Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 833 การลงทะเบียน
ในช่วงเช้า แสงอาทิตย์เจิดจ้าสาดแสงลอดผ่านทางหน้าต่างทำให้ห้องของดอนนี่ราวก็ถูกปกคลุมไปด้วยสีทอง
ดอนนี่เดินไปมาพร้อมกับดวงตาแพนด้าคู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเมื่อคืนเขาจะไม่ได้นอนเลย
วันนี้เป็นประกาศผลการสอบเข้าวิทยาลัยเวทมนตร์ขั้นสูง แม้ว่าเขาจะค่อนข้างมั่นใจกับการสอบ แต่เขาก็ยังไม่สบายใจแล้วก็นอนไม่หลับ เพราะถ้าเขาล้มเหลวก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว
“ไม่เป็นไร ข้าสอบทฤษฎี ปฏิบัติ และเพิ่มเติมไว้ดีแล้ว เว้นแต่ปีนี้พวกนักเวทฝึกหัดที่มีชื่อเสียงจะสมัครเข้าที่วิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์กันหมด…” ดอนนี่เอ่ยปลอบตัวเองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ขณะนี้เองเสียงไพเราะของกริ่งก็ดังขึ้น ดอนนี่หยุดทุกการกระทำและรีบเปิดโทรทัศน์ที่ฝังอยู่บนผนังบ้าน เขาเห็นจุดคล้ายเกล็ดหิมะอยู่เต็มหน้าจอ จากนั้นเอลฟ์สาวสวยหูแหลมก็ปรากฏขึ้นช้า ๆ
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ‘ธรรมชาติยามเช้า’ ข้าเชื่อว่าทุกคนแทบจะรอไม่ไหวแล้วล่ะ ฮิฮิ ข้ามีรายชื่อนักเรียนที่สอบผ่านเข้าสู่วิทยาลัยเวทมนตร์อยู่ในมือแล้ว” เอลฟ์ในโทรทัศน์ชูกระดาษขึ้นด้านหน้าแล้วโบกไปมา กระดาษใบนั้นถูกคลุมด้วยแสงสีแดงที่มีตรารับรองเวทมนตร์ปิดผนึกอยู่
นี้เป็นช่องของสำนักดวงใจแห่งธรรมชาติ ที่มีรายการตอนเช้า ตอนบ่าย และตอนเย็นครั้งละหนึ่งชั่วโมง ส่วนใหญ่จะรายงานเหตุการณ์สำคัญในสำนักหรือ “แบ่งปัน” ความผิดพลาดที่ไม่ดีหรือแม้แต่เรื่องสนุกสนานที่นักเวทฝึกหัดทำ
ดอนนี่มองดูกระดาษที่หนาอย่างไม่น่าเชื่อ เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นมาก มากจนแม้ว่าเขาจะกลั้นหายใจเขาก็ยังคงรับรู้ถึงมันได้
เอลฟ์สาววางปึกกระดาษลงแล้วยิ้ม “ในปีนี้นักเวทฝึกหัดของเราทำได้ดีมาก และอัตรารับเข้าเรียนก็สูงกว่าเดิม แต่แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องมีใครสักคนที่เข้าใกล้ความสำเร็จด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คนเหล่านั้นก็ไม่ต้องอารมณ์เสีย เจ้าสามารถเลือกที่จะไปที่ป่าสตรู๊ปและเรียนรู้หลังจากดรูอิดได้ หลังจากพยายามทำงานอย่างหนักในฐานะนักเวทฝึกหัดหลายปี เจ้าก็สามารถเปลี่ยนเป็น ‘ผู้ดูแลธรรมชาติ’ หรือดรูอิดฝึกหัดได้อย่างง่ายดาย…”
เส้นเลือดตรงขมับของดอนนี่ปูดโปนออกมา ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะประกาศรายชื่อ ทำไมนางถึงยังพูดมากอยู่อีก? ทำเพื่อให้ทุกคนกังวลและไม่สบายใจมากขึ้นหรือไง?
โชคดีที่หญิงชาวเอลฟ์รีบแกะผนึกออกเพื่อไม่ให้เสียเวลาอีกต่อไป นางคลายตรารับรองเวทมนตร์และคลี่กระดาษออก “เอาล่ะ ข้าจะประกาศรายชื่อนักเรียนที่สามารถเข้าศึกษาในวิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์ได้ นักเวทฝึกหัดที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อนี้ควรไปที่สำนักงานของผู้อำนวยการหลังเก้าโมงเพื่อแจ้งลงทะเบียนและรับรางวัล”
ขณะนี้ มีวิทยาลัยเวทมนตร์เพียงเก้าแห่ง แต่มีสำนักสอนเวทมนตร์เกือบสี่ร้อยแห่งทั่วโลก เป็นเรื่องที่น่ายินดีต่อทั้งนักเวทฝึกหัดและสำนักเวทมนตร์ที่พวกเขาสังกัดอยู่ที่จะได้รับการยอมรับ นั่นคือเหตุผลทีผู้อำนวยการสำนักเวทมนตร์จะมาแจ้งการลงทะเบียนด้วยตนเอง ตราบใดที่เด็กๆ ของพวกเขาที่วิทยาลัยเวทมนตร์รับเข้าเรียนไม่ย่อท้อและยอมแพ้ พวกเขาเหล่านั้นก็จะมีโอกาสดี ๆ ที่จะได้เป็นนักเวทอย่างเป็นทางการ
“วิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์…” ยิ่งดอนนี่รับฟังมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งได้ยินชื่อที่คุ้นเคย ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปอีก บังเอิญกับที่เอลฟ์สาวยังประกาศรายชื่อนักเรียนที่วิทยาลัยเข้ารับยังไม่หมด
ดอนนี่กลั้นหายใจและวางมือขวาไว้บนหน้าอกซ้ายอีกครั้ง เขาสัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนรุนแรงที่เกือบจะหลุดออกมาจากอกของเขา
“กอร์เดียน… แคโรไลน์… เดวิด…” ดอนนี่ได้ยินชื่อที่เขาคุ้นเคยมาก ก่อนที่เขาจะรับมือกับจังหวะการเต้นของหัวใจและความกดดันที่เลวร้ายไม่ไหว ในที่สุด คำว่า “ดอนนี่” ก็ดังออกมาจากลำโพงของบ้าน มันเยี่ยมมาก!
ราวกับถูกฟ้าผ่า ดอนนี่รู้ชาไปทั้งตัว จากนั้นเขาก็โบกมืออย่างแรง แต่ร่างกายของเขาก็ล้มตัวลงอย่างไรเรี่ยวแรง
ในที่สุดเขาก็ทำได้!
จากวันนี้ไป ชีวิตของเขากับครอบครัวจะเปลี่ยนไป!
…
ภายในร้านหนังสือแห่งความรู้ ดอลอสมองไปทางดอนนี่ที่วันนี้มาสาย และสังเกตเห็นถึงความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นก็ยิ้ม “เจ้าได้รับการตอบรับหรือเปล่า”
“ใช่ ทางวิทยาลัยตอบรับการเข้าเรียนสาขาโครงสร้างและพันธุกรรม” ดอนนี่ยิ้มอย่างสดใสให้ทุกคนที่เขาพบในวันนี้
ยิ่งศึกษาในขอบเขตจุลทรรศน์ลึกซึ้งมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งมีรายละเอียดมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากพื้นฐานได้ถูกสร้างขึ้นจากแบบจำลองเกี่ยวกับธรรมชาติของโลกและเวทมนตร์อยู่แล้ว และเมื่ออิทธิพลแผ่ขยายออกไปทุกสาขาหลักของการศึกษาเหล่าจอมเวทย์ก็ได้ค้นพบว่าความรู้ที่ได้รับนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจะเรียนรู้ได้ พวกเขาไม่สามารถเรียนพื้นฐานของทุกสำนักได้ก่อนที่จะเลือกสาขาวิชาที่ชอบเหมือนเมื่อก่อน พวกเขาต้องเลือกเส้นทางที่ต้องการเพื่อสร้างรากฐานที่ดี และผู้ที่ไม่ใช่อัจฉริยะก็แทบจะไม่สามารถเรียนรู้อะไรมากไปกว่าความรู้พื้นฐานในสาขาของตนเอง
แน่นอนว่า หลังจากที่พวกเขากลายเป็นนักเวทระดับกลางหรือระดับสูงและมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น พวกเขาก็ยังต้องกลับไปที่สำนักธาตุเพื่อศึกษาพื้นฐานของโหราศาสตร์ ธาตุ และเวทมนตร์ เนื่องจากโหราศาสตร์เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์ ชะตากรรม และขอบเขตจุลทรรศน์เพื่อสะท้อนถึงแก่นแท้ของโลก หากพวกเขาไม่รู้อะไรเลย การศึกษาในอนาคตของพวกเขาก็อาจจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ในทางกลับกัน สำนักศาสตร์มืดก็มีบทบาทความจำเป็นในการยืดอายุขัย พวกเขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ให้ลึกซึ้ง แต่พวกเขาก็ต้องเข้าใจพื้นฐาน
ดอลอสพยักหน้า และปิดหนังสือ “ยินดีด้วย ดอนนี่ ข้าหวังว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยมในวิทยาลัย”
“ขอบคุณขอรับ ท่านดอลอส” ดอลอสรอยยิ้มตอบ
ดอลอสมองไปรอบ ๆ ร้านและเห็นว่าตอนนี้ไม่มีลูกค้า เขาจึงกล่าวว่า “ดอนนี่ ปัญหาใหญ่ที่สุดสามประการของศาสตร์มืดที่ต้องแก้ไขคือ แบบจำลองของโครงสร้างวิญญาณ แบบจำลองปัจจัยทางพันธุกรรม และกลไกที่แท้จริงของ ‘ร่างต้นกำเนิด’ หากเจ้าสามารถเผยความลึกลับของพันธุศาสตร์ได้ เจ้าก็จะได้รับรางวัลอีวานส์ในสาขาอาร์คานาศาสตร์และรางวัลบัลลังก์นิรันดรอย่างแน่นอน จากนั้นในอนาคต เจ้าก็อาจจะกลายเป็นมหาจอมเวทย์ และนักเวทระดับตำนาน นั่นคือสิ่งที่เจ้าควรจะเป็น”
ดอนนี่เกาศีรษะและรู้สึกเขินเมื่อได้ยินคำให้กำลังใจของดอลอส “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะกำหนดได้ ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นเลย ท่านรู้เกี่ยวกับร่างต้นกำเนิดเหรอ?
เขาสัมผัสได้ถึงคำที่ไม่ธรรมดาและลึกซึ้งจึงถามด้วยความสงสัย
ดอลอสหลับตาลงและมองหนังสือที่อยู่ตรงหน้าเขา “เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับร่างต้นกำเนิดมาก่อนหรือเปล่า? แม้แต่ในวิทยาลัยเวทมนตร์ก็มีนักเวทเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจและศึกษามัน ข้าเพิ่งรู้จักเพราะเพื่อนเก่าคนหนึ่งกำลังศึกษาอยู่”
“ข้าได้เรียนรู้จากเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งในระหว่างการสอบเข้าวิทยาลัย…” ดอนนี่รู้สึกถึงความอันตรายของคำถามนี้ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบคำถามต่อไป
ดอลอสพยักหน้าและยิ้ม “เมื่อเจ้าเคยได้ยินมาก่อน ข้าก็สามารถคุยรายละเอียดกับเจ้าได้ มันมาจากจักรวรรดิเมชเคตโบราณ…”
เขาเกริ่นเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและการวิวัฒนาการของร่างต้นกำเนิด ดอนนี่ฟังอย่างตั้งใจ แม้ว่าคาร์ลจะเคยพูดถึงรายละเอียดที่มากกว่านี้ แต่ตอนนั้นเขาไม่มีอารมณ์จะฟัง
“พิธีกรรมพิธีกรรมย้อนรอยชีวินประกอบด้วยแผ่นหินจารึกหน้าหลุมฝังศพและโลงศพที่เอนเอียงที่มีแต่เสื้อผ้า ไม่มีร่างกาย… แต่ร่างกายทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยหุ่นไม้ที่ฝังอยู่ตรงกลาง…” ขณะที่เขาพูด ดอลอสก็ถอนหายใจ “ข้าได้ยินมาว่าสุสานแห่งการหลับใหลชั่วนิรันดร์นอกวิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์มีความลับอยู่ น่าเสียดายที่ข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปเยี่ยมชมวิทยาลัยเวทมนตร์ที่ลึกลับและมีเอกลักษณ์ที่สุด…”
ความลับถูกซ่อนอยู่ด้านนอกวิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์หรือเปล่า?
ตอนนี้ ดอนนี่ตั้งตารอชีวิตในวิทยาลัยของเขามากขึ้นไปอีก ถ้าเขาสามารถค้นหาข้อมูลและถอดรหัสความลึกลับจากสุสานได้บางส่วนได้ นั้นก็เป็นไปได้ว่าความสามารถของเขาจะพุ่งสูงขึ้น
ดอลอสกระแอม เขาไม่พูดถึงร่างต้นกำเนิดอีก เขาเพียงแค่แนะนำเรื่องทั่วไปของวิทยาลัยและขอให้ดอนนี่กลับไปทำงาน
…
วู!
แคร๊ง! แคร๊ง!
รถไฟไอน้ำเวทมนตร์ขบวนยาวหยุดลงที่สถานีมืดและหม่นหมอง ดอนนี่ลงจากรถไฟอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับกระเป๋าเดินทางสีดำใบเก่าของเขา
“แล้วนี่ใช่ไฮด์เลอร์หรือเปล่า?” ดอนนี่มองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้นและสงสัย เขาเห็นท้องฟ้าเป็นสีเทาและไม่แจ่มใสราวกับถูกแช่แข็ง และมีหมอกเลื่อนลางปกคลุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อมองไกลออกไป หอคอยเวทมนตร์รูปร่างสูงแหลมมืดมิดบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเมืองที่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในทวีป
นั่นคือที่พักของศาสตร์มืดตามที่คาด… ดอนนี่ไม่ได้ขวัญเสียเมื่อมองเห็นแบบนั้น เขาเตรียมรับมือกับเรื่องแบบนี้แล้ว เขารู้สึกว่ามันเป็นเพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้นที่เหมาะกับชื่อเสียงของไฮด์เลอร์
นี้เป็นช่วงกลางเดือนสิงหาคม ที่แสงแดดจากด้านนอกจะร้อนจัด แต่เมื่อแสงแดดส่องถึงไฮด์เลอร์กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากความหม่นหมองและเย็นชา
ดอนนี่เบนสายตากลับไปหาป้ายประกาศในสถานี หลังจากที่สัญญาของเขากับดอลอสสิ้นสุดลง ก็ไม่เหลือเวลาเพียงพอที่จะให้เขากลับบ้าน และสุดท้ายวิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์ก็เป็นวิทยาลัยที่เปิดเทอมเร็วที่สุด
“นักศึกษาใหม่ของวิทยาลัยเวทมนตร์จะมารวมตัวกันที่ 152, ถนนผีดิบ…” ดอนนี่พบประกาศแล้วและเริ่มอ่านเนื้อหาที่เขียนไว้
“แล้วจะไปที่ถนนผีดิบได้อย่างไรล่ะ?” ดอนนี่ขมวดคิ้วกับแผนที่ชวนบิดเบี้ยวและเวียนหัวของเมืองไฮด์เลอร์ที่เขาซื้อจากพ่อค้ารายย่อยบนรถไฟ
เมื่อมองไปรอบ ๆ ดอนนี่หยิบกระเป๋าเดินทางของเขาขึ้นและเดินไปหาคนงานที่กำลังยุ่งกับการทำความสะอาดสถานี “สวัสดี ขอถามทางหน่อยได้ไหม ข้าเป็นนักศึกษาใหม่ของวิทยาลัยเวทมนตร์ไฮด์เลอร์”
พนักงานทำความสะอาดเงยหน้าขึ้นทันที เผยให้เห็นใบหน้าเน่าเปื่อย กระดูกสีหมอง ๆ และหลุมดำลึกสองรูตรงเบ้าตาของเขา ดอนนี่ตกใจกลัวมากจนแทบจะร้องไห้ออกมาดังๆ
แม้ว่าเขาจะผ่าศพ อัญเชิญผีดิบ สร้างร่างเย็บประกอบร่างกายขึ้นมาก่อนแล้วก็ตาม แต่นี้ก็ยังเป็นประสบการณ์น่าสยดสยองที่ต้องเจอซากศพเน่าเปื่อยตอนกลางวันโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
“พนักงานทำความสะอาด” พยายามส่ายศีรษะ จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงทำความสะอาดสถานีต่อไป
นี่ นี่คือไฮด์เลอร์… น้ำเสียงของดอนนี่เปลี่ยนไปอย่างมาก
“ดอนนี่!” เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากไกล ๆ ดอนนี่หันกลับมาด้วยความประหลาดใจและพบว่ามีคนโบกมือให้เขาที่ทางเข้าเมือง ผีที่อยู่บนหลังของคนนั้นก็โบกมือลาง ๆ ให้ แซมมี่นั้นเอง