Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 247
TXV – 247 ไม่ทันตั้งตัว !
“พี่เหล่ย พี่เซี่ยเหม่ย ลุกขึ้นมาทานข้าวได้แล้ว’’ เสียงของเซี่ยเสวียดังมาจากข้างนอกห้อง
คนทั้งสองคนที่ดูอ่อนล้าค่อยๆตื่นขึ้นจากการหลับใหลและต่างก็มองหาเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเคอะเขิน จริงๆแล้วสำหรับเซี่ยเหล่ยนั่นเป็นสถานการณ์ปกติส่วนอเลน่าก็รีบสวมชุดนอนของตัวเองและเดินออกจากห้องไป
เซี่ยเสวียท้าวแขนที่ประตูและมองอเลน่าที่เพิ่งออกมาจากห้องของพี่ชายเธอ อเลน่าดูตัวเล็กลงไปมากเมื่ออยู่ในชุดนอนของเซี่ยเสวีย
อเลน่ารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อเซี่ยเสวียยิ้มให้ “ฉัน…เข้าไปในนั้นแค่แปปเดียว อืม……ฉันเข้าไปถามพี่ชายของเธอเรื่องแผนงานน่ะ’’ ภาษากายของอเลน่าที่สื่อออกมาแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้โกหก
เซี่ยเสวียพยักหน้าตอบรับ “ค่ะ ฉันรู้แล้วแต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือตอนนี้เวลาสิบโมง พวกพี่ควรจะตื่นมากินข้าวเช้าได้แล้ว’’
อเลน่าขยิบตาสีฟ้ากลมโตของเธอก่อนที่จะเดินออกจากห้องของเซี่ยเหล่ยไป
เซี่ยเหล่ยออกมาจากห้องในวันนี้เขาสวมชุดสูทและใส่รองเท้าหนัง เขาดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งตื่นเลยแต่กลับดูเหมือนดาราดังที่กำลังจะไปร่วมงานสำคัญ…..
“น้องไม่ทานอาหารเช้าหรอ? ทำไมยังอยู่ที่นี่อีกล่ะ? แล้วทำไมต้องมองพี่แบบนั้นด้วย?’’ เซี่ยเหล่ยถามด้วยความเป็นห่วงและสงสัยไปพร้อมๆกัน
เซี่ยเสวียยิ้ม “พี่นี่ขยันจริงๆเลยนะ ถึงขนาดเอาเรื่องงานไปพูดกันบนเตียง พี่ต้องบอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น ? พวกพี่เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆงั้นหรอ?’’
เซี่ยเหล่ยมีสีหน้าแดงขึ้นในทันที “ไปได้แล้วมัวทำอะไรอยู่? การดูแลเด็กๆในแต่ละบ้านก็ต้องให้ผู้ใหญ่คอยจัดการไม่ใช่หรือไง?’’
เซี่ยเสวียเบะปากก่อนที่จะพูดว่า “ฉันก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ชอบทำเหมือนฉันเป็นเด็กๆอยู่เรื่อย ไม่คุยกับพี่แล้ว !’’
อาหารเช้ามื้อนี้ดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่น่าอึดอัดจนในที่สุดอเลน่าก็พูดขึ้นอย่างร่าเริงเพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนั่น……
และในขณะที่กำลังทานมื้อเช้ากันอย่างสนุกสนานเซี่ยเสวียก็พูดว่า “พี่ วันนี้ฉันจะไปเที่ยวกับเพื่อน พี่ไม่ต้องรอให้ฉันมาทานข้าวกับพี่นะ พี่ทานก่อนได้เลย’’
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “ไปเถอะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ’’
เซี่ยเสวียก็ยังหันไปพูดกับอเลน่าด้วยว่า “พี่เซี่ยเหม่ย ฉันไปก่อนนะแล้วเจอกันค่ะ’’
“แล้วเจอกันนะเสวีย’’ อเลน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอกเธอมองเซี่ยเสวียที่กำลังจะออกไป
เซี่ยเสวียเดินไปถึงหน้าประตูแล้วแต่เหมือนเซี่ยเหล่ยจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จึงเรียกเธอไว้ “เดี๋ยวก่อนเสวีย พี่จะให้ลู่เชิงไปกับน้องเขาเป็นคนในบริษัทของพี่เอง น้องรอก่อนอีก 15 นาทีเขาคงมาถึง’’
เซี่ยเสวียดูแปลกใจก่อนที่จะพูดว่า “พี่ จะให้บอดี้การ์ดมาตามตัวฉันหรอ? ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงนะ ฉันไม่ต้องการบอดี้การ์ดเพื่อนสนิทคงจะหาว่าฉันเป็นบ้าจนต้องมีคนมาคุม ฉันไม่อยากเสียเพื่อนนะ’’
เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้ว “น้องต้องเชื่อพี่ลืมไปแล้วหรอว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? คนของตระกูลกู๋อาจจะทำมิดีมิร้ายกับน้องถ้าเขาทำให้น้องเจ็บตัวขึ้นมาล่ะ พี่จะทำอย่างไร ?’’
“พี่เป็นห่วงน้องงั้นหรอ?’’
สีหน้าของเซี่ยเหล่ยยิ้มแย้มขึ้น “ก็ใช่น่ะสิ ! พี่จะให้ลู่เชิงไปกับน้อง เขาเชี่ยวชาญในเรื่องการต่อสู้เพราะฉะนั้นน้องและเพื่อนสนิทของน้องไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับอันตราย’’
“ก็ได้ งั้นให้พี่ลู่เชิงไปกับฉัน’’
ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยรีบโทรหาลู่เชิงหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที เขาก็มาถึง ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยรู้สบายใจขึ้นที่จะยอมให้เซี่ยเสวียออกไปข้างนอก
หลังจากที่เซี่ยเสวียออกไป….
“คุณบอกว่าเป็นคนจากทางสหรัฐอเมริกาใช่มั้ย? CIA งั้นหรอ?’’ อเลน่าสงสัย แต่ตอนอยู่ต่อหน้าเซี่ยเสวียและลู่เชิงเธอไม่กล้าที่จะพูดถึงเรื่องนี้
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดว่า “ดูเหมือนจะไม่ใช่ แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ คุณต้องระวังตัวนะอย่าออกมาข้างนอกถ้าไม่จำเป็น’’
อเลน่ายักไหล่ “เมื่อวานฉันก็ไม่ได้ไปไหนและอีกอย่างฉันมีคนคุ้มกันตลอดเวลา ส่วนคนไม่มีคนคอยคุ้มกันคือคุณนั่นแหละที่ต้องระวังตัวให้มากขึ้น’’
“อืม เราคุยถึงเรื่องแผนการของคุณเมื่อคืนต่อ…’’ เซี่ยเหล่ยไม่กล้าพูดถึงเรื่องที่เมื่อคืนเขาเพิ่งได้รับประสบการณ์ใหม่จากสาวชาวเยอรมันและเขาจะไม่ลืมเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปตลอดชีวิต
อเลน่าออกอาการเขินขึ้นมาเล็กน้อย “คุณพูดถึงเมื่อคืน…ฉันยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ’’
ทั้งเสน่ห์ ความอ่อนโยน และเสียงที่เซ็กซี่ของเธอนั้นได้ปลุกบางส่วนในร่างกายของเซี่ยเหล่ยให้ตื่นขึ้นทันที เขาพูดด้วยท่าทีเก้ๆกังๆว่า “เราจะคุยเรื่องแผนการของคุณต่อ…..’’
อเลน่าขยิบตาให้เซี่ยเหล่ย “งั้นเราไปคุยกันในห้องดีกว่า’’
เซี่ยเหล่ย “…’’
อเลน่าดึงแขนของเซี่ยเหล่ยตรงไปยังห้องนอน…………..
หลังจากนั้นเวลาล่วงเลยไปจนกระทั่งบ่ายสองโมง “แผนงานของผมเสร็จหมดแล้ว คุณล่ะต้องใช้เวลาเท่าไหร่?’’ เซี่ยเหล่ยวางแผนการที่เสร็จเรียบร้อยแล้วลงบนโต๊ะจากนั้นหันไปถามอเลน่า
อเลน่าพูดทั้งๆที่ผมยังยุ่งเหยิง “ฉันต้องใช้เวลาถึงครึ่งเดือนเพื่อที่จะทำแผนนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ ฉันอยากจะใช้เวลาครึ่งเดือนนั้นอยู่ที่นี่กับคุณ คุณช่วยบอกเรื่องนี้กับหลงบิงหน่อยได้มั้ย?’’
อาการของเซี่ยเหล่ยดูแปลกไป “เธอเป็นคนที่ผมไม่เคยเข้าใจอะไรเธอแม้แต่น้อย ผมเดาใจเธอไม่ออก’’
“อืม เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ไม่ช้าไม่เร็วฉันก็ต้องไปทำงานที่บริษัทของคุณอยู่ดี’’ อเลน่าพูด
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก “อีกครึ่งเดือนหลังจากนี้คุณจะเอาข้อเสนอที่คุณวางแผนไว้มาให้ผม ผมจะไปพบกับหลงบิงและท่านผู้บริหารฉือเพื่อเจรจาข้อตกลงเรื่องที่คุณจะมาทำงานที่บริษัทของผม’’
“จริงหรอ? นั่นเป็นเรื่องที่ดีเลยล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะรีบทำแผนการนี้ให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้’’ อเลน่าพูดกับเซี่ยเหล่ยอย่างตื่นเต้น
จู่ๆโทรศัพท์ของเซี่ยเหล่ยก็ดังขึ้น
ในสายโทรศัพท์คือเซี่ยเสวียนั่นเอง เขารีบสไลด์หน้าจอเพื่อรับสายน้องสาวในขณะที่หัวของเขาเริ่มมีแต่ความวิตกกังวล “พี่คะ! พี่เชิงเขา…เขา..’’
หัวใจของเซี่ยเหล่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม “ลู่เชิงหรอ? อย่ารีบพูดช้าๆ’’
เซี่ยเสวียเริ่มร้องไห้ “พี่เขาถูกแทง พี่รีบมาหาฉันเถอะ ฉันกลัว!’’
“ตอนนี้น้องอยู่ที่ไหน?’’
“เราอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าฉันกับเพื่อนกำลังจะเดินไปซื้อของกัน จู่ๆก็มีคนเข้ามาจู่โจมฉันและพยายามที่จะลากฉันไปขึ้นรถ…พี่เชิงวิ่งเข้ามาสู้กับพวกมันแต่พี่เชิงก็โดนคนร้ายแทงด้วยมีด พี่คะ ฉันกลัว…ฮือๆ’’ เซี่ยเสวียสะอึกสะอื้น
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “อย่ากลัว อย่าตกใจด้วย น้องโทรเรียกรถพยาบาลก่อน พี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้’’ เขาเก็บโทรศัพท์แล้วมุ่งหน้าออกไปข้างนอกในขณะเดียวกันก็หันมากำชับกับอเลน่า “ผมต้องรีบไปมีอุบัติเหตุนิดหน่อย คุณอยู่ในนี้นะห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาด’’
“เกิดอะไรขึ้น?’’ อเลน่าถามอย่างกังวล
“ผมจะกลับมาบอกอีกที คุณอยู่ที่นี่นะ ผมไปล่ะ’’ แล้วเซี่ยเหล่ยรีบเดินออกไป
BMW M6สีดำพุ่งไปบนถนนด้วยความเร็วถึง 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตอนนี้เซี่ยเหล่ยอยากจะมีปีกสักคู่เพื่อบินไปอยู่ข้างๆเซี่ยเสวียในทันที
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นกับตาตัวเองว่าคนที่พยายามจะลักพาตัวเซี่ยเสวียคือใคร แต่เขาก็พอจะรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร……….
ลู่เชิงเคยเรียนหมัดมวยหวิงชุนเป็นเวลาสามปีการที่จะเอาชนะผู้ชายคนนี้เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้แต่เขากลับถูกทำร้ายอย่างง่ายดาย คนๆนั้นต้องแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว?
เซี่ยเหล่ยรู้สึกกดดันในขณะที่ความโกรธของเขาปะทุขึ้น “เธอเป็นทั้งน้องสาว และเป็นชีวิตจิตใจของกูไม่ว่ามันจะเป็นคนของตระกูลกู๋หรือเป็นคนของ CIA แต่มันกล้ามาทำร้ายน้องสาวของกู มึงอยากตายมากสินะ!’’
คนพวกนั้นเป็นใครกันคนของตระกูลกู๋หรือคนของ CIA? ที่เซี่ยเหล่ยคิดไว้เบื้องต้นคือคนของตระกูลกู๋เพราะเป้าหมายของทาง CIA คือตัวเขา พวกเขาคงไม่เอาเซี่ยเสวียเข้ามาเกี่ยว มันอาจจะไม่ถูกไปซะทีเดียวแต่มันก็มีความเป็นไปได้ถึง 80% นอกจากพวก CIA แล้วก็คงมีแต่ตระกูลกู๋เท่านั้น
เขาขับรถมาถึงสถานที่ที่เซี่ยเสวียบอกแต่เธอไม่ได้อยู่ที่นั่นเพราะเธอไปโรงพยาบาลแล้ว
20 นาทีต่อมาเซี่ยเหล่ยก็มาถึงโรงพยาบาล เขาเห็นเซี่ยเสวียอยู่ในห้องโถงของโรงพยาบาล
เมื่อเซี่ยเสวียเห็นเซี่ยเหล่ยเธอก็วิ่งเข้ามากอดเขาแล้วร้องไห้เบาๆ “พี่คะ…ฮือๆ………..’’
เซี่ยเหล่ยปลอบเซี่ยเสวียอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องกลัวนะพี่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายน้องได้อีก’’
เซี่ยเสวียร้องไห้อยู่สักพักก่อนที่เธอจะสงบลง
“บอกพี่ได้มั้ย? ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร?’’ เซี่ยเหล่ยถาม
เซี่ยเสวียพูดว่า “ฉันไม่เห็นหน้าพวกเขาแต่ดูจากรูปร่างของเขา เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ เขาน่ากลัวมากเลย’’
เมื่อฟังคำอธิบายถึงลักษณะของเซี่ยเสวีย เซี่ยเหล่ยก็นึกถึงบุคคลลึกลับที่แอบถ่ายรูปเขากับเฉินตูเทียนหยินในสวนจิ่งชานเพราะลักษณะของเขาดูเหมือนคนที่เซี่ยเสวียเล่าให้ฟัง……
ในขณะนั้นมีตำรวจเดินเข้ามา “คุณผู้หญิง ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณโปรดให้ความร่วมมือกับตำรวจด้วยครับ’’
เซี่ยเสวียมองหน้าเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “ไปเถอะ เดี๋ยวพี่จะไปดูลู่เชิง’’
เซี่ยเสวียเดินไปกับตำรวจ ส่วนเซี่ยเหล่ยก็เดินไปยังห้องผ่าตัดข้างหน้าห้องผ่าตัดนั้นมีตำรวจอยู่สองคน ประตูห้องผ่าตัดคงปิดอยู่เพราะภายในนั้นหมอกำลังทำการผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตลู่เชิง
ตาซ้ายของเซี่ยเหล่ยกระตุกขึ้นเล็กน้อย ภาพภายในห้องผ่าตัดก็ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ
ในห้องผ่าตัด มีหมออยู่สองคนที่กำลังทำการผ่าตัดให้กับลู่เชิงข้างๆมีพยาบาลหลายคน บนเตียงผ่าตัดมีร่างของลู่เชิงที่นอนหลับอยู่เขาสวมหน้ากากออกซิเจน บนร่างของเขามีมีดอยู่สามเล่มปักอยู่ตามจุดต่างๆ ตรงหน้าท้องส่วนล่าง ตรงแขน และบริเวณใต้หัวใจของเขา
มีดที่ปักอยู่บริเวณใต้หัวใจของเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดร้ายแรงที่สุด
“ลู่เชิง คุณพักผ่อนให้สบายเถอะ เดี๋ยวผมจะทวงคืนความยุติธรรมให้คุณเอง’’ ภายในใจของเซี่ยเหล่ยเต็มไปด้วยความโกรธและอาฆาตแค้น
ติดตามตอนต่อไป…………