Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 230
TXV – 230 การเปลี่ยนแปลง !
ปัง!
เสียงปืนดังก้อง…….เป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปสองกิโลเมตรล้มคว่ำลง
ใบหน้าของหลงบิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “นี่สิ ปืนไรเฟิลแบบที่ฉันต้องการ ฉันเดาว่ามันสามารถยิงได้ไกลกว่านี้อย่างน้อยน่าจะสักสามกิโลเมตรหรือไกลสุดเกือบๆ 3500 เมตร คุณช่วยย้ายปืนไรเฟิลกระบอกแรกไปข้างหน้าอีก 300 เมตรหน่อยได้มั้ย? ฉันจะลองยิงดูอีกที’’
เซี่ยเหล่ยรู้สึกเหนื่อยใจเมื่อมองไปที่เป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปหนึ่งกิโลเมตรแต่เขาก็วิ่งออกไปอย่างช้าๆ เขาใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 8.92 นาที แต่ยังไม่ทันที่เซี่ยเหล่ยจะวิ่งไปยังจุดที่หลงบิงยืนอยู่ เธอก็เริ่มยิงปืนไรเฟิลอีกกระบอกที่สองและเธอยิงโดนเป้าอีกครั้ง
มันยิงได้ไกลถึง 3300 เมตรนี่อาจจะเป็นปืนไรเฟิลที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลกเลยก็ได้
หลงบิงยิ้มขึ้นอีกครั้ง “คุณ…’’
“หยุดเลยนะ’’ เซี่ยเหล่ยพูดอย่างเหนื่อยหอบ “คราวนี้คุณไปทำเองเถอะ’’
หลงบิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันยังไม่ได้พูดเลย คุณรู้หรอว่าฉันกำลังจะพูดอะไร ฉันไม่ได้จะให้คุณไปอีกสักหน่อย ฉันแค่อยากจะชื่นชมฝีมือของคุณต่างหาก’’
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก “คุณไม่ต้องชื่นชมผมหรอกแค่คุณได้ใช้มัน ผมก็พอใจแล้ว’’
“อืม มันก็สะดวกจริงๆนั่นแหละ ฉันคิดว่าบริษัทอาชาสายฟ้าของคุณน่าจะลองผลิตปืนไรเฟิลอย่างที่คุณปรับปรุงให้ฉัน ถ้าคุณกล้าการันตีว่ามันจะมีประสิทธิภาพแบบเดียวกัน ฉันก็กล้าพูดได้เลยว่าพวกทหารจะแห่กันมาสั่งซื้อสินค้าของคุณอย่างล้นหลามเลยล่ะ’’ หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยส่ายหัว “ช่างธรรมดาไม่มีทางที่จะทำได้ ปืนไรเฟิลนี่ผมดัดแปลงให้คุณเป็นการส่วนตัวเท่านั้น บริษัทของผมไม่สามารถที่จะผลิตปืนไรเฟิลแบบนี้ได้หรอก ดังนั้นธุรกิจที่คุณว่ามาผมจะไม่ทำแต่อย่างไรก็ตามถ้าหน่วยงานลับ 101 ต้องการ ผมจะปรับปรุงให้อีกหลายๆกระบอกเลยก็ได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว’’
“ตอนนี้ยังผลิตไม่ได้ ก็ใช่ว่าจะผลิตไม่ได้เลยแต่หลังจากจบเรื่องนี้ คุณลองทบทวนดูอีกทีก็แล้วกัน’’ หลงบิงพูดเสริม “เรื่องนี้ฉันจำเป็นต้องบอกคุณ อเลน่าอาการดีขึ้นมากแล้วแต่ฉันยังหาทางหว่านล้อมให้เธอมาเข้าร่ามกับหน่วยงานลับ 101 ไม่ได้ แม้ว่าเธอจะไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่เธอก็เป็นถึงช่างระดับสูงของบริษัทอุตสาหกรรมคราฟมาร์คแมชชีน เธอจะทำให้เราเข้าใจเทคนิคต่างๆมากขึ้นนั่นเป็นเหตุผลที่ผู้บริหารฉืออยากให้คุณไปพูดชักจูงเธอ คุณคิดว่ายังไงล่ะ?’’
“ได้เลย! ผมจะลองดูแต่ผมไม่กล้ารับปากหรอกนะ ผมจะทำเท่าที่ผมจะทำได้’’ เซี่ยเหล่ยพูด “เธอเป็นชาวเยอรมันทัศนคติของเธอกับของพวกเราอาจจะแตกต่างกัน’’
“ถ้าเป็นคุณไปเกลี้ยกล่อม ฉันว่ามันจะต้องสำเร็จแน่ๆ’’ หลงบิงพูด “ในตอนนี้ตัวตนใหม่ของเธอคือจูเลีย ชื่อจีนของเธอคือเซี่ยเหม่ย’’
เซี่ยเหล่ยยิ้มไม่ออก “ใครเป็นคนตั้งชื่อจีนให้เธอ?’’
“เธอเอง’’
เซี่ยเหล่ย “…’’
“ยังมีอีกเรื่อง’’ หลงบิงมองหน้าเซี่ยเหล่ย “หลางซือเหยาออกไปจากเมืองนี้แล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?’’
เซี่ยเหล่ยอยากจะพูดโพล่งออกไปว่า ‘เธอเป็นสายลับ’ หรือไม่ก็ ‘เธอเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับของ CIA’ แต่สุดท้ายเขาก็พูดออกมาแค่ว่า “ไม่มีอะไรนี่ เราแค่เลิกกันแล้ว’’
“เลิกกัน? ไม่มีเหตุผลอื่นแล้วหรอ?’’ สายตาของหลงบิงดูเหมือนกำลังจับพิรุธเขาอยู่
เซี่ยเหล่ยยักไหล่ “งั้นคุณคิดว่ามีเหตุผลอะไรอีกล่ะ?’’
หลงบิงพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันคงไม่ถามคุณหรอกว่าคุณรักใครหรือเลิกกับใคร ฉันไม่สนใจเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามฉันต้องเตือนคุณเรื่องพวกนี้คุณต้องระวังตัวไว้ให้ดีๆสิ่งเล็กๆอาจจะก่อให้เกิดปัญหาที่ใหญ่ได้”
เซี่ยเหล่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังทำงานเพื่อประเทศชาติอยู่นะ พวกคุณนั่นแหละต้องจ่ายเงินให้ผม’’
หลงบิงพูดว่า “คุณควรจะไปพูดอย่างนี้ต่อหน้าท่านผู้บริหารฉือดูนะ จะมาพูดกับคนไร้ประโยชน์อย่างฉันทำไมแต่ก็เอาเถอะ ปืนไรเฟิลก็ได้รับการทดสอบแล้ว เราไปหาอเลน่ากัน นานแล้วที่คุณไม่ได้ไปเยี่ยมเธอ ฉันจะพาเธอกลับชิงตู่เย็นนี้’’
เซี่ยเหล่ยรู้ว่าหลงบิงสามารถเดาใจคนอื่นได้หลังจากที่เธอมีข้อสงสัยกับหลางซือเหยา เขาไม่รู้ว่าหลงบิงเดาถูกว่าหลางซือเหยาเป็นสายลับได้เมื่อไหร่และเขาจะเก็บความลับนี้ได้อีกนานแค่ไหน เขาเป็นถึงที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานลับ 101 ก็จริงแต่เขาไม่มีหน้าที่ที่จะจับกุมสายลับหนิ แถมยังไปตกหลุมรักผู้หญิงที่เป็นสายลับอีก………
ถ้าผู้บริหารฉือและหลงบิงจะรู้ความจริงแล้ว เขาก็ไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย…..
พวกเขามาถึงตัวบ้านที่ซ่อนอยู่ในภูเขาลึกแต่ยังไม่ทันที่จะเจออเลน่า เซี่ยเหล่ยก็ต้องประหลาดใจที่เจอถ่างหยู่เหยี่ยและถ่างปั่วฉ่วน
พี่น้องทั้งสองคนเดินมาอย่างสง่ารูปงามราวกับต้นหยก พวกเขาในตอนนี้ดูดีมากเลยทีเดียว
“คุณรู้ใช่มั้ยว่าฉันไม่ได้เผื่อเวลาให้แนะนำตัวกันน่ะ’’ หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยพูดทักทายด้วยรอยยิ้ม “คุณถ่าง สวัสดีครับ’’
เมื่อเจอถ่างหยู่เหยี่ยและถ่างปั่วฉ่วนที่นี่ เซี่ยเหล่ยก็คิดวิธีคลายปมที่อยู่ในใจเขาได้นั่นเป็นเพราะถ่างหยู่เหยี่ยและถ่างปั่วฉ่วนเป็นคนของหน่วยงานลับ 101 และถ่างหยู่เหยี่ยก็ยังเป็นลูกสาวของฉือโบเหยิยนอีกด้วย
ถ่างปั่วฉ่วนเดินเข้ามาแต่เขาไม่ได้จับมือเซี่ยเหล่ยในขณะที่เข้ามาตบไหล่เซี่ยเหล่ยเบาๆ “ทำไมต้องสุภาพกับผมขนาดนั้นด้วยล่ะ? ผมชื่นชมคุณมากเลยและอยากเป็นเพื่อนกับคุณด้วยจะได้ไหมครับ?’’
“แน่นอน’’ เซี่ยเหล่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นเกียรติมากที่ได้เป็นเพื่อนกับคุณ’’
“ดูสิ คุณสุภาพกับผมอีกแล้ว’’ ใบหน้าของถ่างปั่วฉ่วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ถ่างหยู่เหยี่ยพูดขัดจังหวะขึ้น “ไหนๆก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ฉันควรจะเรียกคุณอย่างไรดี? จะเรียกพี่เซี่ยหรือพี่เหล่ยดีล่ะ?’’
ถึงจะเป็นคนของหน่วยงาน 101 เหมือนกันแต่หลงบิงและถ่างหยู่เหยี่ยก็เป็นผู้หญิงที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งเย็นชาราวกับน้ำแข็งส่วนอีกคนก็สดใสร่าเริงราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างอึดอัดใจ “อย่าเรียกผมว่าพี่เลยครับ เรียกเหล่ยก็พอ’’
ถ่างหยู่เหยี่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นก็พี่เหล่ย’’
เซี่ยเหล่ยยิ้ม
ถ่างหยู่เหยี่ยมองหน้าหลงบิง “พี่บิง ฉันมีเรื่องที่อยากจะถาม เอ่อ…ถามพี่เหล่ยได้มั้ยคะ?’’
หลงบิงพูดอย่างเย็นชาว่า “เธอจะบอกฉันให้ได้อะไรล่ะ? เขาก็เป็นคนของหน่วยงานลับ 101 แต่ไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการและเขาสามารถช่วยคุณได้ ผู้บริหารฉือยอมรับในข้อนี้และเขาเองก็เห็นด้วย……’’
ดูเหมือนเซี่ยเหล่ยจะบอกใบ้เล็กน้อยถ้าเขาไม่อยากช่วย เขาก็จะไม่ช่วย
เซี่ยเหล่ยเข้าใจในสถานการณ์แต่เขาก็ยังนิ่งเฉยและไม่ได้พูดอะไรออกมา ถ้าถ่างหยู่เหยี่ยยังไม่พูดให้ชัดเจนว่าเป็นงานอะไร คงจะไม่เป็นการดีที่จะให้ความช่วยเหลือแต่อย่างไรก็ตามเขายังจำได้ว่าเมื่อหลายวันที่ผ่านมาถ่างหยู่เหยี่ยได้ปรากฎตัวขึ้นอย่างลับๆในบริเวณหมู่บ้านของเขาแต่เขาก็ได้แต่คาดเดาอยู่ภายในใจ ‘หรือนี่จะเป็นจุดประสงค์ที่เธอไปปรากฏตัวใกล้ๆบ้านของเรางั้นหรอ?’
ถ่างหยู่เหยี่ยยิ้ม “ดี งั้นเดี๋ยวฉันจะกลับไปคุยกับพ่อเอง’’
หลงบิงพูดว่า “คุณไปหาอเลน่าเถอะ’’
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าและเดินตรงไปยังห้องของอเลน่า
หลังจากที่เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในห้องหลงบิงก็พูดถึงเรื่องที่ว่า “หยู่เหยี่ย งานนี้มันอันตรายเกินไป เขายังไม่พร้อมในตอนนี้และเขาก็เป็นนักธุรกิจถ้าเขาถูกจับตาโดยผู้ที่มีอำนาจ เขาคงไม่สามารถทำธุรกิจได้ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายแบบนี้’’
ถ่างหยู่เหยี่ยยิ้ม “เราไม่ได้ไปปากีสถานเพื่อช่วยตัวประกันหรอกนะ ฉันกับพี่ชายจะไปทำเรื่องที่ดีไม่ได้จะให้เขาไปช่วยเรื่องนั้นอยู่ตลอด โอเคมั้ย?’’
หลงบิงพูดว่า “แต่ฉันสามารถให้คุณยืมปืนไรเฟิลของฉันได้นะ เซี่ยเหล่ยเขาดัดแปลงให้ฉัน มันสามารถซุ่มยิงเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปถึง 3300 เมตรได้อย่างแม่นยำเลยล่ะ’’
“ว้าว! นั่นมันเจ๋งไปเลย ฉันอยากจะลองยิงปืนไรเฟิลนั่นดูบ้าง’’
ภายในห้อง อเลน่ามองเซี่ยเหล่ยที่เข้ามาอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นใบหน้าสวยๆของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างอบอุ่น “คุณอาการดีขึ้นหรือยัง?’’
อเลน่าเข้ามากอดเซี่ยเหล่ยจากนั้นเธอหอมแก้มเขานี่เป็นมารยาทในทวีปยุโรป เธอทำตัวตามธรรมชาติของเธอแต่เขากลับรู้สึกเขินอาย
จากนั้นไม่นานอเลน่าปล่อยเซี่ยเหล่ยพลางพูดว่า “ฉันไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ฉันไม่ชอบที่นี่เลย ไม่ชอบคนพวกนี้ด้วย’’
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างใจเย็นว่า “ค่อยๆทำความคุ้นเคยนะ เดี๋ยวคุณก็ปรับตัวได้เอง’’
อเลน่าพูดว่า “เมื่อวาน คุณหลงชวนให้ฉันทำงานที่นี่ ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงกับเธอแต่คุณก็รู้หนิว่าฉันอยากไปทำงานที่บริษัทคุณ ฉันอยากไปทำงานกับคุณ’’
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “ผมก็จะมาชวนคุณเหมือนกัน’’
จู่ๆอเลน่าก็ทำหน้าเข้มขึ้น “นี่คุณก็มาหว่านล้อมฉันเหมือนกันหรอ?’’
เซี่ยเหล่ยพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “จากสถานการณ์ของคุณตอนนี้ คุณต้องเปลี่ยนสถานะใหม่ ชีวิตใหม่ ที่ประเทศจีนสามารถปกป้องคุณได้ถ้าคุณอยากไปทำงานที่บริษัทของผมแน่นอนว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้วแต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา คุณต้องรอจนกว่าเหตุการณ์จะสงบลงก่อนคุณจึงจะสามารถออกไปในที่สาธารณะได้’’
“คุณคิดว่าฉันไปได้จริงๆหรอ?’’
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ความจริงแล้ว ผมคิดว่าจะให้คุณมาทำงานด้วยกันกับผมที่บริษัทยังไม่มีหัวหน้าวิศวกร คุณไม่ต้องสงสัยเลยว่าตำแหน่งนี้ผมอยากให้ใครทำแต่เราต้องรอโอกาส เหมือนตอนนี้ตำแหน่งหัวหน้าวิศวกรในบริษัทอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้ากำลังรอคุณอยู่ คุณคิดว่าดีมั้ย?”
อเลน่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “นอกจากเป็นหัวหน้าวิศวกรที่บริษัทคุณแล้ว ฉันอยากจะทำงานอื่นอีกด้วย’’
“งานอื่นงั้นหรอ?’’ เซี่ยเหล่ยโพล่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ไม่มีปัญหา คุณอยากทำในตำแหน่งอะไรล่ะ?’’
“เลขาของคุณ’’ อเลน่าพูด
เซี่ยเหล่ยแปลกใจเล็กน้อยและเขาก็ยิ้มออกมา “ไม่มีปัญหา’’
“คุณหลางจะไม่ว่าเอาหรอ?’’
“เธอกลับอเมริกาไปแล้ว อืม เรา…เลิกกันแล้วล่ะ’’
“หา ?’’ อเลน่ายิ้มขึ้นมาแต่เธอก็ต้องหุบยิ้มลงในทันทีและทำสีหน้าเป็นเชิงขอโทษ “ขอโทษนะ ฉันไม่รู้’’
พฤติกรรมของแต่ละคนช่างต่างกันจริงๆ เจียงหยู่ยี่หัวเราะส่วนอเลน่ากลับดีใจ และก็ขอโทษเขาในเวลาเดียวกัน
“ไม่ต้องห่วงหรอกแต่ตอนนี้คุณควรจะออกไปข้างนอกบ้าง ซ่อนตัวอยู่แต่ในนี้มันจะไม่ดีต่อร่างกายของคุณนะ’’ เซี่ยเหล่ยพูด
“อืม ฉันขอจับมือคุณได้มั้ย?’’ อเลน่ามองเซี่ยเหล่ยอย่างหวานเยิ้ม
“นั่น…ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว’’ เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมา ถ้ามันทำให้เธอมีความสุขเขาก็ทำให้เธอได้ถึงแม้คนทั้งสามคนที่อยู่ข้างนอกจะเห็นแต่เขาก็ไม่สนใจ
เหตุการณ์ของหลางซือเหยาเป็นเหมือนมีดที่กรีดแทงหัวใจของเขา มันมีอิทธิพลต่อเขาอย่างลึกซึ้งและมันได้เปลี่ยนแปลงเขาไปแม้แต่น้อย……..
เซี่ยเหล่ยจูงมืออเลน่าออกมาจากห้อง สายตาของทั้งสามคนจับจ้องไปยังร่างสองร่างที่เดินอยู่ตรงลาน พวกเขามองทั้งสองคนด้วยสายตาแปลกๆ ในเยอรมนีการที่ผู้หญิงและผู้ชายกอดหรือจูบกันนั้นเป็นเรื่องปกติแต่ที่นี่คือประเทศจีนการที่จะทำแบบนั้นได้จะต้องเป็นคนรักกันเท่านั้น ดังนั้นทั้งสามคนที่เห็นเหตุการณ์นี้จึงมีปฏิกิริยาที่แปลกออกไป
เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมา “เธอรับปากกับผมแล้ว พวกคุณไปบอกผู้บริหารฉือได้เลย แต่ตอนนี้ผมขอตัวไปเดินเล่นกับเธอก่อนนะ’’
อเลน่าพูดเป็นภาษาจีนอย่างตะกุกตะกัก “สวัสดีค่ะ’’
หลงบิงมองตามหลังเซี่ยเหล่ยและอเลน่าที่กำลังเดินไปทางหุบเขา เธอพูดกับตัวเองเบาๆว่า “เขาเปลี่ยนไปแล้ว’’
ติดตามตอนต่อไป………..