Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 894 การพบกันของสามผู้ยิ่งใหญ่
- Home
- Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา
- บทที่ 894 การพบกันของสามผู้ยิ่งใหญ่
“หลักคณิตศาสตร์แห่งปรัชญาเวทมนตร์… สมเป็นดักลาส…” หลังจากรู้จักกับดักลาสมาหลายปีและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเวทมนตร์กับเขาบ่อยครั้ง เขาก็เข้าใจรูปแบบการตั้งชื่อของชายคนนี้เป็นอย่างดี
แต่ไม่รู้ทำไม เฟอร์นันโดหยุดกังวลและกระวนกระวาย เมื่อเห็นหนังสือเล่มนี้ ก็เหมือนตอนเขาศึกษาเวทมนตร์ทุกครั้ง เขาก็จะลืมความยากลำบากในชีวิตจริง และสภาพแวดล้อมอันมืดมนและสิ้นหวังไปหมด และทุ่มเทให้กับโลกเวทมนตร์ที่เขาหลงใหลอย่างไม่คิดชีวิต
น่าเสียดายที่ไม่มีที่ไหนเลยที่คนจะอ่านหนังสือเวทมนตร์อย่างสงบๆ ได้ ถ้าไม่หนีไปไกลๆ แต่จะหนีไปได้ไกลแค่ไหน ถ้าต้องกลับเข้าไปอยู่ดี?
จิตใจของเฟอร์นันโดกระวนกระวายอีกครั้ง แต่เขาก็เปิดหนังสืออ่านโดยไม่รู้ตัว ลายมือที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในคลองสายตา
ส่วนแรกในหนังสือเป็นคำจำกัดความของสัญลักษณ์ต่างๆ และปริมาณสเกลาร์ เฟอร์นันโดเคยร่วมอภิปรายเนื้อหาเรื่องนี้มาก่อน เลยทำความเข้าใจได้ในไม่ช้า ต่อมาในบทความแรก ดักลาสชี้ให้เห็นกฎสามข้ออย่างตรงไปตรงมา และวางโครงสร้างการเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์
“กฎการเคลื่อนที่สามข้อ…” เฟอร์นันโดสูดหายใจเข้าเต็มปอด จนแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขาอ่านเนื้อหาออกมาดังๆ ทั้งที่ควรอ่านในใจ
กฎสามข้อที่ดักลาสสรุปจากธรรมชาตินั้นง่ายดาย ตรงไปตรงมา และถูกต้องเป็นจริง คนอาจรู้สึกว่ากฎสามข้อนี้ก็เป็นไปโดยไม่มีใครจำเป็นต้องอ่าน แต่เฟอร์นันโดกลับคิดไปไกลกว่ากฎสามข้อนี้ โลกที่เขารู้จักถูกแบ่งออกเป็นส่วนเล็กส่วนน้อยที่เป็นอิสระจากกันจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งอยู่ภายใต้กฎสามข้อนี้!
ความลึกลับของโลกนี้ซ่อนอยู่ในปรากฏการณ์ที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นธรรมชาติและสัจธรรมที่เห็นว่าชัดเจน!
หลังจากอ่านกฎสามข้อแล้ว เฟอร์นันโดรู้สึกว่าโลกทั้งใบแตกต่างไปจากเดิมในสายตาของเขา!
เขาลืมความล้มเหลวที่มีและความโกรธแค้นต่อศาสนจักรไม่เหลือ เขาจมดิ่งอยู่กับหนังสือเต็มที่
ในบทความที่สองและบทความที่สาม ดักลาสอภิปรายและพิสูจน์สถานะการเคลื่อนที่ของวัตถุภายใต้สภาวะแวดล้อมในอุดมคติ เมื่อถูกจำกัดด้วยวิธีการคณิตศาสตร์ที่เข้มงวด แคลคูลัสที่เฟอร์นันโดคุ้นเคยก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือหลัก
เฟอร์นันโดทำความเข้าใจเรื่องนี้โดยไม่มีปัญหา เขารู้สึกว่าการสั่งสมความรู้อันยาวนานได้ผลสรุปเสียที
ยิ่งอ่าน เขายิ่งชื่นชม กฎสามข้อของดักลาสสมบูรณ์แบบ! เป็นคำอธิบายการเคลื่อนไหวที่ลึกซึ้งที่สุดในในประวัติศาสตร์เวทมนตร์!
อย่างไรก็ตาม เขาชื่นชมอยู่ได้ไม่นาน ชื่อบทความที่สามก็ทำจิตใจปั่นป่วนอีกครั้ง “ว่าด้วยกฎการเคลื่อนที่ของเทห์ฟากฟ้าและระบบจักรวาล”
บทความสามเรื่องแรกเป็นเหมือนน้ำที่ถูกกักเก็บ แล้วน้ำก็ไหลหลากเอ่อท่วมในบทความนี้ ก่อนรวมตัวกันเป็นสิ่งที่เรียกว่า “แรงโน้มถ่วง” นี่เป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างยิ่ง!
ไม่หยุดแน่นั้น ดักลาสยังอธิบายถึงรูปร่างของดาวเคราะห์ดวงนี้ การเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ วิถีโคจรของดาวหาง และกระแสน้ำในมหาสมุทรตามการเคลื่อนที่ของดวงดาว แล้วเขาก็วิเคราะห์และสร้างระบบจักรวาลขนาดมหึมา ซึ่งอธิบายถึงดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ดาวหาง และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอื่นๆ ทั้งหมด!
“ในชั่วพริบตา โลกทั้งใบก็อยู่ตรงหน้าข้า…” เฟอร์นันโดลืมทุกเรื่องในหัว ก่อนสรุปความรู้สึกของเขาลงในกระดาษโน้ต
ดวงตาของเขาเหม่อลอย พายุกำลังก่อตัวและสายฟ้านับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้น
ดูเหมือนแฮททาเวย์ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของเฟอร์นันโด นางยังนั่งคำนวณอะไรบางอย่างด้วยปากกาและกระดาษ เนื้อหาเกือบจะเหมือนกับบทความที่สามในหลักคณิตศาสตร์แห่งปรัชญาเวทมนตร์
หลังจากอ่านหนังสือแล้ว เฟอร์นันโดก็ไม่เป็นตัวของตัวเองจนกระทั่งผ่านไปนาน เขาจับหนังสือไว้แน่นราวกับกลัวว่ามันจะหายไป
ทรงคุณค่าเหลือเกิน!
สำหรับนักเวท มันทรงคุณค่ามากเหลือเกิน!
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จู่ๆ เขาก็คำรามออกมา “แรงโน้มถ่วง! เป็นพลังลึกลับที่ดึงดูดดาวให้เคลื่อนที่สินะ?”
เขาหยิบกระดาษและปากกาออกจากกระเป๋าเวทมนตร์และเริ่มสรุปด้วยตัวเอง
ผลลัพธ์สอดคล้องกับผลการสังเกตโหราศาสตร์ เฟอร์นันโดพูดกับแฮททาเวย์ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและสับสน “นี่ใช่ความลึกลับของโลกของเราหรือเปล่า?”
“ใช่.” แฮททาเวย์พยักหน้า นัยน์ตาสีเงินของนางยังคงเยือกเย็น แต่มีหมอกหนาปกคลุม ราวกับว่านางเองก็สัมผัสได้ถึงการเปิดเผยความลึกลับของโลก แม้นางจะเป็นเจ้าหญิง และไม่ใช่นักเวทก็ตาม
เฟอร์นันโดกำหมัดเขกกะโหลกตัวเอง “ไม่ใช่ภาพหลอน! ไม่ใช่ภาพหลอน!”
เขาร่ายเวทตรงตาของตัวเอง มองดูท้องฟ้าผ่านม่านบางๆ
ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับในยามราตรี แต่ในดวงตาของเฟอร์นันโด มีเส้นแสงสว่างไสวมากมายพัวพันและส่งพลังให้กันและกัน
“ไม่มีวงเวทไหนงดงามไปกว่านั้นอีกแล้ว…” เฟอร์นันโดเอ่ยปากชมจากใจ ไม่มีน้ำเสียงเสียดสีเหมือนเคย
แฮททาเวย์หยุดเขียน มองเฟอร์นันโดอย่างเย็นชา “ไม่หมดหวังต่อแล้วเหรอ?”
เฟอร์นันโดเสียหน้า พูดเสียงเบาลง “พอได้อ่านหลักคณิตศาสตร์แห่งปรัชญาเวทมนตร์ของดักลาสแล้ว ข้ารู้สึกว่านักเวทคุมทุกอย่างในจักรวาล… แม้โอกาสสำเร็จจะต่ำ ข้าอยากสละเลือดหยดสุดท้ายเพื่อความภาคภูมิและการสำรวจความลึกลับพวกนี้ให้มากขึ้น”
“ถ้ายังพอมีเวลา เมื่อนักเวทเข้าใจกฎจักรวาลและแคลคูลัสมากขึ้น จะมีนักเวท ผู้วิเศษ หรือแม้กแต่นักเวทชั้นตำนานเกิดขึ้นมากมาย”
“ดูข้าเป็นตัวอย่าง พออ่านหนังสือเล่มนี้ ข้ามั่นใจเลยว่าจะเป็นผู้วิเศษในสิบปี ไม่นานหลังจากข้าพัฒนาถึงระดับแปด”
เฟอร์นันโดเผลอพูดความในใจออกมาด้วยความตื่นเต้น
แฮททาเวย์พยักหน้า ”เจ้าต้องการเวลา”
นางมีกฎที่จะไม่พูดเกินความจำเป็น!
“เวลา… เรากำลังจะไม่เหลือเวลาแล้ว…” เฟอร์นันโดครุ่นคิดและวิเคราะห์สถานการณ์ในตอนนี้ ก่อนเริ่มมองหาสิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นประโยชน์
แล้วรถม้าก็หยุดลง
“ถึงแล้ว” แฮททาเวย์ยืนขึ้น เปิดประตู และลอยออกไป
นางลอยออกไป? ลูกตาของเฟอร์นันโดแทบทะลักออกมา เด็กหญิงตัวเล็กๆ กลายเป็นนักเวทตั้งแต่เมื่อไร? นางคงอยู่ในระดับห้าแล้วสิ!
คนที่ขับรถม้าเป็นเพื่อนเก่าของเฟอร์นันโด “บลู เกรซ” ชาร์ป เขาดมกลิ่นและพูดว่า “เจ้าปั่นหัวแฮททาเวย์สินะ นางแอบเข้าหอสมุดหลวง และพบเอกสารเกี่ยวกับเจตจำนงแห่ธาตุ”
“เจตจำนงแห่ธาตุ” องค์กรในตำนานแห่งจักรวรรดิเวทมนตร์ ถูกดาบแห่งสัจธรรมทำลายไปแล้ว แต่ฮอฟเฟนเบิร์กยังแอบเก็บเอกสารและหนังสือไว้
เฟอร์นันโดเบะปาก ข้าสอนเลขนางเท่านั้น ไม่เคยสอนเวทมนตร์! อย่ามาโทษข้า!
รถม้าหยุดตรงมุมหนึ่งของคฤหาสน์อันเงียบสงบ เฟอร์นันโดสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างทันทีที่เขาลงจากรถม้า และมองไปทางมุมมืดด้านซ้าย
ดักลาส บุรุษร่างสูงเนื้อตัวกำยำ เดินออกจากความมืด เขาดูเป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ก่อน ราวกับสุภาพบุรุษทรงเสน่ห์ในวัยสี่สิบ
เขามองเฟอร์นันโดพร้อมกับรอยยิ้ม และพูดอย่างตรงไปตรงมา “มีสี่เรื่อง เรื่องแรก ข้าบรรลุชั้นตำนานแล้ว มันเป็นระดับใหม่ที่ข้าได้รับจากผลกระทบในโลกความจริง ข้าตั้งชื่อมันว่า ‘เวทมนตร์ผู้ถูกเลือก’”
“เรื่องที่สอง ผู้วิเศษและนักเวทอาวุโสรอดตายมาหลายคน ข้าคัดลอก ‘หลักคณิตศาสตร์แห่งปรัชญาเวทมนตร์’ ส่งให้ทุกคน”
“เรื่องที่สาม นักเวทตำนานรอดชีวิตมาจากศึกอัลโต้อย่างน้อยเจ็ดคน เจ้าแห่งความเยือกเย็น เจ้าแห่งนรก ราชาเงามืด และผู้ครอบครองวิญญาณ ต่างรอดมาได้ บางคนซ่อนตัวในเทือกเขาความมืด บางคนกลับไปที่แดนทางเหนือ บางคนหายตัวไป ข้าให้คน ‘หลักคณิตศาสตร์แห่งปรัชญาเวทมนตร์’ ให้กับเจ้าแห่งความเยือกเย็นแล้ว ส่วนชั้นตำนานสูงสุดอย่างเจ้าชายแดรกคูลา ดานิซอส และเทพีปฐพี ก็ยังมีชีวิตอยู่”
หลังจากหยุดเล่าไปชั่วอึดใจ เขาก็พูดต่อ “ข้อสี่ จักรวรรดิเวทมนตร์ล่มสลายแล้ว ศาสนจักรเรืองอำนาจ แต่ก็หมายความว่าความขัดแย้งระหว่างศาสนจักรกับขุนนางก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”
สถานการณ์ปัจจุบัน แนวโน้มอนาคต และความพยายามของแต่ละคนทั้งหมดสะท้อนออกมาในข้อสี่ แค่นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้นักเวทที่กำลังสิ้นหวังได้เห็นรุ่งอรุณแห่งความหวังใหม่!
แม้เฟอร์นันโดตัดสินใจแล้วในตอนนี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าเห็นแสงสว่างในความมืด เมื่อเห็นรอยยิ้มที่มั่นใจของดักลาส
แต่เขาก็ค่อนข้างประหลาดใจ “เจ้าคัดลอก ‘หลักคณิตศาสตร์แห่งปรัชญาเวทมนตร์’ ส่งให้นักเวทครบทุกคนหรือเปล่า?
แม้เขาจะพูดอยู่เสมอว่านักเวทจะค้นพบสิ่งใหม่ๆ ถ้าได้อ่าน “หลักคณิตศาสตร์แห่งปรัชญาเวทมนตร์” เขารู้ดีว่าหนังสือเวทมนตร์อธิบายความลึกลับของโลกเป็นความลับอันยิ่งใหญ่ที่นักเวททุกคนหวงแหน เป็นพลังอำนาจและหลักประกันฐานะและความมั่งคั่ง ไม่มีใครยินดีแบ่งให้คนอื่นง่ายๆ เว้นแต่ว่าจะได้รับสิ่งที่มีค่าเท่ากันหรือมีค่ามากกว่าเป็นการตอบแทน
สำหรับนักเวท ความรู้เวทมนตร์ระดับนั้นก็เกือบหมายถึงทั้งหมดของชีวิตแล้ว!
แล้วดักลาสคัดลอก “หลักคณิตศาสตร์แห่งปรัชญาเวทมนตร์” ให้กับนักเวททุกคนจริงๆ หรือ?
ช่างขัดแย้งกับสามัญสำนึกและความเป็นมนุษย์โดยสิ้นเชิง!
ดักลาสพยักหน้า “ในสถานการณ์แบบนี้ เราต้องคิดนอกกรอบ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “จริงๆ แล้ว ข้าไม่เคยชอบวิธีการสื่อสารของนักเวทในจักรวรรดิเลย เจ้าคงรู้ว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลช่วยสร้างแรงบันดาลใจและช่วยยกระดับความคิด แต่ข้าคิดว่าในอนาคต การวิจัยเวทมนตร์จะยากยิ่งขึ้น เมื่อเข้าสู่ประเด็นลักษณะธรรมชาติของโลก นักเวททุกคนต้องทำงานหนักร่วมกันเพื่อพัฒนาต่อไปข้างหน้า”
“ข้าคิดว่าเราจำเป็นต้องแยกความรู้เวทมนตร์ที่เผยแพร่ได้จากความรู้ที่ไม่ควรบอกใคร เรื่องที่เผยแพร่ได้ควรเน้นเรื่องกลไกเวทมนตร์และสารัตถะของโลก เราอาจตั้งชื่อใหม่ อืม เวทมนตร์มันเกี่ยวกับความลึกลับของโลก งั้นเรียกว่า ‘อาร์คานา’ ล่ะกัน”
“อาร์คานา?” เฟอร์นันโดพูดซ้ำ เขารู้สึกได้เลยว่าความคิดเก่าหัวโบราณ ถูกลมเย็นๆ อันสดชื่นพัดมาแทนที่แล้ว
เอาก็เอา! เพราะเหลือพวกแก่ๆ ไม่กี่คนที่คอยบงการพวกเขาในตอนนี้!
“อาร์คานา” แฮททาเวย์ก้มหน้า ไตร่ตรองความหมายของคำนั้น
“อาร์คานา…” ชาร์ปพูดเสียงเบาๆ อย่างสับสน และงุนงงว่าทำไมดักลาสต้องสร้างคำใหม่ที่ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรในสถานการณ์นี้
อาร์คานา!
…………………………………………………………