Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - ตอนที่ 368
บทที่ 368 แหวนทรงพลัง
“แหวนนี้จะช่วยให้ผู้ร่ายเวทมีจิตสงบนิ่งและมีสมาธิจดจ่อมากขึ้น ดังนั้น กระบวนการร่ายเวทน่าจะถูกรบกวนน้อยลง ผลของแหวนนี้เทียบเท่ากับเวทมนตร์ระดับห้า ‘เพ่งสมาธิ’ ตัวแหวนนั้นเก็บพลังเวทมนตร์ที่สำคัญที่ทำให้ผู้ร่ายสามารถใช้เวทมนตร์ระดับห้าคือ ‘เวทมวลพลังสายฟ้า’ ได้สองครั้งต่อวัน และเวทมนตร์ระดับเจ็ดคือ ‘เวทลำแสงต้านเวท’ สองครั้งต่อวันเช่นกัน เมื่อถูกผนึก ผู้สวมแหวนที่ระดับเวทมนตร์ยังไม่ถึงระดับหกยังคงฝืนร่ายเวทมนตร์ระดับที่เจ็ดได้หนึ่งครั้งโดยจะสูญเสียพลังจิตทั้งหมด และเป็นอันตรายต่อพลังชีวิต
“การค้นพบอิเล็กตรอนเป็นการเปิดประตูโลกอนุภาค และมันได้เปลี่ยนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับวัตถุพื้นฐานของโลก แหวนวงนี้ ขอมอบให้ท่านลูเซียน อีวานส์ จอมเวทผู้โดดเด่น ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเยี่ยมด้านเวทธาตุ
“การค้นพบที่เกิดจากรังสีจะมีพลังมากขึ้นเพราะรังสีเอง!
จาก: มอร์ริส ฮอฟเฟนเบิร์ก”
ลูเซียนตะลึงเมื่อได้รู้ข้อมูลรายละเอียดของแหวน ‘อิเล็กตรอน’ วงนี้ เขาเชื่อว่าความสำเร็จของมอร์ริสในเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนั้นด้อยกว่านักเล่นแร่แปรธาตุชั้นตำนานสองคน คือ เดวีและคลอสเท่านั้น
ถึงแม้จะเปรียบเทียบกับแหวนมงกุฎแห่งโฮล์มวงสุดท้าย ซึ่งผลของเวทมนตร์สะกดใจนั้นมีระยะเวลาน้อยกว่า ครั้งนี้เวทมนตร์สะกดใจระดับที่เจ็ดคือ ‘เวทลำแสงต้านเวท’ ลักษณะพิเศษของเวทมนตร์นี้ทำให้ใช้ร่วมกันกับเวทมนตร์อื่นๆ ได้ยาก ความจริงที่ว่ามอร์ริสยังคงสามารถเพิ่มผลของเวทมนตร์สะกดใจอื่นๆ และเวทมนตร์ระดับที่ห้านั้นทำให้ลูเซียนรู้สึกประทับใจมาก ถ้านำแหวนวงนี้ไปใช้ให้ถูกที่ถูกทาง ถึงแม้โลกแห่งการรู้คิดของลูเซียนไม่ได้ถูกทำให้เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริงๆ แล้วเขาก็จะมีโอกาสเอาตัวรอดเมื่อเผชิญหน้ากับนักเวทชั้นสูงได้
เมื่อเห็นว่าลูเซียนสวมแหวนวงนั้นที่นิ้วกลางมือซ้าย มอร์ริสก็เกือบร้องไห้ออกมา แหวนนั้นเป็นผลงานชิ้นเอกอันน่าจดจำของเขาในอาชีพนักเล่นแร่แปรธาตุ
เมื่อใจเย็นลงบ้างแล้ว มอร์ริสก็หยิบแหวนอีกวงออกมา มันเป็นแหวนสีขาวเซาะร่องแล้วฝังเพชรน้ำใสเม็ดใหญ่ เมื่อต้องแสง เพชรก็จะส่องประกายวับ
มอร์ริสฝืนอ่านคำปราศรัย
“เมื่อมนุษย์อย่างพวกเรากำจัดความโหดร้ายป่าเถื่อนออกไป พวกเราก็ได้ค้นหาความลับแห่งชีวิต พวกเรากระหายใคร่รู้ว่าเรามาจากไหนและชีวิตคืออะไร นักเวทผู้ยิ่งใหญ่หลายคนได้ใช้เวลาทั้งชีวิตค้นหาความจริง แต่โชคร้าย พวกเขาไม่ได้เข้าใกล้ความจริงเลยแม้แต่น้อย แต่ลูเซียน อีวานส์ ได้ออกแบบการทดลองแสนอันชาญฉลาด นั่นคือ ‘การทดลองแห่งปาฏิหาริย์’ โดยใช้วิธีคิดอันแสนพิเศษของเขา ‘การทดลองแห่งปาฏิหาริย์’ ได้เผยให้เราเห็นความเป็นไปได้อย่างหนึ่งของต้นกำเนิดชีวิต ในตอนนั้นเอง ความเปล่งประกายของเขาเทียบเท่าพระเจ้าองค์ใดก็ได้
“สิ่งนี้เป็นก้าวแรกที่มนุษย์อย่างพวกเรานำไปเกี่ยวข้องกับพื้นที่ต้องห้ามนี้ ‘องค์กรเจตจำนงแห่งธาตุ’ และ ‘สถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์ม’ มอบแหวนวงนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่ลูเซียนที่มีผลงานอันโดดเด่น แหวนนี้คือ ‘แหวนมงกุฎแห่งโฮล์มหมายเลขที่ยี่สิบแปด’ ซึ่งมีชื่อว่า ‘ต้นกำเนิด’”
เสียงปรบมือกึกก้องอย่างอบอุ่นมากขึ้น ถึงแม้ว่าการค้นพบอนุภาคใหม่นี้เป็นเรื่องที่น่าทึ่งยิ่งนัก แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับเรื่องน่าตกตะลึงซึ่งเกิดจาก ‘การทดลองแห่งปาฏิหาริย์’ ที่ออกแบบโดยลูเซียน มนุษย์ทุกคนจะรู้สึกเกรงขามก่อนมีชีวิตเสียอีก!”
ลูเซียนได้พาผู้ฝึกใช้เวทมนตร์ของเขาไปด้วยเพื่อกินอาหารมื้อค่ำฟรี บัดนี้ เหล่าผู้ฝึกใช้เวทมนตร์กำลังจับจ้องอาจารย์ของพวกเขาบนเวทีราวกับว่าลูเซียนกำลังเปล่งประกาย แหวนที่ส่องวิบวับทำให้พวกเขารู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย พวกคนหนุ่มสาวต่างปรารถนาเกียรติอันยิ่งใหญ่นี้เช่นกัน แม้แต่คนที่เก็บตัวที่สุดอย่างแอนนิค
ดวงตาของแคทรีนาเป็นประกายเมื่อลูเซียนรับแหวน ‘ต้นกำเนิด’ ในฐานะที่เป็นผู้หญิงและเป็นจอมเวท นางโพล่งออกมาว่า “ข้าล่ะอยากได้แหวนแบบนี้จัง!”
“ข้าล่ะอยากได้แหวนแบบนี้จัง…” เสียงที่ฟังดูเด็กๆ ดังมาจากอีกด้าน อัลเฟอร์ริสน้ำลายไหลยืด มันถือจานใบใหญ่ที่สุด มีส้อม และมีดด้วย แต่ดวงตาของมันจับจ้องแต่แหวนที่ลูเซียนสวมอยู่
“ท่านอีวานส์นี่มีเสน่ห์สุดๆ!” ไฮดี้กับเลย์เรียเพ่งความสนใจไปที่จุดอื่น ถึงแม้พวกเขาจะอยากได้แหวนวงนี้เช่นกัน
ความจริงแล้ว แม้แต่สำหรับนักเวทระดับสูงในด้าน ‘เวทธาตุ’ หรือด้าน ‘เล่นแร่แปรธาตุ’ แหวนมงกุฎแห่งโฮล์มก็ยังคงเป็นเป้าหมายใหญ่ ไม่ใช่เพราะมูลค่าของมัน แต่เพราะมันเป็นเครื่องแสดงถึงเกียรติยศ
เมื่อเห็นอาจารย์ของตนบนเวที สปรินต์ก็กำหมัดแน่นและตัวเขาก็สั่นเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น เขาเฝ้าบอกตัวเองว่าวันหนึ่งเขาจะไปยืนรับแหวนอยู่บนเวทีเช่นเดียวกับอาจารย์ของเขา
“ข้าเสียใจอยู่หน่อย ทำไมข้าถึงเลือกเป็นนักเวทสายต่อสู้กันนะ” ฟลอเรนเซียนพูดด้วยความรู้สึกหลายอย่างปนเปกัน “ข้าออกแบบแหวนหลายวง แต่ข้าไม่เคยได้เป็นเจ้าของเลยสักวง”
“เจ้ายังมีหนึ่งวง แต่พวกเราไม่มีเลย” แคโรไลน์ สมาชิกอาวุโสคนหนึ่งของ ‘องค์กรเจตจำนงแห่งธาตุ’ เอ่ย น้ำเสียงกึ่งกระเซ้ากึ่งผิดหวัง
ฟลอเรนเซียสวมแหวนมงกุฎโฮล์มอยู่วงหนึ่งไว้ที่นิ้วมือข้างขวาจริงๆ แต่มันไม่ใช่แหวนของนาง มันเป็นของโอลิเวอร์ สามีของนาง แหวนมีชื่อว่า ‘คอร์นเนอร์สโตน’
ทีโมธีกับยูลิสิสมองหน้ากัน และต่างมองเห็นความขมขื่นในแววตาของอีกฝ่าย ในอดีต แลร์รี่ เฟลิเป ทิโมธี และยูลิสิส นั้นเท่าเทียมกันและอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ตอนนี้เฟลิเปกับแลร์รี่ได้รับรางวัลไปแล้ว และคนที่มาทีหลังอย่างลูเซียนยังได้แหวนถึงสามวงด้วยซ้ำ บางครั้ง ทิโมธีกับยูลิสิสต้องยอมรับว่าอัจฉริยะนั้นมีอยู่จริง พวกเขาจึงต้องฝึกฝนให้หนักมากขึ้น
พวกเขาเข้าใจว่าแววตานั้นต้องการสื่ออะไร ทิโมธีกับยูลิสิสยกแก้วแล้วดื่มอวยพร
ลูเซียนรับแหวนแล้วค่อยๆ ดูด้านในของมัน
“ปี 817 มงกุฎแห่งโฮล์ม แด่ผลงานอันยิ่งใหญ่ของลูเซียน อีวานส์ (ในปี 819)”
“แหวน ‘ต้นกำเนิด’ แหวนมงกุฎแห่งโฮล์ม อุปกรณ์เวทมนตร์ นักเวทที่พลังจิตถึงระดับสูงแล้วจะสามารถปลดผนึกแหวนได้และพลังทั้งหมดก็จะถูกปลดปล่อยออกมา
“พลังสามประการที่ถูกผนึกลงในแหวนเป็นประกายวงนี้อย่างถาวรคือ มันส่งผลต่อความสามารถในการมองเห็นอนาคตของนักเวทระดับสูงที่เป็นเป้าหมาย ดังนั้นการพยากรณ์ของนักเวทนั้นก็จะคลาดเคลื่อนไป มันสามารถทำให้ผู้สวมใส่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่สุดขั้วอย่างนรกหรืออเวจี และมันสามารถเก็บพลังจิตของผู้สวมแล้วคืนพลังให้เมื่อพลังจิตของผู้นั้นหมดไป (ปริมาณของพลังจิตที่ถูกเก็บไว้สามารถช่วยให้ผู้สวมร่ายเวทมนตร์สามัญระดับห้า เวทอื่นๆ ได้”
“แหวนนี้ช่วยให้ผู้สวมร่ายเวท ‘เทเลพอร์ตวายป่วง’ สองครั้งต่อวันเพราะมีพลังความวุ่นวายและโกรธเกรี้ยว ‘เทเลพอร์ตวายป่วง’ เวทมนตร์ระดับที่เจ็ดเมื่อถูกผนึก ผู้สวมแหวนที่ระดับเวทมนตร์ยังไม่ถึงระดับหกยังคงฝืนร่ายเวทมนตร์ระดับที่เจ็ดได้หนึ่งครั้งโดยจะสูญเสียพลังจิตทั้งหมด และเป็นอันตรายต่อพลังชีวิต
“‘การทดลองแห่งปาฏิหาริย์’ ได้เผยให้เราเห็นความเป็นไปได้อย่างหนึ่งของต้นกำเนิดชีวิต ให้ความกระจ่างแก่เราด้วยการออกแบบการทดลองแบบใหม่และผลลัพธ์อันน่าทึ่ง พวกเราขอมอบแหวนนี้แก่ลูเซียน อีวานส์ ผู้ถูกเลือกโดย ‘เทพธิดาแห่งชีวิต’ ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่ เขาได้เชื่อมโยงสสารไร้ชีวิตที่มีอยู่ในโลกกับการถือกำเนิดของชีวิต และได้ขยายขอบเขตของ ‘สำนักธาตุ’ ถ้าจะพูดถึงประวัติศาสตร์ของเวทสายธาตุแล้วละก็ แน่นอนว่าชื่อของเขาจะถูกกล่าวถึง!
“ต้นกำเนิดของชีวิตอาจจะเริ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมดั้งเดิมที่วุ่นวายและอันตราย ‘เวทเทเลพอร์ตวายป่วง’ บางครั้งก็นำมาซึ่งความต่อเนื่องของชีวิต แน่นอนว่าสิ่งนี้ต้องการพรจาก ‘เทพธิดาแห่งความเป็นไปได้’ ซึ่งก็คือความช่วยเหลือจากโชคชะตา และความกรุณาจาก ‘เทพธิดาแห่งโชค’
จาก: มอร์ริส ฮอฟเฟนเบิร์ก”
‘เทเลพอร์ตวายป่วง’ เป็นเวทมนตร์ได้จากพลังเทพและพลังเวทมนตร์ มันสามารถส่งผู้ร่ายเวทให้ไปยังอีกที่หนึ่งอีกหลายสิบกิโลเมตรจากจุดที่เดิมของผู้ร่ายภายในครึ่งวินาทีโดยไม่ต้องใช้ข้อมูลเรื่องพื้นที่และทิศทาง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าสถานที่แบบใดที่ผู้ร่ายเวทจะถูกส่งไป อาจจะเป็นปากปล่องภูเขาไฟ ไปเจอลาวาเดือดปุดๆ อาจจะไปโผล่ที่รอยแยกของมิติพิเศษ ไม่ก็อาจไปโผล่ยังตำแหน่งใกล้กับคนที่ผู้ร่ายเวทไว้ใจมากที่สุด หรืออาจไปอยู่ตรงหน้าศัตรูก็ได้…
ลูเซียนรู้ว่าการทำแหวนวงนี้ขึ้นมาเป็นเรื่องยากยิ่งนัก
สิ่งที่มีค่าที่สุดเกี่ยวกับแหวนวงนี้คือมันสามารถเก็บพลังจิตของลูเซียนได้ หากใช้แหวนมงกุฎแห่งโฮล์มทั้งสามวงให้ถูกต้อง ลูเซียนจะสามารถบังคับใช้เวทมนตร์ทรงพลังในแหวนสองวงและหลบหนีโดยใช้เวท ‘เทเลพอร์ตวายป่วง’ หลังจากได้พลังคืนจนเต็ม แต่เพราะระดับการเก็บพลังนั้นยังจำกัดอยู่ ถ้าลูเซียนกล้าใช้พลังจิตเกินสองครั้ง ผลที่ตามมาก็จะร้ายแรง
แน่นอนว่า เพราะโลกแห่งการรู้คิดของลูเซียนได้ถูกทำให้เป็นรูปธรรมขึ้นมา เขาจึงไม่รีบร้อนใช้พลังจิตที่จะเก็บไว้ในแหวน เพราะพลังจิตของเขานั้นมีเพียงพอที่จะร่ายเวทมนตร์ระดับที่สี่อย่างต่อเนื่อง เมื่อเผชิญหน้ากับเวทมนตร์ระดับสูง ลูเซียนก็จะไม่ถูกโจมตีได้ง่ายอีกต่อไป
มอร์ริสจับผมเล่น เขาไม่อยากเห็นภาพลูเซียนสวมแหวน จากนั้นเขาก็กล่าวกับแขกที่มาร่วมงาน
“ขอเชิญท่านอีวานส์กล่าวคำปราศรัยขอรับ”
ฟลอเรนเซียและนักเวทและจอมเวทที่เหลือปรบมืออย่างอบอุ่น เพราะพวกเขาอยากรู้ว่าลูเซียนจะพูดอะไรที่เขาได้กล่าวคำปราศรัยในตอนที่ได้รับรางวัลครั้งล่าสุดเมื่อสองสามปีก่อน ซึ่งเขากล่าวไว้ดีมาก
ลูเซียนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เขายิ้ม “ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนที่ข้ารับรางวัล ข้าพูดว่ามันมีความลับอันยิ่งใหญ่กว่าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการจัดลำดับในกลุ่มธาตุ บัดนี้เป็นเวลาสามปีแล้ว… ข้าค้นพบอิเล็กตรอนเพราะข้าศึกษาการจัดลำดับธาตุ สิ่งที่คลุมโลกอนุภาคเอาไว้จึงเปิดออก และในขณะเดียวกัน ท่านมหาจอมเวทแฮททาเวย์ และเฟอร์นันโด อาจารย์ของข้า ได้แยกธาตุที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันออกมา หลังจากที่ค้นพบว่าธาตุเหล่านี้แตกต่างกันอย่างไร จึงควรมีการมอบรางวัลมงกุฎแห่งโฮล์มอีกรางวัล”
เมื่อมอร์ริสได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือด
“ดังนั้น การศึกษาเรื่องนี้จะทำให้เหล่านักเวทอีกหลายคนได้รับเกียรติยศสูงสุด และความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับโลกนี้จะเริ่มต้นขึ้น”
หน้าของมอร์ริสซีดเผือดมากขึ้นไปอีก เขาไม่เข้าใจว่า ‘ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับโลกใบนี้’ นั้น ลูเซียนต้องการสื่อถึงอะไร
ลูเซียนยกมือที่สวมแหวนมงกุฎแห่งโฮล์ม เขาค้อมตัวน้อยๆ แล้วพูดอย่างมีความหมาย
“ปรากฏการณ์ทั้งหมดสามารถอธิบายได้ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่สุดก็ยังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
เหล่านักเวทในที่นั้นปรบมืออย่างอบอุ่น ในสายตาของพวกเขา ลูเซียน อีวานส์ เป็นบุคคลต้นแบบที่มีความสงสัยในสิ่งต่างๆ อยู่เสมอและมักตั้งคำถามว่าทำไม
….
ณ สำนักงานใหญ่ของกลุ่ม ‘หัตถ์ไร้ชีวา’ ในไฮด์เลอร์
ภูติผีสองตนคือ อะดอล กับแองวูดส์ ลอยอยู่ในอากาศ ร่างริบหรี่อยู่ในเงามืด
อะดอลจ้องมองหมู่เมฆสีเทา แล้วยิ้ม “เราควรจับตามองเจ้านักเวทคนที่จะมารับรางวัลบัลลังก์นิรันดรที่นี่”
“ทำไมล่ะ ขอเหตุผลหน่อย” แองวูดส์ถาม ดูเหมือนมันจะมีสถานะต่ำกว่า
เสียงเย็นเยียบของอะดอลนั้นเฉยเมย
“บนตัวมัน ข้าได้กลิ่นมาสเกลีน”