Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - ตอนที่ 534
บทที่ 534 ปีศาจพิษ
เนื่องจากเขาสามารถใช้เวทมนตร์ที่น่าเหลือเชื่อมากมาย ลูเซียนมั่นใจมากว่าไวน์ที่เขาตรวจสอบแล้วปลอดภัย แต่ความมั่นใจของเขากลับกลายเป็นข้อผิดพลาดสำคัญของวันนี้ เขาดื่ม ‘สกายบลู’ ที่ผสมยาพิษที่ร้ายแรงและคำสาปแปลกประหลาดไปเพียงแก้วเดียว
ไม่ ไม่ใช่แค่ไวน์!
ลูเซียนมองไปที่คามิล ในฐานะอัศวินอาภาระดับแปดที่รับผิดชอบความปลอดภัยของนาตาชา นางไม่ดื่มหรือกินอะไรทั้งนั้นในโอกาสเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม หน้าของนางก็สีคล้ำและทั้งร่างของนางก็สั่นเทิ้มอย่างควบคุมไม่ได้ นางตั้งใจะใช้พลัง ‘คลื่นสมุทร’ แต่พลังคลื่นทะเลสีฟ้าก็สลายไปทันที หลังปรากฏขึ้นมา เห็นได้ชัดว่านางเองก็ถูกวางยาพิษและถูกคำสาปเหมือนกัน!
แล้วต้นตอของยาพิษและคำสาปอยู่ที่ไหน?
ทันใดนั้นลูเซียนก็ได้กลิ่นจางๆ แต่หอมหวานของดอกไม้ เหมือนที่อยู่นอกคฤหาสน์ เว้นแต่ว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่หอมหวานและเมามายยิ่งกว่า
กลิ่นหอมนี้เป็นอะไรบางอย่างผิดปกติ!
คงมีสายลับ หรือมีอะไรบางอย่างถูกดัดแปลงจนสามารถนำอุปกรณ์ที่ปล่อยกลิ่นดังกล่าวเข้ามาภายในคฤหาสน์ เมื่อผสมกับไวน์ที่ถูกใช้เป็นลูกเล่น ไวน์และอากาศกลายเป็นยาพิษและคำสาปที่เกินกว่าจิตนาการ ไม่น่าแปลกที่เขาไม่พบอะไรจากการตรวจสอบ
แต่นี่ไม่ใช่เวลามองหาสายลับหรือผู้สมคบคิด ลูเซียนเดินโซซัดโซเซไปที่นาตาชา ภาพตรงหน้าของเขาดูพร่ามัวและสั่นเทิ้มไปหมด
แต่โชคดีที่ลูเซียนมีแหวนคอนกัซซึ่งสามารถสลายพิษได้ เขาไม่เหมือนกับคามิล เจมส์ และขุนนางคนอื่นๆ ซึ่งไม่เพียงมึนศีรษะหน้ามืด แต่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงด้วย จนแทบจะไม่อาจยืนทรงตัวอยู่ได้
เคานต์เฮนสันซึ่งไม่ได้เรียกใช้พลังความแข็งแกร่งของอัศวิน ก็สลบและล้มลงด้วย ‘อาการเมาค้าง’
ร่างกายของลูเซียนยังคงแข็งแรงอยู่ เขาค่อยๆ เดินเข้าไปถึงนาตาชาด้วยอาการท่าทางเหมือนกับคนเมา แม้เขารู้สึกหนักหัว แต่ก็ยังจดจำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ ‘ดาบแห่งสัจธรรม’ พลังโลหิตขั้นสูงสุดที่สามารถตัดได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็มีพลังต้านทานคำสาป ดังนั้น นาตาชาจึงน่าจะถูกยาพิษเพียงอย่างเดียว แม้ความแข็งแกร่งจะเสื่อมสลายไปจากร่างของนาง แต่สมองของนางยังคงคิดได้ชัดเจน ตราบใดที่นางสวมและเรียกใช้พลังจาก ‘เข็มขัดสุขภาพ’ พิษในร่างของนางก็น่าจะสลายไปในไม่ช้า
‘เข็มขัดสุขภาพ’ อุปกรณ์เวทมนตร์ระดับแปดชิ้นนี้ ก็สามารถต้านทานพิษที่ต่ำกว่าระดับตำนานได้!
สำหรับแหวนคอนกัซ แม้ว่าลูเซียนอยากจะมอบให้นาตาชา แต่ก็นางก็ไม่สามารถใช้งานได้
เคานต์เดวิด ซึ่งมีพลังอ่อนแอเป็นลำดับรองสุดท้ายจากทุกคน ก็ล้มพับลงเหมือนกับเคานต์เฮนสัน แต่เขาไม่ได้ ‘หมดสติ’ สิ้นสมประดีไปเสียทั้งหมด แต่ยังขยับตามองไปมาด้วยความกระวนกระวาย
พลังของคำสาปกระจายจากปอดและช่องท้อง และแผ่ซ่านขึ้นสู่อวัยวะด้านบน ส่งผลต่อสมองและวิญญาณของลูเซียน หัวของเขาบวมเป่งและหัวใจก็เต้นรัว เขาไม่อาจร่ายเวทมนตร์สักบทหรือเรียกใช้พลังจากอุปกรณ์แม้แต่ชิ้นเดียว
หลังจากเขาเดินซวนเซไปถึงนาตาชา ลูเซียนก็ถอดเข็มขัดและใส่ให้กับนาง
นาตาชาพูดออกมาเสียงแผ่วเบา ราวกับว่านางพูดอย่างยากลำบาก “ข้ารวบรวมอำนาจจิตของข้าไม่ได้… ข้าใช้อุปกรณ์เวทมนตร์ไม่ได้ ไป… หนีไป ข้าคง… เป็นเป้าหมาย…”
นาตาชาไม่ยอมเสียเวลาหรือยอมแพ้ นางพยายามควบคุมร่างกาย ขณะที่นางเร่งเร้าลูเซียนอีกครั้ง “รีบหนีไป… เจ้ายังมีพลังเหลือ… ขอกำลังเสริม… จากขุนนางข้างนอก…”
อย่างน้อย ลูเซียนก็จะไม่ตายไปพร้อมกับนาง
แล้วนางก็จะสามารถแสวงหาโอกาสอันน้อยนิดเพื่อเอาตัวชีวิตรอดโดยไม่ต้องกังวล
เสียงปรบมือดังสะท้อนมาจากประตู “ช่างเป็นคู่ที่รักกันจริงๆ หวังว่าตายไปแล้ว จะได้อยู่ด้วยกันนะขอรับ”
ลูเซียนเงยหน้าขึ้น และพบกับชายผมสีเขียวท่าทางแปลกประหลาดอยู่ตรงประตู ดวงตาของเขาไม่มีลูกตาดำ แต่มีเพียงสีขาวโพลนที่ดูน่ากลัว เสื้อผ้าของเขาดูไม่ปกติเช่นกัน เพราะเขากำลังสวมผ้าคลุมสีดำที่คลุมทั้งตัว แม้ในวันที่อากาศร้อนเช่นนี้
ชายแปลกประหลาดผู้นี้ที่ดูเหมือนอายุราวๆ สามสิบปีค้อมศีรษะลงและกล่าวทักทาย “ฝ่าบาท กระหม่อมขออนุญาตแนะนำตัว กระหม่อมคือพรีมัส ‘ปีศาจพิษ’ จากสภาแห่งความมืด”
‘ปีศาจพิษ’ พรีมัสเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในลำดับที่หกสิบสองของบัญชีกวาดล้าง อัศวินดำระดับเก้า และทายาทของ ‘เจ้าแห่งปีศาจ’ เขาได้รับการยกย่องว่าความเลิศด้านพิษและคำสาป แม้ว่าอันดับของเขาจะต่ำกว่าลูเซียน แต่เขาแข็งแกร่งกว่าลูเซียนอย่างแน่นอน
นาตาชาไม่ได้ตอบโต้เขา แต่พยายามตั้งสมาธิให้แน่วแน่ และลูเซียนก็กำลังต้านทานพลังคำสาปด้วยพลังวิญญาณของเขาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พรีมัสไม่ได้ลงมือในทันที แต่ยังพูดต่อไป “ฝ่าบาทไม่รู้จักกระหม่อมหรือ? เอาล่ะๆ ฝ่าบาทรู้แค่ว่ากระหม่อมมาเพื่อปลงพระชนม์ก็พอ สภาแห่งความมืดเฝ้ารอให้ศาสนจักรฝ่ายใต้ประกาศสงครามกับสภาเวทมนตร์มานานเหลือเกินแล้ว”
ดูเหมือนพลังโลหิตจะมีอิทธิพลเหนือเขา หรือไม่ก็มั่นใจในชัยชนะมาก จนอารมณ์ของเขาค่อนข้างพลุ่งพล่าน
“ตราบใดที่กระหม่อมปลงพระชนม์ฝ่าบาท สังหารท่านลูเซียน อีวานส์ ดยุกเจมส์ และขุนนางที่เหลือแล้ว และแสร้งว่าเป็นฝีมือพวกผู้พิทักษ์ราตรีหัวรุนแรง ศาสนจักรกับสภาเวทมนตร์จะประกาศสงครามกันแน่นอน กระหม่อมเก่งเรื่องปั่นหัวอยู่แล้ว กระหม่อมคิดว่าสามารถทำให้นักเวทชั้นตำนานและพระคาร์ดินัลชั้นนักบุญเชื่อได้ว่า ‘เทวทูตต้องคำสาป’ กรันเวลจากผู้พิทักษ์ราตรีเป็นคนลงมือทั้งหมดนี้”
เมื่อได้ฟังคำพูดพล่ามอย่างประสาทเสียของเขา ทั้งลูเซียนและนาตาชาก็พยายามขับพลังคำสาปหรือพิษออกจากร่าง แต่ดูเหมือนพลังนั้นจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นๆ เมื่อเวลาผ่านไป จนทั้งสองแทบจะล้มลงกองกับพื้น
พรีมัสดูเหมือนไม่รับรู้ถึงการดิ้นรนของทั้งสอง และไม่สนใจดยุกเจมส์และขุนนางคนอื่นๆ ที่ไม่สามารถตอบโต้ได้เพราะอ่อนพลังเกินไป เขายังคงพล่ามต่ออย่างมีความสุข “ในการสังหารพวกท่าน ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างหนักควบคุมให้ข้ารับใช้และคนสวนค่อยๆ เปลี่ยนต้นไม้ในสวน ถ้าท่านเป็นคนรักดอกไม้จริงๆ นะ ท่านดยุกเจมส์ ท่านคงรู้ตัวมานานแล้วล่ะ น่าอายที่ท่านมีสวนดอกไม้ไว้โอ้อวดเท่านั้น พอพวกท่านเข้ามาในห้องที่มีกลิ่นดอกไม้นี้ ส่วนประกอบที่ไม่เป็นภัยในน้ำไวน์ก็กลายเป็นพิษร้ายได้”
“เพื่อไม่ให้พวกท่านรู้ตัว ข้าไม่ได้ใช้พิษและคำสาปที่รุนแรงถึงตาย แต่แค่ทำให้อ่อนแรงและเป็นอัมพาตเท่านั้น ดูเหมือนจะได้ผลดี และทำให้ข้ามีเวลาเหลือพอมาถึงทันก่อนที่ท่านจะหมดสติ ท่านดยุกเจมส์”
คำพรรณนาของเขายืนยันข้อสันนิษฐานของลูเซียน และดูเหมือนจะตัดความเป็นไปได้เรื่องสายลับทิ้งไป
อย่างไรก็ตาม ลูเซียนจะไว้ใจคนบ้าเช่นเขาได้อย่างไร?
“ฮ่าๆ ท่านคิดว่าข้าโง่จนจะปล่อยให้ท่านมีเวลาพอที่จะสลายพิษและคำสาปงั้นหรือ?” จู่ๆ พรีมัสก็ยิ้มออกมา
ลูเซียนที่กำลังคิดหาทางรอดต้องตกตะลึง เมื่อพลังคำสาปที่จู่โจมสมองของเขาส่งผลทำให้สมองทำงานช้าลง
พรีมัสหน้าตาบูดบึ้ง “ส่วนผสมพิษและคำสาปของข้าชื่อว่า ‘จุมพิตหม่นหมอง’ ยิ่งผ่านไปนานเท่าไร พลังของท่านก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ ถ้าไม่อยากรีบตาย ข้าจะให้ท่านได้ฟังแผนของข้าต่อไป ข้ายินดีที่เจ้าให้ความร่วมมือ”
ขณะเขาพูด เขาก็ปรบมือ “นิ่งไว้! นิ่งไว้! นิ่งไว้!”
ดยุกรัสเซลและคามิลล้มลงก่อน พร้อมด้วยดวงตาที่สิ้นหวังและเศร้าสลด ตามด้วยดยุกเจมส์ ซึ่งเท้าของเขาไม่อาจยืนหยัดพยุงร่างได้อีกต่อไป
“ว้าว ตามคาดเลย องค์ราชินีและท่านลูเซียน อีวานส์ พวกท่านสองคนทนได้นานกว่าใคร ขอเดานะ พลังโลหิตของราชินีลบพลังคำสาปได้ แล้วท่านอีวานส์ก็คงมีอุปกรณ์ต้านพลังพิษ” พรีมัสหมุนข้อมืออุ่นเครื่องเตรียมพร้อมจู่โจม
ลูเซียนก้าวออกมาข้างหน้า หัวของเขามึนหนักขึ้นกว่าเดิม และเขาคิดออกเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็คือการยืนขวางหน้านาตาชา อย่างไรก็ตาม ระบบการคิดอันสมเหตุสมผลและเป็นระบบที่เขาสร้างรากฐานมาก็ยังบอกเขาว่าพอมีความเป็นไปได้ที่จะพลิกสถานการณ์ เขาจะล่อให้พรีมัสเข้ามาใกล้ๆ แล้วโจมตีเขาด้วยมือซ้าย โดยหวังว่ามือซ้ายที่มีพลังสลายพลังได้จะช่วยจัดการพลังเหนือธรรมชาติของอัศวินดำระดับเก้า และทำให้ศัตรูบาดเจ็บได้
พรีมัสหัวเราะคิกคัก “ดูเหมือนว่าข้าจะได้รางวัลตอบแทนเพียบเลยงานนี้ ท่านอีวานส์ ท่านนี่เป็นคลังอุปกรณ์เวทมนตร์เคลื่อนที่ที่หาได้ยากจริงๆ”
เขาถอดผ้าคลุมออกและเผยให้เห็นร่างกายที่น่าสยดสยอง ลำตัวเต็มไปด้วยแผลพุพอง ซึ่งมีเมือกสีเหลืองสีเขียวผุดออกมาและเปรอะเปื้อนทุกๆ อย่าง
“ท่านพร้อมจะตายแล้วสินะ?” พรีมัสลงมือ ลูเซียนมองตามไม่ทัน และตอบโต้เขาด้วยเพียงมือซ้าย
พรีมัสไม่เคยประมาทเมื่อเปิดฉากการต่อสู้ แต่ถือว่าลูเซียนเป็นศัตรูในระดับเดียวกันกับเขา ฉะนั้น ถึงแม้ความสามารถจู่โจมระยะประชิดของเขาไม่ยอดเยี่ยมเหมือนอัศวินดำระดับเก้าทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่การจู่โจมที่ลูเซียนจะต้านทานไหว
ตู้ม! เงาสีเหลืองและเขียววูบผ่านด้านข้างของลูเซียน ก่อนจะกระแทกเข้ากลางหน้าอกของเขาอย่างจัง
พิษที่ดูเหมือนจะทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นไอสังหารทำให้หัวของลูเซียนหนักอึ้งขึ้นไปอีก เขายกมือซ้ายขึ้นแต่ก็ตอบโต้ไม่ทันกับความเร็วของพรีมัส หน้าอกของเขาเจ็บปวดแสนสาหัส
ลูเซียนหายตัวไปและปรากฏตัวอีกครั้งในเงาตรงประตูอย่างไร้สุ้มเสียง
‘เวทปลุกอาคม’ เวทมนตร์ที่เขาเตรียมการไว้ล่วงหน้า ช่วยชีวิตลูเซียนไว้ในนาทีวิกฤต
“ข้าเกือบลืมไปว่าท่านก็เป็นนักเวท ท่านอีวานส์ แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะหลบพ้นอีกครั้งหรอกนะ จริงไหม?” พรีมัสเยาะเย้ยลูเซียนและพุ่งเข้าใส่ลูเซียนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ลูเซียนพยายามยกมือซ้ายขึ้นมาป้องกันบริเวณหน้าอก แต่พรีมัสก็หายตัวไปตรงหน้าและแวบไปโผล่ด้านหลัง ก่อนจะเตะเข้าเต็มหลังของเขาอย่างจัง ทันใดนั้น พลังคำสาปสีเหลืองและพิษสีเขียวเข้มพุ่งออกมาในทันที
ด้วยเสียงหนักแน่น ผิวกายสีเทาสามชั้นที่ปรากฏบนตัวของลูเซียนก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ และเกิดช่องโหว่บนเสื้อคลุมบัลลังก์นิรันดร์ของเขา ลูเซียนกระเด็นไปทางนาตาชา กระอักเลือดออกมา และแผ่นหลังของเขาก็เกือบหักเป็นชิ้นๆ
หากเขาไม่ได้ศึกษา ‘เวทจัดลำดับเวทมนตร์’ มาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ และร่าย ‘เวทร่างหิน’ เวทมนตร์ระดับสี่ไว้ล่วงหน้าถึงสามชั้น ลูเซียนคงจะขาดใจตายในทันที!
“ท่านยังไม่ตายอีกนะ? นี่แหละ ข้าถึงเกลียดนักเวทที่สุด!” พรีมัสเดือดดาลมากยิ่งขึ้น
ขณะดยุกเจมส์และขุนนางคนอื่นๆ กังวลว่าลูเซียนจะหลบการจู่โจมครั้งที่สองของพรีมัสได้อย่างไร พวกเขาก็พยายามตั้งสมาธิรวบรวมอำนาจจิต แต่ก็แทบไม่มีประโยชน์
พรีมัสก็กลายเป็นหอกสีเขียวเข้มและพุ่งเข้าจะเสียบลูเซียนที่กองอยู่บนพื้น
ทันทีที่ลูเซียนพลิกตัวหมุนด้วยมือและเท้าอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเข้าเห็นศัตรูพุ่งเข้ามา เขาตั้งใจจะต้านการจู่โจมครั้งนี้ด้วยเวทมนตร์ แต่ก็ไม่สามารถตั้งสมาธิพลังวิญญาณซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดของคำสาปได้
ข้าต้องตายที่นี่อย่างนั้นหรือ?
ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าลูเซียน ดาบยาวเล่มหนึ่งถูกชักออกมา และเกิดช่องว่างขึ้นมาป้องกันหอกเอาไว้
อย่างไรก็ตาม หอกนั้นทรงพลังมากจนแทงทะลุร่างของนาง แม้จะมีดาบยาวขวางอยู่ แต่เลือดอุ่นๆ ของนางสาดกระเซ็นลงมาท้อง หน้าอก และหน้าของลูเซียน
“นาตาชา…” ลูเซียนร้องออกไปตามสัญชาตญาณ
หน้าของนาตาชาแดงก่ำผิดปกติ บาดแผลที่ท้องของนางไม่อาจเยียวยาเนื่องจากพลังพิษ นางเสียเลือดจำนวนมาก เท้าของนางสั่นเทิ้มอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่านางแทบจะยืนทรงตัวอยู่ไม่ไหว แต่เสียงของนางยังคงหนักแน่นเหมือนเดิม “อัศวินไม่เคยหลบอยู่ข้างหลัง”