Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 241
TXV – 241 สอบสวนด้วยอารมณ์ !
เจียงหยูยี่ยังนำกำลังคนมาไม่ถึงที่นี่แต่หู่ฮั่วตื่นมาเห็นสภาพภายในห้องก่อน และนั่นทำเขากลัวศพที่นอนจมกองเลือด มีมีดปักอยู่ที่หัวใจ ปืนตกอยู่ที่พื้นทั้งหมดทั้งมวลล้วนทำเขากลัวสุดขีดจนตัวสั่นไปหมด หู่ฮั่วพยายามลุกขึ้นวิ่งหนีแต่พยุงร่างตัวเองได้เพียงครึ่งหนึ่งก็ล้มลงอีกรอบแม้เขาจะได้สติแล้วแต่ดูเหมือนว่ายายังออกฤทธิ์อยู่
“ท่านนายกฯหู่ คุณโอเคมั้ย?” เซี่ยเหล่ยถามขึ้น
“อ๋า!” หู่ฮั่วร้องออกมาสุดเสียงรีบหันหลังกลับไปมองและพบกับเซี่ยเหล่ยที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
“ท่านนายกฯหู่ คุณไม่เป็นไรนะ?” เซี่ยเหล่ยถามอีกครั้ง
“แก แก…… อย่าเข้ามานะ!” ที่หว่างขาของหู่ฮั่วมีน้ำเปียกโชกแต่ตอนนี้เขาคงไม่สนแล้วหู่ฮั่วพยายามคลานหนีเพราะความคิดแรกที่เข้ามาในหัวเขาตอนเห็นศพและเซี่ยเหล่ย คือเซี่ยเหล่ยเป็นฆาตกร!
เซี่ยเหล่ยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านนายกฯหู่ ใจเย็นๆก่อนครับ! ผมไม่ใช่ฆาตกร ผมช่วยคุณไว้!”
“ช่วยผม?” หู่ฮั่วนิ่งอึ้งพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่สีหน้าของเขาดูสับสน
เซี่ยเหล่ยหยิบโทรศัพท์มาเปิดเสียงที่อัดเอาไว้ ก่อนที่มันจะดังออกมาจากโทรศัพท์
หู่ฮั่วได้ยินเสียงด่งหวู่และฉิงฉี๋คุยกันในร้านอิมพิเรียลมาร์เกนเขาก็มีปฏิกิริยาทันที “นี่……”
เซี่ยเหล่ยวางโทรศัพท์ลงบนเตียงแล้วเอากล้องมาเปิดวิดีโอของฉิงฉี๋ให้ดู
เมื่อฟังเสียงจากวิดีโอหู่ฮั่วก็เข้าใจอย่างละเอียด เขาจ้องมองสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับเขาตาเขม็งแต่เมื่อมองฉิงฉี๋ใกล้ขึ้นอีกนิด เขาทั้งกลัวและโกรธขึ้นมาอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหนหู่ฮั่วรีบดันตัวขึ้นจากพื้นแล้ววิ่งตรงเข้ามาหน้ากล้อง เขารีบปิดมันลงและดึงเมมโมรี่การ์ดออกมาถือไว้ในมือ
เซี่ยเหล่ยกล่าวว่า “ท่านนายกหู่ฯ ไม่ต้องกังวลไปครับ พวกเขาไม่เอาวิดีโอนี่ไปเผยแพร่แน่นอนเมมโมรี่การ์ดในมือเราตอนนี้เป็นชิ้นเดียวที่มีครับ”
หู่ฮั่วรู้สึกโล่งใจที่ได้ฟังเซี่ยเหล่ยพูดแบบนี้แม้ว่าวิดีโอจะถูกถ่ายหลังจากที่เขารับยานั่นเข้าร่างไปแล้ว แต่ถ้าวิดีโอนี้หลุดออกไป มันจะต้องกระทบกับอาชีพเขาแน่นอน
“ท่านนายกฯหู่ ใส่เสื้อผ้าเถอะครับอีกไม่นานตำรวจก็คงมา” เซี่ยเหล่ยกล่าว
หู่ฮั่วจึงใส่เสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนั้นถอดออกด้วยความรีบร้อน ระหว่างนั้นเซี่ยเหล่ยก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นแบบรวบรัดให้เขาฟังไปด้วย
“น่าเกลียดสิ้นดี! ผมอุตส่าห์ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแล้วช่วยแก้ปัญหาขัดแย้งของพวกคุณแท้ๆ แต่เจ้าเด็กนั่นกลับใจจืดใจดำจงใจมาทำผมเสียชื่อเสียงซะนี่!” หู่ฮั่วโมโหสุดขีด
เซี่ยเหล่ยพูดต่อ “ท่านนายกฯหู่ คุณเป็นหนี้ชีวิตผม”
หู่ฮั่วนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ใช่ คุณพูดถูก ถ้าคุณไหวตัวไม่ทันเราคงไม่ได้มาคุยกันอยู่ตรงนี้หรอก”
“ผมไม่ขอให้คุณตอบแทนอะไรมากหรอกครับแค่คุณโทรไปขอให้สำนักงานอุตสาหกรรมและเชิงการพาณิชย์ยกเลิกการระงับสินค้าของบริษัทอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าก็พอครับ” เซี่ยเหล่ยมองหู่ฮั่ว
“นี่……” หู่ฮั่วหลบสายตาไปอีกทาง
เซี่ยเหล่ยยิ้มเล็กน้อย “ตอนนี้คุณยังกลัวพวกตระกูลกู๋อยู่เหรอครับ?”
หู่ฮั่วตอบ “ให้เวลาผมคิดหน่อย ผมสับสนมาก ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเลย”
รอยยิ้มบนใบหน้าเซี่ยเหล่ยหายไปในทันที “ท่านนายกฯหู่ คุณจะตอบแทนที่ผมช่วยชีวิตคุณใช่มั้ยครับ? คุณคงไม่มีทางมาต่อกรกับตระกูลกู๋เพื่อคนของครอบครัวเล็กๆแบบผมอยู่แล้วหรือต่อให้เขาอยากฆ่าคุณ คุณก็คงไม่กล้าต่อต้านด้วยซ้ำ ผมไม่หวังอะไรในตัวคุณหรอก แต่ว่านะที่ไกปืนของด่งหวู่มีรอยนิ้วมือคุณแถมที่ตัวของผู้หญิงคนนี้ก็มีร่องรอยของคุณด้วย……”
“อย่าพูดนะ!” หู่ฮั่วขัดขึ้น “ผมสู้ ผมจะสู้ พอใจมั้ย? คุณ คุณก็ช่วยผมจัดการร่องรอยที่ตัวเธอด้วยนะ”
เซี่ยเหล่ยเลิกคิ้วขึ้นจนหน้าผากเป็นรอยย่น
“เร็วๆ เร็วเข้า ตำรวจกำลังมานะ!” หู่ฮั่วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อยืนยันกับเซี่ยเหล่ยว่าเขาจะทำตามข้อตกลงด้วยท่าทีวิตกกังวลมากๆ
เซี่ยเหล่ยเดินไปที่ร่างของผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่ถ้าเพื่อพนักงานหลายร้อยชีวิตของบริษัทอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าแลกกับมือต้องเปื้อนหน่อยเขาก็ยอมทำ
เพียง 1 นาทีต่อมา เสียงเกรี้ยวกราดของหู่ฮั่วก็ดังก้องไปทั่วห้อง “ยกเลิกซะ! นี่คุณเข้าใจสิ่งที่ผมพูดมั้ย? ยกเลิกการสั่งห้ามสินค้าของบริษัทอุตสาหกรรมอาชาสายฟ้าซะ! ไอ้เวรเอ๊ย…… ผมให้เวลาคุณ 10 นาที ไม่งั้นก็ออกไปทำงานที่อื่น!”
เซี่ยเหล่ยแทบไม่ต้องเดาเลยว่าหู่ฮั่วคุยกับใครอยู่นั่นต้องเป็นเฉียวปิง เลขาฯของสำนักงานสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์อย่างแน่นอน ในระหว่างที่หู่ฮั่วกำลังตะคอกใส่เฉียวปิง เขาก็ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางขวาค้ำศีรษะ สีหน้าเคร่งเครียดไปด้วย……
กว่า 10 นาทีต่อมา รถตำรวจหลายคันก็ขับมาถึง ตำรวจกลุ่มใหญ่รีบตรงเข้ามาในบ้านพักโดยมีเจียงหยูยี่นำหน้า ในมือเธอถือปืนพกเอาไว้โดยไม่มีท่าทีกลัวใดๆ ส่วนตำรวจที่อยู่หลังเธอก็มีปืนกันครบมือ พร้อมรับการปะทะ ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เจียงหยูยี่และตำรวจที่อยู่ใต้บัญชาการของเธอก็ทำได้เพียงแค่ถ่ายรูปที่เกิดเหตุ รายงาน จบที่จัดการศพและทำความสะอาดที่เกิดเหตุ
****** แอดต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่าตอนที่ 240 ใส่ชื่อฉิงฉี๋กับดงหวู่สลับกัน คนที่กลายเป็นศพก็คือด่งหวู่ เลือดที่ไหลเนืองทั่วพื้นเป็นเลือดของด่งหวู่นะครับ ******
เซี่ยเหล่ยและหู่ฮั่วรวมทั้งฉิงฉี๋ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นและผู้หญิงที่บาดเจ็บก็ถูกจับกุมตัวไปที่โรงพัก
ฉิงฉี๋และผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 หลังจากได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วพวกเขาถูกแยกกันควบคุมตัวไปที่ห้องสืบสวน 2 ห้อง เซี่ยเหล่ยและหู่ฮั่วยืนอยู่อีกฝั่งของกระจกนอกห้องสอบสวน มองเจียงหยูยี่ที่กำลังถามคำถามฉิงฉี๋อยู่
ในห้องสอบสวนนั้นฉิงฉี๋ก็ยังคงปากแข็ง ไม่ว่าเจียงหยูยี่จะถามอะไรเขาก็เอาแต่เงียบ จนเจียงหยูยี่เริ่มโมโหแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้
หู่ฮั่วส่ายหน้าเบาๆ แล้วถอนหายใจออกมาด้วยเสียงต่ำ “เซี่ยเหล่ย เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้……”
เซี่ยเหล่ยกล่าว “ท่านนายกฯหู่ สบายใจได้ครับ ผมจะพูดแค่เรื่องที่พูดได้ เรื่องอะไรที่พูดไม่ได้ผมก็จะไม่พูด”
หู่ฮั่วแค่นยิ้มออกมา “ผมให้สำนักงานอุตสาหกรรมและการพานิชย์ยกเลิกการสั่งห้ามสินค้าของบริษัทคุณแล้วนะ ผมอาจจะถูกสั่งย้ายก็ได้เมื่อก่อนผมเคยคิดมากเรื่องนี้นะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ ผมรู้แล้วว่าการรักษาตำแหน่งนี้ไว้ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ แต่การทำสิ่งที่ถูกต่างหากที่ผมต้องการจริงๆ ผมจะต้องทำสิ่งดีๆให้ได้ด้วยจิตสำนึกของตัวเอง”
แม้จะได้ยินประโยคนี้ช้าไปหน่อยแต่มันก็ยังส่งผลต่อใจเซี่ยเหล่ยอยู่ “ท่านนายกฯหู่ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ คุณจะไม่เป็นไร”
“หวังว่างั้นนะ” เขาตอบรับด้วยความรู้สึกโล่งเล็กๆแต่ท่าทีของเขายังคงดูถือตัวอยู่เพราะในใจเขายังไม่ได้มองโลกในแง่ดีไปเสียทั้งหมด
“แต่เราจะจัดการกู๋เค่อหวู่ได้ยังไง?” เซี่ยเหล่ยยังไม่ลดละความพยายาม
หู่ฮั่วส่ายหน้า “ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่ผมแนะนำนะว่าอย่าไปยุ่งกับคนแบบนั้นเลยถึงแม้มันจะมีหลักฐานพอก็เถอะ คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้สำหรับเขา !”
“ครับ……แล้วถ้าฉิงฉี๋สารภาพว่าเป็นคุณล่ะ?” เซี่ยเหล่ยรีบเปลี่ยนเรื่องในทันที
“งั้นก็ลองดู” หู่ฮั่วหันไปพูดกับตำรวจที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องสอบสวน “ให้เขาเข้าไปถามคำถามอะไรหน่อยสิ”
เมื่อนายกเทศมนตรีพูดจบตำรวจที่ฟังก็ไม่ยืนเฉย เขารีบเปิดประตูให้เซี่ยเหล่ยตามคำสั่ง
“คุณเข้ามาทำไม?” เจียงหยูยี่มองเซี่ยเหล่ยที่เดินเข้ามาในห้องสอบสวนด้วยความแปลกใจ
เซี่ยเหล่ยตอบ “ท่านนายกฯหู่บอกให้ผมเข้ามาช่วยคุณน่ะ ผมอยู่ในเหตุการณ์ แล้วผมก็เข้าใจผู้ชายคนนี้ดีกว่าคุณด้วย เขาเลยให้ผมเข้ามา”
ฉิงฉี๋มองเซี่ยเหล่ย สายตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“คุณตัดสินคนเป็นด้วยเหรอ?” เจียงหยูยี่ถามด้วยความไม่เชื่อว่าเซี่ยเหล่ยจะทำอะไรแบบนี้ด้วย
เซี่ยเหล่ยเดินเข้ามาใกล้ๆฉิงฉี๋ ทันใดนั้นเขาก็ถีบเข้าที่ไหล่ของฉิงฉี๋จนร่วงลงกระแทกกับพื้น
เจียงหยูยี่ถึงกับอ้าปากค้าง
“คุณเห็นมั้ยว่า มันคงไม่เหมาะถ้าจะสอบสวนกันด้วยวิธีนี้?” เซี่ยเหล่ยกล่าว
เจียงหยูยี่ที่เพิ่งได้สติกลับมาก็รีบยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อสละเก้าอี้ให้เซี่ยเหล่ย “ฉันถามเขาพอแล้วล่ะ มานั่งนี่สิ”
เซี่ยเหล่ยนั่งลงบนเก้าอี้ของเธอแล้วขึ้นเสียงเย็นเฉียบ “ฉิงฉี๋ อยากให้ผมพูดเรื่องที่เกิดขึ้นมากกว่านี้มั้ย? การลักพาตัวและการฆาตกรรม คุณกำลังเผชิญหน้าอยู่คือโทษประหารชีวิตนะแม้แต่ตระกูลกู๋ก็คงช่วยอะไรคุณไม่ได้ แต่ถ้าคุณยอมบอกชื่อของคนตระกูลกู๋มา โทษของคุณก็จะได้รับการผ่อนผัน อย่างน้อยก็ไม่โดนยิงตายนะ”
ฉิงฉี๋คลานกับพื้นเพื่อกลับมานั่งที่เดิม เขาจ้องมองเซี่ยเหล่ยยกมุมปากดูถูกเป็นนัยๆ “เซี่ยเหล่ย ตั้งใจจะเล่นบทหมาป่าจับเหยื่องั้นเหรอ? ผมบอกเลยว่าผมไม่ลังเลแน่ๆ “
“ตั้งใจจะตายเพื่อตระกูลกู๋จริงๆเหรอ?”
“ตระกูลกู๋อะไรกัน ผมไม่เห็นรู้จัก”
เซี่ยเหล่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “อันที่จริง ผู้หญิงคนนั้นสารภาพมาแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ยอมบอกเธอจะรอดแต่คุณตาย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า……” ฉิงฉี๋หัวเราะด้วยน้ำเสียงประหลาด
เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้ว “หัวเราะอะไร?”
“ก็หัวเราะที่คุณมันโง่ไง” ฉิงฉี๋เยาะเย้ย “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใบ้ เธอจะสารภาพได้ยังไง?”
เซี่ยเหล่ยอึ้งไป ไม่แปลกเลยที่ตำรวจที่สอบสวนเธอก่อนหน้านี้ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยเป็นเพราะว่าเธอเป็นใบ้นี่เอง……
ฉิงฉี๋พูดต่อ “อย่าเอาโทษประหารมาขู่ผมเลย ผมพูดไว้ตรงนี้เลยนะ ตอนนี้ทุกอย่างถูกวางแผนเอาไว้หมดแล้วช่วงเวลา 5 ปีที่ผมได้ออกมาข้างนอก มีใครบางคนรอผมอยู่ในคุกด้วยสิ ผมถือซะว่าผมไปพักร้อนก็แล้วกันแต่การที่คุณเอาเรื่องนี้มาขู่ผม ไม่ได้แปลว่าเป็นคุณหรอกเหรอที่โง่น่ะ?”
ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยก็ขยุ้มผมฉิงฉี๋แล้วดึงให้เขาก้มลงอย่างรุนแรงจนหัวฟาดกับโต๊ะ
“พวกเขายอมให้คุณทำแบบนี้ด้วยเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉิงฉี๋หัวเราะ “จะฆ่าผมก็เอาเลย!”
เซี่ยเหล่ยยื่นหน้าเข้าใกล้หูของฉิงฉี๋แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “คนโง่น่ะคุณต่างหาก นี่ไม่รู้เหรอว่าฮวงยี่หู่ตายยังไง? แถมคิดว่าอยู่ในคุกแล้วมันสนุกอีก ถ้าผมเป็นกู๋ดิงชานหรือกู๋เค่อหวู่ ผมคงส่งคนมาฆ่าคุณในคุกแล้ว รู้มั้ยว่าทำไม? เพราะมีแค่ปากของคนตายเท่านั้นแหละที่ปิดสนิทที่สุด”
เซี่ยเหล่ยปล่อยมือจากผมฉิงฉี๋ “ผมให้เวลาคุณคิด 2 นาที”
ฉิงฉี๋ถอยตัวกลับมานั่งอย่างเดิมด้วยสีหน้าเริ่มไม่แน่ใจ สิ่งที่เซี่ยเหล่ยพูดพลิกเกมเปลี่ยนตัวเองเป็นฝ่ายเหนือกว่าแล้ว ชีวิตฮวงยี่หู่คือบทเรียนของเขาจริงๆ ฮวงยี่หู่อยู่กับตระกูลกู๋และทำเรื่องสกปรกมามากมายเป็นภูเขาเลากา แต่สุดท้ายก็จบชีวิตลงแบบคลุมเครืออยู่ดี
ในสายตาของผู้ร่วมสอบสวนอย่างเจียงหูยี่ที่มองเซี่ยเหล่ยอยู่ตลอดตอนนี้ทั้งความหยาบคาย ก้าวร้าวและความฉลาดของเขามันเหมือนน้ำหอมที่มีกลิ่นลึกลับสำหรับเธอ เป็นกลิ่นพิเศษที่ไม่สามารถหาได้ทั่วไป ทำให้เธออยากลองสัมผัมความหอมนั้นสุดๆและอยากจะฉีดพรมให้ทั่วทั้งร่างกาย
เวลาสองนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเซี่ยเหล่ยกำลังจะพูดต่อ ประตูห้องสอบสวนก็เปิดออกเสียก่อน “เจ้าหน้าที่เจียง มาพบทนายหน่อย เขาบอกว่าเขาอยากคุยกับคุณ “
ฉิงฉี๋หัวเราะราวกับรู้สึกตลกอะไรบางอย่าง “เซี่ยเหล่ย คุณแพ้แล้ว คุณจะไม่ได้อะไรจากผม แล้วพอผมออกไปเราก็ไปเจอกันใหม่ในศาล โอ้จริงสิ ถึงวันนั้นเราคงได้สนุกกันแน่”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังเข้ามาจากด้านนอกห้องสอบสวน “เกิดอะไรขึ้น? ทำร้ายร่างกายเพื่อให้สารภาพเหรอ? นี่มันผิดกฎหมายนะ ผมขอเตือนคุณไว้เลย ห้ามทำอะไรลูกความผมต่อให้คุณทรมานเขาแล้วได้หลักฐานอะไรไป คุณก็ใช้มันในศาลไม่ได้ คุณทำงานให้ใคร? ผมจะคุยกับคนที่รับผิดชอบคุณ!”
“เอาไงต่อ?” เจียงหยูยี่ถามเพราะคิดอะไรไม่ออกจริงๆ
“ทำแบบปกติที่คุณทำก่อนที่ผมจะมาก็พอ” เซี่ยเหล่ยยอมแพ้และกำลังจะเดินออกจากห้องไปเพราะเขาไม่ใช่ตำรวจถ้าทนายคนนั้นมาเห็นเขาสอบสวนฉิงฉี๋มันต้องมีปัญหาตามมาแน่ๆ
“คืนนี้คุณกลับบ้านมั้ย?” จู่ๆเจียงหยูยี่ก็ถามขึ้น
เซี่ยเหล่ยงงๆเล็กน้อย “อือ”
“ทำอาหารให้อร่อยนะ วันนี้ฉันจะไปกินมือเย็นด้วย” เจียงหยูยี่กล่าว
ติดตามตอนต่อไป…………