The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 46
บทที่ 46 ลองมาอีกครั้งสิ
“ผมไป?”
เฉินตงหายใจติดขัด มองไปยังกรงเหล็กที่น่าอนาถอย่างเคร่งเครียด
ถึงแม้เขาเร่งอยากจะชนะเฉินเทียนหย่างมาก และให้คุนหลุนฝึกซ้อมเขาอย่างหนักและเหี้ยมโหด
แต่ให้เขาไปแข่งมวยใต้ดินจริงๆ หากเขาไม่รู้สึกหวาดกลัวนั่นคือการตอแหลทั้งเพ
ด้านหลังมีเสียงของคุนหลุนดังขึ้น
“คุณชายครับ ทักษะการต่อสู้ที่แท้จริงจะพัฒนาขึ้นจากการต่อสู้ในสนามจริงครับ หากคุณอยากประลองฝีมือกับเฉินเทียนหย่างภายในหนึ่งเดือน การฝึกฝนที่บ้าคลั่งก็ไม่เพียงพอครับ”
ระหว่างคิ้วของเฉินตงเลิกย่น สายตากลายเป็นแน่วแน่อย่างยิ่ง
แน่นอน เฉินเทียนหย่างฝึกฝนอย่างเชี่ยวชาญที่บ้านตระกูลเฉินมาตั้งแต่เด็ก
ถึงแม้เขาจะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเฉินเทียนหย่างที่ผ่านการฝึกฝนอย่างมืออาชีพนั้นแกร่งกว่าเขามาก
ตั้งแต่เด็กเฉินเทียนหย่างได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี อีกทั้งเขาไม่สงสัยเลยว่าตระกูลเฉินต้องส่งคนให้ต่อสู้จริงกับเฉินเทียนหย่างแน่ๆ
ถ้าหากเขาเพียงพึงวิธีการฝึกซ้อมแบบเลือดเย็นอย่างหนัก อย่าว่าแต่ภายในหนึ่งเดือนเลย ถึงจะเป็นหนึ่งปีก็ไม่อาจเอาชนะเฉินเทียนหย่างได้
เรื่องบางเรื่อง ความแตกต่างราวฟ้ากับดิน หากรู้ว่าไม่อาจใช้ความพากเพียรพยายามเอาชนะได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้วิธีเลี่ยงอันตรายถึงจะมีโอกาส
“ได้!”
เฉินตงพูดอย่างหนักแน่นหนึ่งคำ
ภายในโรงยิมมวยใต้ดินมีเสียงดังก้องขึ้นอยู่นาน ตอนนี้เริ่มซาลงแล้ว
การแข่งมวยใต้ดินเช่นนี้ หมัดสะเทือนเนื้อคือท่าที่ทำให้เลือดพุ่งออกมามากที่สุด ซึ่งอาจถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
คล้ายกับโคลอสเซียม เมื่อเข้าสู่สนามแข่งสำหรับผู้ชม จะไม่มีคำว่าชีวิต มีเหลือแต่คราบเลือดและการทารุณที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจเท่านั้น
แน่นอน สาเหตุที่ทำให้ได้รับความนิยมเป็นล้นพ้นเช่นนี้ เพราะโรงยิมมวยใต้ดินมีการพนันแพ้ชนะนั่นเอง
เมื่อประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมชิงชัยชนะในแต่ละครั้งก็จะเป็นเวลาในการพนันเลือกคนใหม่อีกครั้ง
ซึ่งการจ่ายค่าแทงนั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้นั้นๆ
เมื่อหน้าจอใหญ่แสดงรายชื่อคู่ต่อสู้ยกต่อไป
จากเดิมที่กำลังเสียงดังลั่นในความมืดอยู่นั้นก็ได้กลับกลายเป็นสงบเงียบขึ้นมา
ทุกคนต่างมองหน้าจออิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่อยากจะเชื่อ
ตงvsกูหลัง
“ตง?”
เฉินตงมองชื่อของตัวเองก็อดขำไม่ได้ คุนหลุนตั้งชื่อให้เขาได้สะเพร่ามาก?
แต่เมื่อเห็นค่าแทงที่ประกาศออกมาขาก็หัวเราะไม่ออกกันเลยทีเดียว
จ่ายค่าแทงเขาคือ 1ต่อ 10!
จ่ายค่าแทง“กูหลัง”คือ 1 ต่อ 3!
ไม่เพียงเท่านี้ ด้านล่างรายชื่อของกูหลังมีรายงานประวัติการแข่งขันอันยาวเหยียบปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดสายตาก็คือแข่งสิบนัด
ชนะแปดครั้ง เสมอหนึ่งครั้ง และแพ้หนึ่งครั้ง
ส่วนสำหรับพื้นที่ด้านล่างรายชื่อของเฉินตงนั้นว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
ความแตกต่างของการจ่ายค่าแทงและประวัติการแข่งขันก็เป็นที่ประจักษ์กันดีอยู่แล้วว่าเกือบไม่ต้องคาดเดาอะไรเลย
แม้กระทั่งเฉินตงที่เพิ่งมาโรงยิมมวยใต้ดินครั้งแรกยังดูออกเลย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชมที่อยู่ในวงการนี้มายาวนานแล้ว
เพล้ง!
เสียงฮือฮาดังขึ้นมา
“มือใหม่?มือใหม่จะลงสนามเหรอ?”
“ค่าแทง 1 ต่อ 10 ไม่ใช่มือใหม่แล้วจะเป็นอะไร?ไม่มีประวัติการแข่งขันก็ต้องปะทะกับกูหลังแล้ว มือใหม่คนนี้ตายชัวร์ๆ”
“ฮ่าๆๆ……เดี๋ยวได้ดูโชว์กูหลังฆ่าคนเป็นแน่ มือใหม่คนนี้ต้องถูกกูหลังฆ่าในกรงเหล็กแน่ๆ”
……
แก๊งๆ!
จากนั้นก็เกิดเสียงดังกึกก้องของระฆังขึ้นมา
การแทงพนันเริ่มต้นขึ้น
ไม่มีใครโง่ การต่อสู้ที่ไม่น่าตื่นเต้นครั้งนี้ ถึงแม้ผลตอบแทนเมื่อแทงกูหลังชนะแล้วจะได้น้อย แต่ก็ต้องชนะอย่างแน่นอน ผู้ที่แทงกูหลังชนะนั้นมีทั้งหมดร้อยละเก้าสิบ
ส่วนร้อยละสิบที่เหลือคือหวังจะเลี่ยงพนันสักครั้ง เพราะ 1 ต่อ 10 นั้นได้คุ้มมากเลย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อก่อนมือใหม่ก็เคยชนะมาก่อนเช่นกัน ถึงแม้จะน้อยมาก แต่ก็ยังมีอยู่จริง
“คุณชาย”
คุนหลุนยื่นหน้ากากสีขาวให้เฉินตง
เฉินตงพยักหน้ารับหน้ากากมาสวม
เขามาที่โรงยิมมวยใต้ดินก็เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อสู้จริง ซึ่งการไม่เปิดเผยตัวตนคือสิ่งที่ดีที่สุด
จากการประกาศของกรรมการนอกกรงเหล็ก
เฉินตงสูดหายใจเข้าลึกๆ ภายใต้เสียงอึกทึกของผู้ชม เขาเดินเข้าไปในความมืดมิด บนหัวมีแสงสว่างของไฟ เดินเข้ามาจนอยู่ภายในกรงเหล็ก
จากนั้นกรรมการประกาศให้กูหลังลงสู่สนาม ทันใดนั้นทั้งสนามเต็มไปด้วยเสียงตะโกนที่ครึกครื้น
เฉินตงก็เห็นรูปร่างลีนคนหนึ่ง ผู้ชายเปลือยท่อนบนเผยกล้ามเนื้อสีบรอนซ์เป็นมัดๆค่อยๆเดินเข้ามาในกรงเหล็ก
หน้าตาที่แสนจะธรรมดา เกือบจะผอมแห้ง แต่ดวงตาคู่นั้นดุจหมาป่าดุร้าย ใต้หางตาข้างขวามีรอยแผลเป็นรูปตะขาบมาถึงบริเวณขมับ
เฉินตงกับกูหลังสบตากัน รู้สึกแข็งทื่อและขนแผ่นหลังตั้งขึ้นมา
หัวใจเต้นตึกตักเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
เสียงตะโกนของผู้ชม แสงไฟที่แสบตา ยังมีกลิ่นอายที่น่าเกรงขามของกูหลังที่แผ่ออกมา
ณ ขณะนี้ ความตื่นเต้นอันแรงกล้าทำให้เฉินตงรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย
นี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะสู้จริงๆกับคนอื่น อีกทั้งเมื่อสักครู่ก็เพิ่งเห็นการต่อสู้ที่นองเลือดอยู่หมาดๆ
เสียงนกหวีดดังขึ้น
กูหลังที่อยู่ตรงข้ามโค้งตัวคำนับ ราวกับกระสุนปืนพุ่งทะยานมาหาเฉินตง
ไม่มีคำพูดท้าทายใดๆ และไม่มีกิริยาที่ไร้ประโยชน์
ด้านในกรงเหล็กต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
การกระทำและคำพูดที่ไม่สำคัญสามารถตัดสินว่าใครจะมีเลือดท่วมตัวและกลิ้งไปนอนอยู่กับพื้นได้เลย
“คุณชาย……”
นอกกรงเหล็กที่มืดมน คุนหลุนเรียกอย่างเป็นห่วงหนึ่งประโยค
ด้วยประสบการณ์จากการเป็นทหารเลี่ยงตายมาหลายปี เขารู้ว่าด้านในกรงเหล็กเฉินตงเป็นรอง กูหลังเป็นต่ออย่างเห็นได้ชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น คุนหลุนสังเกตเห็นความตื่นเต้นอันแรงกล้าของเฉินตงได้
ปัง!
หมัดที่ไร้กระบวนท่าใดๆ
เฉินตงก็รู้สึกว่าบริเวณใบหน้ามีค้อนมหึมาทุบลงมา เกิดเสียงน่าอนาถ ในสมองเกิดเสียงวงๆๆ จากนั้นก็ล้มมาอยู่กับพื้น
เลือดสดไหลออกมาจากลำคออย่างระงับไม่ได้
ไม่รอให้เขาตอบสนอง สายตาเลือนรางก็เห็นเท้าของกูหลังกำลังถีบมาทางใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว
เฉินตงเอาสองมือไปบดบังใบหน้าด้วยสัญชาตญาณ
ปัง!
เสียงแตกระเบิดดังขึ้น เฉินตงเดินสะเปะสะปะไปข้างหลังแล้วชนเข้ากับกรงเหล็กด้านบน
การจู่โจมที่ทรงพลังทำให้เขากระอักเลือดออกมาหนึ่งครั้ง หยดเลือดแปดเปื้อนบนหน้ากากขาว
กรีด!
คราบเลือดสดกระตุ้นให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจจนต้องตะโกนร้องออกมาเสียงดัง
“ผมประเมินคุณสูงไปแล้ว”
เวลานี้กูหลังผู้เป็นต่อไม่ได้รีบร้อนจู่โจมต่อ เขาสามารถดูความสามารถของเฉินตงออกจากการปะทะในเวลาอันสั้น
คนตรงหน้าอ่อนหัดยังเป็นเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอยู่เลย!
หรืออาจเคยประลองฝีมือกับคนจริงๆเป็นครั้งแรก
ไม่เช่นนั้นการตอบสนองที่ทึ่มราวกับไม้แกะสลักรูปไก่ ช่างยากต่อการเข้าใจเหลือเกิน
ยิ้มอย่างเหยียดหยาม“คุณมาชกมวยหรือมาให้ผมชกกันแน่”
เฉินตงเช็ดคราบเลือดที่ปาก เขาถูกกูหลังชกจนหน้าครึ่งซีกบวมช้ำไปหมด
และเมื่อกี้ใช้สองมือบังเท้าของกูหลัง เวลานี้ปวดราวกับกระดูกแตกร้าวยังไงอย่างนั้น
เขากัดฟันแน่น พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดสุดกำลัง จ้องเขม็งกูหลังที่อยู่ตรงหน้า
กูหลังหยอกล้อ เขาไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง
หากเป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องถูกตีจนตายอยู่ในกรงเหล็กแห่งนี้แน่ๆ
หรือมีคุนหลุนอยู่ เขาคงไม่ถูกตีจนตาย แต่จุดจบต้องน่าอนาถมากๆเลยทีเดียว
ซึ่งไม่ใช่ผลที่เขาอยากได้
ทันใดนั้นเขานึกถึงคำพูดของคุนหลุนหนึ่งประโยค
“สงบนิ่ง!ต้องสงบนิ่งถึงขีดสุด!มีเพียงความสงบถึงจะสามารถพบจุดบกพร่องของศัตรูได้ โจมตีครั้งเดียวก็เอาให้ถึงตายไปเลย
ซึ่งทักษะการต่อสู้ก็มีเทคนิคสำหรับฆ่าคนได้ด้วย ใช้ท่าไม้ตายท่าเดียวในความเงียบสงบก็เพียงพอแล้ว!”
“ฮู๊ว……”
หายใจออกแรงๆหนึ่งเฮือก เฉินตงค่อยๆหลับตาลง
“หืม?”
กูหลังจอมขี้แหย่รู้สึกสงสัยขึ้นมา
ภายใต้ความมืดมน คุนหลุนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
หลังจากหลับตาลง เฉินตงพยายามปรับการหายใจ เพื่อใช้การหายใจให้อารมณ์ของตนเป็นปกติ
ไม่นาน เขาก็ไม่รู้สึกว่าที่นี่เสียงดังหนวกหูและไม่รู้สึกแสบตาไฟบนหัวอีกต่อไป
ทุกอย่างสงบเงียบลง เขาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
จากใบหน้าที่ว้าวุ่นและเคร่งเครียดเล็กน้อย บัดนี้หนักแน่น สงบและลึกล้ำเป็นอย่างมาก เขาอยู่ใต้หน้ากากสีขาว แต่ยังสามารถชวนให้กระวนกระวายขึ้นมาได้
เฉินตงยิ้มบางๆ“ลองมาอีกครั้งสิ”