The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 453 เสี่ยวหยิ่ง ฉันจะช่วยเธอแก้แค้นเอง !
- Home
- The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา
- บทที่ 453 เสี่ยวหยิ่ง ฉันจะช่วยเธอแก้แค้นเอง !
หลังจากได้ยินคำพูดของเทียนอ้าย
กู้โก๋ฮั๋วและพ่อแม่ของเทียนอ้ายก็ผงะไปทันที
“เป็นเพราะต้องรีบไปขอโทษภรรยา ถึงขนาดยอมยกความดีความชอบอันใหญ่หลวงนี้ ให้กับคนอื่นเลยหรือ ?”
พ่อของเทียนอ้ายรู้สึกงุนงง และพูดออกมาโดยไม่อยากจะเชื่อ : “เขาโง่หรือเปล่า ?”
“ผู้ชายอย่างคุณจะไปรู้อะไร ?”
แม่ของเทียนอ้ายยกมือข้างขวาขึ้นจับคาง และพูดออกมาด้วยความอิจฉา : “อิจฉาภรรยาของผู้ชายคนนั้นจริงๆ ที่สามีของเธอรักเธอมากขนาดนี้”
เทียนอ้ายเองก็พลอยพยักหน้าไปด้วย : “หนูรู้สึกว่าเขาจะต้องรักภรรยาของเขามากแน่ๆ ช่างอิจฉาภรรยาของเขาจริงๆ”
เมื่อนึกถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นกับเฉินตงที่ด้านนอกสนามบิน แววตาของเทียนอ้ายก็ปรากฏความรู้สึกอิจฉาขึ้นมา
ถ้าหากผู้หญิงคนนั้นได้ล่วงรู้ ว่าสามีของเธอยอมสละความดีความชอบอันใหญ่หลวงนี้ เพื่อที่จะไปขอโทษเธอ เธอคงจะต้องซาบซึ้งใจมากแน่นอน ?
ไม่แปลกที่คนในครอบครัวของเทียนอ้ายทั้งสามคนจะคิดเช่นนี้
เพราะในความเป็นจริงแล้ว พวกเขารู้ดีความดีความชอบจากการแก้ไขสถานการณ์ปล้นเครื่องบิน และช่วยชีวิตทุกคนบนเครื่องให้ปลอดภัยได้นั้น เป็นความดีความชอบที่ใหญ่หลวงขนาดไหน
โดยเฉพาะเทียนอ้าย ด้วยอาชีพของเธอ ทำให้เธอรู้ถึงความดีความชอบในครั้งนี้อย่างชัดเจน
หากจะพูดกันตามตรงก็คือ ด้วยอาชีพของเธอ เมื่อเธอได้สร้างความดีความชอบในครั้งนี้ หลังจากที่กลับไปยังสำนักงานใหญ่ จะต้องได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นถึงสามขั้นอย่างแน่นอน !
กู้โก๋ฮั๋วเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะออกมาอย่างหดหู่ : “ในโลกนี้ ความรักที่ลึกซึ้งเช่นนี้ หาได้ยากยิ่งแล้ว”
บนโต๊ะอาหาร บรรยากาศแปลกไปเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่า หลังจากที่เทียนอ้ายได้เล่าความจริงของเหตุการณ์ทั้งหมดออกมา ความตื่นเต้นและภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้จางหายไปไม่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นกู้โก๋ฮั๋วหรือพ่อแม่ของเทียนอ้าย ต่างก็หันเหความสนใจไปหาคนคนนั้น……ชายผู้ซึ่งต้องการรีบไปขอโทษภรรยา
“แม่คะ พวกเราเข้าไปเถอะค่ะ”
อารมณ์ของกู้ชิงหยิ่งกลับมาเป็นปกติ และเดินกลับไปยังที่นั่งพร้อมหลี่หวั่นชิง
เทียนอ้ายเห็นสีหน้าของกู้ชิงหยิ่งไม่สู้ดีนัก อย่างน้อยๆ ก็ดูหน้าซีดลงไปอย่างมาก จึงรีบถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง : “เสี่ยวหยิ่ง เธอเป็นอะไรกันแน่ ? เธอเมื่อก่อนหน้านี้ ไม่ได้ดูกระอักกระอ่วนขนาดนี้นะ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ”
กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว ฝืนยิ้มออกมา : “อ้ายอ้าย เธอเลิกสนใจฉันได้แล้ว วันนี้เธอต่างหากที่เป็นฮีโร่”
“ฉันไม่ใช่ฮีโร่สักหน่อย เมื่อครู่ได้บอกความจริงกับพ่อของเธอและพ่อแม่ของฉันอย่างชัดเจนไปแล้ว”
เทียนอ้ายยักไหล่ เหมือนจู่ๆ จะนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอถูมือแล้วหันไปมองกู้ชิงหยิ่ง : “จริงสิ ตอนที่เธอแต่งงานฉันติดภารกิจพอดี จึงไม่ได้มาร่วมงาน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ขอให้เธออภัยให้ฉันด้วย ฉันเตรียมของขวัญมาให้เธอหนึ่งชิ้นด้วยนะ”
พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบน
ท่าทีของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ส่วนกู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิง ต่างหันมองกู้ชิงหยิ่งด้วยความสงสาร
คำพูดประโยคนี้ของกู้ชิงอ้าย เห็นได้ชัดว่ากระทบไปถึงบาดแผลภายในใจของกู้ชิงหยิ่ง
แต่เทียนอ้ายเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะพูดขึ้นมา สองสามีภรรยาจึงไม่อาจต่อว่าเทียนอ้ายได้
ไม่ช้า เทียนอ้ายก็วิ่งกล่องของขวัญวิ่งกลับมา
“นี่คือรองเท้าคริสทัลที่ฉันเตรียมเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ ถูกทำขึ้นโดยช่างฝีมือชั้นยอดที่หามาได้ ทั้งโลกมีเพียงคู่เดียวเท่านั้น”
เทียนอ้ายยื่นกล่องของขวัญใส่มือกู้ชิงหยิ่ง : “ตอนนั้นฉันยังคิดเลยว่า ตอนที่เธอแต่งงาน หากได้ใส่รองเท้าคริสทัลคู่นี้ในวันงาน จะต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยและมีความสุขที่สุดในโลกอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ตอนนั้นติดภารกิจด่วน จนยากที่ฉันจะจัดการเวลาได้ทัน”
“ไม่เป็นไรหรอกอ้ายอ้าย”
กู้ชิงหยิ่งแสดงอารมณ์ที่ซับซ้อนออกมา เธอเปิดกล่องออกดูด้วยดวงตาที่แดงก่ำเล็กน้อย รองเท้าคริสทัลแวววาวปรากฏขึ้นต่อสายตาของเธอ ช่างเป็นรองเท้าคริสทัลที่งดงามมากจริงๆ
เพียงแต่ การแต่งงานในครั้งนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่คิด
ถึงขั้นว่า……มีการนองเลือด
และหลังจากนั้น……
กู้ชิงหยิ่งก้มมองท้องที่ป่องออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว แล้วรู้สึกเจ็บปวดถึงที่สุดในทันที
ฉันทำเพื่อคุณมากมายขนาดนี้ ทำไมคุณถึงทำกับฉันเช่นนี้ ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่กู้ชิงหยิ่งได้ยินคำพูดของเทียนอ้ายเมื่อครู่ที่พูดว่า คนอื่นสามารถละทิ้งเกียรติยศอันยิ่งใหญ่นี้ โดยไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เพื่อที่จะรีบไปขอโทษภรรยา
เพราะอะไร……ฉันถึงต้องพบเจอกับคนใจร้ายเช่นนี้ด้วย ?
เทียนอ้ายหันมองไปรอบๆ แล้วเลิกคิ้ว : “จริงสิ ฉันยังไม่เคยพบกับสามีของเสี่ยวหยิ่งเลย ครั้งนี้กลับมาพวกเรานัดเจอกันทั้งที เธอก็ไม่ยอมพามาแนะนำให้ฉันรู้จักสักหน่อย ไม่ไว้หน้ากันเลย”
กู้ชิงหยิ่งตัวสั่น ทันใดนั้นเธอก็ไม่อาจข่มความทุกข์ทรมานทั้งหมดไว้ได้อีกต่อไป
ดวงตาของเธอแดงก่ำ น้ำตาค่อยๆ หยดลงมาทีละหยดๆ ไหลผ่านหางตาและหยดลงมาบนรองเท้าคริสทัลที่อยู่ในอ้อมแขน
ภาพนี้ ทำให้เทียนอ้ายอึ้งไปในทันที
พ่อแม่ของเทียนอ้ายเองก็ตกตะลึงไม่น้อย
กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิงหันมองหน้ากัน แววตาเต็มไปด้วยความสงสาร
กู้โก๋ฮั๋วแสดงท่าทีโกรธแค้นออกมา เขายกแก้วเหล้าที่มีเหล้าขาวอยู่เต็มแก้วขึ้นมา แล้วดื่มจนหมดในคราวเดียว
“น้องกู้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?” พ่อของเทียนอ้ายเอ่ยถามขึ้น
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเทียนอ้ายตั้งสติกลับมาได้ ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
เธอรีบเข้าไปกอดกู้ชิงหยิ่ง : “เสี่ยวหยิ่ง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ? เธออย่าทำให้ฉันตกใจสิ”
เมื่อได้ยินคำถาม กู้ชิงหยิ่งก็ยิ่งร้องไห้ออกมาหนักขึ้น
เธอโผเข้าไปในอ้อมกอดของเทียนอ้าย แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
ข่มอารมณ์ หลายวันมานี้เธอพยายามข่มอารมณ์ของตนเองเอาไว้
เธอพยายามอย่างมากที่จะแสร้งทำท่าทีนิ่งเฉย เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ
แต่เธอไม่อาจทำได้ ในช่วงกลางดึกที่เงียบสงัด เธอมักจะนึกถึงเฉินตง และคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเฉินตง
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องของเย่หลิงหลง กู้ชิงหยิ่งก็รู้สึกราวกับมีมีดมากรีดที่หัวใจ
ความทุกข์ทรมานจากอาการแพ้ท้อง ยิ่งทำให้เธอรู้สึกสูญสิ้นทุกอย่าง ภายใต้สภาวะซึมเศร้าและความกดดันเช่นนี้
ภายในห้องอาหาร มีเสียงร้องของกู้ชิงหยิ่งดังก้องอยู่
พ่อแม่ของเทียนอ้ายเอง เมื่อเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร
ทั้งสองตระกูลเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตอนนี้เมื่อเห็นกู้ชิงหยิ่งตกอยู่ในสภาพที่ใจสลาย สองสามีภรรยาเองก็รู้สึกร้อนใจเช่นกัน
“น้องกู้ รีบบอกมาเร็วเข้า เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?” พ่อของเทียนอ้ายเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง
กู้โก๋ฮั๋วกลับถอนหายใจออกมา มือทั้งสองข้างจับผมเอาไว้แน่น แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลี่หวั่นชิงค่อยๆ ตบหลังของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ : “เสี่ยวหยิ่ง แม่อยู่นี่ ไม่ร้องนะ ไม่ต้องร้องแล้ว ไม่ว่าใครจะไปจากลูก แต่พ่อกับแม่ก็ยังจะอยู่กับลูกตลอดไป”
เทียนอ้ายหันมอง จากนั้นจึงปรากฏความโกรธแค้นขึ้นในแววตาคู่งามทันที
“เสี่ยวหยิ่ง เธอถูกรังแกใช่ไหม ? บอกฉันมา ฉันจะช่วยเธอระบายความแค้นเอง !”
กู้ชิงหยิ่งผละตัวออกมาจากอ้อมแขนของเทียนอ้าย ใบหน้าของเธอฉาบไปด้วยน้ำตา ใช้ฟันกัดริมฝีปากแดงระเรื่อเอาไว้แน่น
เธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดพลางร้องไห้ว่า : “ฉันจงรักภักดีต่อเขา ทำไมเขาถึงต้องทรยศหักหลังฉันด้วย ?”
เปรี้ยง !
เสียงร้องไห้ ดังก้องอยู่ในหูของเทียนอ้ายและพ่อแม่ของเธอราวกับเสียงฟ้าผ่า
หักหลัง ?
นอกใจ ?
ทันใดนั้น ความโกรธแค้นของเทียนอ้ายปะทุขึ้นมา ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“คนเลว ! กล้าทำแบบนี้กับเสี่ยวหยิ่งของฉันได้อย่างไร ? คิดว่าฉัน เทียนอ้าย ไร้น้ำยาหรืออย่างไร ?”
“เสี่ยวหยิ่ง แม่อยู่นี่ ลูกหยุดร้องได้แล้ว ลูกต้องนึกถึงสุขภาพและลูกในท้องของตัวเองให้มากๆ นะ” หลี่หวั่นชิงพูดเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเมตตา
แม่ของเทียนอ้ายเองก็รีบยืนขึ้นมา แล้วเดินตรงเข้ามาหากู้ชิงหยิ่ง จากนั้นจึงตบหลังกู้ชิงหยิ่งและพูดปลอบใจว่า : “เสี่ยวหยิ่ง เลิกร้องได้แล้ว แม่ของเธอพูดถูก ต่อให้ท้องฟ้าพังทลายลงมา ก็ยังมีพ่อกับแม่ มีลุงกับป้าอยู่อีกนะ”
ในฐานะที่เป็นผู้หญิง จึงสามารถเข้าใจถึงความเจ็บปวดของกู้ชิงหยิ่งในตอนนี้ได้ดีที่สุด
“หนูทนได้ หนูสามารถทนได้”
กู้ชิงหยิ่งร้องไห้พลางเช็ดน้ำตา และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า : “แต่เขามาแล้ว เขามาหาหนูแล้ว ตอนที่เขาพูดว่าจะพาหนูกลับบ้าน หนูไม่อาจทนไหวจริงๆ เรื่องนี้เขาคิดจะอธิบายอย่างไรอีก ? เขามีสิทธิ์อะไรจะพาหนูกลับบ้านอีก ?”
ปัง !
ได้ยินดังนั้น เทียนอ้ายก็ตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ
ขมวดคิ้วแน่น แล้วพูดผ่านไรฟันออกมาหนึ่งประโยค : “มาแล้วหรือ ? มาได้เวลาพอดี !”
พูดจบ เทียนอ้ายก็ลุกขึ้นแล้วดึงกู้ชิงหยิ่งให้ยืนขึ้น และพูดออกมาด้วยความโมโหว่า : “เสี่ยวหยิง พาฉันไปหาเขา ฉันจะช่วยแก้แค้นให้เธอเอง !”