The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 335 นักฆ่าระดับพระกาฬ เฉินเต้าจูน
ภาพที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
ทำให้เฉินตงรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
พวกของท่านหลงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก รู้สึกราวกับมีศัตรูตัวฉกาจ
ฟ่านลู่รีบพาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตรงเข้าไปที่พุ่มไม้ทันที
ไม่ช้า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามนายก็ดึงร่างๆ ของคนคนหนึ่งออกมาจากพุ่มไม้
“ฮะ~”
ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างอุทานออกมาด้วยความตกใจพร้อมกัน
และต่างก็หันมองเฉินเต้าจูนด้วยความตกตะลึง
ตลอดทางที่มา มีคนนับพันคอยคุ้มกันอยู่ กลับปลอดภัยไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้น
แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่า มีนักฆ่ามาดักรออยู่ที่หลุมฝังศพนานแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเฉินเจ้าจูนชิงลงมือเสียก่อน จุดจบคงไม่ต้องพูดถึง !
ฟ่านลู่หันมองเฉินเต้าจูนด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง มีความกลัวแอบซ่อนอยู่ภายในแววตาของเธอ
นี่เป็นการรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวขนาดไหนกัน ?
“คุณลุง……”
เฉินตงตั้งสติได้ จึงหันมองเฉินเต้าจูนอย่างซาบซึ้ง
ยังไม่ทันจะพูดจบ เฉินเต้าจูนก็หัวเราะเยาะออกมา : “ในเมื่อเรียกฉันว่าลุง ถ้าเช่นนั้นก็จงเป็นเหมือนฉัน มานี่ ลุงจะสอนวิธีฆ่าคนให้นาย !”
อะไรนะ ? !
เฉินตงอึ้งไปทันที
หรือว่ายังมีนักฆ่าอยู่อีก ?
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัว มือขวาก็ถูกเฉินเต้าจูนจับขึ้นมาเสียแล้ว เป็นแรงที่มหาศาลราวกับคีมเหล็ก
เฉินเต้าจูนค่อยๆ จูงเฉินตงเดินไปอีกด้านหนึ่ง
“คุณชาย!”
ท่านหลงหน้าถอดสี รีบตะโกนเรียกทันที
“หุบปาก!”
เฉินเต้าจูนหันกลับมาจ้องตาเขม็ง เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง ทำให้ท่านหลงตกใจจนหน้าซีด และก้มหน้าก้มตา จนไม่กล้าสบตาอีก
เมื่อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ท่านหลงก็รีบหันไปส่งสายตาให้กับฟ่านลู่และกูหลัง
ฟ่านลู่และกูหลังรีบตามเฉินตงและเฉินเต้าจูนไปในทันที
ส่วนฉินเย่และจูเก่งชิงที่อยู่ในฝูงชน ก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน
คำพูดของเฉินเต้าจูนแสดงให้เห็นว่า บริเวณโดยรอบสุสานนี้ ยังมีนักฆ่าแอบซ่อนตัวอยู่ !
อีกทั้งตอนนี้ สิ่งที่เฉินเต้าจูนทำ ก็คือการพาเฉินตงเข้าไปใกล้นักฆ่า นี่ไม่เท่ากับเป็นการส่งเนื้อเข้าปากเสือหรอกเหรอ?
ไม่มีใครสงสัยความสามารถของเฉินเต้าจูน
แต่ก็ไม่มีใครกล้าปล่อยให้เฉินตงต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเพียงลำพังเช่นกัน
“ห่างออกไปด้านหน้าสิบก้าว มีนักฆ่าอยู่ นายไปฆ่าเขาให้ลุงดูหน่อยซิ”
เฉินเต้าจูนหยุดเดิน แล้วปล่อยมือของเฉินตง จากนั้นจึงยิ้มให้เฉินตงด้วยรอยยิ้มที่อำมหิต
ทั้งคำพูดและการกระทำ ล้วนแล้วแต่แสดงออกถึงความน่าเกรงขาม
ทำให้เฉินตงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“คุณลุง ผม……” เฉินตงลังเล
“ฆ่าคน ง่ายนิดเดียว!”
เฉินเต้าจูนถอนหายใจ จากนั้นจึงโน้มตัวลงไปหยิบก้อนหินขึ้นมาหนึ่งก้อน
ฟิ้ว !
ลอยทะลุอากาศไป
ก้อนหินลอยทะลุอากาศ ลงไปตกยังพุ่มไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ตุ๊บ !
มีเสียงดังเกิดขึ้น
จากนั้นจึงตามมาด้วยเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
จากนั้น ในระหว่างที่เฉินตงกำลังตกตะลึงอยู่นั้น ก็มีผู้ชายที่อำพรางใบหน้าอยู่ ล้มออกมาจากพุ่มไม้
อีกทั้งบนหน้าผากของคนคนนั้น ก็มีก้อนหินฝังอยู่ และเปียกชุ่มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด
“เฮ้ย!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน จู่ๆ ก็มีเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวดังขึ้นมาจากยอดไม้ที่อยู่ห่างออกไป
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงและหันมองตามเสียงนั้นไป จู่ๆ ก็มีคนคนหนึ่งกระโดดลงมาจากยอดไม้ แล้วรีบวิ่งหนีลงเขาไปในทันที
“จะไปไหน ตายซะเถอะ!”
เฉินเต้าจูนเตะก้อนหินลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
ทันใดนั้น มือขวาของเขาก็คว้าก้อนหินเอาไว้ แล้วเขวี้ยงออกไป
ฟิ้ว !
ลอยทะลุไปในอากาศ
ลมแรง จนทำให้เฉินตงรู้สึกราวกับผิวหนังถูกฉีกออก
ตุ๊บ !
นักฆ่าที่วิ่งหนีออกไปไกลส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา แล้วล้มลงไปบนพื้น
ภาพนี้ ทำให้เฉินตงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
เขาหันมองเฉินเต้าจูนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง นี่สิถึงจะเรียกว่านักฆ่ามือพระกาฬที่แท้จริง !
ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ยิ่งทำให้เฉินตงยิ่งเข้าใจชัดเจนว่า ตอนที่เขาต่อสู้กับเฉินเต้าจูนในคุกมืด เฉินเต้าจูนออมมือให้เขามากเพียงใด
ใช้เพียงก้อนหินเป็นอาวุธ ก็สามารถมีอานุภาพในการฆ่าที่น่ากลัวพอๆ กับอาวุธปืน
หากพูดแบบไม่เกรงใจก็คือ ตอนที่อยู่บนเวทีประลองในคุกมืดตอนนั้น หากเฉินเต้าจูนคิดที่จะฆ่าเขาจริงๆ ละก็ เขาคงกลายเป็นศพไปตั้งนานแล้ว
บรรยากาศภายในภูเขาเงียบสงัด
อุณหภูมิลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง
เจตนาฆ่าที่รุนแรงของเฉินเต้าจูนแผ่ซ่านออกไปทั่ว
แม้แต่ฟ่านลู่เองยังรู้สึกหวาดกลัว และไม่กล้าสบตาเฉินเต้าจูน
เพราะว่า สายตาของเฉินเต้าจูนในตอนนี้ สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งเทพเจ้าจริงๆ !
“ใครกล้าแตะต้องสายเลือดตระกูลเฉินของฉัน ต้องตายทั้งหมด!”
เฉินเต้าจูนตะโกนออกมาเสียงดัง
เขาก้มลงไปหยิบหินขึ้นมากำหนึ่ง แล้วถือเล่นในมือ จากนั้นจึงค่อยๆ โยนก้อนหินทิ้งทีละก้อนๆ
ก้อนหินธรรมดาๆ เมื่อหลุดออกไปจากมือของเฉินเต้าจูน กลับมีความเร็วที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดขึ้นในทันที ราวกับกระสุนปืนที่ทะลุอากาศไป
มีเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังก้องบนภูเขา
มีศพที่อาบไปด้วยเลือด ค่อยๆ ปรากฏออกมาจากที่หลบซ่อนทีละศพๆ
และทั้งหมดเป็นการฆ่าภายในครั้งเดียว !
แม้แต่เฉินตง ก็ยังรู้สึกขนลุก และเกิดความกลัวสุดขีดขึ้นในก้นบึ้งของหัวใจ
นี่มัน……อยู่ในระดับความสามารถที่มนุษย์สามารถไปถึงได้อย่างนั้นเหรอ?
แต่ไหนแต่ไรมา เฉินตงไม่เคยปล่อยอารมณ์ของตนเองตามอำเภอใจเลย เพราะเขารู้ดีว่า การที่จะขึ้นเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉินได้นั้น ไม่เพียงแต่จะต้องผ่านการทดสอบด้านธุรกิจด้วยคะแนนเต็มเท่านั้น แต่จะต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งและมีทักษะการต่อสู้ด้วย
ตระกูลมั่งคั่งที่แท้จริง แต่ไหนแต่ไรมาล้วนต้องการผู้นำมีที่ความสามารถรอบด้าน !
มิเช่นนั้นตระกูลเฉินคงไม่เข้มงวดกับคนรุ่นหลัง และให้เข้าสู่กระบวนการการศึกษาที่ยอดเยี่ยม
แต่ยิ่งรู้จักควบคุมอารมณ์ เฉินตงก็ยิ่งเข้าใจขีดจำกัดของมนุษย์ได้มากขึ้น
แต่การแสดงออกของเฉินเต้าจูน อยู่เหนือกว่าสิ่งที่เขาเข้าใจ!
ในชั่วพริบตาเดียว ก้อนหินสิบกว่าก้อนที่อยู่ในมือ ก็ถูกเฉินเต้าจูนโยนออกไปจนหมด
และผลลัพธ์ก็คือ มีร่างของนักฆ่าสิบกว่าศพหล่นลงบนพื้น
บรรยากาศภายในภูเขากลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง
มีสายตาของความหวาดกลัว มองมาที่เฉินเต้าจูนเป็นครั้งคราว
ไม่มีใครกล้าจ้องมองเฉินเต้าจูนนานนัก
เกรงว่าจะถูกนักฆ่ามือพระกาฬสังเกตเห็นเข้า
แม้กระทั่งนักฆ่าอันดับที่ 20 ในอันดับยมราชอย่างฟ่านลู่เอง ก็ยังไม่กล้า !
มีเพียงแค่เฉินตงคนเดียวเท่านั้น ที่จ้องมองเฉินเต้าจูนอยู่ตลอดเวลา
ไม่เพียงแต่มีเจตนาฆ่าที่รุนแรงแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเฉินเต้าจูนเท่านั้น แต่ยังเหลือบมองทุกคนด้วยสายตาที่ต้องการให้ยอมจำนนต่อตนเอง
ยิ่งสังเกต เฉินตงก็ยิ่งรู้สึกสงสัย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมในสมัยนั้น เขาถึงไม่อาจเอาชนะคุณพ่อได้ ?
“ยังมีอีกหนึ่งคน!”
จู่ๆ เฉินเต้าจูนก็พูดออกมา เขาขมวดคิ้ว แล้วหันมองไปทางด้านหนึ่งด้วยสายตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว : “แก มีเวลาให้หนีตั้งนาน ทำไมไม่หนี ?”
เฉินตงมองตามเสียงไป ทางด้านนั้น เป็นเนินดิน ไม่สิ จ้องพูดว่าเป็นหลุมศพที่รกร้างไร้เจ้าของ
ฟรึ่บ……
ขณะที่กำลังหันมองไป ดินที่อยู่บนหลุมศพ ก็ค่อยๆ ทรุดตัวลง
มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากหลุมศพ !
ถึงแม้จะเป็นกลางวันแสกๆ แต่ภาพที่ปรากฏขึ้น กลับทำให้เฉินตงรู้สึกกลัวจนเสียวสันหลัง
ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างรู้สึกตกใจจนแทบจะหยุดหายใจพร้อมกัน
เมื่อหลุมศพถูกเปิดออกมา มีร่างที่ถูกพันเอาไว้ผ้าพันแผล เผยให้เห็นเพียงดวงตาทั้งสองข้างที่ดูมืดหม่น ค่อยๆ เดินออกมาจากหลุมศพ แล้วจ้องมองเฉินเต้าจูน จากนั้นคนที่พันผ้าเอาไว้ก็รีบพยักหน้า แล้วส่งเสียงของผู้ชายที่ฟังดูหนักแน่นออกมา : “จะไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เขาก็เดินจากไปต่อหน้าทุกคน
นี่ ทำเหมือนกับไม่มีใครเห็น ?
ใบหน้าของเฉินตงเต็มไปด้วยความตกตะลึง และรู้สึกเหลือเชื่อ
วิธีการลงมือของเฉินเต้าจูนเมื่อครู่ สามารถฆ่าคนไปได้อย่างต่อเนื่องสิบกว่าคน นักฆ่าธรรมดาๆ ต่างกลัวจนหัวหด
แล้วนักฆ่าที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุมศพคนนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเฉินเต้าจูน ทำไมถึงยังใจเย็นเช่นนี้อยู่ได้ ?
ฟิ้ว !
ในขณะที่เฉินตงกำลังตกตะลึงอยู่นั้น
เฉินเต้าจูนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ขว้างก่อนหินออกไปก้อนหนึ่ง
สายลมพัดผ่านใบหน้าของเฉินตงไปอย่างน่าสะพรึงกลัว
ความเจ็บที่เกิดขึ้น ทำให้คิ้วของเฉินตงขมวดเข้าหากันทันที เขายกมือขึ้นไปลูบใบหน้าด้านซ้าย และพบว่าใบหน้าของเขาถูกก้อนหินที่ลอยผ่านอากาศไปด้วยความเร็ว บาดเข้าเป็นรอยเล็กๆ !
การออกแรงในครั้งนี้ มากกว่าครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา
ทว่า
ตุ๊บ !
ในขณะที่ก้อนหินพุ่งเข้าใส่ชายที่กำลังพันผ้าอยู่นั้น
ชายที่พันผ้าอยู่ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขายื่นมือขวาออกมาทันที ผ้าที่พันอยู่บนมือค่อยๆ ลอยออกมา เขาบีบก้อนหินจนแตกละเอียด แล้วโยนลงบนพื้นกระจัดกระจาย
แววตาของเฉินเต้าจูนเป็นประกาย แล้วหัวเราะออกมาเสียงดังพลางพูดว่า : “ดี แกไปได้ !”