The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 388 ใช้ภรรยาของผมมาข่มขู่ผม นับว่าเกินไปมั้ย?
- Home
- The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา
- บทที่ 388 ใช้ภรรยาของผมมาข่มขู่ผม นับว่าเกินไปมั้ย?
หกโมงเย็น
หลังจากเฉินตงเลิกงาน ก็ไม่ได้กลับบ้าน แต่ได้ส่งข้อความไปทางวีแชทแล้ว
จากนั้น ก็นั่งรถไปที่เมืองหลิ่งตง
เรื่องนี้ ท้ายที่สุดก็จะมีบทสรุปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นหวางหนันหนัน หรือหลินหลิ่งตง
หากยืดเยื้อต่อไป หวางหนันหนันที่สามารถขู่ครั้งแรก ก็สามารถขู่ครั้งที่สอง
บนรถ กู้หลังที่นั่งอยู่ตำแหน่งข้างคนขับ เหลือบมองเฉินตงเป็นครั้งคราว
เขาสามารถสัมผัสความโกรธของเฉินตงได้อย่างชัดเจน
แม้แต่ความเร็วของรถก็สะท้อนออกมาได้ชัดเจน
“คุณเฉิน ไม่ต้องเรียกพวกพี่คุนหลุนจริงๆ เหรอ?” กูหลังรู้สึกบรรยากาศไม่ค่อยจะปกติ
“ไม่ต้อง”
เฉินตงส่ายหัว
หากเรียกคุนหลุน การเคลื่อนไหวนี้จะทำให้กู้ชิงหยิ่งรู้ว่าทำไมเขาต้องกลับบ้านดึก
เขาไม่อยากให้กู้ชิงหยิ่งมาเป็นห่วงเรื่องนี้
สิ่งที่กูหลังอยากจะพูดก็ต้องหยุดลง
ในหมู่ตึกหลิ่งตง
คืนนี้เงียบเป็นพิเศษ
เพื่อจัดงานเลี้ยงให้เฉินตง หลินหลิ่งตงสั่งการโดยเฉพาะ คืนนี้ทั้งคืนหมู่ตึกหลิ่งตงไม่ต้อนรับแขก
ใช้หมู่ตึกหลิ่งตงทั้งหมด ต้อนรับเฉินตงคนเดียว มันเพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงความให้เกียรติเขา
หวางหนันหนันไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงด้วย
แม้ว่าหลินหลิ่งตงจะขอร้องเธอหลายครั้ง เธอยังคงขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ปิดประตูไม่ยอมออกมา
ด้วยเหตุนี้ หลินหลิ่งตงก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
คนที่มารับแขกด้วย ก็มีเพียงอู๋จุนหาวคนเดียว
ทั้งสองคนได้รออยู่ในห้องจัดเลี้ยงนานแล้ว
“เจ้านาย เกือบจะถึงสองทุ่มแล้ว” อู๋จุนหาวมองดูเวลา แล้วพูด
หลินหลิ่งตงพยักหน้า ท่าทางค่อยๆ ตึงเครียดและเคร่งขรึมขึ้นมา
นี่คือสิ่งที่หนันหนันร้องขอมาอย่างยากลำบากใจ
จะทำให้หนันหนันผิดหวังไม่ได้!
อู๋จุนหาวก็พูดขึ้นมาทันที หากครั้งนี้เขาไม่มาอีก พวกเราก็ช่างมันเถอะ?
หลินหลิ่งตงตกใจ
มองอู๋จุนหาวด้วยสายตาที่ล่มลึก
เมื่อคิดถึงปฏิกิริยาตอนที่หวางหนันหนันกลับมาบ้านนั้น ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะกระตุกอย่างแรงไปหนึ่งที
หลินหลิ่งตงพยักหน้า แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “หากครั้งนี้ไม่สำเร็จ ก็ช่างมันเถอะ ผู้หญิงของฉันยอมลำบากใจเพื่อฉัน หากฉันยังลุ่มหลงไม่ตื่น ไม่เท่ากับเป็นคนใจไม้ไส้ระกำหรอกหรือ?”
อู๋จุนหาวแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาก็แค่กังวลว่าหลินหลิ่งตงจะดึงดันเชิญเฉินตงต่อ
ในฐานะที่เป็นราชาใต้ดินของเมืองหลิ่งตง ตั้งแต่เขาติดตามหลินหลิ่งตงมา ยังไม่เคยเห็นหลินหลิ่งตงก้มหัวแบบนี้มาก่อน
ช่วงระยะเวลานี้ ชื่อเสียงราชาใต้ดินที่อยู่ในเมืองหลิ่งตง ได้ค่อยๆ เปลี่ยนไปแล้ว
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉายาราชาใต้ดินเมืองหลิ่งตงนี้ เกรงว่าคงต้องสาบสูญแล้ว
เวลานี้ ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“เจ้านาย คุณเฉินมาถึงแล้ว!”
คำพูดนี้ สำหรับหลินหลิ่งตงแล้ว ราวกับเป็นเสียงสวรรค์
มาแล้ว!
ในที่สุดก็มาแล้ว!
วันนี้ ฉันรอไปเครื่องเดือนเต็ม!
หลินหลิ่งตงตื่นเต้นอย่างมาก ขณะนั้นก็ก้าวเท้าเดินไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
อู๋จุนหาวแอบชื่นชม “อาซ้อโคตรเก่งเลย” จากนั้นก็รีบตามไป
ที่ลานจอดรถ
เฉินตงจอดรถแล้ว เพิ่งจะลงรถ ก็มีคนเข้ามาต้อนรับ
“สวัสดีครับคุณเฉิน ได้โปรดตามผมมา”
เฉินตงกวาดมองหมู่ตึกที่เงียบกริบ พลางดิน พลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ทำไมคืนนี้หมู่ตึกหลิ่งตงถึงไม่มีคน?”
“กล่าวอย่างไม่ปิดบังคุณ เจ้านายคุณหลินเพื่อต้อนรับคุณเฉิน ได้สั่งการโดยเฉพาะว่าคืนนี้หมู่ตึกหลิ่งตงไม่ต้อนรับแขก ต้อนรับคุณเฉินเพียงคนเดียว”
ข่มขู่มาอย่างหน้าด้านๆ แล้วต้อนรับอย่างสูงเกียรติขนาดนี้ หมายความว่าอย่างไร?
เฉินตงดูถูกในใจ ก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว
ในไม่ช้า
เขาก็เห็นหลินหลิ่งตงกับอู๋จุนหาวที่กำลังเดินเข้ามาต้อนรับ
“คุณเฉิน ยินดีต้อนรับ ขอบคุณที่ให้เกียรติมาเยือน มันเป็นเกียรติของหลิ่งตงแล้ว
หลินหลิ่งตงเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ยื่นสองมือไปทางเฉินตง
ด้วยคำพูดและการกระทำ เหมือนกับได้ยกยอเฉินตงไปอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุด
แต่แล้ว
“ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ”
เฉินตงไม่ได้ยื่นมือออกไป ตอบกลับอย่างเย็นชา แล้วเดินผ่านหลินหลิ่งตงไปเลย
หลินหลิ่งตงยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ สองมือที่ยื่นออกไปนิ่งอยู่กลางอากาศ
“แม่ง! เจ้านาย เฉินตงคนนี้ช่างไร้มารยาทจริงเลย!”
อู๋จุนหาวอดไม่ได้ที่จะด่าไปหนึ่งประโยค
เขาคือลูกน้องที่หลินหลิ่งตงเชื่อใจที่สุด ตอนนี้เห็นหลินหลิ่งตงที่ต้องก้มหัว แล้วยังไม่ได้รับการตอบสนอง อดไม่ได้ที่จะโกรธ
“หุบปาก แล้วตามมา!”
หลินหลิ่งตงกล่าวอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้โกรธ เดินตามเฉินตงไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง
ไม่รอให้หลินหลิ่งตงเอ่ยปาก เฉินตงก็เดินอย่างวางมาดไปนั่งลงตรงเก้าอี้ประธาน
ภาพนี้ ทำให้หลินหลิ่งตงที่เห็นอึ้งไปทันที
อู๋จุนหาวนั้นยิ่งกว่าลูกตาเกือบจะถลนออกมา แววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย แม่งเอ๊ย……..
แม้แต่กูหลัง ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
“นั่งสิ”
เฉินตงนั่งลงบนเก้าอี้ประธานอย่างสบายใจและไม่ไว้หน้า กวักมืออย่างเฉยเมย
หลินหลิ่งตงกับอู๋จุนหาวมองตากัน แล้วแยกกันนั่งลงไปในตำแหน่งข้างซ้ายและข้างขวาของเฉินตง
กูหลังก็หาที่นั่งอย่างตามใจชอบ
บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยง ค่อนข้างจะอึดอัด
ปฏิกิริยาของเฉินตง ราวกับน้ำเย็นในกะละมัง มันได้ดับความกระตือรือร้นที่เหลืออยู่อันน้อยนิดของหลินหลิ่งตงไปแล้ว ทำให้เวลานี้เขาไม่รู้จะรับมือยังไง
“คุณหลินพยายามอย่างไม่ลดละในการเชิญผมมาพบ มันเพื่ออะไรกันแน่?”
เฉินตงได้ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดในห้องจัดเลี้ยง
แววตาที่เยือกเย็น เหลือบมองไปทางเฉินตง
หลินหลิ่งตงที่ถูกมอง ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย
ความรู้สึกเช่นนี้ ไม่เคยปรากฏมานานหลายปีแล้ว
ในทางกลับกัน หลายปีมานี้ มีแต่เขาที่ทำให้คนอื่นมีความรู้สึกแบบนี้
หลินหลิ่งตงที่ฝืนยิ้ม ก็ได้ทำท่าคารวะแล้วกล่าว “เป็นเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ มันเป็นความผิดของผมแล้ว ดังนั้นผมจึงได้จัดงานเพื่อขอโทษคุณเฉินเป็นการส่วนตัว ผมทราบว่างานของคุณเฉินค่อนข้างจะยุ่ง ดังนั้นจึงได้เชิญไปครั้งแล้วครั้งเล่า ได้โปรดอภัยด้วย”
“อภัย?”
เฉินตงหัวเราะอย่างเย็นชา “ขอโทษนะ เรื่องนี้ ผมไม่สามารถที่อภัยให้ได้จริงๆ ”
ในคำพูด เต็มไปด้วยความเย็นชาที่ไม่สิ้นสุด
หลินหลิ่งตงกับอู๋จุนหาวอึ้งไปเลย
นี่มันคือการมาทานข้าวคุยกัน?
หรือว่ามาหากเรื่อง?
“คุณเฉิน ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้มั้ง?”
อู๋จุนหาวนั้นทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เปิดปากพูด “ในเมืองหลิ่งตง เจ้านายของผมยังไม่เคยสุภาพกับใครแบบนี้มาก่อน นี่มันไม่ใช่ครั้งแล้วครั้งเล่า คำเชิญมากกว่าสิบครั้งในเวลาครึ่งเดือน แม้ว่าคุณจะปฏิเสธไปก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้อาซ้อได้เชิญคุณมาแล้ว ทำไมคุณยังต้องทำให้ทุกคนลำบากใจแบบนี้อีก?”
“จุนหาวหุบปาก!”
หลินหลิ่งตงสีหน้าเคร่งขรึม มองอู๋จุนหาวด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง
แต่ดูเหมือนอู๋จุนหาวจะเพิกเฉย จ้องมองเฉินตงด้วยสายตาที่โกรธเคือง “ผมรู้ว่าครอบครัวของคุณเฉินเป็นตระกูลที่มากไปด้วยอำนาจบารมี เป็นมังกรตัวจริงที่ลงมายังพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้ แต่ก็ไม่ควรที่ดูถูกเหยียบย่ำเจ้านายของผมแบบนี้มั้ง?”
น้ำเสียงเย็นชาเคร่งขรึม เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
จู่ๆ เฉินตงก็รู้สึกตลกเล็กน้อย
เมื่อเห็นรอยยิ้มของเฉินตง หน้าผากของหลินหลิ่งตงก็ชื้นเล็กน้อย
อู๋จุนหาวก็ตกตะลึงไปทันที
“สุภาพ? !” ความสุภาพของพวกคุณเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นมันจริงๆ !”
“ดูถูกเหยียบย่ำ? มีคำพูดคำหนึ่งที่พูดว่าทำตัวเองจนเป็นแบบนี้ ไม่เคยได้ยินเลยเหรอ?”
เฉินตงยิ้มมองอู๋จุนหาว แววตาเต็มไปด้วยความดูถูก
ตามมาด้วย สายตาของเขาก็กวาดมองไปโดยรอบ “ใช่แล้ว หวางหนันหันเป็นอาซ้อของนายใช่มั้ย ทำไมเธอถึงไม่อยู่ในนี้ด้วย หรือว่า กลัวฉัน………จะฆ่าเธอ?”
คำพูดนี้ออก ในห้องจัดเลี้ยง โหมกระหน่ำไปด้วยความเย็น
หลินหลิ่งตงเปลี่ยนไปอย่างมาก
ต่อให้เขาโง่มากแค่ไหน ก็ฟังออกว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลแล้ว
แต่ว่าเฉินตงพูดถึงตัวหวางหนันหันโดยตรง จะให้เขาทนได้อย่างไร?
สีหน้าของหลินหลิ่งตงเย็นเยือก กล่าวด้วยเสียงต่ำ “หนันหนันเป็นผู้หญิงของผม คุณเฉินพูดจาเกินไปแล้วนะ!”
“เกินไป?”
เฉินตงหัวเราะเยาะ “แล้วใช้ภรรยาผมมาข่มขู่ผม แบบนี้นับว่าเกินไปมั้ย?”