The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 236 เขาไม่ใช่เฉินตง!เชื่อฉัน!
ภายในห้องผู้ป่วย
ทันใดนั้น บรรยากาศก็เย็นเยือกลง
ฉินเย่มองไปที่เฉินตงอย่างสงสัย
การฆ่าพ่อแม้จะเป็นเรื่องที่ผิด?
ประโยคนี้ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ามันจะหลุดออกมาจากปากของเฉินตง
ตั้งแต่ที่รู้จักกับเฉินตงมา การฆ่าพ่อของเขาสำหรับเฉินตงแล้ว เฉินตงเองไม่เคยที่จะพูดหรือแสดงความคิดเห็นใดๆมาก่อน และปฏิกิริยาท่าทางของเขา กลับแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจในการกระทำนั้นๆ
แต่ตอนนี้ เขากลับแสดงความคิดเห็น ?
ดวงตาของกู้ชิงหยิ่งก็เป็นประกาย ด้วยรู้สึกแปลกใจด้วยเหมือนกัน
เธอรู้ว่าฉินเย่ฆ่าพ่อตัวเอง และก็รู้ว่ามันมีเงื่อนงำบางอย่างที่ซ่อนอยู่
แต่เธอเองก็รู้สึกแปลกจากการที่เธอสัมผัสกับเฉินตงเอง
หากเฉินตงคิดว่าที่ฉินเย่ฆ่าพ่อตัวเองนั้นผิด ด้วยนิสัยของเฉินตงแล้ว เขาคงไม่จ้างวานให้มาร่วมงานกัน
และคงไม่สละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยฉินเย่ จากตระกูลฉิน!
เฉินตงพึมพำ แล้วก็หัวเราะออกมา
“อย่าสนใจเลย ฉันก็แค่พูดไปเรื่อย สิ่งที่ควรเคารพนับถือรายล้อมอยู่รอบตัวเรา ความกตัญญูถูกสั่งสอนกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ”
คำอธิบายเพียงคำเดียว
แต่ทำให้ฉินเย่ต้องก้มหน้าลง สีหน้าของเขาหม่นหมองชัดเจน
กู้ชิงหยิ่งรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“ฉินเย่ แผลนายเป็นยังไงบ้างแล้ว ?”
“ออ ดีขึ้นมากแล้ว” ฉินเย่ตอบกลับไปอย่างสงบนิ่ง
โกรธเหรอ ?
กู้ชิงหยิ่งรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย ยิ้มและถามไปว่า:“ดีแล้ว หากนายออกจากโรงพยาบาล ก็ไปร่วมงานแต่งงานของฉันกับเฉินตงนะ”
ได้ยินดังนั้น
ฉินเย่เงยหน้าขึ้นแล้วเหลือบมองไปที่กู้ชิงหยิ่ง
ดวงตาเขาแปลกไปอย่างน่าประหลาด
แต่กลับยิ้มและพยักหน้ารับ :“ก็พอดีเลยนะสิ ในที่สุดก็ได้ดื่มเหล้ามงคลของเธอสองคนสักที”
ท่าทีของกู้ชิงหยิ่งก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
จากนั้นก็ถามต่อไปว่า:“เมื่อกี้นายทำอะไรจางหยู่หลัน? เธอร้องไห้เสียใจมาก”
ฉินเย่ท่าทีนิ่งเงียบไป
ยิ้มอย่างขมขื่น:“ชิงหยิ่ง ฉันคิดว่าครั้งนี้คงจะเล่นแรงไป เดิมทีแค่อยากจะแกล้งเธอเท่านั้น แต่เล่นสนุกเกินไปหน่อย”
กู้ชิงหยิ่ง:“……”
เฉินตงที่อยู่ข้างๆเห็นฉินเย่กับกู้ชิงหยิ่งกำลังคุยกัน ท่าทีก็สลับซับซ้อนขึ้น
“ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ”
ทันใดนั้นเฉินตงก็ลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องน้ำ
เมื่อมาถึงที่ประตู
ด้านหลังก็มีเสียงของฉินเย่ดังขึ้น
“พี่ตง ถึงแม้ว่าฉันจะฆ่าพ่อตัวเอง แต่ฉันกับพี่ก็เหมือนกัน เหมือนตอนนั้นที่ฉันเลือกจะติดตามพี่”
เสียงของเขาทุ้มต่ำ เหมือนกำลังอธิบาย แต่ก็มีความหนักแน่นอยู่ลึกๆ
“ห๊า?”
และในจังหวะเดียวกัน เฉินตงก็ส่งเสียงร้องด้วยความประหลาดใจ
หลังจากนั้น เขาก็รีบตอบกลับทันทีว่า :“อืม”
หลังจากนั้น เขาก็เข้าห้องน้ำไป
คิ้วของฉินเย่ผูกกันจนเป็นปม
ดวงตาจับจ้องไปที่ประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอยู่
ท่าทีเย็นชา ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
กู้ชิงหยิ่งสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉินเย่
หัวใจของเธอกระตุกอย่างแรง หรือว่า…… ฉินเย่ก็รู้สึกเหมือนกัน ?
เวลา ผ่านไปอย่างช้าๆ
ฉินเย่ยังคงรักษาท่าทีไม่เปลี่ยนแปลง
แต่กู้ชิงหยิ่งเอง กลับไม่สงบแล้วยังกระสับกระส่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
“ชิงหยิ่ง ช่วยหยิบทิชชูมาให้ผมหน่อยได้ไหม?”
ทันใดนั้นเสียงของเฉินตงก็ดังมาจากในห้องน้ำ
“ออ ได้ค่ะ!”
กู้ชิงหยิ่งลุกขึ้นแล้วหยิบทิชชู เดินไปที่ประตูหน้าห้องน้ำ แล้ววางมันลง จากนั้นก็หันหลังเดินกลับมาที่เตียงของฉินเย่
“ชิงหยิ่ง”
ฉินเย่เอ่ยเรียก ยิ้มเล็กน้อย:“ยื่นมือมา”
กู้ชิงหยิ่งตกใจ
ในตอนนี้ เสียงชักโครกในห้องน้ำก็ดังขึ้น
โดยไม่รอให้กู้ชิงหยิ่งได้สติ ฉินเย่ก็ยืนขึ้น ไม่สนใจบาดแผลบนร่างกาย อดทนกับความเจ็บปวด แล้วคว้าไปที่มือของกู้ชิงหยิ่ง
กู้ชิงหยิ่งมีท่าทีตกใจจนหน้าซีดเซียว
ในตอนที่เธอกำลังจะกรีดร้องขึ้นมานั้น
กลับรู้สึกมีอะไรบางอย่างอยู่ในฝ่ามือของเธอ
แก็รก!
ประตูห้องน้ำเปิดออก
เฉินตงเดินออกมา
และฉินเย่ก็นอนลงบนเตียงเหมือนเดิม
มีเพียงกู้ชิงหยิ่ง ที่มีท่าทีที่มึนงงสับสน ยืนอึ้งอยู่กับที่
“ฉินเย่ นายพักผ่อนเถอะ เรายังต้องเตรียมเรื่องงานแต่งงาน เราขอตัวก่อนแล้วกันนะ”
เฉินตงเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
“ครับ พวกคุณไปทำธุระเถอะ ไม่ต้องมาเยี่ยมผมหรอก ถึงวันแต่งงานพวกคุณเมื่อไร ผมจะต้องไปปรากฏตัวที่งานแต่งของพวกคุณแน่นอน”
ฉินเย่โบกมือให้ แล้วพูดไปด้วยรอยยิ้ม
“งั้นนายก็พักผ่อนแล้วกัน”
ในที่สุดกู้ชิงหยิ่งก็ได้สติ พูดกำชับไปคำหนึ่ง แล้วจากไปพร้อมกับเฉินตง
หลังจากที่ประตูห้องปิดไปแล้ว
ใบหน้าของฉินเย่ก็เหยเก เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ
ผ้าพันแผลตรงหน้าอก บัดนี้มีเลือดสีแดงไหลซึมออกมา
เป็นเพราะเมื่อกี้ที่เขารีบลุกขึ้นอย่างกะทันหัน เลยทำให้แผลฉีก
จับไปที่บาดแผลตรงหน้าอก เขาก็หัวเราะอย่างหดหู่:“หวังว่าที่ฉันเดามันจะถูก ไม่งั้นเลือดนี้คงไหลอย่างเปล่าประโยชน์”
ถึงแม้จะยังยิ้มอยู่ แต่ในตาของฉินเย่ กลับเต็มไปด้วยความเย็นชา
เวลานี้ ฤดูหนาวที่หนาวที่สุดก็ได้เข้ามาเยือนอย่างแท้จริง
ด้านนอกของโรงพยาบาล
กู้ชิงหยิ่งยังคงมึนงงสับสน ในฝ่ามือยังคงกำแน่นกับของที่ฉินเย่ยัดไว้ให้เธอ
เมื่อกี้ฉินเย่ไม่ได้เสียมารยาทและละลาบละล้วง แต่แค่ต้องการที่จะให้สิ่งนี้กับเธอ
“ชิงหยิ่ง คุณเป็นอะไรไป?”
เฉินตงขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึม
“ไม่ค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร” กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว “เราไปกันเถอะค่ะ”
เฉินตงพยักหน้า แล้วเปิดประตูรถให้กู้ชิงหยิ่ง รอให้กู้ชิงหยิ่งขึ้นรถไปแล้ว จึงได้ปิดประตู
จากนั้นเขาก็อ้อมไปประจำที่ตำแหน่งคนขับ
และจังหวะนี้ กู้ชิงหยิ่งก็คลายกำปั้นที่กำอยู่ มันเป็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง
เธอรีบคลี่โน้ตนี้ออกทันที
ทันทีที่เห็นข้อความ
ปัง!
เกิดเสียงดังขึ้นในหัวสมองของกู้ชิงหยิ่ง และทันใดนั้นมันก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ข้อความนั้น ถูกเขียนขึ้นอย่างบิดเบี้ยว ราวกับมีฟ้าร้องในวันที่แดดจ้า
ข้อความที่เรียบง่าย:เขาไม่ใช่เฉินตง !เชื่อฉัน!
นี่ใช่ที่ฉินเย่เขียนเหรอ ?
ทันใดนั้น กู้ชิงหยิ่งก็เกิดความไม่แน่ใจ
ความสงสัยในใจเธอ เป็นไปอย่างที่ฉินเย่ได้เขียนยืนยันเอาไว้ หัวใจเธอก็พองโตจนขีดสุด
ความรู้สึกเดียวกันนั้น ที่แท้แล้วก็ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่รู้สึก !
ไม่เพียงแค่ เธอที่ไม่มั่นใจกับความสงสัยนี้
แต่ความรู้สึกของฉินเย่นั้นชัดเจนยิ่งกว่า มันเลยทำให้มั่นใจมากขึ้นไปอีก !
แกร็ก!
เสียงประตูดังแผ่วเบา
กู้ชิงหยิ่งสงบสติอารมณ์ วางมือขวาไปที่ขอบหน้าต่างรถ แล้วโยนโน้ตนั้นออกไปนอกรถ
และทั้งหมดนี้ ภายใต้ท่าทีที่สงบนิ่งของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงเองก็ไม่ทันได้สังเกตเห็น
“ชิงหยิ่ง หลังอาหารกลางวัน ผมค่อยไปส่งคุณไปที่บริษัทนะ”
เฉินตงเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
กู้ชิงหยิ่งพยักหน้ารับ แล้วจ้องมองไปที่เฉินตงอย่างลึกซึ้ง
เห็นได้ชัดว่าเป็นเฉินตง แล้วทำไมถึงไม่ใช่เฉินตง ?
เสียงรถบูกัตติเวย์รอนดังขึ้น ขับเคลื่อนเร็วปานลมกรดอย่างสายฟ้าแลบ
ตลอดทาง ภายในรถเงียบสงบ
กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าลง ความคิดเธอวุ่นวายสับสน
และเฉินตงเองก็จดจ่ออยู่กับการขับรถ ด้วยท่าทีที่เงียบสงบ
เพียงแต่ กู้ชิงหยิ่งเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น มุมปากของเฉินตงมีรอยยิ้มที่เย็นชาปรากฏขึ้น
และในจังหวะนี้เอง
รถยนต์ BMW สองคัน ก็ขับไล่ตามรถบูกัตติเวย์รอน แล้วขับมาเทียบอยู่ข้างกัน
เพราะเป็นถนนในเมือง เฉินตงจึงไม่ได้ขับเร็วนัก
และในช่วงที่รถ BMW สองคันขับเคียงข้างกันมานั้น
ทันใดนั้นรถBMW ก็ขับเบียดเข้าหารถบูกัตติเวย์รอนที่อยู่ในเลนกลางพร้อมกัน
โครม!
การเบียดอย่างกะทันหัน ในขณะที่รถยังเคลื่อนตัวไปนั้น ทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง
เสียงดังกึกก้อง ทำให้กู้ชิงหยิ่งตกใจจนหน้าซีดเซียว และหวีดร้องออกมา
ทันใดนั้น รถทั้งสามคันก็พุ่งไปยังแปลงดอกไม้ที่อยู่ริมถนนพร้อมกัน
“ชิงหยิ่ง ระวัง!”
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรุนแรงมาก เฉินตงกระโจนไปด้านหน้าของกู้ชิงหยิ่ง
คว้าไปที่ตัวกู้ชิงหยิ่งที่อยู่ในอาการตกใจกลัวเข้ามาไว้อ้อมแขน แล้วกอดเธอไว้แน่น
โครม!
รถสามคันชนกันแล้วก็หยุดลง
ชิ้นส่วนและกระจกที่แตก กระจายไปทั่วพื้น
ในที่เกิดเหตุ ก็มีควันตลบอบอวลพวยพุ่งออกมา