Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 222
TXV – 222 ความตายของอเลน่า !
รถคันหนึ่งหยุดจอดบริเวณริมถนนในสนามบินประตูรถถูกเปิดออก คนแรกที่ลงมาจากรถคือมาร์คัส หลังจากนั้นอเลน่าก็ลงตามมา เมื่อทั้งสองคนลงจากรถเรียบร้อยแล้ว ลาร์ฟจึงจ่ายค่าโดยสารและลงจากรถเป็นคนสุดท้าย มาร์คัสและลาร์ฟยืนประกบอเลน่าทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ทุกการเคลื่อนไหวของอเลน่าอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาทั้งสองคนตลอดเวลา
ในขณะเดียวกันหลงบิงและเซี่ยเหล่ยกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ในรถยนต์คันสีดำที่จอดอยู่ในลานจอดรถของสนามบินโดยมีเค่อเจียเป็นคนขับรถ ลาร์ฟ มาร์คัสและอเลน่า เดินไปยังอาคารผู้โดยสารตลอดทางมาร์คัสและลาร์ฟคิดว่าอเลน่าอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาแต่ความจริงแล้วพวกเขาต่างหากที่อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น
เมื่อมาร์คัสและลาร์ฟนำอเลน่าเดินมาถึงสถานีปลายทาง ทันใดนั้นหลงบิงก็พูดขึ้นว่า “เค่อเจีย ตามไปดูไว้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นรีบรายงานด่วน”
“ครับ” เค่อเจียตอบรับและเดินไปสถานีปลายทางทันที
หลงบิงมองไปยังเซี่ยเหล่ยพร้อมพูดว่า “คุณจะช่วยเธอยังไง ?”
“ผมต้องการให้คุณช่วยผม เธอเป็นช่างเครื่องที่เก่งมากรถถังลีโอ้พาร์ของเยอรมนีที่เธอมีส่วนร่วมในการผลิตสามารถถอดแยกชิ้นส่วนและนำมาซ่อมแซมได้แถมมันยังมีพลังทำลายที่รุนแรงมากเลยทีเดียว” เซี่ยเหล่ยตอบ
หลงบิงส่ายหน้าและพูดว่า “ฉันรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่แต่ฉันคงต้องบอกคุณว่าอย่างน้อยก็หนึ่งปีที่จะไม่ให้ใครพบเห็นเธอและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนในบริษัทจะไม่เห็นเธอ คุณเข้าใจความหมายของฉันไหม?
เซี่ยเหล่ยฝืนยิ้มและไม่พูดอะไรต่อ เขาเข้าใจความหมายของหลงบิงอเลน่ากำลังจะเล่นกับความตายเป็นไปได้ไหมหากคนที่ตายแล้วจะเข้ามาทำงานในบริษัทอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้า ? อะไรจะสำคัญไปกว่านี้อีกละ เธอคือคนที่ซีไอเอต้องการตัวซึ่งเธอกำลังจะตายในสนามบินของประเทศจีนทันที ซีไอเอของสหรัฐอเมริกาจะสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดแน่นอน ถ้ามีคนเห็นอเลน่าที่ตายแล้วมาทำงานในบริษัทอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าจะแก้ปัญหายังไงล่ะ ?
“ความจริงแล้ว เธอน่าสงสารมากนะ งานหลักๆคงต้องเป็นหน้าที่ของคุณแล้วล่ะ” หลงบิงถอนหายใจก่อนจะพูด
เซี่ยเหล่ยแสดงสีหน้าไม่เห็นด้วยและพูดว่า “ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ได้ไหม? ผมรู้ว่าผมให้ในสิ่งที่เธอขาดได้ แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ภารกิจสำเร็จ นี้เป็นเรื่องระดับประเทศและสำคัญต่อประโยชน์ของชาติ อะไรที่เป็นความสัมพันธ์ที่ผมจะให้เธอได้ผมจะชดใช้ให้ภายหลังแต่ก่อนอื่นขอถามคุณว่าดูแลเธอดีแล้วหรือยัง ไม่ใช่เพียงแต่คิดถึงความสำเร็จเท่านั้น”
“ฉันจะช่วยคุณเต็มที่ เรื่องนั้นคุณสบายใจได้เลย” หลงบิงตอบ
ตอนนี้เสียงของเค่อเจียดังมาจากวิทยุสื่อสาร “หัวหน้า พวกเขาเดินเข้าไปแล้วครับ”
ในรถหลงบิงและเซี่ยเหล่ยจบการสนทนาทันทีและนั่งรออย่างใจเย็นเพื่อรอดูสถานการณ์
ณ จุดรักษาความปลอดภัยของสนามบิน มาร์คัสเดินผ่านการตรวจได้อย่างสบายๆเนื่องจากว่าเขามีหนังสือรับรองจากผู้มีอำนาจ
“เดินไป” ลาร์ฟพูดกับอเลน่า “ อย่าเพิ่มปัญหาอีก รู้นะว่าถ้าคุณเพิ่มปัญหาจะเกิดอะไรขึ้นเดินไปพร้อมกัน พวกเราจะช่วยคุณเอง ”
อเลน่าหัวเราะเยาะ “จะช่วยฉันหรอ? อืม ช่วยพาไปลงนรกเร็วขึ้นน่ะสิ”
ลาร์ฟดันตัวอเลน่าไปด้านหน้าอย่างเบาๆพลางพูดว่า “อย่ามาพูดไร้สาระ !”
อเลน่าเดินไปถึงจุดรักษาความปลอดภัยขณะนี้ในใจเธอไม่ได้มีประเทศเยอรมนีอยู่เลย ไม่มีแม้กระทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรมหรือภาษาเยอรมันแต่สิ่งเดียวที่เธอมีคือเซี่ยเหล่ย เขาเป็นทั้งพ่อและแม่ของเธอ ในจิตใต้สำนึกของเธอมีแต่ภาพของเซี่ยเหล่ย……
ลาร์ฟและมาร์คัสมองหน้ากันในฐานะเพื่อนร่วมงานของสหรัฐอเมริกาพวกเขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไร อเลน่ารู้ว่าเมื่อผ่านทางเข้าตรงนี้ไปก็เหมือนเธอตกนรกทั้งเป็น อย่างไรก็ตามทั้งสองคนก็ไม่ได้สงสารอเลน่าเลยแม้แต่น้อยเพราะหากพวกเขาสงสารพวกเขาก็ไม่สามารถเป็นสายลับมืออาชีพได้”
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยของสนามบินกวักมือเรียกให้อเลน่าเดินเข้ามา
อเลน่าจึงเริ่มก้าวเท้าเข้าไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบร่างกายของเธอ ทันใดนั้นเครื่องตรวจสอบก็ดังขึ้น
“มีบางสิ่งอยู่ที่ท้องของเธอ จับเธอไว้” เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตะโกนขึ้นเมื่อเครื่องตรวจแจ้งเตือน
ตำรวจสนามบินสองคนพุ่งเข้ามาทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบต้องหยุดการตรวจสอบและอีกสองวินาทีต่อมา ตำรวจสนามบินก็ควบคุมตัวของอเลน่าเอาไว้ในทันที
“นี้มันเกิดอะไรขึ้น” มาร์คัสมีท่าทางที่เปลี่ยนไปทันที
แต่ก็ไม่มีใครตอบคำถามนี้ ตำรวจสนามบินทั้งสองคนพยุงอเลน่าขึ้นจากพื้นและนำตัวไปสำนักงานตำรวจทันที
มาร์คัสไม่พอใจเจ้าหน้าที่อย่างมาก เขาจึงตามตำตรวจสองคนไปด้วยความโกรธเขาจึงพูดว่า “พวกคุณทำอะไร เธอเป็นคนเยอรมันนะ คุณมีสิทธิจับเธองั้นหรอ?”
ตำรวจหันหน้ากลับมามองที่มาร์คัสและพูดเป็นสำเนียงภาษาอังกฤษว่า “ขอโทษนะ คุณพูดว่าอะไร ? พูดภาษาอังกฤษได้ไหม ”
มาร์คัสตอบเป็นสำเนียงภาษาอังกฤษไปว่า “คุณมีสิทธิอะไรมาจับเธอ?”
ตำรวจจึงตอบมาร์คัสไปว่า “ในท้องของเธอซุกซ่อนยาเสพติดเอาไว้ คุณเป็นห่วงเธองั้นหรอ ? คุณเป็นใคร?”
เพียงคำพูดไม่กี่คำก็ทำให้มาร์คัสถึงกับหน้าเสีย เขารู้ดีว่ากฎหมายของจีนหากพบสารเสพติดโทษถึงประหารชีวิตและไม่มีใครสามารถช่วยได้แต่ในกรณีนี้ถึงตายเขาก็กล้าที่จะเสี่ยง !
“คุณเป็นอะไรกับเธอ” ตำรวจถามเขาด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษด้วยความสงสัย
มาร์คัสส่ายหน้าและพูดว่า “ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอแต่พวกเราคือคนเยอรมันเหมือนกันและเป็นตัวแทนทางการค้า ผมก็แค่เป็นห่วงเธอ เธอกับผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันทั้งนั้น”
“พวกเราคือประเทศที่อยู่ภายใต้กฎหมาย คนส่วนมากปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศพวกเขา คุณสามารถติดต่อสถานฑูตของประเทศของคุณได้ถ้าหากไม่พอใจแต่คุณห้ามละเมิดกฎหมายของประเทศเรา ” ตำรวจคนทางด้านซ้ายตอบ
ในเวลานั้นลาร์ฟเดินเข้ามาพร้อมเจ้าหน้าที่อีกคนและใช้อำนาจของเขาสั่งการ “ผมทราบมาจากเจ้าหน้าที่ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอซ่อนยาเสพติดไว้ในถุงยางอนามัยสองชิ้นแล้วใส่เข้าไปให้ท้อง เธออยู่ภายใต้ภาพในกล้องวงจรปิดของเราตลอดเวลาแล้วสิ่งผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?”
“หรือเธอจะเอามาจากแม่บ้าน ?” มาร์คัสตอบ
“คุณลืมไปแล้วหรอ? แม่บ้านก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเราเหมือนกัน ผมรู้ว่าคุณจะบอกว่าคุณปิดประตูห้องน้ำแล้วแต่เธอใช้เวลาเพียง 35 วินาทีในการทำสิ่งเหล่านี้ เธอทำได้อย่างไร?”
“แย่มาก! นี้ต้องเป็นแผนการสกปรกของเซี่ยเหล่ยแน่นอน!” ลาร์ฟพูดด้วยความโกรธ “เขาต้องการกำจัดอเลน่าให้พ้นจากเรื่องนี้โดยไม่ให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางของสหรัฐอเมริกามามีส่วนเกี่ยวข้อง เธอคือพยานที่สำคัญมากนะ!”
“เห้อ! ผมจะไปสอบถามข้อมูลที่สถานทูตและจะรีบส่งรายละเอียดให้ ” มาร์คัสพูดขณะที่ร้อนรน…..
ลาร์ฟพยักหน้าพร้อมยกสายโทรศัพท์เพื่อโทร
ขณะที่มาร์คัสเดินเข้าไปยังสถานีตำรวจ เขายืนอยู่บริเวณทางเข้าและมองเข้าไปก็พบว่ามีตำรวจประจำการที่สนามบินกำลังตรวจสอบอเลน่าอยู่
“คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม ? ” ในระหว่างทำการบันทึกสอบสวนอเลน่าเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
สีหน้าของอเลน่าเต็มไปด้วยความตึงเครียดแต่เธอก็พยักหน้าตอบกลับไป เธอค่อยๆมองไปยังมาร์คัสที่ยืนอยู่บริเวณทางเข้าอย่างช้าๆ ส่วนมาร์คัสขอเข้ามาที่นี่โดยอ้างว่ามาเข้าเยี่ยมอเลน่า เธอดูมีท่าทีกังวลและพยายามหลบสายตามาร์คัสอยู่ตลอดเวลา
“ดี ผมขอถามคุณว่าในท้องของคุณมีถุงยางอนามัยสองชิ้น มีอะไรอยู่ในถุงยางอนามัยบ้าง” ตำรวจถามและบันทึกคำตอบไว้
“ฉัน…… ” อเลน่าเริ่มที่จะตอบแต่ก็ลังเล เธอค่อยๆเปิดปากทีละน้อยแสดงให้เห็นว่าในตอนนี้เธอกระวนกระวายอย่างมาก
ตำรวจทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว “คุณไม่ต้องการที่จะพูดอะไรหน่อยหรอ ผมคิดว่าในท้องของคุณคงซ่อนบางอย่างเอาไว้แน่เพราะเรามีอุปกรณ์การตรวจสอบความปลอดภัยที่ทันสมัย คุณกล้ามากจริงๆ บอกผมมาเถอะ คุณทำงานนี้คนเดียวหรือมีผู้ร่วมกระบวนการ ?”
อเลน่าเงยหน้ามองเพดานจากนั้นเธอค่อยๆมองไปที่ประตูทางเข้า
มาร์คัสลุกขึ้นยืน เขากลัวว่าอเลน่าจะบอกเจ้าหน้าที่ว่าเขาคือผู้ร่วมกระบวนการของเธอหากเกิดกรณีแบบนั้นเกิดขึ้นเขาก็จะถูกจับได้……..
“ฉันทำคนเดียว” อเลน่าพูดพร้อมส่ายหน้า
“คุณนำยาเสพติดมาจากไหน” ตำรวจถามเพื่อบันทึกการสอบปากคำ
“ฉันซื้อมันมาจากตลาด” อเลน่าตอบ
“ซื้อมาจากใคร ?”
“กับ… ” เธอส่ายหน้าหลังจากปฏิเสธการตอบคำถาม “ฉันจำไม่ได้ ขอน้ำให้ฉันสักแก้วได้ไหม ฉันต้องการดื่มน้ำสักแก้ว”
ตำรวจที่กำลังบันทึกการสอบปากคำเธอจึงพูดว่า “ขอน้ำให้เธอหนึ่งแก้ว”
ตำรวจอีกคนถือขวดน้ำเข้ามาเปิดขวดและวางไว้บนโต๊ะ หลังจากนั้นก็หยิบแก้วกระดาษใส่น้ำให้อเลน่า”
“คุณดูไม่เครียดเลยนะ กฎหมายของเราให้ความสำคัญกับความเป็นมนุษย์มาก การยอมรับผิดเป็นสิ่งที่ดี หากกระทำผิดแล้วมีความรับผิดชอบก็จะได้รับการลดหย่อนโทษ ดังนั้นคุณควรที่จะยอมรับผิดและบอกว่าผู้ร่วมกระบวนการของคุณคือใคร” ตำรวจทำการบันทึกการสอบปากคำต่อ……..
อเลน่าพนักหน้าแต่เธอไม่พูดสิ่งใดจากนั้นไม่นานเธอเริ่มดื่มน้ำ…….
ลาร์ฟเดินเข้ามาพร้อมกระซิบข้างหูมาร์คัสว่า “ผมแจ้งเรื่องนี้กับสถานฑูตแล้วและพวกเขากำลังมาที่นี้” เมื่อเขาพูดจบเขามีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมุมปาก “พวกเขาไม่ยอมปล่อยอเลน่าแน่นอน พวกเราและเจ้าหน้าที่ส่วนกลางของสหรัฐอเมริกาจะสร้างความกดดันให้พวกเขายอมปล่อยตัวอเลน่า”
มาร์คัสเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย “เป็นสิ่งที่ดีนะ ไม่งั้นพวกเราอาจจะไม่มีโอกาสที่จะรายงานว่าภารกิจสำเร็จได้ ”
ในสำนักงานตำรวจอเลน่ายกน้ำขึ้นมาดื่มสถานการณ์ขณะนั้นเงียบและกดดันมาก ในที่สุดเธอจึงชี้นิ้วไปที่มาร์คัสพร้อมพูดว่า “เขาคือเจ้านายฉันชื่อมาร์คัส เขาให้ฉันนำยาเสพติดผ่านจุดตรวจส่วนนั้นชื่อลาร์ฟ เขามีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วย”
ตำรวจสองคนจ้องมองไปที่มาร์คัสและลาร์ฟพร้อมกัน
มาร์คัสเต็มไปด้วยความโกรธและความงงงวยพร้อมๆกัน “เธอนี้มันนังแพศยา พูดอะไรไร้สาระ ! ”
ทันใดนั้นอเลน่าก็ล้มลงไปจากเก้าอี้อย่างกะทันหัน ร่างกายของเธอมีอาการชัก น้ำลายฟูมปากสถานการณ์ในตอนนี้เธอน่าเป็นห่วงมาก……
“แย่แล้ว!”ตำรวจที่กำลังสอบปากคำเธออยู่นั้นยืนขึ้นและรีบกระโดดข้ามโต๊ะมาช่วยเหลือทันที “ถุงยางอนามัยที่อยู่ภายในท้องเธอต้องฉีกขาดแน่ๆเลย ”
ภายในห้องมีโต๊ะสำหรับโทรเรียกเมื่อมีอุบัติเหตุฉุกเฉินไปยังรถตำรวจแต่…..ไม่สามารถใช้การได้
มาร์คัสและลาร์ฟไม่รีรออีกต่อไป พวกเขารีบเข้ามาในสำนักงานตำรวจทันที
ตำรวจที่กำลังบันทึกการสอบปากคำตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงเข้มว่า “หยุด ห้ามขยับ พวกคุณถูกจับแล้ว!”
มาร์คัสไม่ฟังคำเตือนของตำรวจ เขานั่งลงข้างๆอเลน่าและใช้มือขยายม่านตาของเธอออก เขาพยายามจับหาชีพจรที่หลอดเลือดข้อมือของเธอและทำการปั้มหัวใจเธอ เนื่องจากว่าหัวใจของอเลน่าไม่เต้นแล้ว !”
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ใช้ปืนจ่อที่หัวของมาร์คัสและพูดว่า “เกาะกลุ่มกันไว้ มองอะไร ก้มหน้าลงไป เอามือทั้งสองข้างไว้เหนือหัว ”
มาร์คัสพูดด้วยน้ำเสียงดังว่า “ผมคือเจ้าหน้าที่ตำรวจของเยอรมัน คุณจะทำอะไรของคุณ?”
ตำรวจคนที่สอบปากคำใช้เท้าของเขาเตะไปที่ขาของมาร์คัส จากนั้นมาร์คัสก็ล้มลงไปคุกเข่ากับพื้นทันที
ลาร์ฟยืนนิ่งอยู่สักครู่หนึ่ง เขาก็โดนดันตัวให้คุกเข่าลงกับพื้น เขาไม่ขัดขืนและนำมือทั้งสองข้างวางไว้เหนือหัวอย่างหมดหนทาง
เมื่อเวลาผ่านไปทีมแพทย์และพยาบาลก็มาถึงสำนักงานตำรวจได้ทำการตรวจสอบและประกาศว่าอเลน่าได้เสียชีวิตลงแล้วและทำการขนย้ายศพในเวลาต่อมา
สถานทูตเยอรมนีได้นำตัวมาร์คัสและลาร์ฟออกไป แต่ไม่ได้ทำศพของอเลน่าออกไปด้วย
ติดตามตอนต่อไป……….