Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 327
TxV – 327 ไม่มีทางเลือก !
ขณะนี้ภายนอกศาลเจ้ายังคงมีเสียงไซเรนดังไม่ขาดสายหลังจากเข้ามาในศาลเจ้า แล้วเซี่ยเหล่ยก็หันกลับไปดูในจุดที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้ พร้อมกับกระตุกตาซ้ายเล็กน้อยเพื่อเช็คสถานการณ์ภายนอก เขาไม่ได้มองไปแค่จุดที่เคยยืนอยู่เท่านั้นแต่ได้มองไปรอบๆเพื่อหาจุดที่คาดว่าจะมีตํารวจอยู่
ด้านซ้ายถัดไปราวๆสองถึงสามร้อยเมตรมีรถตํารวจเกาหลีสองคันจอดอยู่และเตรียมกําลังจะมาที่ศาลเจ้า ด้านขวาก็เช่นกันห่างออกไปราวๆห้าสิบเมตรมีรถตํารวจ เป็นรถเชฟโรเลตสีดําจอดอยู่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ของ CIA จํานวนหนึ่งนั่งอยู่ด้านใน ไม่ได้มีแค่ด้านซ้านกับด้านขวาเท่านั้น ด้านบนก็ยังมี มันคือเฮลิคอปเตอร์บินอยู่ไม่ห่างจากศาลเจ้าซักเท่าไหร่
เซี่ยเหล่ยค่อนข้างที่จะกระวนกระวายก่อนจะนึกอะไรได้ เขากลับมาตั้งสติและมองไปรอบๆอีกครั้งเพื่อหาเส้นทางในการหลบหนีเป็นอยู่เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที่สมองของเขาก็ประมวลผลและวิเคราะห์หาเส้นทางในการหลบหนีได้แล้ว!
ไม่รอช้าเซี่ยเหลียรีบวิ่งทันทีในขณะที่ยังไม่ทันมีใครเห็นเขา
อย่างไรก็ตามเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่เหนือศาลเจ้านี้ได้พยายามส่องไฟสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่ลงมาภายในศาลเจ้า เพื่อจะดูว่าเซี่ยเหลียเข้ามาหลบซ่อนอยู่หรือไม่
แต่ถึงพวกเขาจะหายังไงก็หาไม่เจอ นั่นก็เพราะเซี่ยเหลียหนีออกไปทางอื่นแล้ว
เมื่อออกจากซอยที่ซับซ้อนหลังจากการหลบหนีด้านหน้าของเขาบนถนนมีรถมอเตอร์ไซต์จอดอยู่คันหนึ่ง โดยมีคนขับเป็นผู้หญิงผมยาวสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ เธอสวมแจ็กเก็ตหนังแนบเนื้อ แม้ว่าเธอจะสวมหมวกอยู่ แต่เซี่ยเหล่ยก็รู้ได้ทันทีเลยว่าผู้หญิงคนนี้คือหลางซือเหยา
หลางซือเหยาเปิดประจกของหมวกกันน็อคขึ้นจากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเร่งรีบและกังวลว่า “ขึ้นรถเร็วเข้า!”
เซี่ยเหล่ยกําลังลังเลนั่นก็เพราะเขาเคยถูกเธอทรยศมาครั้งหนึ่งแล้ว เขาไม่ต้องการถูกทรยศเป็นครั้งที่สองและถ้านี่เป็นการร่วมมือกันระหว่างเธอและเจ้าหน้าที่ CIA เขาก็จะกลายเป็นลูกไก่ในกํามือทันที
“ไม่มีเวลาแล้วนะ!” หลางซื่อเหยาพูดอย่างกังวลพร้อมพูดต่อว่า “ได้โปรดเชื่อใจฉัน ครั้งนี้ฉันไม่โกหกคุณเด็ดขาด ถ้าฉันต้องการจะหลอกลวงคุณ ทําไมฉันจะต้องเสียเวลาโทรหาคุณด้วยหล่ะ? คุณรู้ไหมว่าการที่ฉันทําแบบนี้เสี่ยงที่จะต้องเจอกับอะไรบ้าง? ”
การที่หลางซื่อเหยาโทรหาเชียเหล่ยก่อนหน้านี้ เธอจะตกอยู่ในฐานะคนทรยศทันทีและสําหรับคนที่ทรยศองกรณ์ CIA จะต้องถูกลงโทษอย่างร้ายแรง
จังหวะนี้รถตํารวจก็โผล่ออกมาจากซอยหนึ่งของถนนใหญ่ มันมาพร้อมกับเสียงไซเรนและได้ทําลายความเงียบสงัดในยามราตรีลง
เฮลิคอปเตอร์ในตอนนี้ก็ไล่ตามมาติดๆ!
ตอนนี้เซี่ยเหลียไม่มีเวลาให้คิดหาทางแล้วเพราะถ้าไม่ขึ้นรถไปพร้อมกับหลางซือเหยา เขาจะต้องถูกจับอย่างแน่นอน
เซี่ยเหล่ยเดินตรงไปยังรถมอเตอร์ไซต์ของหลางซือเหยาทันที เมื่อเห็นว่าเขาเดินมาเพื่อขึ้นรถแล้ว เธอก็ส่งหมวกให้อย่างรวดเร็ว เขารีบใส่หมวกและกอดที่เอวของเธอ หลังจากนั้น หลางซือเหยาก็ปล่อยครัชพร้อมบิดคันเร่งออกตัวเหมือนกับสัตว์ร้ายที่กําลังออกตัววิ่งอย่างบ้าคลั่ง เส้นทางที่เธอคิดจะใช้หลบหนีคือเส้นทางที่เซี่ยเหล่ยใช้หลบหนีก่อนหน้านี้ เนื่องจากมันเป็นซอยที่สลับซับซ้อน
ในขณะนี้เฮลิคอปเตอร์เองก็เจอเซี่ยเหล่ยแล้ว มันขับตามไล่รถมอเตอร์ไซต์ทันที
เซี่ยเหล่ยในตอนนี้ค่อนข้างรู้สึกสับสนในอารมณ์ของตัวเองเพราะไม่รู้ว่าจะกระวนกระวายจากเรื่องที่กําลังถูกไล่ล่าหรือเรื่องของหลางชื่อเหยา เขามองไปที่เอวของเธอจากด้านหลัง ก่อนนี้มันเคยเป็นเอวที่อ่อนนุ่มและคุ้นเคยแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกต่างออกไป มันไม่สามารถพูดออกมาเป็นคําพูดได้เลย
ในขณะที่ทั้งคู่อยู่บนรถมอเตอร์ไซต์ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นเลย หลางซื่อเหยาเองก็มัวแต่ขับรถหนีให้ไกลที่สุดจนในตอนนี้ทั้งคู่ออกมาจนถึงเขตชานเมืองแล้ว ด้านหลังของพวกเขาไม่มีแม้แต่รถตํารวจหรือแม่แต่เฮลิคอปเตอร์ขับไล่ตามมา
ในเขตชานเมืองบรรยากาศที่นี่แตกต่างจากในเมืองอย่างลิบลับ
ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของสลัมเลยก็ว่าได้ มันคือศูนย์รวมด้านมืดของเกาหลีใต้
หลางซือเหยาขับรถไปจอดอยู่ที่กระท่อมหลังหนึ่งใกล้กันนั้นดูเหมือนจะเป็นที่ทิ้งขยะ มันมีทั้งถุงพลาสติกสีดําขนาดใหญ่วางอยู่มากมาย มีแม้กระทั่งโซฟาที่ไม่ใช้แล้ว
ไม่นานก็มีสุนัขตัวใหญ่ตัวหนึ่งเห่าขึ้นพร้อมกับจะวิ่งมาหาพวกเขา แต่มันก็ทําไม่ได้เพราะถูกล่ามโซ่เอาไว้
หลางซื่อเหยาถอดหมวกกันน็อคพร้อมตะคอกใส่สุนัขว่า ” หยุดเห่าเดี๋ยวนี้!”
สุนัขตัวนั้นเข้าใจทันที มันหยุดเห่าและเดินกลับไปอยู่ที่เดิม
แม้ว่าตอนนี้ค่อนข้างจะดูปลอดภัยแต่เซี่ยเหล่ยก็ยังรู้สึกกังวล สับสน และสงสัย ดูเหมือนว่าหลางซื่อเหยาจะรู้จักและเคยมาที่นี่มาก่อนแล้วแถมดูเธอจะสนิทกับสุนัขตัวนี้อีกด้วย
จังหวะนี้ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากกระท่อม เขามีผิวสีเหลือง บนใบหน้ามีหนวดเคลารุงรังและผมก็ยาวมาก แถมดูเหมือนมันจะไม่เคยถูกน้ำมาเป็นเวลานานแล้วด้วย สภาพตอนนี้ของเขาค่อนข้างที่จะเหมือนขอทานแต่นี่เป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น เพราะท่าทางของเขาดูแข็งแรงอย่างมากแถมยังมีสายตาที่ดุดันอีกด้วย
“ออกไปดูลาดเลา ถ้ามีอะไรผิดสังเกต รีบรายงานฉันทันที” หลางซือเหยาพูดกับชายวัยกลางคน
“อืม” ชายวัยกลางคนหันมาตอบ จากนั้นก็เดินออกไปทันที
เซี่ยเหลียลงจากมอเตอร์ไซต์พร้อมถามออกไปอย่างสงสัยว่า ” เขาเป็นใคร?”
“เขาเป็นคนที่ควรจะหายไปจากโลกนี้ แต่ฉันได้ช่วยชีวิตเขาไว้” หลางซือเหยาพูดต่อทันทีว่า “เขาชื่อว่าเปี่ยวเจิ้งหลงเราไว้ใจเขาได้”
จังหวะนี้เซี่ยเหล่ยก็มองไปที่ตาของหลางซื่อเหยาจากนั้นก็พูดขึ้นทันทีว่า “แล้วคุณหล่ะ? ผมควรจะไว้ใจคุณด้วยหรือไม่? ”
หลางซื่อเหยาเลือกที่จะหลบสายตาของเซี่ยเหลีย ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำเพราะเธอรับรู้ได้ว่าเซี่ยเหลียจริงใจและจริงจังกับเธอขนาดไหน ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็จะคอยเอามาเล่าหรือพูดคุยปรึกษา มันเป็นการแบ่งปันความรู้สึกซึ่งกันและกันสําหรับคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มอะไร เธอก็ไปทําร้ายจิตใจและความรู้สึกของเขาอย่างรุนแรง ดังนั้นตอนนี้เธอเลยไม่รู้จะตอบไปว่ายังไงดี
” คุณจะตอบคําถามของผมหรือไม่?” เซี่ยเหล่ยย้ำอีกครั้งเพราะเขาต้องการคําตอบจริงๆ
หลางซือเหยาเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมพูดขึ้นว่า “เราเข้าไปข้างในกันดีกว่า ข้างนอกนี่ เราอาจจะถูกเจอตัวด้วยดาวเทียมของกองทัพสหรัฐ”
พูดจบหลางซื่อเหยาก็เดินเข้ากระท่อมทันที
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจหนึ่งครั้งก่อนจะเดินตามหลางซื่อเหยาเข้าไปในกระท่อม ภายในมีสภาพค่อนข้างจะแย่ มีชามก๋วยเตี๋ยวถูกวางไว้บนโต๊ะดูเหมือนมันจะถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้ล้างมาหลายวัน ที่แย่กว่านั้นคือมันมีแมลงวันตอมอยู่มากมายถัดไปด้านข้างก็มีตะกร้าเสื้อผ้าวางอยู่ภายในมีเสื้อที่ใส่แล้วหลายตัวรวมถึงถุงเท้าที่ใส่แล้วเช่นกัน กลิ่นที่ส่งออกมารุนแรงทีเดียว
หลางซื่อเหยาขมวดคิ้วก่อนพูดว่า ”เขาไม่รู้จักวิธีทําความสะอาดอย่างนั้นเรอะ?”
“คุณยังคงเป็นคนรักความสะอาด เมื่อก่อนคุณก็ทําความสะอาดห้องของคุณอยู่เสมอ และตราบเท่าที่เราอยู่ด้วยกัน คุณก็จะคอยเตรียมถุงเท้าให้กับฉันในทุกๆเช้า ” เซี่ยเหล่ยพูดกับตัวเองเบาๆ พูดเสร็จภาพในอดีตก็ค่อยๆผุดขึ้นมาเนื่องจากมันเป็นช่วงเวลาที่เคยมีความสุข เขาจึงไม่เคยลืมเรื่องราวนี้
หลางซื่อเหยาในตอนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้วจู่ๆเธอก็หันไปหาเซี่ยเหลียพร้อมยกมือแล้วจับไปที่คอของเขา ขยับตัวเข้าหาจากนั้นก็จูบไปที่ริมฝีปากอย่างรวดเร็ว เธอไม่สนว่าตอนนี้กําลังโดนล่าหรืออะไรก็แล้วแต่นี่คือสิ่งที่เธอต้องการ เธอเองก็อยากจะย้อนเวลากลับไปในช่วงที่ยังช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาที่มีความสุขด้วยกัน
ริมฝีปากของเธออ่อนนุ่มและละเอียดอ่อน หน้าอกของเธอก็ดันเสื้อที่แนบเนื้อเด่นชัดความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยนอกจากนี้ดูเหมือนว่าเธอจะผิวเนียนและดูเอิบอิ่มมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยไม่ได้เคลิ้มตามเธอไป เขาผลักเธอให้ถอยออกจากตัวของเขา นี่ถือเป็นคําตอบของเซี่ยเหลีย
“คุณ … ” หลางซื่อเหยาพูดขึ้นทันทีว่า “ยังไม่ให้อภัยฉันงั้นเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่นพร้อมส่ายหน้าจากนั้นก็พูดว่า “บางสิ่งบางอย่างไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้ก่อนหน้านี้ผมเจ็บปวดอย่างมากก็เพราะคุณแล้วทําไมตอนนี้คุณถึงยังมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าผมอีก?”
หลางซือเหยาน้ำตาคลอก่อนตอบว่า “ก็คุณตกอยู่ในอันตราย จะปล่อยให้ฉันเห็นคุณตายก่อนอย่างนั้นเรอะ?”
ในความเป็นจริงแม้ว่าจะไม่มีหลางซื่อเหยาเข้ามาช่วย เซี่ยเหล่ยก็สามารถหาทางหนีได้ด้วยตัวเองแต่อย่างไรก็ตามการที่เธอมาช่วยเซี่ยเหล่ยก็รู้สึกขอบคุณอยู่ไม่น้อยแต่เขาไม่คิดที่จะแสดงออกมา
“คุณต้องการช่วยผมจริงๆงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยพูด
“คุณยังคิดว่านี่เป็นกับดักอีกเหรอ? ถ้าคุณยังไม่เชื่อ คุณจะฆ่าฉันเมื่อไหร่ก็ได้หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล” หลางซื่อเหยาพูดพร้อมหยิบปืนจากเอวแล้วส่งให้กับเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหลียไม่ได้รับปืนมา เขาเดินผ่านเธอไปแล้วไปนั่งลงอยู่ที่มุมห้องจากนั้นก็พูดว่า “เก็บปืนของคุณไว้ซะ ถ้าผมจะแก้แค้นคุณอย่างแน่นอนมันจะไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นที่ประเทศจีน
ในตอนนี้ที่ดวงตาของหลางซือเหยาไม่ได้แค่น้ำตาคลอเท่านั้นแต่มันไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“ผมจะออกจากที่นี่ได้เมื่อไหร่?” เซี่ยเหล่ยถาม
“เร็วที่สุดก็พรุ่งนี้เช้า” หลางซื่อเหยาพูดพร้อมเอามือปาดน้ำตาและพูดต่อว่า “ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะก่อน พรุ่งนี้เช้าฉันจะให้เปี่ยวเจิ้งหลง ขับรถไปส่งคุณที่ท่าเรือปูซาน คุณจะกลับจีนโดยการขึ้นเรือ “
“แล้วคุณหล่ะ…?” เซี่ยเหล่ยถาม
“คุณสนใจฉันด้วยงั้นเหรอ?” หลางซื่อเหยาพูดพร้อมยิ้มอย่างขมขื่นจากนั้นก็พูดต่อว่า ” คุณไม่จําเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของฉันให้ลําบากใจหรอกนะ”
“เขาจะรู้ว่าคุณเป็นคนทรยศหรือไม่?” เซี่ยเหล่ยถาม
“ฉันบอกไปแล้วว่าไม่จําเป็นต้องกังวลเรื่องของฉัน!” หลางซือเหยาตะคอกออกไป
เซี่ยเหลียเงียบลงแม้ว่าหลางซื่อเหยาจะต้องถูกสอบสวนโดย CIA และสุดท้ายอาจจะเจอผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด เขาก็ไม่สามารถพาเธอหนีไปด้วยได้เพราะเธอไม่สามารถกลับไปประเทศจีนได้!
“ขอโทษ” หลางซือเหยาพูดพร้อมถอนหายใจจากนั้นก็พูดต่อว่า “ฉันไม่ควรพูดแบบนั้นกับคุณ”
“ไม่เป็นไร เซี่ยเหล่ยตอบ
“ว่าแต่ทําไมคุณถึงยังทํางานให้กับสํานักงานลับ 101 อยู่อีกหล่ะ?” หลางซื่อเหยาถามพร้อมมองไปที่หน้าเซี่ยเหล่ยก่อนจะถามต่อว่า ”การที่เป็นนักธุรกิจธรรมดาก็น่าจะเพียงพอแล้วนี่? แถมคุณยังสามารถมีเวลากับเฉินตูเทียนหยินมากพอด้วยซ้ำ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมาก เธอจะต้องทําให้คุณมีความสุขได้อย่างแน่นอน แต่คุณก็ไม่ทําแบบนั้น บอกฉันได้ไหมว่าทําไม? ”
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่นก่อนพูดขึ้นว่า “คุณไม่คิดจริงๆเหรอว่าผมไม่ต้องการชีวิตที่เป็นแบบที่คุณพูดมา แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ ตั้งแต่ได้รับแคปซูลAE ชีวิตของผมก็ถูกกําหนดให้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาไม่ได้แล้ว ที่คุณถามผมว่าทําไมถึงยังทํางานให้กับสํานักงานลับ 101 อยู่อีกนั่นก็เพราะที่นี่สามารถปกป้องผมได้ไม่มากก็น้อยยังไงหล่ะ “
หลางซือเหยาเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ชีวิตที่ไม่มีทางเลือก เรามาลืมมันดีกว่า เราไม่ควรที่จะเศร้ากับเรื่องแบบนี้ ในตอนนี้เราอยู่ในที่เดียวกันแล้ว เรามาดื่มกันหน่อยดีกว่า”
เซี่ยเหลียไม่คิดที่จะปฏิเสธ เขาตอบกลับไปว่า “อืม…ก็ดีเหมือนกัน”
ติดตามตอนต่อไป……………….