Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 291
TXV – 291 สถานการณ์ที่น่าอึดอัด !
เทือกเขาของอัฟกานิสถานเป็นเทือกเขาที่ขรุขระและเป็นหลุมเป็นบ่อส่วนของพืชพรรณหรือป่าไม้ก็มีน้อยมากด้วยสายตาของเซี่ยเหล่ยที่มีประสิทธิภาพมองได้ไกล ถึงสี่พันเมตรนั่นทำให้การที่จะมองหาอะไรซักอย่างนั้น เซี่ยเหล่ยทำได้ไม่ยากถึงแม้ว่าเขาจะมีความสามารถที่มองได้ไกลมาแค่ไหนก็ตาม เขาก็คิดว่าระยะสไนเปอร์ของกลุ่มเซ้นไอดร้านั้นมีระยะหวังผลไม่เกิน 1500 เมตรดังนั้นเขาก็แค่มองหาสไนเปอร์ในระยะหวังผลคือระยะ600-1200เมตรก็เท่านั้น
เซี่ยเหล่ยใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที เขาก็พบกับกลุ่มสไนเปอร์ของฝ่ายตรงข้าม เขาพลางตัวด้วยเสื้อสีน้ำตาลพร้อมกับหมวกกันน็อคชนิดพิเศษแล้วใช้เศษใบไม้ใบนำมาติดไว้ที่หมวกเพื่ออำพรางตัว
แต่ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเจอเป้าหมายแล้วแต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ เนื่องจากตำแหน่งของเขาไม่อำนวยที่จะลั่นไกปืน
การที่สไนเปอร์ของเซ้นไอดร้ายิงเข้ามานั้นทำให้คาบูโจมตีสวนกลับไปโดยกราดกระสุนไปในทิศทางที่กลุ่มเซ้นไอดร้าอยู่แต่ปืนที่เขาใช้คือAK-47 ด้วยระยะที่ศัตรูอยู่นั้นมันไกลกว่า1200เมตร ทำให้กระสุนที่ถูกกราดยิงออกไปนั้นไม่สามารถไปถึงจุดที่ศัตรูอยู่ได้
ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนและตะโกนออกไป
ด้วยเสียงตะโกนของเซี่ยเหล่ยในความเป็นจริงก็ไม่ได้ดังมากแต่เนื่องจากเสียงสะท้อนของหุบเขาช่วยให้มันดังออกไปไกลนั่นทำให้กองกำลังของกลุ่มเซ้นไอดร้าหันมาสนใจเซี่ยเหล่ยทันที หนึ่งในกองกำลังเซ้นไอดร้าใช้กล้องส่องทางไกลส่องไปที่เซี่ยเหล่ยก็พบว่าเขายืนอยู่พร้อมกับปืนไรเฟิลในมือ
กลุ่มมือปืนของกองกำลังเซ้นไอดร้าหัวเราะกับการกระทำของเซี่ยเหล่ยเล็กน้อย ก่อนที่สไนเปอร์จะหันลำกล้องพร้อมปากกระบอกปืนไปทางเซี่ยเหล่ย
หลังจากสไนเปอร์เล็งได้แล้วเขาก็ตัดสินใจยิงเซี่ยเหล่ยแต่จังหวะเดียวกันนี้เซี่ยเหล่ยก็คิดเหมือนกัน เขาได้ยกปืนเล็งไปที่กลุ่มมือปืนของเซ้นไอดร้าเพียงครู่เดียวและยิงออกไปจังหวะที่ยิงนั้นกระสุนของเซี่ยเหล่ยลั่นออกมาพร้อมกับกระสุนของมือสไนเปอร์ฝั่งตรงข้ามที่ยิงออกมา
กระสุนปืนไรเฟิลออกจากปากกระบอกปืนทั้งสองกระบอกและสวนทางกันในที่สุด
ตอนนี้กระสุนที่ถูกยิงจากกองกำลังเซ้นไอดร้าที่ถูกยิงมาก่อนหน้านี้ก็ได้ไปตกลงตรงหินด้านหน้าเซี่ยเหล่ยที่ห่างออกไปหลายสิบเมตรแต่ในขณะเดียวกันกระสุนของเซี่ยเหล่ยที่ยิงออกไปนั้นได้ตรงเข้าหัวของสไนเปอร์ของเซ้นไอดร้า…..
นี่คือส่วนหนึ่งของความแตกต่างในการมองเห็นและการตัดสินใจ ด้วยเซี่ยเหล่ยที่สามารถใช้ตาซ้ายของเขาเพื่อคำนวณระยะห่างระหว่างเขาและกลุ่มเซ้นไอดร้าได้นั้น เขาพบว่าตัวเขาเองอยู่ห่างราวๆ1600เมตรแต่กลุ่มเซ้นไอดร้าที่ใช้กล้องส่องทางไกลมองนั้นไม่รู้ว่าระยะจริงตำแหน่งที่พวกเขาอยู่และที่เซี่ยเหล่ยอยู่ว่าห่างกันเท่าไหร่และด้วยปืนไรเฟิลของพวกเขาที่มีระยะหวังผลแค่ 1500เมตร จึงทำไห้ไม่สามารถยิงมาถึงเซี่ยเหล่ยได้
การที่กระสุนไปตกตรงก้อนหินด้านหน้าของเซี่ยเหล่ยนั้นทำให้กลุ่มเซ้นไอดร้า ไม่พอใจอย่างมาก เขามองไปที่ปืนของเซี่ยเหล่ยอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ามันใช่ปืนไรเฟิลจริงๆใช่หรือไม่เพราะพวกเขาสงสัยว่าทำไมปืนไรเฟิลของฝั่งตัวเองถึงยิงไม่ถึง แต่ปืนไรเฟิลของเซี่ยเหล่ยยิงถึงตัวพวกเขาแต่เมื่อส่องไปก็พบว่าเป็นปืนไรเฟิลจริงๆ ก็ทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขารู้ว่าปืนไรเฟิลของเซี่ยเหล่ยสามารถยิงได้ไกลถึงสามพันสองร้อยเมตรนั้น นั่นคงจะทำให้ไม่มีใครอยากที่จะยิงสู้กับเซี่ยเหล่ยเลย
การที่เซี่ยเหล่ยส่งเสียงและออกไปให้ศัตรูเห็นก็เพราะว่าจุดที่เขาอยู่นั้นไม่เอื้อต่อการยิงไปที่กลุ่มของเซ้นไอดร้าและเขาก็รู้ระยะที่แน่นอนระหว่างสไนเปอร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตำแหน่งของตัวเขาเอง
“จัดการได้แล้ว” เซี่ยเหล่ยพูดผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็ก
ถ่างหยู่เหยี่ยหันไปมองที่เซี่ยเหล่ยก็พบว่าเขายืนอยู่ในที่โล่งๆนั่นทำให้เธอคิดในหัวทันทีว่า “ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นหล่ะ เขาคิดว่าตัวเองกำลังเล่นเกม Call of duty อย่างนั้นเหรอ?”
การที่เซี่ยเหล่ยฆ่าสไนเปอร์ของฝั่งตรงข้ามได้แล้วนั้น ทำให้ถ่างหยู่เหยี่ยตะลึงอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามเธอเห็นแค่ตอนที่เซี่ยเหล่ยยืนนิ่งอยู่และยิงเสร็จแล้วเท่านั้น ถ้าเธอได้เห็นวิธีการทั้งหมด นั่นคงจะทำให้เธอตะลึงไปมากกว่านี้
ปัง !! กระสุนปืนนัดต่อไปถูกยิงออกไป มันตรงไปยังหัวของกองกำลังเซ้นไอดร้า คนหนึ่งด้วยความแรงของกระสุน มันได้ทะลุและปั่นกระโหลกของเขาอย่างรุนแรงทำให้เขาตายทันทีด้วยการตายของเขาทำให้กองกำลังของเซ้นไอดร้าเริ่มที่จะรู้สึกหวาดกลัว
แต่นี่เป็นแค่การเริ่มต้นของเซี่ยเหล่ยก็เท่านั้น….
ในตอนนี้หากจะประมาณคนของกองกำลังเซ้นไอดร้าแล้วก็จะอยู่ที่ราวๆหนึ่งร้อยคน ด้านเจ้าหน้าที่ของถ่างหยู่เหยี่ยที่ตอนแรกมากันสิบคนนั้นในตอนนี้มีจำนวนเหลือไม่เท่าเดิมแล้วเพราะต้องสูญเสียเจ้าหน้าที่ไปสามคนในตอนที่ต่อสู้กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายของสหรัฐอเมริกาเมื่อเป็นแบบนี้แล้วถ่างหยู่เหยี่ยก็ไม่อยากที่จะสูญเสียใครไปอีก เพราะไม่อย่างนั้นการที่จะทำภารกิจหลักคือการไปช่วยตัวประกันจะมีโอกาสสำเร็จน้อยหรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย
ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยก็ได้เข้าสู่สนามรบเป็นครั้งที่สอง เขาปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ครั้งนี้เขาไม่มีอาการตื่นเต้นหรือกลัวเหมือนครั้งแรกแล้ว เขาได้หลบซ่อนตัวอยู่หลังกำบังและก็หาโอกาสในการฆ่าศัตรูอย่างใจเย็น
ก่อนหน้านี้กองกำลังของเซ้นไอดร้าได้เคลื่อนที่ไปมาเพื่อที่จะขยับเข้าไปใกล้กับกองกำลังของชนเผ่าไบซีให้มากขึ้นเพื่อสะดวกต่อการยิงและประสิทธิภาพระยะหวังผลของปืนแต่ด้วยการยิงของเซี่ยเหล่ยทำให้พวกเขาตายไปประมาณสิบคน นั่นทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่ามือสไนเปอร์ของฝ่ายตรงข้ามซึ่งก็คือเซี่ยเหล่ยนั้นน่ากลัวอย่างมาก ตอนนี้พวกเขาได้แต่หลบอยู่หลังกำบังและไม่กล้าที่จะวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าเพื่อบุกเข้ามา แต่ถึงตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ขยับเข้ามาเพิ่มแต่พวกเขาก็อยู่ใกล้มาพอแล้วโดยมีระยะห่างเพียงแค่ 500 เมตรเท่านั้น
คนส่วนใหญ่ของกองกำลังเซ้นไอดร้านั้นจะใช้ปืน AK-47 ซึ่งมีประสิทธิภาพหวังผลที่ 400 เมตรแต่ก็สามารถปรับได้มากสุดถึง 800 เมตรนั่นทำให้ตอนนี้กำบังของเซี่ยเหล่ยก็ไม่ปลอดภัยเหมือนแต่ก่อนเพราะกระสุนสามารถที่จะพุ่งมาโดนเขาได้ตลอดเวลา!
ถึงแม้ว่าตอนนี้เซี่ยเหล่ยจะอยู่ในระยิงของศัตรูแล้วแต่เขาก็ไม่ได้กลัวจนไม่กล้าที่จะออกไปยิง เขาได้ยกปืนขึ้นและใช้ซอกหินให้เป็นประโยชน์ จากนั้นก็หาเป้าหมายที่ใกล้ที่สุดและทำการลั่นกระสุนออกไป!
การที่เซี่ยเหล่ยสังหารกองกำลังของเซ้นไอดร้าได้เรื่อยๆนั้น ทำให้พวกเขาเองก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเหมือนกัน พวกเขาตระหนักได้ว่าตัวเองก็อาจจะโดนกระสุนจากที่ไหนไม่รู้ลอยมาโดนก็ได้
การกระทำของเซี่ยเหล่ยมาจนถึงตอนนี้เป็นที่พอใจของทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและ เจ้าหน้าที่ที่ยังเหลืออยู่เป็นอย่างมากหรือแม้แต่กระทั่งชนเผ่าไบซีเอง
“คุณหยาง สามีของคุณเก่งจนน่าเหลือเชื่อจริงๆ เขาเป็นคนที่แม่นที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย ” คาบู ที่อยู่ด้านข้างของหยู่เหยี่ยไม่สามารถที่จะอดชื่นชมเซี่ยเหล่ยด้วยความตื่นเต้นได้เลยจากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “ถ้าผมรู้ว่าเขาจะเก่งขนาดนี้ผมคงจะไม่ส่งคนของผมออกไปเพื่อเจรจาแล้วต้องตายอย่างไร้ค่า ! “
ก่อนหน้านี้ถ่างหยู่เหยี่ยเรียกเซี่ยเหล่ยว่า “หยางกั่ว” นั่นทำให้คาบูเรียกถ่างหยู่เหยี่ยว่า “คุณหยาง” แต่จริงๆแล้วหยางกั่วเป็นชื่อของคนจีนแต่คาบูไม่มีความรู้ในด้านภาษาจีนมากนัก
ในตอนนี้มีกระสุนยิงมาที่กำบังที่คาบูและถ่างหยู่เหยี่ยหลบซ่อนอยู่ตลอดเวลา แต่มีกระสุนนัดหนึ่งได้ยิงมาจนก้อนหินแตก การแตกนั้นทำให้เศษหินได้กระเด็นอย่างรุนแรงและพุ่งมาเฉี่ยวไหล่ของถ่างหยู่หยี่ย นั่นเป็นสาเหตุให้เลือดของเธอไหลออกมาทันที
“คุณบาดเจ็บ!” คาบูพูด
“ไม่เป็นไร ฉันยังไหวอยู่ให้ทุกอย่างดำเนินการต่อไปแต่ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันจะไปช่วยสนับสนุนสามีของฉันก่อนดังนั้นช่วยยิงเปิดทางให้ฉันหน่อย” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมชี้ไปที่กำบังที่เซี่ยเหล่ยซ่อนตัวอยู่แต่การที่จะไปตรงนั้นจะทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาอย่างมาก
“ไม่มีปัญหา!” คาบู พูดพร้อมสั่งการลูกน้องของเขาทันที
หลังจากได้รับคำสั่ง ทุกคนก็กระหน่ำยิงทันทีเพื่อเปิดทางให้กับถ่างหยู่เหยี่ย
ถ่างหยู่เหยี่ยถอนหายในหนึ่งครั้งก่อนที่จะหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั่นก็พุ่งออกตัววิ่งทันที ความเร็วในการวิ่งของเธอนั้นเร็วอย่างมากแม้ว่าจะเป็นทางลาดชัน ความเร็วของเธอก็ไม่ได้ลดลงเลย
คาบูที่เห็นในการกระทำของถ่างหยู่เหยี่ยนั้นรู้สึกทึ่งอย่างมาก ทำให้ในใจเขาคิดว่าทั้งคู่ช่างเหมาะสมที่จะเป็นสามีภรรยากันจริงๆ!
แต่ยังไม่ทันที่ถ่างหยู่เหยี่ยจะวิ่งไปถึงกำบังของเซี่ยเหล่ยนั้น จังหวะนี้ก็มีมิซไซล์พุ่งตรงไปยังกำบังของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยที่สังเกตเห็นก็ได้กระโจนตัวออกพร้อมกับกอดเอวและลากถ่างหยู่เหยี่ยออกไปก่อนที่มิซไซล์จะบินมาถึงกำบัง จากการกระโดดนี้ทำให้ทั้งเซี่ยเหล่ยและถ่างหยู่เหยี่ยล้มกลิ้งลงไปนอนกับพื้นหลายตลบ โดยที่เซี่ยเหล่ยอยู่ด้านบนและนอนทับร่างของถ่างหยู่เหยี่ยอยู่โดยที่ทั้งคู่กำลังหันหน้าเข้าหากัน!
จังหวะที่กลิ้งนี้แม้ว่าพวกเขาจะหันหน้าเข้าหากันแต่ตอนนี้หัวของถ่างหยู่เหยี่ยก็อยู่ตรงส่วนสำคัญของเซี่ยเหล่ย นั่นทำให้ลิมฝีปากของถ่างหยู่เหยี่ยรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของส่วนสำคัญของเซี่ยเหล่ย จมูกของเธอในตอนนี้ได้กลิ่นอะไรเปลกๆ ด้านเซี่ยเหล่ยที่ตอนนี้ขาของเขาเองก็ได้ไปทับอยู่ตรงหน้าอกของถ่างหยู่เหยี่ย ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้สมองของถ่างหยู่เหยี่ยว่างเปล่าไปในทันที……
ตูม!! มิซไซล์ได้พุ่งไปชนกับกำบังที่เซี่ยเหล่ยให้หลบอยู่ก่อนหน้านี้ เสียงของมันดังสนั่นหวั่นไหวด้วยอานุภาพของมิซไซล์ทำให้ก้อนหินก้อนนั้นแตกกระจายในทันที เศษหินต่างๆพากันลอยขึ้นฟ้าและกระจัดกระจายออกทางด้านข้างด้วยแรงอัดระเบิดจากมิซไซล์ นั่นทำให้เศษหินบางส่วนที่ลอยแล้วตกลงมาไปโดนหลังของเซี่ยเหล่ยบ้าง
เซี่ยเหล่ยในตอนนี้พยายามที่จะปัดหินที่หล่นลงมาใส่หลังของเขาและพยายามจะขยับตัวออกจากตัวของถ่างหยู่เหยี่ย
การระเบิดนี้ทำให้ถ่างหยู่เหยี่ยได้สติและกลับมาตระหนักได้อีกครั้งว่าครั้งนี้ก็เป็นเซี่ยเหล่ยที่ช่วยเธอเอาไว้แต่อย่างไรก็ตามเธอก็จำได้เช่นกันว่าเมื่อกี้นี้เธอได้จูบอวัยวะที่สำคัญที่สุดของเซี่ยเหล่ยไปนั่นทำให้ตอนนี้เธอลุกขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ
“คุณวิ่งมาเพื่ออะไรเนี๊ยย ?” เซี่ยเหล่ยถาม
“ฉันเป็นห่วงคุณ ฉันเลยวิ่งมาหา” ถ่างหยู่เหยี่ยตอบพร้อมมองไปที่ปืนไรเฟิลของเซี่ยเหล่ยและพูดขึ้นต่ออย่างประหลาดใจว่า “ลำกล้องหล่ะ?”
“มันพังไปแล้ว” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับเตรียมตัวที่จะหากำบังที่ใหม่ที่สูงกว่านี้
“แล้วถ้าไม่มีลำกล้อง คุณจะยิงฆ่าศัตรูได้อย่างไรกัน? “ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมกับจู่ๆสายตาของเธอก็หันไปเห็นที่หลังของเซี่ยเหล่ย จากนั้นเธอก็พูดอย่างตื่นตระหนกไปว่า” คุณบาดเจ็บด้วยนี่! “
เซี่ยเหล่ยหันกลับไปดูและก็พบว่ามีเศษหินที่เกิดจากแรงระเบิดของมิซไซล์เมื่อกี้นี้กระเดินพุ่งมาชนที่หลังของเซี่ยเหล่ย นั่นทำให้เลือดไหลออกมาตลอดเวลา แต่ที่เซี่ยเหล่ยไม่ทันรู้สึกตัวนั้นก็เพราะว่าตอนนี้จิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่แต่กับสถานการณ์ของสนามรบในตอนนี้!
“คุณต้องทำแผลก่อน!” ถ่างหยู่เหยี่ยพูด
“รอให้ภารกิจจบลงก่อน ตอนนี้คุณกลับไปที่ของคุณได้แล้วรีบไปเร็วเข้า!” เซี่ยเหล่ยพูดเสียงดังใส่ถ่างหยู่เหยี่ย
“คุณนี่ …… ” พูดอย่างอึดอัดใจ!
ติดตามตอนต่อไป……………