The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 341 แกจะทำอะไรฉันได้?
ลูกสวะ?!
เฉินตงสีหน้าเย็นชา ในใจมีความหดหู่
กำมือแน่นทั้งสองข้างอย่างเงียบๆ จนเส้นเอ็นตรงหลังมือโผล่ขึ้นมาอย่างชัดเจน
ฟ่านลู่ที่อยู่ด้านข้าง สัมผัสถึงไอเย็นอย่างชัดเจน อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฉินตงอย่างตื่นกลัว
ท่านหลงกับคุนหลุน สีหน้าจมดิ่งลงไปถึงจุดต่ำสุด
นี่มันคือซุ้มประตูด้านหน้าของตระกูลเฉิน มีคนมามากมาย
กลับเรียกเฉินตงว่าลูกสวะโดยตรง เป็นการสร้างความอัปยศให้กับเฉินตง และได้เหยียบย่ำเขาอย่างรุนแรง
ถึงขนาดที่ไม่คะนึงถึงภาพพจน์ของตระกูลเฉิน!
“คุณชายเทียนหย่าง”
คนรับใช้หนุ่มสาวหลายคนก็โล่งใจไปทันที ต่างตะโกนอย่างประจบสอพลอ
และโดยรอบ ก็มีคนที่มาเคาะประตูขอเข้าพบอย่างไม่ขาดสาย
การปรากฏตัวของเฉินเทียนหย่าง ทำให้คนเหล่านี้มองไปอย่างดีใจและกลัว แววตาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
แต่ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวของเฉินเทียนหย่าง กลับทำให้ทุกคนกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก และเขาก็ขัดจังหวะคนที่มีความคิดที่เข้ามาประจบเพื่อหวังก้าวหน้า หยุดฝีเท้ามองดู
“เทียนหย่าง นายก็เป็นรุ่นหัวกะทิของตระกูลเฉิน เป็นหนึ่งในผู้สืบทอด พูดจาแบบนี้ ไร้มารยาทเกินไปหรือเปล่า?”
ท่านหลงสีหน้ามืดมน ได้บีบคำพูดประโยคนี้ออกมาจากซอกฟัน
เผชิญกับคนใช้ในบ้าน เขาสามารถวางอำนาจข่มขู่ได้
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินเทียนหย่างซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้สืบทอด สุดท้ายเขาก็ต้องอดกลั้นความโกรธเอาไว้
“มารยาท?”
เฉินเทียนหย่างยิ้มเยาะ สองมือผลักออกไป “ไม่ใช่มั้ง ท่านหลง มารยาทนั้นไม่ได้มีไว้ใช้กับลูกสวะนะ!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา
ทันใดนั้นแววตาของท่านหลงก็เดือดพล่านไปด้วยไฟโกรธ
คุนหลุนนั้นจะกระโดดไปข้างหน้า กลับถูกท่านหลุงแอบดึงตัวเอาไว้
สีหน้าของเฉินเทียนหย่างเคร่งขรึมขึ้นมาทันที กล่าวอย่างเฉียบขาด “ลูกสวะห้ามเข้า นี่เป็นกฎของตระกูลเฉิน อยู่ในถิ่นฐานของตระกูลเฉิน ก็ต้องทำตามกฎของตระกูลเฉิน คนที่ไม่ปฏิบัติตาม ก็เท่ากับท้าทายตระกูลเฉินของฉัน!”
แววตาของเขาเยือกเย็น ยิ้มเยาะเย้ยและพูดติดตลกกับท่านหลงและคุนหลุน “ท่านหลง คุนหลุน แกสองคนคิดจะกินบนเรือนขี้บนหลังคา และยังจะมาท้าทายตระกูลเฉิน?
ที่หน้าซุ้มประตูอันกว้างขวาง อากาศเย็นเฉียบในพริบตา
กลุ่มคนที่มองดูเหตุการณ์ต่างตกตะลึง ใจเย็นวาบ และกระซิบกันด้วยความหวาดกลัว
“โอ้พระเจ้า! ฉันมาตระกูลเฉินสิบกว่าครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็น!”
“ลูกสวะ? !ผู้ชายคนที่อยู่ในรถคือลูกสวะของตระกูลเฉิน?”
“พระเจ้า แม้ว่าพวกเราจะมาเคาะประตูบ้านแต่ก็ไร้ประโยชน์ ถูกพวกคนใช้ปฏิเสธให้อยู่ด้านนอกประตู ก็ไม่ถึงกับต้องดูถูกหมิ่นและข่มขู่ถึงขั้นนี้หรอกมั้ง?”
……
ท่านหลงกับคุนหลุนเดือดไปด้วยไฟโกรธ
อย่างไรก็ตาม คำพูดประโยชน์สุดท้ายของเฉินเทียนหย่าง วางอำนาจในการข่มเหงรังแกคนอื่นชัดๆ
หากท่านหลงกับคุนหลุนกล้าเถียง ก็จะถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นคนที่ท้าทายตระกูลเฉิน
พวกนักธุรกิจทั้งหลายยังไม่กล้าท้าทายตระกูลเฉินเลย
พวกเขา ทั้งที่เป็นคนของตระกูลเฉิน จุดจบของการท้าทาย……..
“ท้าทายตระกูลเฉิน?”
ทันใดนั้น เสียงที่เย้ยหยันก็ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดโดยรอบ
สายตาทุกคู่จับจ้องไปอยู่ที่เจ้าของเสียง
บางคนตะลึง บางคนแปลกใจ บางคนไม่กล้าจะเชื่อ
เฉินตงลุกขึ้นมาแล้ว สีหน้าเคร่งขรึม ปรากฏให้เห็นถึงความเย่อหยิ่ง “ฉันท้าทายตระกูลเฉิน แล้วแกจะทำอะไรฉันได้?”
อวดดี สายตาดูถูกเหยียดหยาม
หยาบคาย เผด็จการ
คำพูดประโยคเดียว ทำให้ผู้ชมที่อยู่ในเหตุการณ์เหมือนถูกฟ้าผ่า หวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก
พระเจ้า!
ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้วเหรอ?
คำพูดนี้มันช่างไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเลย?
ท่านหลงกับคุนหลุนก็ตื่นตระหนกไม่รู้จะทำอย่างไรดี
คำพูดประโยคนี้ของเฉินตง ถูกใจเฉินเทียนหย่างอย่างไม่ต้องสงสัย!
เป็นจริงเช่นนี้
เฉินเทียนหย่างยิ้มอย่างเย็นชา “ลูกสวะก็กล้าที่จะพูดจาเช่นนี้ด้วยเหรอ? ลากตัวมันออกไป!”
“หยุดนะ!”
ท่านหลงกับคุนหลุนตะโกนพร้อมกัน
คุนหลุนกระโดดลงมาจากรถโดยตรง ขวางอยู่หน้ารถ
และฟ่านลู่ ก็ลุกขึ้นอย่างรีบร้อน คุ้มกันเฉินตงอยู่ข้างๆ
กลิ่นของความรุนแรง พริบตาเดียวก็เข้มข้นขึ้นอย่างมาก
ผู้ชมที่อยู่ในเหตุการณ์หลังจากที่หายกลัวแล้ว แววตาก็ฉายแววสว่าง รู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด
บางที่อาจจะเป็นเพราะถูกตระกูลเฉินที่หยิ่งผยองกดดันมานานเกินแล้ว
บางทีอาจจะคับข้องใจจากการมาเคาะประตูตระกูลเฉินนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ไม่เกิดประโยชน์
ทำให้ผู้ชมที่อยู่ในเหตุการณ์ในเวลานี้เห็นคนท้าทายตระกูลเฉิน กลับมีความรู้สึกเบิกบานใจ
อย่างไรก็ตาม……..การเฝ้าดูเรื่องสนุกไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร
“ไปจัดการมันเลย!”
เฉินเทียนหย่างตะโกนใส่คนรับใช้ทั้งหลายที่ยืนซื่อบื้ออยู่อย่างโมโห
เหล่าคนรับใช้กำลังลังเลอยู่ และเข้าไปล้อมรถที่จอดอยู่
“คุนหลุน หยุดเดี๋ยวนี้!”
เฉินตงสั่งอย่างเย็นชา
ภายใต้สายตาที่จ้องมองอยู่มากมาย เขาก้าวลงมาจากรถอย่างสงบใจเย็น
สีหน้าเย็นชาและเคร่งขรึม ให้ความรู้สึกเย้ยหยันในความเผด็จการ
ในเวลานี้ บุคลิกทั้งหมดของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนภูเขาที่ตั้งตระหง่าน และทะเลที่ยิ่งใหญ่
สายตา ก็คมเฉียบอย่างไม่มีใครเทียบได้
สองมือของเขาล้วนอยู่ในกระเป๋า เดินเข้าไปหาเหล่าคนรับใช้ด้วยท่าทางที่เหมือนกับเดินเล่น สายตาที่คมเฉียบราวกับสามารถฆ่าคนได้
“ฉันก็อยากจะดูเหมือนกัน ใครจะกล้าแตะต้องฉัน!”
น้ำเสียงที่หยิ่งผยอง ทำให้ทุกคนตื่นตกใจ
เหล่าคนรับใช้ ล้วนตะลึงกันไปหมด ไม่แม้กระทั่งที่จะกล้าสบตากับเฉินตง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องลงมือทำร้ายเลย
แม่แต่คุนหลุน ท่านหลงและฟ่านลู่ ก็คิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะกลายเป็นแบบนี้ในทันใด
สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่เฉินตง
ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าบ้านตระกูลผู้ร่ำรวยที่มองดูอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองนั้นตัวเล็กกว่ามากเมื่ออยู่ข้างหลังของเฉินตง
“ลงมือสิ? พวกแกล้วนเป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉินของฉัน ตอนนี้ตายไปหมดแล้วเหรอ?”
เฉินเทียนหย่างใจเต้นระทึก เห็นเฉินตงเดินเข้ามา ก็ตะคอกใส่คนรับใช้
และแล้ว เหล่าคนรับใช้ราวกับว่าถูกตอกให้อยู่ตรงที่เดิม
“ขาของแก ยังหักไม่พอใช่มั้ย?”
เฉินตงก้าวเดินเข้าไปหาเฉินเทียนหย่างทีละก้าว ยิ้มอย่างเย้ยหยัน
เดิมเขาไม่อยากมีส่วนร่วมกับการพัวพันในเมื่อกี้
การมาตระกูลเฉินครั้งแรก ฟังท่านหลงกับคุนหลุนจัดการก็พอ
แต่ในเมื่อเฉินเทียนหย่างมีความคิดที่จะหาเรื่องเขาแต่แรกแล้ว ไม่แม้กระทั่งจะให้เข้าประตูตระกูลเฉิน กลับพูดคำว่าไอ้ลูกสวะไสหัวไป!
การเหยียบหยามแบบนี้ ทำไมต้องทน?
เฉินตงไม่ใช่คนนิสัยอ่อนแอยอมให้รังแกง่ายๆ
คนที่ดูถูกเหยียบหยามเขา เขาต้องให้มันชดใช้คืนสิบเท่า!
ร่างกายที่บึกบึนของเฉินเทียนหย่างสั่นสะท้าน ทันใดนั้นใบหน้าที่ชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นด้วยความดุร้าย
คำพูดประโยคนี้ของเฉินตง ราวกับว่าได้แทงใจดำเขา ทำให้เขามีความรู้สึกอยากจะอาละวาดในทันที
“ครั้งที่แล้วมีคุนหลุนช่วยแก ครั้งนี้อยู่หน้าประตูของตระกูลเฉิน คุนหลุนไม่กล้าลงมือแล้ว!”
เฉินเทียนหย่างหัวเราะอย่างชั่วร้าย ชั่วพริบตาเดียว ก็เหมือนเสือโคร่งที่ลงมาจากภูเขา บุกเข้าไปหาเฉินตงโดยตรง
ภาพที่กะทันหันนี้
ทำให้สถานที่เกิดเหตุอุทานขึ้นด้วยเสียงตกใจ
ท่านหลงกับคุนหลุนและฟ่านลู่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
และแล้ว
การเผชิญหน้ากับเฉินเทียนหย่างที่บุกเข้ามาอย่างอุกอาจ
เฉินตงกลับหยุดอยู่ที่เดิม ส่ายหัวแล้วยิ้มเจื่อนๆ “คุณลุงพูดถูก ผู้สืบทอดของเศรษฐีก็เป็นเพียงผีร้ายที่อยู่ภายใต้ผิวหนังที่สวยงามของมนุษย์ มีเพียงแต่คนที่ไม่กลัวตายและน่าขยะแขยงกว่าพวกแกถึงจะชนะมันได้”
ม่านตาของเฉินเทียนหย่างหดเกร็ง รอยยิ้มเจื่อนๆและความใจเย็นของเฉินตง ทำให้เขามีความรู้สึกกระวนกระวาย
แต่เขาที่บุกเข้ามาใกล้ ไม่มีความลังเลใดๆ ได้ปล่อยหมัดอันทรงพลังไปทางเฉินตงโดยตรง
โวง!
ถึงขนาด หมัดแฝงไปด้วยเสียงที่แสบหู
ในเวลานี้
เฉินตงขยับตัวแล้ว
ขยับร่างกาย เผชิญกับหมัดนั้นของเฉินเทียนหย่าง กลับไม่ได้หลบเลี่ยง เหมือนกับสัตว์ร้ายที่กระโจนเข้าหามัน และพุ่งเข้าไปโดยตรง
ในพริบตาเดียว หลบหมัดนั้นของเฉินเทียนหย่างได้อย่างง่ายดาย
อะไรเนี่ย?!
สีหน้าของเฉินเทียนหย่างเปลี่ยนไปอย่างมาก ในใจมีความกลัว
โดยที่ไม่รอให้เขาได้โจมตีต่อ
เขารู้สึกว่าคอของเขาถูกมือใหญ่จับไว้อย่างแน่นหนา
จากนั้น ก็เกิดแรงที่มหาศาล
ตู๊ม!!
เฉินตงที่จับคอของเฉินเทียนหย่าง กระแทกศีรษะของเขากับเสาหินของซุ้มประตูอย่างอุกอาจ
ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเฉินเทียนหย่าง เลือดได้กระเด็นไปที่เสาหิน เหมือนดอกพลัมที่เบ่งบาน สีแดงระยิบระยับ