Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา - บทที่ 580 สภาสูงสุด
บทที่ 580 สภาสูงสุด
ในช่วงเช้าของอีกสองวันถัดมา ลูเซียนที่ความแข็งแรงของเขาอยู่ในระดับสมดุลแล้วในบาเบล มาถึงชั้นที่สามสิบห้าของหอคอยเวทมนตร์อัลลินก่อนเวลา และเปิดประตูห้องประชุมของสภาสูงสุด
ห้องประชุมนี้ก็ไม่ต่างจากห้องประชุมอื่นๆ ที่ลูเซียนเคยเห็น ที่พื้นที่กว้างขวางพอๆ กัน และมีโต๊ะเชอร์รี่ตัวยาวอยู่ตรงกลาง สิ่งเดียวที่พิเศษคือเก้าอี้ทั้งยี่สิบสี่ตัวทำจากวัสดุล้ำค่า ที่บุด้วยกำมะหยี่สีแดงก่ำกำลังเปล่งประกายด้วยความหรูหรา และยังมีการสลักลวดลายต่างๆ ที่ด้านหลังของเก้าอี้เพื่อบ่งบอกตัวตนของสมาชิก มีทั้งพายุ สายฟ้า มงกุฎแห่งอาร์คานา และเวทมนตร์ ฯลฯ
“อีวานส์ ทางนี้” เคลาส์ ปรมาจารย์แห่งรสายนเวทที่มักจะยิ้มซุกซนชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขา
เขาเป็นนักเวทระดับตำนานที่มาถึงเร็วที่สุดตามด้วยหุ่นเชิดชีวินรสายนเวทในรูปลักษณ์ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ
ลูเซียนมองข้ามไปเพื่อจะดูว่าด้านหลังของเก้าอี้เป็นรูปแบบของโครงสร้างภายในของอะตอมที่ซึ่งอิเล็กตรอนล้อมรอบโปรตอน และนิวตรอน เช่นเดียวกับรูปแบบการเคลื่อนที่ของวัตถุท้องฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด
“โครงสร้างดั้งเดิมที่กำลังจะล้าสมัยในไม่ช้า…” ลูเซียนลอบสังเกต ลูเซียนพยักหน้าให้เคลาส์ และนั่งลงตรงตำแหน่งของเขา
“ท่านเคลาส์ ดูเหมือนท่านจะมาที่นี่สักพักแล้ว?” เมื่อเห็นว่าเขาอยู่คนเดียวในห้องประชุม ลูเซียนจึงถามด้วยการพูดคุยเล็กๆ
เคลาส์ยิ้มอย่างสบายๆ “อีวานส์ เจ้าเป็นมหาจอมเวทแล้ว มารยาทเช่นนี้ไม่ต้องจำเป็นก็ได้ เรียกข้าว่าเคลาส์ ข้าเป็นคนที่ชอบมาถึงก่อนเวลา ทุกครั้งที่ข้ารอคนอื่น ข้าจะรู้สึกว่ามีเวลาเพิ่มมากขึ้น และคิดที่จะมีความสุขกับอิสระที่หรูหราโดยไม่ถูกรบกวน นี่เป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์ เจ้าไม่คิดงั้นเหรอ? เจ้ามาเป็นคนแรกๆ ด้วยเหรอ”
“ใช่ ข้าจะกังวลเมื่อคิดว่าคนอื่นกำลังรออยู่ แต่เมื่อข้ารอคนอื่นตราบใดที่พวกเขายังไม่สายจิตใจของข้าก็จะสงบ และข้าก็จะมีแรงบันดาลใจถ้าหากว่าข้ามาเร็ว” ลูเซียนตอบด้วยรอยยิ้มอย่างที่ไม่ได้คิดว่าพวกเขาจะมีความรู้สึกเดียวกันในเรื่องนี้
เคลาส์ผายมือของเขา “พวกเราเข้าใจชีวิต และความเพลิดเพลินดีกว่าสิ่งที่พวกเขาทำ สำหรับข้าช่วงเวลาที่วิเศษได้สิ้นสุดลงแล้วเพราะมีคำถามมากมายที่ข้าอยากจะพูดคุยกับเจ้าเมื่อได้พบกัน การเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้ลุ่มหลง มันน่าดึงดูดยิ่งกว่าหุ่นเชิดโกเลม และชีวินรสายนเวทของข้าเสียอีก”
“หากคำถามเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย ข้ายินดีที่จะสนทนากับเจ้า” ลูเซียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เคลาส์เคาะโต๊ะ จู่ๆ แขนโลหะคู่หนึ่งก็ตกลงมาจากเพดานพร้อมกับถ้วยชาแดงร้อนจัด จากนั้นสิ่งมีชีวิตนั้นก็พูดด้วยความเคารพว่า “ท่านเคลาส์ผู้ชื่นชอบ ‘เคานต์ชาแดง’
“อีวานส์ เจ้าชอบดื่มอะไร? พวกเขาจะเตรียมให้” เคลาส์จิบชาแดงต่อ “ความจริง หลังจากอ่านการหักลบโดยพิจารณาจากโปรตอนของเจ้า ตารางธาตุ น้ำหนักอะตอมสัมพัทธ์ และองค์ประกอบที่เท่ากัน ข้าไม่สงสัยเลยเกี่ยวกับการมีอยู่ของนิวตรอน การค้นพบมันขึ้นอยู่กับเวลา แต่ข้ามีความสับสนอย่างมากเกี่ยวกับร่องข้อมูล การเปลี่ยนแปลง และการแผ่รังสีของอิเล็กตรอน”
อย่างที่คิดไว้… ลูเซียนไม่แปลกใจกับความสับสนของเคลาส์หลังจากถามหา ‘สกายบลู’ เขากล่าวว่า “มีปัญหามากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราสามารถพูดคุยกันได้”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเคลาส์ค่อยๆ หายไป “ก่อนอื่น การเปลี่ยนแปลงทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เจ้าอธิบายคือกระบวนการควอนตัม กล่าวคือ เมื่อมันกระโดดจากวงโคจรหนึ่งไปยังอีกวงโคจรหนึ่งซึ่งจะไม่มีการเดินทางตรงกลางเลย มันจะกระพริบไปยังปลายทาง มันเป็นการกระโดดข้าวอวกาศ หรือเทเลพอร์ตหรือเปล่า? เวทมนตร์อวกาศของเรามีพื้นฐานมาจากอะไร?”
เนื่องจากไม่สามารถอธิบายการกระโดดข้ามอวกาศ การเทเลพอร์ต และสิ่งกีดขวางได้ เวทมนตร์อวกาศจึงพัฒนาได้ช้ามาก และมีความต้องการสูงมาก แม้แต่ศาสนจักรทางใต้ และสภาแห่งเวทมนตร์ก็ไม่มีความมั่งคั่งพอที่จะปรับไปใช้เวทมนต์เคลื่อนย้ายแบบถาวรมากนัก พวกเขาทำได้เพียงเชื่อมต่อสำนักงานใหญ่กับเมืองหลวงของอาณาจักรต่างๆ สำหรับนครต่างๆ และเขตเมือง พวกเขาต้องพึ่งพาวิถีดั้งเดิม สิ่งต่างๆ ได้รับการปรับปรุงหลังจากที่มีการพัฒนาข้อความแม่เหล็กไฟฟ้า โทรศัพท์แบบมีสาย และโทรเลขเท่านั้น
“บางครั้งก็ใช่ บางครั้งก็ไม่ใช่ ข้ายังไม่ได้ศึกษาอย่างจริงๆ จังๆ การเปลี่ยนแปลงของระดับพลังงานเป็นเพียงคำอธิบายเบื้องต้น อาจมีทฤษฎีที่ดีกว่านี้เพื่ออธิบายในอนาคต เราเข้าใกล้ความจริงได้ทีละขั้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถอ้างได้ว่าเรามีความจริงอยู่แล้ว” ลูเซียนไม่ได้คิดว่าเคลาส์จะถามคำถามที่ซับซ้อนเช่นนี้
เคลาส์พยักหน้ารับรู้ว่าปัญหาจะยังไม่ได้รับการแก้ไขในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามระดับพลังงาน และการเปลี่ยนแปลงของอิเล็กตรอนยังคงเป็นการคาดเดาทางทฤษฎีในการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยของลูเซียน และยังไม่เคยมีใครพบในการทดลอง สามารถอนุมานได้จากปรากฏการณ์ที่สังเกตได้เท่านั้น
“คำถามคือ ทำไมอิเล็กตรอนจึงมีวงโคจร และทำไมพวกมันถึง ‘เคลื่อนที่?’ แรงโน้มถ่วงทำให้ดาวเคราะห์เทียมหมุนรอบโลก และสร้างวงโคจรของพวกมัน แต่พลังแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำให้อิเล็กตรอนชนนิวเคลียสเท่านั้น” น้ำเสียงเย็นชาดังก้องอยู่ที่ประตู แฮททาเวย์ที่งดงาม แต่ก็เข้มงวดก็มาถึงก่อนเวลาเช่นกัน
การศึกษาเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยอยู่ในช่วงของการค้นหานิวตรอน หรือความผิดปกติอื่นๆ ก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะมีปัญหาดังกล่าว แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหลัก หลังจากการค้นพบนิวตรอนคำอธิบายเกี่ยวกับวงโคจร และการเปลี่ยนแปลงของอิเล็กตรอนกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับจอมเวท และนักเวทระดับตำนาน นอกจากนี้ยังสามารถเห็นได้จากคำอธิบายที่คล่องแคล่วของแฮททาเวย์ว่านางได้วิเคราะห์ปัญหานี้มาระยะหนึ่งแล้ว
ลูเซียนกล่าวพลางถูคิ้วของเขา “พลังแม่เหล็กไฟฟ้าอาจใช้ไม่ได้กับขอบเขตของกล้องจุลทรรศน์ อิทธิพลอื่นๆ ก็มีบทบาท วงโคจร และสำหรับตอนนี้การเปลี่ยนผ่านเป็นเพียงสมมติฐาน เราสามารถยืนยันได้ว่าเป็นความจริงจากการทดลองเท่านั้น”
มหาจอมเวท และนักเวทระดับตำนานพวกนั้นฉลาดอย่างแท้จริง คำถามของพวกเขาเกี่ยวกับคำอธิบายโครงสร้างอะตอมทำให้เห็นข้อบกพร่องของการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยอย่างแม่นยำ
“อิเล็กตรอน นิวตรอน และโปรตอนต้องมีคุณสมบัติบางอย่างในตัวที่ทำให้เกิดการโคจร เราไม่สามารถเพิ่มวงโคจรให้กับอิเล็กตรอน และกำหนดให้พวกมันเคลื่อนที่ตามนั้นได้” แฮททาเวย์สังเกต และไม่พอใจเกี่ยวกับคำอธิบายของลูเซียน
“นอกจากนี้การเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยสามารถอธิบายโครงสร้างง่ายๆ ของอิเล็กตรอนตัวเดียวเท่านั้น ไม่สามารถอธิบายโครงสร้างที่ซับซ้อนที่ซึ่งมีอิเล็กตรอนมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทฤษฎีของเจ้าในการอธิบายปฏิกิริยาการเล่นแร่แปรธาตุดั้งเดิมที่มีการแลกเปลี่ยนอิเล็กตรอนภายนอกให้เข้ากับความเป็นจริงได้ดี แต่ไม่สามารถรวมอยู่ในแบบจำลองของเจ้าได้” เจ้าแห่งวายุใจร้อนเหมือนเคย และมาถึงก่อนเวลา
ลูเซียนลุกขึ้นเพื่อทักทายอาจารย์ของเขา จากนั้นเขาก็ส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “ยกโทษให้ข้าด้วย แบบจำลองนั้นคลอดก่อนกำหนด และยังต้องให้จองไม่ปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่านี้”
เฟอร์นันโดพยักหน้า เขานั่งลง และพูดว่า “ข้ามักจะรู้สึกว่ามีความลึกลับซ่อนอยู่เบื้องหลังปัญหา”
บุคคลชั้นนำทั้งสี่ในด้านธาตุ และการเล่นแร่แปรธาตุได้เริ่มการสนทนาอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย ในระหว่างนี้ อะทาแมน ‘แดนป้องกันขั้นสูงสุด’, ‘เนตรแห่งคำสาป’ แอตแลนต์ และนักเวทระดับตำนานคนอื่นๆ ก็มาถึง
เมื่อดักลาสเดินเข้ามาพร้อมกับคณะทำงานของเขา และการประชุมกำลังจะเริ่มขึ้น การสนทนาเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุสมัยใหม่ก็สิ้นสุดลง
ลูเซียนถือโอกาสถามแฮททาเวย์ “ท่านยายเมื่อไหร่ท่านราเวนติจะก้าวเข้าสู่ระดับตำนาน”
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาลูเซียนพยายามติดต่อราเวนติ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ นาตาซายุ่งอยู่กับการจัดการกับรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และตัวเขาเองก็ต้องการรายละเอียดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
เมื่อได้ยินลูเซียนเรียกตัวเองว่ายายเหมือนนาตาซา แฮททาเวย์ก็พูดอย่างเฉยเมยเหมือนก่อนหน้านี้ แม้ว่านิ้วชี้ข้างขวาของนางจะยกขึ้นเล็กน้อย “ราเวนติกลับไปที่หอคอยเวทมนตร์ และตัดการสื่อสารกับโลกภายนอกทั้งหมด เขาทุ่มเทให้กับการจัดโครงสร้างใหม่ของความรู้เดิมของเขาโดยหวังว่าจะเข้าใจเวท ‘แยกธาตุ’ ที่เขาวิเคราะห์แยกเอาไว้ก่อนหน้านี้โดยเร็วที่สุด”
‘แยกธาตุ’ เป็นเวทมนตร์เฉพาะของแฮททาเวย์ นางไม่ได้เผยแพร่ให้สภา แต่สมาชิกขององค์กรเจตจำนงแห่งธาตุสามารถเรียนรู้ได้จากการที่พวกเขามีส่วนร่วม ลูเซียนวางแผนที่จะแลกเปลี่ยนรางวัลองค์กรเจตจำนงแห่งธาตุให้กับตัวเองหลังจากที่เขากลายเป็นมหาจอมเวท และเป็นนักเวทระดับตำนานเพื่ออ้างอิงในการพัฒนาเวทมนตร์ ‘จัดลำดับธาตุ’ ของเขาหลังจากที่พัฒนาไปเป็นเวทมนตร์ระดับตำนานแล้ว
สำหรับขั้นในตำนานอย่าง ‘ผู้บัญชาอะตอม’ ลูเซียนยังวางแผนที่จะเผยแพร่ไปยังสภา และองค์กรเจตจำนงแห่งธาตุ เพื่อแลกกับเวทมนตร์ระดับตำนานเพิ่มเติม การกลายเป็นมหาจอมเวทจะได้รับอุปกรณ์ระดับตำนานเป็นรางวัล และการเป็นนักเวทระดับตำนานก็หมายความว่าพวกเขาสามารถเลือกเวทมนตร์ระดับตำนานจากสภาได้อย่างอิสระ
“ข้าหวังว่าท่านราเวนติจะก้าวไปข้างหน้าได้สำเร็จ” ลูเซียนอธิษฐานเผื่อเขาด้วยความจริงใจ
‘เจ้าแห่งธาตุ’ และ ‘ผู้บัญชาอะตอม’ ทั้งคู่ควรมีอัตราการจับคู่ที่สูงมากกับโลกแห่งปัญญาของราเวนติ สำหรับเขาที่โลกแห่งปัญญาได้ปิดผนึกไปแล้วครึ่งนึง ยิ่งอัตราการจับคู่สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความหวังมากขึ้นที่จะก้าวไปสู่ระดับตำนาน ในทันทีที่เขาเชี่ยวชาญ ‘แยกธาตุ’ เขาก็จะพยายามก้าวต่อไป
เคลาส์ยิ้มให้จากฝั่งตรงข้าม “ในไม่ช้า ทุกการประชุมสภาสูงสุดทุกครั้งจะเป็นจุดสิ้นสุดของโลก…”
คำพูดของเขาค่อนข้างคลุมเครือ แต่เมื่อเขามองเฟอร์นันโด ลูเซียนก็เข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร ก่อนหน้านี้อาจารย์ของเขามักจะประชุมสภาสูงสุดท่ามกลางพายุอันเลวร้ายด้วยตัวเขาเอง ถ้าท่านราเวนติซึ่งเป็นคนขี้โวยวายพอๆ กับอาจารย์ของเขาเข้าร่วมการประชุมด้วยล่ะก็ มันก็คงจะเป็นจุดจบของโลกอย่างแน่นอน
เฟอร์นันโดจ้องไปที่เคลาส์ ‘ข่มขวัญ’ ให้เขาก้มศีรษะลง และหลีกเลี่ยงความกดดัน จากนั้นชายคนนั้นก็พูดด้วยเสียงเบาว่า “อีวานส์ เจ้ามีความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ และทำให้สิ่งของเล่นแร่แปรธาตุง่ายขึ้น มาแลกเปลี่ยนความรู้กันเถอะ”
ในขณะนี้เอง ดักลาสลุกขึ้นยืน และมองไปรอบๆ สมาชิกสภาสูงสุดอีกสิบแปดคนก่อนที่เขาจะพูดว่า
“การประชุมในวันนี้ส่วนใหญ่คือการต้อนรับ ลูเซียน อีวานส์ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเรา”
แปะ แปะ แปะ ทุกคนปรบมือ เจ้าแห่งผีดิบ, ราชาแห่งชะตากรรม, ราชันย์แห่งสุริยา, โดนัลด์ และสมาชิกวงแหวนที่เก้าอีกคนออกไปปฏิบัติภารกิจ และไม่ได้อยู่ในที่ประชุมของสภาสูงสุด
หลังจากที่ลูเซียนยืนขึ้น และกล่าวทักทายทุกคน ดักลาสก็คลี่ยิ้ม “เรื่องแรกของเราคือ เมื่อไหร่จะมีการจัดพิธีเพื่อก้าวไปสู่การเป็นมหาจอมเวทของลูเซียน?”
………………………………………