่ด้วยนะ”
พูดจบ เขายืนขึ้นจะออกไป
กลับมองเห็นฟ่านลู่กำลังมองพวกเขาสองแม่ลูกคุยกัน ดวงตาสองข้างแดงเล็กน้อย
เฉินตงไม่ได้พูดอะไรมาก ทักทายคำหนึ่ง แล้วก็เดินออกจากโรงพยาบาล
เพิ่งจะออกจากตึกห้องพักผู้ป่วย เฉินตงก็เห็นที่จอดรถมีรถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมจอดอยู่ ทำให้เขาเดินตรงไปทันที
นั่งเข้าไปในรถ เฉินตงยิ้มและถาม: “ท่านหลง ทำไมมาที่โรงพยาบาลกะทันหันล่ะครับ?”
“กระผมอยากมาเยี่ยมแม่ของคุณ แต่ว่าคุณชายยังไม่ได้บอกเรื่องราวความเป็นมาให้แม่ของคุณ กระผมเลยไม่สะดวกขึ้นไป” ท่านหลงกล่าว
เฉินตงหยุดชะงักไปสักพักและมองท่านหลงอย่างแปลกใจ: “แค่นี้เหรอครับ?”
สีหน้าและแววตาของท่านหลงเปลี่ยนไปเป็นเข้มขรึมขึ้นมาทันที: “ที่จริงแล้วคือมีเรื่องอย่างหนึ่งในบ้าน กระผมอยากจะบอกคุณชายให้ทราบ พอเดาได้ว่าเวลานี้คุณชายต้องมาดูแม่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นจึงมาหาที่นี่โดยตรง”
“เรื่องอะไรครับ?”
เฉินตงถามอย่างเฉื่อยชา ท่านหลงไม่โทรมาพูดทางโทรศัพท์ แต่มาหาด้วยตัวท่านเอง ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ
ท่านหลงถอนหายใจหนึ่งครั้งและพูดอย่างเข้มขรึม: “ที่บ้านมีคนมาหาคุณ”
“หาผม?”
เฉินตงขมวดคิ้ว
ท่านหลงกล่าว: “เพราะการประกาศแจ้งเรื่องการเข้าร่วมบริษัทยี่เคอกรุ๊ปในครั้งก่อน ในบ้านมีคนสังเกตถึงคุณ กำลังเข้ามาแล้ว เป็นผู้ไม่หวังดี”
“พ่อผมคนนี้เก่งจริงๆเลย ควบคุมทั้งวงศ์ตระกูล ยังเปิดพุงเปิดไส้มาเจรจากับผม อีกทั้งยังคุมคนในบ้านไม่อยู่ปล่อยให้เค้ามาหาเรื่องผมอีก” เฉินตงหัวเราะเยาะอย่างประชดประชัน
“คุณชายครับ เรื่องภายในวงศ์ตระกูล มันไม่ได้ง่ายๆอย่างที่คุณคิดนะครับ”
ท่านหลงพูดอธิบายอย่างอดทน: “นายท่านอยากให้คุณกลับไปควบคุมดูแลตระกูล แต่ในขณะเดียวกัน สมาชิกในตระกูลก็อยากจะให้คนของตนเองมาดูแล ตระกูลควบคุมทรัพย์สินและการเงินของทั้งโลก ใครๆเห็นก็ต้องตาโต เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกคนต่างก็ต้องการแย่งชิงเพื่อเอามาครอบครอง ทำให้ต่างฝ่ายไม่เข้ากันเหมือนดั่งน้ำกับไฟ คนพวกนั้นต่างก็มองคุณเป็นตะปูที่คอยกีดขวางพวกเขา”
“แล้วก็ฆ่าผมได้ใช่ไหม?” เฉินตงแกล้งถามและยิ้ม
ท่านหลงไม่ตอบคำถาม แต่พยักหน้า
เฉินตงเก็บรอยยิ้มขึ้น จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าคำถามเมื่อกี้มันน่าตลกมาก
คนตายเพราะเงิน นกตายเพราะอาหาร
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลที่ลึกลับของตนเอง ทรัพย์สมบัติเยอะแยะมากมาย สำหรับคนที่โลภมากพวกนั้น แค่ฆ่าคนๆเดียวมันไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรเลย
“คุนหลุน”
ท่านหลงออกเสียงพูดคำหนึ่ง
“อยู่ครับท่านหลง”
บนที่นั่งคนขับในรถโรลส์รอยซ์ มีชายหนุ่มที่รูปร่างใหญ่หันกลับมาตอบรับ
เฉินตงขมวดคิ้ว คนที่ขับรถให้ท่านหลงก่อนหน้านี้ไม่ใช่คนนี้
คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้หน้าตาเหลี่ยมๆ คิ้วเข้มตากลม ทรงผมตั้งขึ้นตรงๆอย่างกับเสาเหล็ก ทั้งตัวดูแล้วเต็มไปด้วยความเข้มขรึมดุร้าย ดูน่าเกรงขาม
“คุณชายครับ คุนหลุนคือคนที่นายท่านให้กระผมหาคนมาปกป้องคุณชายเป็นพิเศษครับ”
ท่านหลงสีหน้าเข้มขรึมมาก ท่าทางไม่ผ่อนคลายเลยสักนิด: “คุนหลุนเป็นหัวหน้าทหารหน่วยรบที่จ้างมารับใช้ในต่างประเทศ ในปีนั้นนายท่านออกนอกประเทศ เห็นและชื่นชมคุนหลุน จึงรับไว้เป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชา เขาเก่งเรื่องการต่อสู้ ยิงปืน สืบค้นและอื่นๆ”
สือ~
ฟังท่านหลงแนะนำแล้ว เฉินตงรู้สึกเย็นลึกๆในใจ
คนอย่างทหารรับใช้ เมื่อก่อนเขาเคยเห็นแต่ในทีวี สำหรับเขาแล้ว มันไม่อาจเอื้อมเลย
แต่ตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว อีกทั้งยังมาปกป้องเขาด้วย
อดไม่ได้ที่จะทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ข้างหูมีเสียงถอนหายใจของท่านหลงดังขึ้น
เฉินตงมองดูท่านหลงอย่างสงสัย: “เกิดอะไรขึ้นครับ?”
“การชนะของการต่อสู้ครั้งแรกของคุณชาย กลับทำให้คุณชายกลายเป็นเป้าหมายของทุกคน เรื่องนี้คือเรื่องที่นายท่านและกระผมนึกไม่ถึงเลย กระผมรู้สึกผิดจริงๆ”
ท่านหลงพูดตำหนิตัวเอง: “แต่มันสายไปแล้ว ยังไงขอให้คุณชายระวังตัวด้วยนะครับ”
“พวกเขา ร้ายกาจอย่างที่ท่านพูดจริงๆเหรอครับ?” เฉินตงไม่ค่อยเข้าใจ
เป็นคนเหมือนกัน คนในตระกูลที่พูดถึงพวกนั้น ร้ายกาจถึงขนาดทำให้ท่านหลงต้องจ้างทหารมาปกป้องเขาเลยหรือ?
“ความสามารถในการควบคุมดูแลวงศ์ตระกูลของคุณชาย กระผมไม่แปลกใจและสงสัยเลย แต่ว่าคุณชายต้องรู้ไว้ว่า สิ่งที่ต้องการในการควบคุมดูแลวงศ์ตระกูลไม่ใช่แค่ความสามารถ”
ท่านหลงรู้สึกเสียดาย “คุณชายอยู่ข้างนอกมาตลอด อาศัยอยู่กับแม่อย่างยากลำบาก พลาดโอกาสการฝึกอบรมดูแลชั้นดีของตระกูล มีบางด้านที่ไม่ดีพอเท่ากับคนในตระกูลพวกนั้น”
การอบรมชั้นดีเหรอ?
เฉินตงหัวเราะ แต่คำพูดของท่านหลง ทำให้เขารู้สึกเบาใจลง
“ไม่เป็นไร ผมจะต้องทำให้ดีกว่านี้ ให้แข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา!”
“ไอ้ลูกสวะอย่างผมถูกด่าว่าตีมาตั้งแต่เล็กจนโต ถ้าชนะพวกที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี ท่านว่าเขาจะเสียหน้าตาแต่นั่นไหม?”
ถึงแม้จะกำลังยิ้มอยู่ แต่สายตาของเฉินตงดูคึกคะนองอย่างหนักแน่น เหมือนกำลังมีไฟแห่งการต่อสู้แผดเผาอยู่
เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยอ่อนแอรังแกง่ายๆ เรื่องมันพัฒนามาจนถึงขั้นนี้แล้ว จะเป็นหรือตายก็ปลงแล้ว ไม่พอใจก็สู้
มีคนที่เก่งกาจอย่างคุนหลุนอยู่ข้างๆ เขาไม่ค่อยกังวลใจเท่าไหร่นัก
“เฮ้อ……” ท่านหลงรู้สึกได้กับคำพูดที่ประชดประชันของเฉินตง จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างอัดอั้นใจ
เฉินตงหันไปถาม: “คนๆนั้นจะมาถึงที่นี่เมื่อไหร่?”
คนที่ตอบเขา ไม่ใช่ท่านหลง แต่เป็นคุนหลุนที่ขับรถ
น้ำเสียงของคุนหลุนหนักแน่น: “คุณชาย ที่อยู่ของพวกเขาลึกลับซับซ้อน ติดตามไม่ได้ แต่คำนวณเวลาดูแล้ว น่าจะถึงนานแล้วครับ”