The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่194 กลับบ้าน
เฉินเต้าหลินไปแล้ว
มาอย่างกะทันหัน ไปก็ไปอย่างกะทันหันเช่นกัน
นี่ทำให้เฉินตงที่ได้สติกลับมาและสงบลง รู้สึกหดหู่แปลกๆ
หลี่หลานเดาสิ่งในใจเฉินตงออก เธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยน:“พ่อของลูกรอพวกเรากลับบ้านอยู่ที่บ้าน”
คำพูดเรียบง่าย แต่มีความหมายอื่น
เฉินตงตาเป็นประกายระยิบระยับ
กำหมัดแน่น
20กว่าปีที่พึ่งพาซึ่งกันและกัน
เขาต้องเดินเข้าไปในตระกูลเฉินอย่างสง่าผ่าเผย ให้แม่มีเกียรติที่เดิมควรจะเป็นของเธอ
เงียบตลอดคืน
เช้าแล้ว ฝนก็หยุดตก
เฉินตงและคนอื่นๆออกจากเมืองหลวงอย่างเร่งรีบ
เรื่องตระกูลหลี่เมื่อคืน ทำให้เมืองหลวงวุ่นวายมากแน่นอน
ในสายตาเฉินตง เมืองหลวงที่ผ่านไปหนึ่งคืน กลายเป็นน้ำวนระลอกใหญ่แล้ว
การอยู่นานๆจะทำให้พวกเขาติดเข้าไปในนั้นด้วย
เขาไม่มีความรู้สึกดีๆต่อตระกูลหลี่แม้แต่น้อย
มีแต่ความรังเกียจ โกรธแค้น และเกลียดชัง
แม้ตระกูลหลี่ยอมให้เขาเป็นผู้นำตระกูล เขายอมดิ้นรนเพื่อโอกาสอันน้อยนิดในการเป็นผู้นำตระกูลเฉินซะยังจะดีกว่า
กระแสน้ำวนของตระกูลหลี่ เขาไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วม
ความจริงก็เป็นไปอย่างที่เฉินตงคิดไว้จริงๆ
เกิดขึ้นในคืนเดียว
ผู้มีอำนาจต่างๆได้ตรวจสอบถึงจุดเริ่มต้นสาเหตุของตระกูลหลี่เมื่อคืนนี้อย่างชัดเจนแล้ว
แม้การมาของเฉินเต้าหลินไม่ถึงขั้นพังฟ้าทลายดิน แต่เพียงพอที่จะทำให้สั่นกันไปทั้งเมืองได้
ผู้มีอำนาจทุกคนต่างตกตะลึงกับการปรากฏตัวของเฉินเต้าหลิน
ใครจะไปรู้ว่าลำดับชั้นของตระกูลเฉิน จะสูงกว่าตระกูลหลี่ที่อยู่ในระดับที่ร่ำรวยที่สุดล่ะ
ขณะที่ตกใจ ผู้มีอำนาจระดับใหญ่บางส่วน ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
เมื่อตลาดหุ้นเปิด ราคาหุ้นของธุรกิจในเครือตระกูลหลี่ก็ดิ่งลงอย่างรุนแรง
ไม่เพียงเท่านั้น ความคิดซ่อนเร้นก็รวมตัวกันเกิดขึ้นในเมืองหลวง
ในคฤหาสน์ปราสาทตระกูลหลี่
ระเบิดเมื่อคืนทำให้คฤหาสน์ปราสาทพังไปหมด เสียหายอย่างหนัก
กำแพงก็พัง สวนดอกไม้อันกว้างใหญ่ก็พัง
เหลือแค่คฤหาสน์ที่เดียวที่ไม่พัง
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณท่านใหญ่หลี่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เกรงว่าคฤหาสน์คงโดนระเบิดไปด้วยแล้ว
ตระกูลหลี่ที่เคยรุ่งโรจน์ ตอนนี้ภายใต้ดวงอาทิตย์ เผยให้เห็นถึงความเศร้าสลดที่เกือบตาย
ทุกคนในตระกูลหลี่ล้วนหวาดกลัวและเศร้าสลด
เรื่องเมื่อคืน ทำหึความหยิ่งยโสของคนตระกูลหลี่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
ณ ห้องอันหรูหราภายในคฤหาสน์ห้องหนึ่ง
คุณท่านใหญ่หลี่นั่งหน้าหน้าต่างอยู่เงียบๆ ในมือถือซิการ์ที่ไฟลุกโชน
มองจากมุมนี้เห็นสวนดอกไม้ที่พังไม่เป็นท่าพอดี
คุณท่านใหญ่หลี่ตาแดงก่ำ สีหน้าดูเหนื่อยหน่าย
เขาไม่ได้นอนทั้งคืน นั่งอยู่ตรงนี้อยู่ทั้งคืน
แม้ผ่านไปแล้วหนึ่งคืน เขาก็ยังเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“พ่อ”
เสียงหลี่เต๋อซานดังมาจากด้านหลัง:“หมอบอกว่าห้ามสูบบุหรี่”
คุณท่านใหญ่หลี่ยิ้ม:“ร่างกายอย่างฉันยอมรับไปนานแล้ว ที่สูบบุหรี่ไม่ได้ก็เพื่อสุขภาพร่างกาย แต่มันทำให้ฉันอยู่ได้พันปีงั้นเหรอ?”
หลี่เต๋อซานท่าทางเชื่องช้า
ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น:“พ่อ ที่จริงๆพวกเรากี่คนพี่น้อง สามารถดูแลตระกูลหลี่ได้ แต่พ่อไม่ยอมวางมือ”
ตอนพูดเขาพลางกวาดตามองคุณท่านใหญ่หลี่
หวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เพราะเขารู้ว่านี่หมายถึงให้พ่อเลือกผู้นำตระกูลใหม่
ไม่ต่างจากบีบบังคับให้กษัตริย์ออกจากตำแหน่งอย่างในสมัยโบราณ !
“ฮ่าๆ ใครกันในหมู่พี่น้องพวกแก?”
คุณท่านใหญ่หลี่ยิ้มอย่างอ้างว้าง:“ฉันก็อยากมอบอำนาจ ออกจากตำแหน่งผู้นำตระกูลนี่เหมือนกัน แต่พวกแกใครจะรับตำแหน่งผู้นำตระกูลได้?พวกแกต่างกล้าหาญแต่ไม่มีกลยุทธ์ เป็นพวกเชี่ยวชาญกับศึกภายในแต่ทำอะไรไม่เป็น”
ลักษณะนิสัยของเหล่าลูกชาย อยู่ในสายตาคุณท่านใหญ่หลี่มาตั้งแต่เล็กจนโต
ถ้าไม่ใช่เพราะรู้อยู่แก่ใจ เขาจะใช้ความพยายามอย่างมากวางแผนให้เฉินตงที่สกุลเฉินมาเป็นผู้นำตระกูลทำไม?
แม้เขาจะคิดว่าทำยังไงให้ลูกชายนำพาตระกูลหลี่ให้มั่นคงในอนาคต และช่วงชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลของเฉินตง
แต่อย่างน้อยช่วงที่เฉินตงเป็นผู้นำตระกูล ตระกูลหลี่จะกลายเป็นตัวตลกและที่น่าอับอายในสายตาคนนอก
หลี่เต๋อซานหน้าแดง
แต่กัดฟันฝืนพูดต่อ:“พ่อ ผมคิดว่าผมสามารถดูแลตระกูลหลี่ได้แล้ว พ่ออาจยังไม่รู้ เพราะการกระทำของพ่อ วันนี้ราคาหุ้นบริษัทในเครือตระกูลหลี่ร่วงพร้อมกันอย่างหนัก บางบริษัทก็หยุดไปแล้ว”
“ผมไม่รู้ก็เดาออกว่าอนาคตตระกูลหลี่ในเมืองหลวงยังมีเรื่องลำบากหนักกว่านี้อีก”
คุณท่านใหญ่หลี่สีหน้าเคร่งขรึม ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้:“การมาของเฉินเต้าหลินเมื่อคืน มือใหญ่ๆของเขาได้ก่อกวนสถานการณ์ทั้งเมืองหลวง เมื่อคืนคนเหล่านั้นอาจเริ่มลับมีด เตรียมตัวจัดการตระกูลหลี่แล้ว”
ตระกูลหลี่อยู่ในฐานะที่ร่ำรวยที่สุดมาหลายปีแล้ว
เมื่อมีชื่อเสียงมากก็ยิ่งตกเป็นเป้าโจมตี มีศัตรูไม่น้อย
ในเมืองหลวง มีคนอยากแทนที่ตระกูลหลี่อันรุ่งโรจน์เป็นจำนวนมาก
แต่เกรงกลัวอำนาจที่รวยอันดับหนึ่งของตระกูลหลี่มาโดยตลอด ไม่กล้าลงมือ
นี่ทำให้เมืองหลวงสงบมาโดยตลอด
การมาของเฉินเต้าหลินเมื่อคืน ทิ้งระเบิดไว้10กว่าลูก
และถลกเส้นสนกลในของตระกูลหลี่ซะหมดจด คุณท่านใหญ่หลี่เข้าใจดีเมื่อโดนถลกหนัง ก็เผยให้เห็นเนื้อหนังด้านใน เป็นสิ่งที่คนเหล่านั้นหวังมากที่สุด
“งั้นทำยังไงดี?”หลี่เต๋อซานหน้าถอดสี
คุณท่านใหญ่หลี่ยิ้มอย่างขมขื่น:“หากตงเอ๋ออยู่ที่นี่ เขาไม่ถามฉันแบบนี้แน่ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาเป็นผู้นำตระกูลได้ แต่พวกแกเป็นไม่ได้”
……
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบิน
เวลาก็ล่วงเลยไป11โมงแล้ว
ท่านหลงเตรียมรถไว้เรียบร้อยแล้ว พอพวกเขาออกจากสนามบินก็นั่งรถกลับเขตวิลล่าเขาเทียนซานทันที
เมื่อมาถึงบ้าน
ฟ่านลู่เตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะ
พอเห็นหลี่หลาน ฟ่านลู่ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าไปกอดหลี่หลานด้วยความดีใจ
“คุณน้า ตกใจหมดเลย ทำหนูตกใจจริงๆ”
หลี่หลานโดนฟ่านลู่พุ่งเข้าใส่ไปโดนแผล ก็ส่งเสียงออกมาทันที
ทำเอาฟ่านลู่ตกใจมาก รีบขอโทษทันที
หลี่หลานกลับพูดอย่างยิ้มๆ:“ไม่เป็นไรๆ บาดแผลเล็กน้อยไม่ร้ายแรงอะไร”
“แม่ กินข้าวก่อนเถอะ”
เฉินตงให้ฟ่านลู่พยุงแม่ของตน จากนั้นเธอก็ทักทายฉินเย่ ท่านหลงแล้วนั่งลง
ยังมีคนอยู่ในห้องครัว
เฉินตงมองฟ่านลู่:“มีใครอีกงั้นเหรอ?”
ฟ่านลู่พูดยิ้มๆ:“เสี่ยวหยิ่งไง หลังจากคุณน้าหายตัวไปฉันก็ตกใจมาก หลังจากบอกข่าวให้คุณชาย ฉันก็บอกเสี่ยวหยิ่งด้วย เธอรีบมาด้วยความตกใจทันที”
พูดจบ
ประตูห้องครัวก็เปิดออก
กู้ชิงหยิ่งที่ถูกเขม่าเขม่าควันจนหน้าแดง บนตัวใส่ผ้ากันเปื้อนเดินออกมาพลางถือน้ำซุปมาหนึ่งถ้วย
หลังจากวางซุปลงเธอก็ถูมือไปมาแล้วนั่งลงข้างๆหลี่หลาน พูดเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ:“ขอโทษนะคะคุณน้า ตอนเฉินตงไม่อยู่ฉันไม่ได้ดูแลน้าให้ดี”
จู่ๆก็ขอโทษ
ไม่เพียงทำให้หลี่หลานอึ้ง แม้แต่เฉินตงก็คาดไม่ถึง
แต่เฉินตงกลับรู้สึกอบอุ่นในใจ
เรื่องนี้กู้ชิงหยิ่งผิดอะไร?
เธออยู่คนเดียว แม่ถูกจับตัวในบ้านกู้ชิงหยิ่งรู้ได้ยังไง?
“เด็กโง่ น้าผิดเอง โทษตัวเองทำไม”หลี่หลานพูดเสียงอ่อนโยน
“แต่ฉันเป็นคู่หมั้นเฉินตง คุณเป็นแม่สามีในอนาคตของฉัน หลังจากเฉินตงออกไป ฉันควรดูแลคุณ แต่ฉันไม่ได้ดูแลคุณให้ดี แถมยังทำให้คุณโดนลักพาตัวไปอีก นี่เป็นความผิดของฉัน”กู้ชิงหยิ่งพูดอย่างจริงจัง
ทำให้เฉินตงและคนอื่นๆหัวเราะออกมา
เฉินตงลูบสั่นจมูกโด่งของกู้ชิงหยิ่งอย่างโกรธๆ:“เด็กโง่ ตรรกะค่อนข้างราบรื่นเลยนะ”
กู้ชิงหยิ่งย่นจมูก พลางจ้องเฉินตง
ทันใดนั้นจู่ๆฉินเย่ก็ยืนขึ้น
ยืนมือขวาให้เฉินตง:“พี่ตง เห็นแก่พี่สะใภ้ ผมจะเป็นเพื่อนกับพี่”
เฉินตงถลึงตา:“คุนหลุน หมอนี่!”