The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 398 แม่เธอสมควรตาย
เนื้อหาในข้อความทุกตัวอักษรเปรียบดั่งค้อนพันด้ามที่ระดมทุบใส่ดวงตาของเฉินตง
โทสะเดือดดาล ก่อตัวพลุ่งพล่านขึ้น
ความอาฆาตที่หนาวยะเยือก ราวกับมีดคมๆ ที่ไร้รูปร่าง กระจายอยู่ทั่วห้องอาหาร
ทำให้จิตใจของทุกคนหนาวสะท้าน
แม้แต่กู้ชิงหยิ่งเองก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเช่นกัน
เธอรับรู้ถึงความหนาวยะเยือกที่แผ่ออกมาจากร่างของเฉินตงได้อย่างชัดเจน
“ที่รัก…”
กู้ชิงหยิ่งเอ่ยอย่างหวาดๆ “เป็นอะไรไปคะ”
“ไม่มีอะไร”
เฉินตงฝืนยิ้มออกมา
ทว่าในสายตาของทุกคนกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ช่างน่าสยดสยอง
“คุนหลุนกับท่านหลงออกไปกับผม”
เฉินตงลุกขึ้นแล้วเอามือเคาะที่สันจมูกของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ จากนั้นจึงหันหลังออกไป
คุนหลุนกับท่านหลงมีสีหน้าข้องใจ แล้วรีบร้อนลุกตามออกไป
มื้ออาหารค่ำที่ดำเนินไปอย่างพร้อมหน้าอบอุ่น เพียงครู่เดียวกลับเหลือเพียงกู้ชิงหยิ่งกับฟ่านลู่เท่านั้น
“พี่เสี่ยวลู่ เกิดเรื่องไม่ดีแน่!”
ริมฝีปากแดงระเรื่อของกู้ชิงหยิ่งสั่นไหวด้วยความกังวลใจ
เมื่อฟ่านลู่เห็นกู้ชิงหยิ่งกังวลใจก็รีบยิ้มแล้วเอ่ยปลอบ “เสี่ยวหยิ่ง คุณเฉินบอกแล้วว่าไม่มีเรื่องอะไร อย่ากังวลเลย”
“ฉันพูดไม่ผิดแน่”
กู้ชิงหยิ่งส่ายหน้าอย่างหนักแน่น สายตามองไปทางประตูใหญ่อย่างห่างไกล “สายตาของเขาหลอกฉันไม่ได้ เวลาที่เขาโกหก ฉันจะเห็นแววตาที่แตกสลายของเขา”
ฟ่านลู่ไร้คำพูด เธอไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปลอบอย่างไรดี
หรือว่า…การรักใครสักคน จะสามารถทำให้เรามองเข้าไปถึงซอกหลืบเล็กที่สุดในจิตใจของเราได้?
การตัดสินใจในเรื่องที่อ่อนไหวได้แม่นยำขนาดนี้ คนนอกไม่มีทางทำได้และยากที่จะเข้าใจ
กู้ชิงหยิ่งเคร่งเครียด เธอกุมมือทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกัน “สายตาของเขาเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนว่า เต็มไปด้วย เต็มไปด้วย…”
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ กู้ชิงหยิ่งกลับพูดอะไรไม่ออก
ความอาฆาตแค้น!
ฟ่านลู่สัมผัสได้อย่างชัดเจน
เธอเป็นมือสังหารที่ 20 ของอันดับยมราช เป็นคนที่โลดแล่นอยู่ระหว่างเส้นแห่งความเป็นความตายมาแล้ว
เธอจึงรู้จักไอแห่งความอาฆาตแค้นเป็นอย่างดี
เมื่อครู่นี้เฉินตงแกล้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รัศมีความอาฆาตแค้นทำเอาเธอรู้สึกเสียวสันหลัง
เกิดเรื่องใหญ่…อย่างแน่นอน!
รถโรลส์-รอยซ์ถูกขับออกจากเขตวิลล่าเขาเทียนซาน
บรรยากาศในรถเงียบสงบ
ไอแห่งความอาฆาตแค้นที่เย็นยะเยือกแผ่ปกคลุมทั่วรถ
ไม่ว่าจะเป็นคุนหลุนที่เป็นผู้ขับรถหรือว่าท่านหลงที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ
ต่างรับรู้ได้ถึงบรรยากาศแห่งความหนาวเย็นน่าพรั่นพรึง
และนี่เองที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ไม่สิ เป็นความหวาดผวาราวกับอยู่ในนรกมากกว่า
“คุณชาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ครับ”
ท่านหลงเอ่ยปากถาม น้อยครั้งมากที่เขาจะรู้สึกได้ถึงความอาฆาตแค้นที่น่ากลัวขนาดนี้ออกมาจากตัวของเฉินตง
เหตุการณ์ที่จำความได้รางๆ ที่พอจะสามารถนำมาเปรียบเทียบกับตอนนี้ได้ นั่นก็คือตอนที่หลี่หลานเสียชีวิต
บรรยากาศในรถเงียบราวป่าช้า
เฉินตงไม่ตอบ
เขานั่งคอตกราวกับสัตว์ดุร้ายที่กำลังคลั่งและกระหายเลือด นิ่งเงียบไม่พูดจา
“คุณชาย….”
ท่านหลงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามออกมาอีกครั้ง
“หึ!”
เฉินตงหัวเราะเย้ยหยันออกมา
และนี่กลับทำให้ท่านหลงกับคุนหลุนเปลี่ยนสีหน้าไปพร้อมๆ กัน
ต่อจากนั้น
เฉินตงเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่า “หล่อนจะขุดหลุมศพของแม่ผม เอากระดูกขึ้นมาทำโปรยเป็นเถ้าถ่าน”
เปรี้ยง!
สีหน้าของท่านหลงกับคุนหลุนขาวซีดไร้สีเลือดปรากฏ
คำพูดของเฉินตงราวกับฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางแดดจ้า
ตอนที่คนทั้งสองรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมานั้น ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าเหตุผลใดที่ทำให้ความอาฆาตแค้นของเฉินตงรุนแรงขนาดนี้!
หลังฝังร่างลงดินผู้วายชนม์จะไปสู่สุคติ คนเป็นควรให้เกียรติผู้วายชนม์เป็นสำคัญ
ขุดหลุมเอากระดูกออกมา ถือเป็นเรื่องที่ไม่ให้เกียรติและดูถูกผู้ล่วงลับ
สมัยโบราณจึงมีคำกล่าวที่ว่าผู้ที่ทำผิดร้ายแรง ต้องทำลายกระดูกให้เป็นเถ้าถ่าน
ตอนนี้มีคนต้องการจะขุดหลุมฝังศพและเอากระดูกของหลี่หลานขึ้นมา ต้องเป็นคนรนหาที่ที่แค้นเคืองเฉินตงมากขนาดไหน?
เรื่องนี้ไม่ว่าจะเกิดกับใครต่างต้องโกรธจนฟ้าดินถล่มทลายได้ทั้งนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น เฉินตงกับหลี่หลานอยู่ด้วยกันมากว่ายี่สิบปี สายสัมพันธ์แม่ลูกคงไม่อาจหาคำพูดใดมาบรรยายได้
เวลานี้ความโกรธแค้นของเฉินตงจึงสามารถแผดเผาทุกอย่างได้!
“เงินหนึ่งร้อยล้าน ตลกชะมัด หล่อนคิดว่าแม่ของผมมีค่าแค่หนึ่งร้อยล้าน?”
เฉินตงคล้ายกำลังบ่นพึมพำกับตัวเอง และความหนาวยะเยือกที่แผ่ออกมาก็ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
“ใช้เงินมาตีค่าแม่ของผมถือว่าดูถูกกันชัดๆ เงินแค่ร้อยล้าน ถ้ามาขอดีๆ ผมอาจจะให้ แต่นี่กลับเอาชีวิตหลังความตายของแม่มาข่มขู่ผม คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วล่ะมั้ง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของท่านหลงกับคุนหลุนพลันเคร่งเครียดขึ้น
ตายซะ!
หากเป็นพวกเขาทั้งสองคนก็คงคิดไม่ต่างจากเฉินตงในเวลานี้
“คุณชาย ฝีมือของใครหรือครับ” ท่านหลงถาม
ตอนนี้มีแต่เขาเท่านั้นที่อาศัยว่าตนอาวุโส จึงกล้าถามเฉินตงที่กำลังโกรธราวฟ้าพิโรธ
“จะมีใครอีกล่ะ?”
เฉินตงเงยหน้าขึ้น ในดวงตาของเขาแดงก่ำราวสีเลือด “จางซิ่วจือ!”
เขาถอนใจยาว อย่างสลดใจถึงที่สุด
เมื่อสามปีก่อน อะไรที่ทำให้เห็นธาตุแท้ความชั่วร้ายของครอบครัวที่สร้างแต่ความเดือดร้อนนี้หรือ?
ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาพูดจาดูถูกให้ร้ายแม่ แถมยังไม่ไยดีความเป็นตายของแม่
ตอนนี้แม่ตายไปแล้ว ก็ยังไม่ยอมปล่อยแม่ของเขาไปอีก?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ก็ยิ่งแค้น ดวงตาสีแดงเลือดของเขามีน้ำตาเอ่อทะลักออกมาสองหยด
“แม่ ผมทำผิดต่อแม่ ผมติดหนี้แม่ไว้เยอะเหลือเกิน”
“สมควรตาย!”
ท่านหลงกัดฟันเอ่ย
สิ้นเสียงพูด
เฉินตงก็หยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทร
เมื่อปลายสายมีคนรับ
เขายิ้มก่อนจะเอ่ยว่า “แม่ของคุณจะขุดหลุมศพแม่ผม แถมจะเอากระดูกแม่ผมขึ้นมาโปรยเป็นเถ้าถ่าน เรื่องนี้จะให้ผมจัดการหรือว่าคุณกับหลินหลิ่งตงจะจัดการดี”
โทรศัพท์ถูกวางสาย
เฉินตงก้มหน้าลงอีกครั้ง ความอาฆาตของเขายิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
อีกด้านหนึ่ง
ในหมู่ตึกหลิ่งตง
หลังจากที่วางสายไปแล้ว หวางหนันหนันล่องลอยไร้สติ
สีหน้าของเธอขาวซีด ความหวาดกลัวแผ่กระจายไปทั่วจิตใจอันแสนวุ่นวายของเธอ
“หนันหนัน เป็นอะไรไป?”
หลินหลิ่งตงขมวดคิ้วถาม
ร่างของหวางหนันหนันสั่นสะท้าน เมื่อมองไปที่หลินหลิ่งตงเธอก็รู้สึกราวกับวิญญาณกำลังจะหลุดออกจากร่าง
เธอร้องไห้โฮออกมา และเข้าไปซุกที่หน้าอกของหลินหลิ่งตง
“หลิ่งตง เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
“เกิดเรื่องอะไร? คุณบอกผม!” หลินหลิ่งตงทำร้อนรน เมื่อเห็นหวางหนันหนันร้องไห้โหยหวน
หวางหนันหนันสะอึกสะอื้นพลางกล่าวว่า
“แม่ของฉันจะขุดหลุมศพของแม่เฉินตง และเอากระดูกแม่ของเขาขึ้นมาโปรยเป็นเถ้าถ่าน!”
เปรี้ยง!
หลินหลิ่งตงรู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า ในหัวของเขาเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง
เรื่องแบบนี้ หากเป็นเขาก็คงจะเดือดดาลขึ้นมาอย่างควบคุมสติไม่ได้เช่นกัน
“รังแกคนตายไปแล้ว กับโดนฆ่ายกครัว มันแตกต่างอะไรกัน?”
เขาคือราชาใต้ดินแห่งเมืองหลิ่งตง กว่าจะเดินมาถึงตำแหน่งในทุกวันนี้ ได้ใช้วิธีการเลือดเย็นอำมหิตมามากมาย
แต่แม้ว่าเขาจะเป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่เคยใช้วิธีการที่สกปรกชั่วช้าแบบนี้!
แม้จะเคยพบพานคนสีเทาๆ มามากมาย แต่ก็ไม่เคยเจอใครใช้วิธีนี้
แต่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในที่สว่าง กลับใช้วิธีการเช่นนี้
จิตใจของผู้หญิงคนนี้ อยากที่จะหาคำมาบรรยายได้!
“หลิ่งตง คุณ…” หวางหนันหนันตกใจความเดือดดาลของหลิ่งตง
“หึ!”
สายตาของหลินหลิ่งตงคมปลาบ จ้องเขม็งไปที่หวางหนันหนัน แล้วสบถออกมา “แม่เธอ สมควรตาย!”
หวางหนันหนันตัวสั่น ริมฝีปากของเธอก็สั่นตามไปด้วย
และหลินหลิ่งตงก็เอ่ยขึ้นต่อในทันที “ต่อให้ไม่ได้ทำแบบนี้กับเฉินตง แต่ไปทำแบบนี้กับคนอื่น ในสายตาของผม ก็ควรตายเช่นกัน!”
ความเคียดแค้นรุนแรง อยากจะต้านทาน
หวางหนันหนันกลัวจนลนลานทำอะไรไม่ถูก เธอร้องไห้อย่างน่าสงสารพลางถามว่า “ฉัน ฉันควรทำยังไงดี?”
“คุณเฉินบอกว่าอะไรบ้าง?” หลินหลิ่งตงถามกลับ
หวางหนันหนันร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าวว่า “เขาถามฉันว่าจะลงมือเอง หรือว่าจะให้เขาเป็นคนลงมือ!”
“ดี!”
หลินหลิ่งตงยิ้มออกมาแล้วหรี่ตา “เตรียมธูปเทียนและกระดาษเงินกระดาษทองให้พร้อม จะได้ไปส่งแม่ของคุณด้วยกัน”