Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 265
TXV – 265 ความสามารถพิเศษ !
โรงงานทหารตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์และยังไม่เริ่มลงสินค้าที่นี่จึงยังไม่มีทหารคอยดูแล อเลน่ารีบโทรหาหลงบิงแล้วโทรหาตำรวจต่อคนที่มาถึงก่อนคือตำรวจในเมือง คนหนึ่งมีอายุแล้วส่วนอีกคนยังหนุ่ม พวกเขาทั้ง 2 คนมีแค่ปืนพกที่ดูเก่าๆเท่านั้น
อเลน่านำทางตำรวจทั้งสองไปที่ภูเขาแต่ทั้งคู่ไม่ได้เดินตามไปด้วย
“มากับฉันสิ!” อเลน่าพูดด้วยภาษาจีนที่พัฒนาขึ้นเยอะแล้ว “ข้างบนนั้น ข้างบน!”
ตำรวจทั้งสองมองหน้ากัน อเลน่ามองตำรวจทั้งคู่ที่ปฏิเสธกลายๆแล้วว่าไม่ไป
“ทำอะไรกันอยู่?” อเลน่ายิ่งกังวลมากขึ้น “ข้างบน ข้างบนนั่นมีมือปืนสไนเปอร์ มันอันตรายมากๆนะ!”
ตำรวจที่อายุมากกว่าพูดขึ้น “คุณครับ ถ้ามีสไนเปอร์จริงแล้วพวกเราล่ะครับ? เรามีแค่ปืนเล็กๆ ถ้าเราขึ้นไปข้างบนนั่นเกรงว่ายังไม่ทันจะเห็นคนเราคงถูกยิงตายก่อนอีกสองปีผมก็เกษียณแล้วอย่าให้ผมรีบไปตายเลยครับ!”
ตำรวจหนุ่มอีกคนก็กลัวเช่นกัน “ผม ผมเองก็ยังไม่มีตำรวจคู่หูเลย เรารอกำลังเสริมดีกว่าครับ”
คนเรากลัวตายเป็นธรรมดา ตำรวจเองก็คนเหมือนกันและทั้งสองต่างมีครอบครัวที่ต้องดูแลอีกด้วย
“พวกคุณ มันคนขี้ขลาด! ฉันไปเอง!” อเลน่ากัดฟันแน่นก่อนจะหันหลังวิ่งไปทางภูเขา
แต่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดลงเธอร้องออกมา “ลูคัส! คุณยังไม่ตาย! คุณยังมีชีวิตอยู่ !”
การได้เห็นเซี่ยเหล่ยกลับมาทำให้อเลน่ากระโดดดีใจอยู่ตรงหน้า เขายิ้มออกมาก่อนจะพูดว่า “ผมไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงนะ”
เซี่ยเหล่ยแบกแดลนี่ออกมาด้วยกัน เขาฝังเข็มให้แดลนี่เพื่อห้ามเลือดและฉีกเสื้อผ้าออกมาพันแผลให้ถ้าช่วยได้ทันเวลาแดลนี่ก็จะรอด สำหรับเซี่ยเหล่ยเขาฆ่าแดลนี่ทำได้ง่ายๆก็จริงแต่แดลนี่ที่ยังมีชีวิตมีประโยชน์กับเขามากกว่าแดลนี่ที่ตายแล้วน่ะสิ
ตำรวจสองนายที่อยู่ใกล้ๆเห็นร่างโชกเลือดของแดลนี่และปืนสไนเปอร์ไรเฟิลบนหลังเซี่ยเหล่ยด้วยความเข้าใจผิด ตำรวจสูงอายุก็ตะโกนออกมา “วางปืนลงเดี๋ยวนี้!”
เซี่ยเหล่ยรีบพูด “ผมไม่ใช่คนไม่ดีนะครับ ไม่ต้องกังวลอย่าชี้ปืนมาทางผมสิครับ ระวังอย่าเผลอลั่นไกด้วยล่ะ”
ตำรวจคนนั้นยังไม่ลดปืนลงแต่พูดต่อด้วยความวิตก “คุณ คุณวางปืนก่อน”
อเลน่าเริ่มโมโห “พวกคุณเป็นอะไรกันน่ะ? เมื่อกี้ยังยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ไม่ยอมไปกับฉันแต่ตอนนี้มาหันปืนใส่แฟนฉันเนี่ยนะ!”
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “อเลน่า อย่าไปว่าเขาเลยเดี๋ยวผมวางปืนลงเองแล้วก็คนๆนี้ต้องไปโรงพยาบาล คุณโทรเรียกรถพยาบาลให้หน่อยสิ”
เซี่ยเหล่ยวางตัวแดลนี่ลงกับพื้นก่อนจะวางปืนตาม
ตำรวจสูงวัยหยิบเอาสไนเปอร์ไรเฟิลของเซี่ยเหล่ยไป ส่วนตำรวจหนุ่มอีกคนก็หยิบมือถือออกมาโทรเรียกรถพยาบาลให้
เซี่ยเหล่ยอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตำรวจฟังสั้นๆ จากนั้นก็แบกแดลนี่เดินเท้าไปยังเนินเขาที่ตั้งของโรงงาน เมื่อตำรวจทั้งสองเข้าใจแล้วว่าเซี่ยเหล่ยเป็นเจ้าของโรงงานแห่งนี้หัวใจพวกเขาก็ร่วงลงไปอยู่ตาตุ่มจากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังโรงงานการทหารของเซี่ยเหล่ยพร้อมๆกัน
รถพยาบาลของโรงพยาบาลในตัวเมืองมาถึงอย่างรวดเร็วอันที่จริงระยะทางมันก็เพียงแค่ 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น
หมอและพยาบาลรีบพาตัวแดลนี่ขึ้นรถ ส่วนเซี่ยเหล่ยที่ห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกก็ตามขึ้นรถพยาบาลไปด้วย
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้ว แดลนี่ก็ถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันทีแม้สิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์จะธรรมดาไปหน่อยแต่ยังพอมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเขาก่อนเช่นการถ่ายเลือดและให้ออกซิเจนก็ยังพอทำได้อยู่
ส่วนเซี่ยเหล่ยและอเลน่านั่งรอบนเก้าอี้หน้าห้องผ่าตัด
ตำรวจสองคนเดิมแอบตามมาด้วย พวกเขาอยู่ที่โถงทางเดินมองมายังเซี่ยเหล่ยและอเลน่า
“คนๆนั้นเป็นใครกันแน่? เปิดโรงงานของกองทัพแถมยังมีสไนเปอร์ไรเฟิลไว้ยิงคนอื่นอีก” ตำรวจหนุ่มพูดเสียงเบา
“ต้องมีคนใหญ่คนโตหนุนหลังแน่ๆหรืออาจจะเป็นทหารก็ได้” ตำรวจสูงอายุตอบ
“แล้วแฟนต่างชาติคนนั้นล่ะ?” ตำรวจหนุ่มมองอเลน่าที่นั่งตักเซี่ยเหล่ยอยู่ด้วยสายตาปรารถนาบั้นท้ายเธอทำใจเขาสั่น….
“มองอะไรน่ะ?” ตำรวจที่แก่กว่าพูดก่อนจะตบไหล่อีกคน “จริงจังหน่อย เราทำงานอยู่นะ!”
ตำรวจหนุ่มมองกลับด้วยสายตาไม่ได้ดั่งใจแล้วหันกลับไปมองอเลน่าต่อความเซ็กซี่ที่มีเสน่ห์ของสาวต่างชาติมันช่างดีต่อใจของหนุ่มโสดจริงๆ……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลงบิงก็มาถึงโรงพยาบาลหลังจากฟังเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเอเจนท์หลายคนก็เข้าไปจัดการศพในป่าให้เรียบร้อยส่วนหลงบิงพาเซี่ยเหล่ยไปที่ออฟฟิศภายในโรงพยาบาลเพื่อคุยกันต่อ
“กู๋ดิงชานคงอยากได้ชีวิตคุณจริงๆ ส่งแดลนี่มาคนเดียวไม่พอยังส่งนักฆ่าต่างชาติมาสมทบอีก ไม่แปลกเลยที่เราไม่พบร่องรอยแดลนี่เพราะตอนแรกเขาอยู่ที่ต่างประเทศนี่เอง” สายตาหลงบิงดูเย็นชามาก
เซี่ยเหล่ยพูด “ยังไงตอนนี้แดลนี่ก็อยู่กับเราแล้ว ผมมีโอกาสฆ่าเขาแต่ผมว่าถ้าเก็บเขาไว้คงมีประโยชน์กว่า”
“คุณทำดีแล้วล่ะ ถ้าคุณฆ่าแดลนี่ก็เหมือนช่วยกู๋ดิงชานทางอ้อมเพราะสำหรับเขา แดลนี่คงเป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น”
“อืม นั่นแหละที่ผมคิดไม่ใช่ว่าคุณเพิ่งช่วยผมคิดวิธีรับมือกู๋ดิงชานหรอกเหรอ? ผมว่าแดลนี่นี่แหละเหยื่อชั้นดีเลยถ้าเรามีเขาอยู่ในมือกู๋ดิงชานคงอยู่นิ่งๆไม่ได้แน่” เซี่ยเหล่ยกล่าว
“ฉันไม่รู้ว่าจะได้ความลับอะไรจากปากเขารึเปล่านะ เขาเหมือนคนที่ถูกฝึกมาอย่างมืออาชีพจากประสบการณ์ฉันแล้วการจะขุดว่ากู๋ดิงชานกำลังทำอะไรอยู่จากแดลนี่มันยากมากเลยนะ”
เซี่ยเหล่ยยกยิ้ม “ผมว่ามันง่ายมากเลยต่างหาก”
หลงบิงมองเซี่ยเหล่ย “คุณมีวิธีทำให้แดลนี่สารภาพเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยยื่นหน้าไปใกล้หูเธอ “ผมมีแผน……”
หลายนาทีต่อมา หลงบิงและเซี่ยเหล่ยก็ออกมาจากออฟฟิศของโรงพยาบาล อเลน่าที่รออยู่ข้างนอกอยากเข้าไปกอดแขนเซี่ยเหล่ยเต็มทีแต่เมื่อเห็นหลงบิงกับสีหน้านิ่งๆของเธอ อเลน่าก็ต้องเปลี่ยนมาหน้านิ่งเหมือนเดิม
หลงบิงเรียกตำรวจทั้งสองมาและพูดด้วยท่าทีเย็นชาว่า “ถ้ามีใครถามอะไรพวกคุณห้ามพูดนะ จำไว้ !”
แม้ตำรวจทั้งสองจะไม่รู้ว่าหลงบิงเป็นใครแต่ถ้าเธอเป็นพวกของคนที่มีปืนบวกกับบุคลิกท่าทางของเธอพวกเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธและพร้อมใจกันพยักหน้าทันที “วางใจได้ เราจะไม่พูดอะไรเด็ดขาด”
“ถ้ามีใครถามอะไรพวกคุณหลังจากที่ผู้ชายคนนั้นออกไปแล้ว พวกคุณรีบโทรมาเบอร์นี้ทันทีเลยนะ” หลงบิงส่งกระดาษแผ่นเล็กที่มีเบอร์โทรศัพท์ให้ตำรวจสูงอายุ โดยทันที
“หัวหน้า วางใจได้เลยครับ” ตำรวจคนนั้นเรียกหลงบิงว่าหัวหน้าไปแล้ว
หลงบิงพูดต่อ “ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทำแล้วล่ะ พวกคุณไปได้แล้ว”
“ครับ ไปกันเถอะ” ตำรวจคนนั้นตอบก่อนจะเดินนำตำรวจหนุ่มอีกคนออกไป
“ลุงครับ” เซี่ยเหล่ยขัดขึ้น “จะเป็นอะไรมั้ยครับ ถ้าผมขอปืนคืนด้วย”
ตำรวจมีอายุเพิ่งนึกได้ว่าเขาถือสไนเปอร์ไรเฟิลของเซี่ยเหล่ยอยู่ในมือด้วย เขายิ้มแห้งแล้วรีบนำปืนมาคืนเซี่ยเหล่ยทันที “ขอโทษครับ ผมเข้าใจสถานการณ์ผิดไปเอง”
เซี่ยเหล่ยพูดยิ้มๆ “ลุงไม่ได้ทำอะไรผิดเลยครับ ถ้าวันหลังมาที่โรงงานผม ผมจะชวนมาดื่มด้วยกันนะครับ”
“โอเค ฮ่าฮ่า…..ผมไปก่อนนะ” ตำรวจคนนั้นเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม
ในเมื่อมาเปิดโรงงานที่นี่แล้วการรู้จักคนไว้เยอะๆย่อมดีกว่าอีกอย่างคืออีกฝ่ายเป็นตำรวจท้องที่ด้วยในอนาคตอาจจะจำเป็นมากในการจัดการคนก็ได้
หลังจากนั้นไม่นานเอเจนท์หลายคนที่หลงบิงส่งไปจัดการศพเคนและมือปืนเอเชียคนนั้นก็ออกมาจากภูเขาและนำศพมายังที่เก็บศพของโรงพยาบาล
ในห้องเก็บศพที่เย็นยะเยือกบวกกับศพถูกยิงทำเซี่ยเหล่ยเริ่มรู้สึกพะอืดพะอมจนแทบอาเจียนตอนอยู่ที่ภูเขานั่่นเซี่ยเหล่ยฆ่าเคนและมือปืนเอเชียก็จริงแต่รู้สึกเหมือนไม่ได้ฆ่าเท่าไหร่เพราะเขาอยู่ห่างจากทั้งสองคนเป็นกิโลเมตรแต่ตอนนี้เคนที่ถูกระเบิดอกด้วยกระสุนและมือปืนเอชียที่ศีรษะถูกแบ่งครึ่งมาอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม ความรู้สึกของการฆ่าคนก็ผุดขึ้นมาในใจเซี่ยเหล่ยและนั่นทำให้เขารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
มันไม่เกี่ยวแล้วว่าใครอยู่ฝ่ายไหน ทุกคนเป็นคนเหมือนกันหมดการฆ่าคนก็คือการฆ่าคน !
“รู้สึกไม่ดีเหรอ?” หลงบิงพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร เดี๋ยวมีประสบการณ์มากขึ้นก็ชินไปเอง”
“มีประสบการณ์มากขึ้น?” เซี่ยเหล่ยแค่นยิ้ม “ผมไม่อยากทำอะไรแบบนี้อีกแล้วนะ”
“ฉัน…… ไปอ้วกนะ……” เพียงอเลน่าเข้ามาในห้องเก็บศพได้ไม่นานก็ต้องรีบวิ่งกลับออกไปพร้อมปิดปากแน่น
หลงบิงเดินมาที่ศพเคนและเริ่มค้นตัวเขา
เซี่ยเหล่ยเองก็พยายามกัดฟันแน่นแล้วเดินไปสำรวจที่ศพมือปืนเอเชียเช่นกัน
ศพของนักฆ่าทั้งสองยังไม่พบอะไรที่ยืนยันตัวตนของทั้งคู่ได้มีเพียงเงินสกุลต่างชาติและโทรศัพท์มือถือไว้ใช้สื่อสารกัน มือถือของทั้งสองคนปิดอยู่ซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะไม่มีนักฆ่าคนไหนใช้โทรศัพท์ระหว่างทำงานกันอยู่แล้ว
หลงบิงและเซี่ยเหล่ยเปิดโทรศัพท์ทั้งสองเครื่อง พวกเขาคิดว่าคงจะเจอรายชื่อติดต่ออะไรบ้างแต่เมื่อเปิดแล้วก็เจอแค่ชื่อเดียวเหมือนกันทั้งสองเครื่องนั่นก็คือแดลนี่
“นักฆ่าสองคนนี้เป็นทหารผ่านศึกแน่ๆ ไม่เจออะไรเพิ่มเลย” หลงบิงขมวดคิ้ว
เซี่ยเหล่ยพูดต่อ “ผมยังไม่ได้เอาโทรศัพท์แดลนี่มาดูเลยยังอยู่ในห้องผ่าตัดกับเขาด้วยบางทีเครื่องเขาอาจจะมีอะไรบ้าง”
หลงบิงส่ายหน้า “ถ้าฉันเป็นเขาแล้วต้องทำงานแบบนี้นะ ฉันคงเอาโทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้งมาใช้มากกว่า”
เซี่ยเหล่ยยักไหล่ “งั้นทำตามแผนเรากันต่อเถอะ”
หลงบิงนิ่งไปก่อนจะพยักหน้า “หมอกำลังมาฉันจะไปหาแดลนี่ คุณจะไปด้วยมั้ย?”
สำนักงานลับ 101 เองก็มีทีมแพทย์ของตัวเองอยู่แล้วแต่เซี่ยเหล่ยยังไม่รู้เรื่องนี้ อย่างไรก็ตามหลงบิงคิดถูกเมื่อเซี่ยเหล่ยและหลงบิงออกจากห้องเก็บศพมา ทีมแพทย์ทหารที่มีความสามารถในเรื่องของกระสุนปืนและระเบิดก็มาถึงโรงพยาบาล หลงบิงคุยกับหมอที่เดินมาก่อนที่หมอคนนั้นจะนำทีมแพทย์ไปยังห้องผ่าตัดต่อ
แดลนี่ถูกส่งตัวขึ้นรถพยาบาลและมุ่งหน้าเข้าไปในเมือง
หลงบิงแบ่งคนไว้อีกส่วนหนึ่ง เธอเดินนำเอเจนท์ทั้งหลายกลับไปแพ็คศพของ เคนและมือปืนเอเชียใส่กระเป๋าแล้วนำออกไป
เซี่ยเหล่ยเจออเลน่าในห้องน้ำหญิงกำลังจับอ่างล้างหน้าและอาเจียนใส่อ่างอยู่
เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปลูบหลังเธอเบาๆ “ไม่เป็นไรแล้วนะ พวกเขาย้ายศพไปแล้ว”
“น่าคลื่นไส้ชะมัด……” อเลน่าก้มหน้าลงให้ปากอยู่ใต้ก๊อกน้ำเพราะเธอไม่อยากให้เซี่ยเหล่ยได้กลิ่นอะไรที่เธออ้วกออกมาซักเท่าไหร่
ไม่รู้ทำไม จู่ๆในหัวเซี่ยเหล่ยก็มีภาพหัวผ่าครึ่งของมือปืนเอเชียผุดซ้อนขึ้นมา ในท้องเขาปั่นป่วนไปหมด เขารีบผละออกจากอเลน่าแล้วตรงไปอ้วกที่อ่างล้างหน้าบ้าง
“ฮ่าฮ่า!” อเลน่าหัวเราะ “คุณก็เหมือนฉันนี่นา”
เซี่ยเหล่ยโบกมือก่อนจะวางลงบนเอวอเลน่า “ตอนอยู่ที่ภูเขาคุณยังคิดเรื่องใต้สะดือเลยถ้าเราทำเสียงเอะอะนานกว่านั้นอีกหน่อยมีหวังเราโดนฆ่าแน่!”
ซึ่งเรื่องมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าแดลนี่และนักฆ่าอีกสองคนมาที่นั่นเร็วกว่านี้ช่วงจังหวะที่เซี่ยเหล่ยกับอเลน่ากำลังทำอะไรอย่างว่ากันอยู่การฆ่าทั้งสองคนก็จะง่ายมากสำหรับพวกเขา
เรื่องแบบนี้คิดแล้วมันน่ากลัวจริงๆ!
อเลน่าหัวเราะคิกคัก “เป็นความสามารถพิเศษของฉันน่ะ ฉันทำให้คุณเสร็จทันก่อนเกิดเรื่องได้ยังไง ?”
ติดตามตอนต่อไป…………….