The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 245 คนเดียว คุมทั้งคุก
จ่าฝูงแห่งคุกNO.1 หรืออาจถือได้ว่าเป็นบุคคลพิเศษในคุกมืด
เสียงของหมียักษ์ยิ่งทุ้มต่ำลง แววตามืดครึ้มจนสุดขีด เขาหัวเราะเยาะตัวเอง “เฉินตง นักโทษในคุกมืดที่สามารถพลิกสถานะนำแขกมาเป็นเจ้าบ้าน ได้รับสวัสดิการเท่าผู้คุมคุก คุณนึกภาพออกไหม? ”
บูม!
เฉินตงรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า
ในวินาทีนี้ เฉินตงเกิดมรสุมในใจ
แม้ว่าเขาจะพยายามยับยั้ง แต่หมัดทั้งสองที่กำแน่นก็ยังคงเห็นเส้นเลือดที่ปูดออกมาได้อย่างชัดเจน
นักโทษที่ได้รับสวัสดิการอย่างผู้คุม แล้วยังเรียกว่านักโทษเหรอ?
จ่าฝูงแห่งคุกNO.1 เขาอาศัยความสามารถที่แข็งแกร่ง จึงครองตำแหน่งจ่าฝูงคุกNO.1มาแล้วยี่สิบกว่าปีอย่างมันคง และได้รับอำนาจไม่ด้อยไปกว่าผู้จัดการชั้นสูงในคุกมืด ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเขาไม่สามารถเข้าออกคุกมืดได้อย่างอิสระ
รอยยิ้มของหมียักษ์ที่หัวเราะเยาะตัวบนใบหน้าของหมียักษ์ ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นเพียงคนที่ที่สามารถทำได้ถึงเช่นนี้ และเป็นเพราะการดำรงอยู่ของเขา อีกเก้าคุกที่เหลือนั้นจึงอยู่ใต้ความควบคุมมาตลอด จึงทำให้คุกมืดนี้ดูสงบมาโดยตลอด
ขณะที่ฟังหมียักษ์พูด
เฉินตงรู้สึกแทบจะหายใจไม่ออก
ตำแหน่งจ่าฝูงยี่สิบกว่าปี และอำนาจที่เทียบเท่าผู้คุมชั้นสูงในคุกมืด
นี่มันสูงกว่าตำแหน่งอำนาจของป๋าเสียอีก!
และนอกจากนี้ ความสงบของคุกมืด ก็ยังต้องพึ่งพาเขาคนนั้นด้วย
คนเดียว คุมคุกไว้ทั้งแห่ง !
นี่มันต้องความสามารถระดับไหน?
ต้องรู้ว่า นักโทษทุกคนในคุกมืดนี้ มันไม่มีสักคนที่จัดการได้ง่ายเลย
อีกทั้งทหาร และเทพสงครามก็มีไม่น้อย
ในบรรดาเทพสงครามเหล่านี้ ใครบ้างที่ไม่ใช่ลูกเทวดา?
หากไม่ใช่เพราะมีเขาคนนั้นอยู่ บางทีสิบคุกที่เสียงดังคงจะวุ่นวายจนกลายเป็นโจ๊กหม้อหนึ่งไปแล้วมั้ง
วินาทีนี้ เฉินตงก็ยังสงสัยเลยว่าในตอนนั้นคุนหลุนเขาออกจากคุกมืดนี้ไปได้อย่างไร
การดำรงอยู่อันน่าสยองของคนเดียวที่คุมทั้งคุก จะสามารถเอาชนะเทพสงครามได้อย่างง่ายดายจริงหรือ?
ความรู้สึกที่หดหู่อย่างรุนแรง ลอยขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ
แววตาของเฉินตงก็เริ่มดูไม่นิ่ง
สิบวัน………จะทำได้จริงหรือ?
“เฉินตง ดังนั้นการตัดสินใจของคุณมันไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด”
หมียักษ์พูดอย่างจริงจัง“ แม้ว่าคุณจะสามารถเอาชนะจ่าฝูงทั้งเก้าคุกได้ แต่จ่าฝูง NO.1นั้น มันยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์อีก!”
ภายในห้องขังเงียบสงัด
แนชวิลล์และคนอื่นๆ ได้เงียบไปตั้งนานแล้ว
พวกเขาเป็นนักโทษเก่าของคุกมืด แน่นอนว่าต้องคุ้นเคยกับตำนานจ่าฝูงแห่งคุก NO.1 เป็นธรรมดา
แต่สภาพของเฉินตงในตอนนี้ ทําให้พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
ผ่านไปครู่ใหญ่
“เหอะ!”
มุมปากเฉินตงยกขึ้นทันที เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดูเหยียดหยาม
เดิมทีผมก็อยู่ในความมืด ที่ต้องการเดินไปสู่แสงสว่าง และมันเป็นการสู้กับฟ้าสวรรค์อยู่แล้ว ก็แค่ขึ้นสวรรค์ มันไม่มีทางทำให้ผมท้อถอยอยู่แล้ว
ทั้งวาจาและรอยยิ้ม
ทำให้หมียักษ์ซบเซาลง และทําอะไรไม่ถูก
แต่เฉินตงกลับยืดเอวบิดขี้เกียจ แล้วนอนลงบนเตียงหินที่แข็งอีกครั้ง
มาพูดถึงจุดอ่อนของจ่าฝูงในคุก NO.8 กันเถอะ
ถ้าเฉินตงมีทางเลือก แน่นอนเขาก็ต้องเลือกที่จะถอยอยู่แล้ว
แต่ในตอนนี้ เขาไม่มีทางเลือก!
กู้ชิงหยิ่งกำลังรอเขาก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์ คุณแม่กำลังรอเขากลับบ้าน พี่น้องยังรอเขากลับไปรวมตัวกันอีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่าเหตุใดคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและตระกูลฉินถึงปล่อยให้เขารอก และโยนเขาเข้าคุกมืด
หรือบางทีอาจเป็นเพราะต้องการขับไล่เขาให้จากไปตลอดกาล
เพราะการฆ่าใครสักคนคน มันง่ายกว่าการทรมานใครสักคนตั้งเยอะ
ทั้งๆที่รู้ว่าจะมีคนมาแทนที่ทุกอย่างของเขา และใช้ชีวิตแทนเขา แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ หากปล่อยให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและตระกูลฉินประสบความสําเร็จจริงๆ เขาจะมีชีวิตอยู่ในเงามืดและทรมานไปตลอดชีวิตแน่นอน
ในเมื่อผมเดิมพันไว้ด้วยทั้งหมดของชีวิตแล้ว
ก็แค่ชีวิต ทำไมจะไม่กล้าเสี่ยง
หมียักษ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และไม่พยายามเกลี้ยกล่อมอีกต่อไป เขาเริ่มเล่ามันอย่างช้าๆ
……………
โรงพยาบาลลี่จิง
ห้องผู้ป่วยVIP
กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื่อที่ฉุน
ใบหน้าของเฉินตงยังคงซีดเผือด แต่โชคดีที่รักษาได้ทันเวลา ไม่มีปัญหาร้ายแรง
กู้ชิงหยิ่งที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าซีดเซียวและอ่อนล้า
หลี่หลาน ท่านหลง คุนหลุน และฟ่านลู่ ก็อยู่ด้านข้าง
ทุกคนมองดูเฉินตงด้วยความกังวลใจ
“ทำไมทุกคนถึงมองผมแบบนี้? คุณหมอก็บอกแล้วว่าผมไม่ได้เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอ? ”
เฉินตงยิ้มอย่างอ่อนแรง เผยให้เห็นร่องรอยของความลำบากใจและละอายใจเล็กน้อย
“จะไม่ให้กังวลได้อย่างไร? คุณรู้หรือไหมว่าคุณเสียเลือดไปมากแค่ไหน?”
กู้ชิงหยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้องไห้ว่า “หลายวันมันนี้ฉันเป็นห่วงจนแทบตาย”
ขณะที่พูดเขาก็เอื้อมเข้าไปในอ้อมกอดเฉินตง และร้องไห้สะอื้น
ความสงสัยทั้งหมดได้หายไปพร้อมกับตอนที่เฉินตงถูกมีดแทงเพราะช่วยเขา
ตอนนี้กู้ชิงหยิ่งเหลือเพียงความรู้ผิดที่มีต่อเฉินตง และได้แต่โทษตัวเอง
“ยัยเด็กไง่ ผมต้องปกป้องคุณอยู่แล้ว ”
เฉินตงลูบหัวกู้ชิงหยิ่งเบาๆ และยิ้มอย่างอ่อนโยน ผมโดนมีดแทงเลือดออกเล็กน้อยก็ไม่เป็นไรละ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ถูกแทงผมต้องเจ็บปวดใจแค่ไหน ถ้าเป็นเช่นนั้นสู้ให้ผมตายไปเลยยังจะดีกว่า
“ไอ้เด็กโง่ พูดอะไรเหลวไหล?”
หลี่หลานพูดตำหนิด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
ท่านหลงพูดขึ้นช้าๆ “คุณชาย ตอนนี้ได้ตรวจพบคนที่ทำร้ายคุณกับเสี่ยวหยิ่งแล้วนะครับ เป็นคนที่ตระกูลฉินส่งมาจริงๆ แต่นายท่านยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในตอนนี้ อยากรอให้งานแต่งของคุณกับเสี่ยวหยิ่งจบลงก่อน แล้วค่อยคิดบัญชีกับตระกูลฉิน ”
“อืม ผมก็ไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นในงานวิวาห์ มันไม่เป็นมงคล” เฉินตงพยักหน้าอย่างจริงจัง ขมวดคิ้วแน่นและแฝงด้วยจิตสังหารที่พลุ่งพล่าน “รอให้งานแต่งของผมกับเสี่ยวหยิ่งจบลงก่อน ผมต้องเอาคืนตระกูลฉินให้สาสมแน่นอน”
ช่วงนี้คุณพักฟื้นให้ดีก่อน เรื่องอื่นคุณไม่ต้องห่วง แม่กับท่านหลงจะช่วยจัดการเอง
หลี่หลานพูดด้วยความห่วงใย สองสามมานี้เสี่ยวหยิ่งคอยดูแลลูกอย่างไม่ได้หลับไม่ได้นอนทุกวัน ต่อไปถ้าลูกกล้าทำให้เสี่ยวหยิ่งเสียใจแม้แต่นิดละก็ แม่จะไม่ปล่อยไว้แน่
“วางใจเถอะครับแม่”
เฉินตงหัวเราะและจากนั้นก็หันมามองกู้ชิงหยิ่งในอ้อมกอดแล้วพูดว่า “กลับไปพักผ่านพร้อมคุณแม่และคนอื่นๆเถอะ ทางนี้ผมไหวครับ”
จะได้ยังไง?
กู้ชิงหยิ่งและหลี่หลานพูดขึ้นพร้อมกัน
เฉินตงยักไหล่และยิ้มพูดอย่างผ่อนคลาย ไม่เป็นไรจริงๆ แค่โดนแทงที่หลัง มือเท้าก็ปกติดี ผมดูแลตัวเองได้ คืนนี้ให้คุนหลุนมาอยู่เป็นเพื่อนผมสักพักก็พอ เพราะเรื่องนี้ หลายวันมานี้ทุกคนต่างก็เหนื่อยกันมาก ทุกคนกลับบ้านไปพักผ่อนให้ดีเถอะ
หลี่หลานและกู้ชิงหยิ่งยังคงไม่ยอม
ท่านหลงพูดขึ้นช้าๆ “ฮูหยิน เสี่ยวหยิ่ง คุณชายพูดถูก ทุกคนกลับไปพักผ่อนเถอะ หลายวันมานี้เหนื่อยเกินไปแล้ว คืนนี้ให้คุนหลุนมาก็แล้วกัน อีกแค่สักพักเอง ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ”
ท่านหลงพูดถูก กลับไปกันเถอะ
เฉินตงก็พูดอย่างเห็นด้วย แผนการของตระกูลฉินล้มเหลวแล้ว ภายในระยะเวลาสั้นๆนี้เขายังไม่กล้าทำอะไรหรอก เรื่องแบบนี้ มันเกิดขึ้นครั้งแรกและครั้งที่สองได้ แต่ไม่อาจเกิดซ้ำครั้งที่สามได้อีกแน่นอน พวกเขายังไม่โง่ถึงขั้นที่จะท้าความอดทนของคุณพ่อหรอก
เมื่อได้ยินเช่นนี้
ในที่สุดหลี่หลานและกู้ชิงหยิ่งก็พยักหน้า
สักพักหลังจากที่ทุกคนออกไป
รอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเฉินตงก็หายไปในทันที เหลือเพียงสีหน้าที่มืดครึ้มและแววตาที่เย็นชา
เขาค่อยๆหยิบมือถือออก แล้วกดโทรออก
ยิ้มอย่างเย็นชา
กล่าวว่า บาดแผลนี้ไม่ได้ถูกแทงไปฟรีๆ ความสงสัยที่กู้ชิงหยิ่งมีต่อผมมันได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยละ ตอนนี้ก็รอแค่งานแต่งในวันที่15เท่านั้น ผมตั้งตารออยู่นะ ท้ายสุดแล้วเฉินตงก็ไม่มีบุญวาสนาที่จะได้ครอบครองสาวสวยเช่นนี้ ทั้งหมดนี้ยังต้องเป็นผมที่มารับพรแทนเขา
หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที
จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นว่า เพียงไม่กี่วันก็จะถึงวันที่15ละ คุณแน่ใจนะว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง?