Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 256
TXV – 256 เฉียดตาย !
ผู้หญิงคนหนึ่งที่พูดขึ้นมาได้ปรากฏตัวอยู่ตรงบริเวณประตูทางเข้า เธอใส่ชุดสูทสีดำ ติดหูฟังที่หูด้านซ้ายพร้อมพกปืนมาด้วยมันคือปืนไรเฟิล Type 95 ท่าทางและลักษณะของเธอในตอนนี้ดูเหมือนกับสายลับหญิงในภาพยนต์ฮอลลีวูดยัไงยังงั้นเลย เหมือนแม้กระทั่งการแสดงสีหน้าและอารมณ์
การปรากฏตัวของหลงบิงเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่
ด้านหลังของหลงบิงก็มีผู้ติดตามตามมาด้วยสองคนคนหนึ่งคือเค่อเจียส่วนอีกคนหนึ่งเซี่ยเหล่ยไม่รู้จัก พวกผู้ติดตามเองก็เหมือนกันพวกเขาแต่งตัวใส่สูทสีดำมีหูฟังติดอยู่ที่หูพร้อมพกปืนไรเฟิล Type 95 ข้างกายพวกเขา
การปรากฏตัวของหลงบิงทำให้เซี่ยเหล่ยประหลาดใจอย่างมาก เนื่องจากว่าเซี่ยเหล่ยเองก็ยังไม่ได้โทรไปหาเธอเพื่อขอความช่วยเหลือเลยแต่เธอก็ปรากฏตัวขึ้นในจังหวะนี้พอดีแต่อย่างไรก็ตามการที่เธอปรากฏตัวขึ้นในลักษณะนี้มันก็เป็นสไตล์ของเธอและไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
การที่หลงบิงและผู้ติดตามของเธอปรากฏตัวขึ้นพร้อมปืนไรเฟิล Type 95นั้นเปลี่ยนสถานการณ์ของก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ตระกูลกู๋มีท่าทางกระวนกระวาย ส่วนเฮ่อจายหยิงดูท่าทางเครียดและกลัว ซู่หลางและลูกน้องของเขาก็อยู่ในอาการตระหนกและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี
อย่างไรก็ตามหลงบิงไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของพวกคนเหล่านั้น เธอได้เดินตรงไปที่เซี่ยเหล่ยจากนั้นก็หยุดอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมพูดขึ้นว่า “เซี่ยเหล่ย คุณตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าได้ขโมยความลับของชาติไป ตอนนี้คุณต้องไปกับเรา ฉันจะได้ทำการสอบสวน ” เมื่อพูดจบหลงบิงก็จับมือของเซี่ยเหล่ยใส่กุญแจมือ
เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นโดยอัตโนมัติไปว่า “มันต้องมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นแน่ๆ เซี่ยเหล่ยเนี่ยนะจะขโมยความลับของชาติ! “
“ถ้าเราตรวจพบว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้อง คุณเองก็จะถูกจับด้วย” หลงบิงพูดขึ้นแล้วมองไปที่เฉินตูเทียนหยินพร้อมกับกระพริบตาเป็นเหมือนสัญญาณบางอย่าง
เฉินตูเทียนหยินเป็นผู้หญิงฉลาดแค่เธอเห็นการกระทำของหลงบิงเธอก็เข้าใจได้ทันทีว่าหลงบิงต้องการที่จะทำอะไรเมื่อเข้าใจแล้วเธอก็หยุดพูดทันที
หลงบิงใส่กุญแจมือให้เซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เดินไป ครั้งนี้คุณจบแล้ว”
เซี่ยเหล่ยตอบไปว่า “ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ ผมไม่มีอะไรอยู่แล้ว”
ใบหน้าของซู่หลางไม่สามารถที่จะซ่อนความรู้สึกที่ขมขื่นได้เพราะเขารู้ดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเซี่ยเหล่ยและหลงบิงแถมลุงของเขาฉื่อเจิงยี่ก็ได้เคยเตือนเรื่องนี้ก่อนแล้วด้วย ซึ่งในตอนนี้หลงบิงก็ปรากฏตัวขึ้นและสร้างเรื่องขึ้นมาว่าเซี่ยเหล่ยได้ทำการขโมยข้อมูลความลับของชาติแน่นอนว่าเธอทำไปเพราะต้องการที่จะช่วยเซี่ยเหล่ย
ซู่หลางเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างในตอนนี้เป็นอย่างดีแล้ว แต่เขาก็ไม่อาจที่จะหยุดการกระทำของหลงบิงได้เพราะเธอมีสิทธิพิเศษและมีอำนาจมากกว่า ทำให้ไม่สามารถที่จะพูดโต้เถียงอะไรกับเธอได้
“รอเดี๋ยวก่อน!” กู๋เค่อหวู่พูดขึ้นแล้วมองไปทางหลงบิงและเซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดขึ้นต่อว่า “ตอนนี้กำลังมีการตรวจสอบเรื่องการพนันอยู่และเซี่ยเหล่ยเองก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัย คุณจะไม่จัดการเรื่องนี้ก่อนจะพาเขาไปอย่างนั้นเหรอ?”
หลงบิงมองไปที่กู๋เค่อหวู่จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณเป็นใคร?”
“กู๋เค่อหวู่!” กู๋เค่อหวู่พูดขึ้นด้วยความโกรธแล้วมองไปที่หลงบิงอย่างไม่พอใจ “แล้วคุณหล่ะเป็นใคร? แสดงตัวตนให้ชัดเจนเดี๋ยวนี้! “
หลงบิงไม่ได้แสดงเอกสารอะไรเพื่อยืนยันตัวตนของตัวเองแต่ทันทีที่กู๋เค่อหวู่พูดเสร็จ หลงบิงก็ได้หยิบปืนไรเฟิล Type 95 ขึ้นมาทันทีจากนั้นก็ยกไปจ่อที่ตรงบริเวณท้องน้อยของกู๋เค่อหวู่
กู๋เค่อหวู่ตกใจอย่างมากเมื่อโดนปืนจ่อ จู่ๆเท้าของเขาก็ไม่มีแรงทำให้เขาล้มลองไปกองกับพื้น
ในขณะที่กู๋เค่อหวู่ล้มลงไปกองกับพื้นนั้น หลงบิงได้ยกปืนขึ้นเล็กน้อย ทำให้ปากกระบอกปืนของเธอไปอยู่ที่หัวของกู๋เค่อหวู่พอดี
บนหน้าผากของกู๋เค่อหวู่มีเม็ดเหงื่อซึมออกมา กู๋เค่อเหวินและกู๋ดิงชานต้องการที่จะบอกให้หลงบิงหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่และเอาปืนลงก่อน แต่เมื่อพวกเขาเห็นปืนของหลงบิงก็ทำให้ปากแข็งและไม่สามารถที่จะพูดออกไปได้เลย
หลงบิงพูดขึ้นอย่างไม่แยแสว่า “กู๋เค่อหวู่ จริงๆแล้วฉันรู้ว่าคุณเป็นใคร คุณบอกว่าคุณเองก็มีวงกลมนักธุกริจของคุณ ฉันเองก็มีวงกลมของฉันเหมือนกันแต่วงกลมของเรามันต่างกันมาก ถ้าหากคุณคิดว่าวงกลมของคุณยิ่งใหญ่พอที่จะมีแบคอัพที่สามารถแทรกแซงหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติได้ละก็ ฉันก็จะปล่อยคุณไปแต่ถ้าหากไม่ ฉันสามารถที่จะยิงคุณตอนนี้ได้เลย “
เมื่อได้ยินดังนั้นปากของกู๋เค่อหวู่ก็ขยับเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะพูดได้
หลงบิงลดปืนลงและลากเซี่ยเหล่ยเดินออกไป
กู๋ดิงชานลังเลอยู่ขณะหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดขึ้นว่า “งั้น…บอกชื่อของคุณมา”
หลงบิงหยุดเดินและพูดออกไปด้วยความเย็นชาว่า “กู๋ดิงชาน ฉันจะให้คำแนะนำกับคุณนะ ตอนนี้คุณควรจะใช้ชีวิตในวัยสูงอายุของคุณต่อไปให้มีความสุข เพราะถ้าคุณยังคงวางท่าหรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ชอบมาพากล คุณจะต้องมีชะตากรรมที่เลวร้ายและเวทนายิ่งกว่าฮวงยี่หู่ “
“หึ!” กู๋ดิงชานทำเสียงขึ้น
หลงบิงไม่ได้พูดตอบกลับอะไรต่อแต่เธอได้พาเซี่ยเหล่ยออกไปในทันที
เมื่อออกมาแล้วเซี่ยเหล่ยพูดขึ้นว่า “คุณมาที่นี่ได้อย่างไร?”
“อย่าคิดว่าฉันตั้งใจจะช่วยคุณเป็นพิเศษ” หลงบิงพูดขึ้นและพูดต่อว่า “เรื่องนี้ได้เริ่มจากการที่อเลน่าได้บินมาหาคุณ ซึ่งฉันเป็นคนพาเธอมาและฉันก็รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ ฉันจึงคิดที่จะตามมาแต่ในขณะที่ฉันนั่งรถเพื่อที่จะมาหาคุณ ฉันเห็นรถตำรวจมากมายขับมาที่โรงแรมแห่งนี้ ฉันจึงเดาได้ทันทีว่าคุณจะต้องก่อเรื่องอะไรขึ้น ฉันจึงรีบมาให้เร็วที่สุด “
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างเก้ๆกังๆและพูดขึ้นว่า “ผมไม่ได้ต้องการที่จะสร้างความเดือดร้อน แต่คนของตระกูลกู๋คอยตามรังควาญผมอยู่เรื่อยๆ”
“ฉันรู้ ดังนั้นฉันเลยช่วยคุณไม่อย่างนั้นฉันไม่ช่วยคุณหรอก ” หลงบิงพูดขึ้น พร้อมมองไปที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยได้เปลี่ยนหัวข้อจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “อเลน่าหล่ะ?”
“อยู่ในรถที่จอดรออยู่ข้างนอก” หลงบิงพูดขึ้น
ไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงทางเข้าโรงแรม
เค่อเจียยื่นมือออกไปเปิดประตู
จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็นึกอะไรได้ นั่นทำให้เขาหยุดเดินในทันที
หลงบิงพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “คุณเป็นอะไร? ทำไมไม่เดินต่อ? “
“ผมกำลังนึกถึงชายคนหนึ่ง” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นคนที่เซี่ยเหล่ยนึกถึงก็คือแดลนี่
แดลนี่พูดขึ้นผ่านโทรศัพท์ของกู๋เค่อหวู่ว่ามาถึงที่นี่แล้วแต่จนถึงตอนนี้เซี่ยเหล่ยยังไม่พบตัวแดลนี่เลย
“คุณกำลังพูดถึงนักฆ่าคนนั้นใช่มั้ย?” หลงบิงเข้าใจความคิดของเซี่ยเหล่ยและพูดขึ้นในทันที
เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดตอบอะไรแต่จู่ๆสายตาของเขาก็ได้มองไปที่ตึกฝั่งตรงข้ามและมองขึ้นไปข้างบนก็เห็นว่ามีห้องหนึ่งเปิดหน้าต่างอยู่ เซี่ยเหล่ยกระพริบตาซ้ายเล็กน้อยจากนั้นก็เพ่งไปไม่เห็นอะไรผิดปกติ เขามองเลยขึ้นไปอีกจนถึงดาดฟ้าก็พบเงาดำๆอยู่ที่นั่นพร้อมด้วยปืนไรเฟิลในมือที่กำลังเล็งอยู่!
“ระวัง!” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นพร้อมกระโดดผลักหลงบิง ทำให้เซี่ยทั้งเซี่ยเหล่ยและหลงบิงล้มไปกองอยู่ที่พื้น
ในทันทีที่พวกเขาล้มลงไปที่พื้น เศษกระเบื้องหลังคาก็ได้ร่วงลงมาพอดีพร้อมกับรอยบาดแผลไหม้ที่เกิดขึ้นจากการโดนยิงของปืนไรเฟิลที่ร่างของชายคนหนึ่ง!
ใบหน้าของหลงบิงซีดในทันที เธอคิดไปว่าถ้าช้ากว่านี้อีกเพียงแค่นิดเดียวทั้งเธอเองและเซี่ยเหล่ยก็จะถูกยิงไปแล้ว!
เซี่ยเหล่ยรีบใช้ขาทั้งสองข้างรัดหลงบิงเอาไว้ จากนั้นก็ลากหลงบิงไปด้านข้างเพื่อหลบกระสุน
ปัง ! เสียงดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกระเบื้องที่หล่นลงมาแตกและกำแพงที่เป็นรูจากรอยกระสุน!
เค่อเจียพยายามที่จะปิดประตู
ขณะที่เค่อเจียกำลังปิดประตูนั้น กระสุนก็ได้พุ่งเข้ามาที่บริเวณประตูพอดีแต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่ไม่ได้โดนเค่อเจียแต่กระสุนมันก็เฉี่ยวเขาไปนิดเดียวทำให้เขาล้มลงไปที่พื้นด้วยความตื่นตระหนก
“ถอดกุญแจมือให้ผม!” เซี่ยเหล่ยตะโกนขึ้น
หลงบิงรีบดึงกุญแจออกมาจากกระเป๋าจากนั้นก็รีบไขให้เซี่ยเหล่ยทันทีพร้อมพูดใส่หูฟังไปว่า “ปิดทางเข้าออกตึกตรงข้ามเดี๋ยวนี้!”
“ปืนไรเฟิลของคุณหล่ะ?” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นพร้อมสะบัดกุญแจมือออก
หลงบิงตอบกลับไปว่า “อยู่ในกล่องที่รถ“
เซี่ยเหล่ยรีบลุกขึ้นและรีบวิ่งไปที่ประตู
หลงบิงเห็นเซี่ยเหล่ยทำเช่นนั้นก็พูดขึ้นอย่างกังวลว่า “คุณจะทำอะไร?”
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบอะไรเขารีบดึงประตูจากนั้นก็รีบวิ่งออกไปทันที
แม้ว่าเซี่ยเหล่ยเองจะเห็นใบหน้าของคนที่ยิงไรเฟิลไม่ชัดเจนเมื่อกี้นี้แต่เขาก็รู้ได้ทันทีว่ามือปืนที่ยิงอยู่ตอนนี้คือแดลนี่
ขณะที่เซี่ยเหล่ยวิ่งออกไปแล้วนั้น หลงบิงก็ได้พยุงตัวเองขึ้นและออกวิ่งด้วยเช่นกัน
ที่ริมถนนมีรถยนต์อยู่สองคันที่ถูกทำพิเศษขึ้นเพื่อกันกระสุนจอดอยู่ เซี่ยเหล่ยรีบวิ่งไปที่รถทันทีและในจังหวะที่กำลังจะไปถึงประตูรถ ประตูรถได้เปิดออกมา หลังจากนั้นก็มีคนใส่ชุดสูทสีดำห้าคนที่กำลังถือปืนวิ่งเข้าไปยังตึกฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
“ปืนอยู่ที่ไหน?” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับทำให้เขาได้มองเข้าไปภายในรถและเห็นอเลน่านั่งคุกเข่าอยู่ที่เบาะหลังสุดของรถคันแรก สีหน้าของเธอดูตกใจและกลัวมาก
หลงบิงที่วิ่งออกมาเหมือนกัน เธอรีบมายังรถคันแรกและนำกล่องพลาสติกขึ้นมา
เซี่ยเหล่ยที่เห็นว่ากล่องพลาสติกได้ถูกหลงบิงนำขึ้นมาแล้ว เขาก็รีบเอื้อมมือเพื่อจะหยิบมันขึ้นมาแต่ก็ถูกหลงบิงตีมือก่อน
“ฉันอยู่ที่นี่แล้ว ดังนั้นผู้ชายคนนี้เป็นของฉัน” หลงบิงพูดขึ้นจากนั้นก็เปิดกล่องพลาสติกพร้อมประกอบปืนไรเฟิลทันที
“งั้นเอาปืนพกมาให้ผม” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้น
หลงบิงตอบกลับไปว่า “คุณต้องอยู่ที่นี่ ชีวิตของคุณสำคัญกับประเทศนี้อย่างมาก”
“คุณ …… ” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นอย่างอึดอัดใจเพราะนี่เป็นโอกาสที่จะจัดการกับ แดลนี่ แต่หลงบิงก็มาขัดขวางไว้
หลงบิงใช้เวลาในการประกอบปืนไม่ถึง 10 วินาที เมื่อเธอประกอบปืนเสร็จเธอก็รีบวิ่งเข้าในยังตึงผั่งตรงข้ามทันที
เซี่ยเหล่ยพยายามที่จะไล่ตามแต่เขาก็คิดขึ้นได้ว่าไม่มีปืนที่จะจัดการคนร้าย เขาจึงหยุดไล่ตามไป
‘บ้าที่สุด เราเป็นที่ปรึกษาของหน่วยงานลับ 101 แต่เราไม่มีปืน เราเป็นที่ปรึกษาประเภทไหนกันเนี๊ย ?’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจอย่างขมขื่น หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ตึกฝั่งตรงข้ามแต่ก็หาแดลนี่ไม่เจอแล้ว
ภายในใจของเซี่ยเหล่ยรู้สึกห่อเหี่ยวทันที เขาคิดในใจต่อว่าความสามารถของ แดลนี่ในตอนนี้เหนือกว่าพลังทั้งหมดของเขา
อเลน่าคลานออกมาจากรถจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือไปว่า “ลูคัส คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
เซี่ยเหล่ยดึงอเลน่าให้หมอบลงจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ผมไม่เป็นอะไร แล้วคุณหล่ะ?”
“ฉันรู้สึกลัวมาก แต่ฉันก็ไม่ได้บาดเจ็บ” อเลน่าพูดขึ้น
เซี่ยเหล่ยได้พูดปลอบใจอเลน่าว่า “ไม่เป็นอะไรแล้ว มือปืนได้หนีไปแล้ว”
“จับเขาได้หรือไม่?” อเลน่าถามไปอย่างกังวล
ภายในใจของเซี่ยเหล่ยคิดทันทีที่อเลน่าถามจบว่าไม่มีทางที่จะจับแดลนี่ได้อย่างแน่นอนแต่เซี่ยเหล่ยตัดสินใจพูดขึ้นว่า “ผมหวังว่าคงจะจับได้ คุณไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง ว่าแต่ตอนนี้มีอะไรคืบหน้าบ้าง? “
อเลน่าตอบไปว่า “ฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันได้ทำแผนงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ฉันไม่ได้มาหาคุณเพราะเรื่องนี้หรอกนะ ฉันมาหาคุณเพราะฉันคิดถึงคุณ….. “
ติดตามตอนต่อไป…………..