The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 54
บทที่ 53 คำอธิบายแบบขอไปที
หวางเห้าขยี้ตาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
หลินเสว่เอ๋อทำไมถึงเข้าไปห้องคนไข้ของไอ้แม่ผีทะเลของเฉินตง?
ในตอนนี้ เขารู้สึกมึนงงไปหมดแล้ว
ค่อยๆเดินไปที่ห้องคนไข้ทีละก้าวๆ
และในห้องคนไข้นั้น
เห็นหลินเสว่เอ๋อและหลี่หลานยิ้มกันอย่างเป็นมิตร และให้ฟ่านลู่มาดูแลหลินเสว่เอ๋อ
ไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ในห้องจางซิ่วจือเมื่อกี้
หลินเสว่เอ๋อในตอนนี้เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มและถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับหลี่หลานไม่หยุด ถึงขนาดที่ว่าปอกแอปเปิ้ลให้หลี่หลานด้วยตัวเอง
ลักษณะท่าทางก่อนหลังนี้ แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
หลินเสว่เอ๋อและหลี่หลานที่อยู่ในห้องคนไข้คุยเรื่องสัพเพเหระกันอย่างมีความสุข ไม่มีมองหน้ากันไม่ติดเลยแม้แต่น้อย
และนอกห้องคนไข้ หวางเห้าก็เห็นทุกอย่างในห้องผ่านกระจกบนประตูได้อย่างชัดเจน
สมองของเขาตอนนี้ส่งเสียงตุ้บๆไม่หยุด ยืนงงอยู่หน้าประตู
ถึงขั้นที่ว่าไม่มีความคิดอะไรผุดขึ้นมาเลย ราวกับคอมพิวเตอร์ค้างยังไงอย่างงั้น
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทั้งหมดนี้ทำให้เขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย
เขายังไงก็คิดไม่ถึงว่าหลินเสว่เอ๋อที่ตอนอยู่ต่อหน้าเขาและครอบครัวเขาเป็นเทพธิดาเย็นชา แต่พออยู่กับไอ้แม่ผีทะเลของเฉินตงกลับอ่อนโยนได้ขนาดนี้
และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ หลินเสว่เอ๋อทำไมถึงรู้จักหลี่หลาน?
เวลาค่อยๆผ่านไป
คนในทางเดินมองหวางเห้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลายใจ
แต่หวางเห้าไม่มีจิตใจไปสนเรื่องอื่น ความสนใจทั้งหมดอยู่ในห้องคนไข้หมดแล้ว
และเป็นแบบนี้อยู่ครึ่งชั่วโมง
ในที่สุดหลินเสว่เอ๋อก็ลุกขึ้นและเดินออกมา พอเธอเปิดประตูห้องคนไข้ก็เห็นหวางเห้าที่ยืนงงอยู่ รอยยิ้มบนหน้าเธอเลือนหายไปทันที
หลังจากที่ตื่นตระหนกอยู่สักพัก หลินเสว่เอ๋อก็ตั้งสติกลับมาเหมือนเดิมและถามเสียงเย็นชาว่า
“ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?”
หัวใจของหวางเห้าสั่นไหวชั่วขณะ รีบตั้งสติกลับอย่างรวดเร็ว แล้วความรู้สึกโกรธก็ทะลักพรั่งพรูออกมา
“ฉัน……”
ยังไม่ทันรอเขาตะโกนออกมา สีหน้าของหลินเสว่เอ๋อก็เย็นเยือกขึ้นมาทันที “นายอย่าไปรบกวนคุณน้าพักผ่อน ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
พูดจบ เธอก็หันหลังเดินจากไป
หวางเห้ารู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที รีบวิ่งไปตามหลินเสว่เอ๋อ “เสว่เอ๋อ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เธอจะไม่อธิบายกับฉันหน่อยเหรอ?”
“อธิบายอะไร?” หลินเสว่เอ๋อมองหวางเห้าอย่างเอือมระอา เธอไม่เคยมีนิสัยที่ต้องอธิบายกับหวางเห้ามาก่อน
โดยเฉพาะกับเรื่องเมื่อกี้ ดันซวยถูกหวางเห้าจับได้ซะอีก เธอเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
“ยายแก่ผีทะเลในห้องคนไข้นั่น ทำไมเธอถึงไปเยี่ยมมัน?”
หวางเห้าโกรธจนตาโตเบิกกว้าง เหมือนกับสิงโตตัวผู้ที่กำลังโกรธจัด
“หวางเห้า นายพอได้แล้ว! นายพ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอ อะไรคือยายแก่ผีทะเล?”
หลินเสว่เอ๋อตวาด “น้ายังไงก็เป็นแม่ของอดีตสามีพี่สาวนาย ฉันไปเยี่ยมน้าหน่อยจะเป็นไรไป? เพราะว่าเรื่องของเราสองคนทำให้พี่เขยนายต้องหย่ากับพี่สาวนาย ฉันไปเยี่ยมเพราะรู้สึกผิด นายยังจะมาทำเป็นมีเหตุอีกเหรอ?”
หวางเห้าชะงัก
เป็นอย่างนี้จริงๆเหรอ?
ยังไม่รอให้เขาได้ตั้งสติ หลินเสว่เอ๋อก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและกอดเขาไว้ แล้วเขย่งเท้าเอาปากแตะขอบปากเขาเบาๆและพูดเสียงอ่อนโยน “เอาน่า ไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอก ฉันแค่ไปเยี่ยมเพราะรู้สึกผิดจริงๆ นายกลับไปดูแลแม่นายให้ดีเถอะ แล้วไปรวบรวมค่าสินสอดมาให้ครบ เราสองคนก็จะได้แต่งงานกัน”
“จริงเหรอ?”
หวางเห้าดีใจขึ้นมาทันที “เธอ เรื่องครั้งนั้นเธอไม่โทษพวกเราแล้วเหรอ?”
“ตาบ้า จะโทษพวกนายได้ยังไงล่ะ?” หลินเสว่เอ๋อตำหนิแล้วทำท่าสะบัดมือ “เอาล่ะ ฉันกลับไปทำงานก่อนนะ นายอย่าคิดมาก”
มองแผ่นหลังของหลินเสว่เอ๋อ หวางเห้ายืนอึ้งอยู่กับที่ด้วยความตกใจและดีใจ
เขารู้สึกโกรธเรื่องที่หลินเสว่เอ๋อไปเยี่ยมแม่ของเฉินตงจริงๆ
แต่ในใจเขา หลินเสว่เอ๋อที่มีวุฒิการศึกษาสูง ในด้านการวางตัวและการจัดการเรื่องราวนั้นก็จัดการได้ละเอียดรอบคอบและทะลุปรุโปร่งมากกว่าเขาจริงๆ ที่สำคัญกว่านั้นคือ หลินเสว่เอ๋อก็มีจิตใจดีอีกด้วย
เพราะฉะนั้น คำอธิบายแบบขอไปทีของหลินเสว่เอ๋อเมื่อกี้ สำหรับเขาแล้วก็ถือว่าอธิบายเหตุการณ์เมื่อกี้ได้ดีมากแล้ว
หลังจากที่เลิกสงสัยแล้ว ในใจของหวางเห้าก็เหลือแต่ความดีใจและความตื่นเต้น
หลังจากงานหมั้น หลินเสว่เอ๋อก็ไม่เจอเขาอีกเลย เขารู้ว่าหลินเสว่เอ๋อโกรธ ถึงขั้นที่กลัวว่าจะต้องเลิกกับหลินเสว่เอ๋อด้วยซ้ำ
แต่วันนี้ หลินเสว่เอ๋อมาเยี่ยมคุณแม่ และจากคำพูดเมื่อกี้ก็บ่งบอกชัดว่าไม่โกรธแล้ว พวกเขายังมีความเป็นไปได้กันอยู่!
“เสว่เอ๋อ เธอวางใจได้เลย ฉันจะให้พ่อแม่ฉันและพี่สาวรีบรวบรวมเงินให้ครบเพื่อจะได้แต่งงานกับเธอ”
หวางเห้ากำหมัดแน่นด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
เมื่อหวางเห้ากลับถึงห้องคนไข้อย่างดีอกดีใจ หวางเต๋อและจางซิ่วจือก็ตกตะลึง
กี่วันมานี้ พวกเขาสองคนไม่เห็นหวางเห้าดีใจขนาดนี้มาก่อน
“เสี่ยวเห้า มีเรื่องอะไรที่น่าดีใจเหรอ?” จางซิ่วจือเริ่มถามก่อนเลย
หวางเห้ายิ้มบอก “พ่อครับแม่ครับ เสว่เอ๋อไม่โกรธแล้ว เมื่อกี้เธอยังบอกผมว่า ขอแค่พวกเรารวบรวมเงินมาให้ครบก็แต่งงานกันได้เลย”
“งั้นก็ดี งั้นก็ดีเลย” หวางเต๋อประสานมือเข้าด้วยกันอย่างตื่นเต้น
ส่วนจางซิ่วจือแสดงท่าทีว่าคิดเอาไว้ไม่ผิดและยิ้มออกมาอย่างได้ใจ “เสว่เอ๋อเด็กคนนี้น่ะ ทั้งสวยทั้งจิตใจดี การศึกษาก็สูง แม่รู้อยู่แล้วว่าเธอต้องไม่ถือสาแน่นอน เสี่ยวเห้า แกต้องไม่ทำให้คนเขาผิดหวังนะ”
“มันแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมชีวิตนี้นอกจากเสว่เอ๋อแล้ว ใครก็ไม่แต่ง”
หวางเห้ากำหมัดแน่นและสายตาแน่วแน่ แต่สีหน้าจู่ๆก็หม่นหมองขึ้นมา “แต่ว่า พ่อครับแม่ครับ เงินสินสอดนี้เมื่อไหร่ถึงจะครบล่ะครับ?”
ได้ยินที่พูด
หวางเต๋อและจางซิ่วจือก็ชะงักพร้อมกัน
ทั้งสองสบตากัน จางซิ่วจือโกรธจนกัดฟันแน่น “ต้องโทษพี่สาวนาย ยัยนั่นทำเรื่องพัง เรื่องนี้ต้องให้มันไปหาวิธีจัดการเอง”
“กดดันลูกสาวแบบนี้ไม่เหมาะสมหรือเปล่า?” หวางเต๋อลังเลเล็กน้อย
“มีปัญญาคุณก็ไปหาเงินมาให้ได้สิ? คุณมันก็แค่คนสอนหนังสือโง่ๆ ยืมคนไปทั่วแต่ก็ยังรวบรวมไม่พอไม่ใช่หรือไง?”
จางซิ่วจือมองค้อนใส่หวางเต๋อ คิดแล้วก็ตัดสินใจว่า “รอให้แม่ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็จะหาคนรวยๆให้ยัยนั่นแต่งงานกับเขาแล้วขอสินสอดมาเยอะๆ แบบนี้เสี่ยวเห้าก็จะมีเงินแต่งงานแล้ว”
“ฮ่าๆๆ……ขอบคุณครับแม่” หวางเห้ากอดจางซิ่วจืออย่างดีใจ
หวางเต๋อที่อยู่ข้างๆถอนหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน
……
ฟ้าเริ่มมืดลง
เฉินตงไม่อยากให้กู้ชิงหยิ่งอยู่ดูแลเขาอีกเพราะต้องมาลำบากทรมานด้วยกันกับเขา จึงให้กู้ชิงหยิ่งกลับบ้านไป
กู้ชิงหยิ่งตอนแรกก็ไม่ยอม แต่ก็รับมือกับท่าทีเด็ดขาดของเฉินตงไม่ไหว จึงได้แต่ลากร่างกายที่เหนื่อยล้านี้ออกจากโรงพยาบาล
รอให้กู้ชิงหยิ่งออกไปแล้ว
เฉินตงจึงขยับร่างกายสองสามทีแล้วเปลี่ยนท่าทีสบายกว่านี้
เพราะแผลบนหน้าอกจึงทำให้เขาตอนนี้ยังลุกขึ้นนั่งไม่ได้ ถูกกู้ชิงหยิ่งนอนทับแขนอยู่นาน หลังของเขาก็เกือบชาแล้ว
พอสบายขึ้นมาหน่อยแล้ว เฉินตงจึงถามออกไป “คุนหลุน จัดการกับเรื่องหลังจากนั้นยังไง?”
คุนหลุนพูด “จางเห้อหมิงถูกลงโทษตามกฎหมาย และโทษต้องไม่เบาแน่นอนครับ”
“นายรู้ว่าฉันไม่ได้หมายถึงเขา”
เฉินตงหัวเราะ ในสายตาเขา จางเห้อหมิงก็เป็นเพียงแค่ตัวตลกเท่านั้น
ก็แค่คนขี้ประจบคนหนึ่งที่คิดจะเอากู้ชิงหยิ่งไปเอาใจเฉินเทียนหย่าง
คุนหลุนแสดงสีหน้าจนใจเล็กน้อย “เฉินเทียนหย่างแค่ขาหักหนึ่งข้างและออกไปจากเมืองนี้แล้วครับ”
“แค่นี้เองเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นและหัวเราะเย็นชาหนึ่งที
“หลักฐานของเขาไม่พอที่จะให้ลงโทษตามกฎหมายได้ครับ”
คุนหลุนอ้ำอึ้งอยู่สักพักแล้วพูดออกมาด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้งว่า “คุณชายครับ ท่านคงไม่รู้อำนาจของตระกูลเฉินมากนัก พวกเราฆ่าเฉินเทียนหย่างไม่ได้ ถ้าฆ่าแล้ว แม้แต่คุณท่านก็ปกป้องพวกเราไม่ได้ครับ”
“แล้วเขาฆ่าฉันได้งั้นเหรอ?”
สีหน้าเฉินตงแสดงถึงความโกรธแค้น สายตาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด หัวเราะเย้ยหยันหนึ่งที “เพราะฉันเป็นแค่ลูกสวะ ไม่มีสถานะที่จะทำได้สินะ?”