Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 335 โกหก ?
TXV –
บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลนมีทั้งรถบรรทุก รถออฟโลดพร้อมกองกำลังติดอาวุธอีกนับร้อยคนกำลังไล่ใครบางคนอยู่ซึ่งก็คือแคนลามี่โดยแคนลามี่กำลังขี่ม้าอยู่ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยเพราะสิ่งที่แปลกและน่าสนใจก็คือในกระเป๋าของม้าที่เธอขี่มีดาบอาทิส์ล่าอยู่ภายในด้วย!
การพยายามนี้คือการที่ปล่อยให้แคนลามี่สามารถหนีรอดไปได้!
เป็นเพราะออกตัววิ่งก่อนหลายนาที ทำให้เซี่ยเหล่ยและแคนลามี่ในตอนนี้มีระยะห่างเกือบๆหนึ่งกิโลเมตร
”เยี่ยมเลย! ในตอนแรกผมจะเตือนให้คุณขี่ม้าของทีน่าแต่ดูเหมือนไม่จำเป็นเพราะคุณขึ้นไปขี่มันก่อนที่ผมจะพูดเสียอีก” เซี่ยเหล่ยพูดออกมาเสียงดัง
แคนลามี่หันไปมองพร้อมยิ้มและพูดว่า “ก็ฉันเป็นคนฉลาดยังไงหล่ะ!”
เซี่ยเหล่ยไม่รู้จะตอบกลับไปว่าอย่างไรเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอตอบกลับมา
”ขึ้นไปบนเขา!” แคนลามี่พูดพร้อมจับบังเหียนแล้วควบคุมทิศทางของม้าให้ออกจากถนนที่เต็มไปด้วยโคลน แล้วตรงไปยังเนินเขา
เซี่ยเหล่ยเดินเองก็ออกจากถนนที่เต็มไปด้วยโคลนและพยายามขึ้นไปบนเขาเช่นกัน นี่ถือว่าเป็นแผนที่ดีเนื่องจากการขับรถบรรทุกและรถออฟโลดขึ้นเขาเป็นไปได้ยากมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้แคนลามี่จะไม่ค่อยฉลาดและวางแผนได้ดีซักเท่าไหร่แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
ปังปังปังปังปัง….
มือปืนที่อยู่บนรถบรรทุกเปิดฉากไล่ยิงไปตามทิศทางที่เซี่ยเหล่ยและแคนลามี่กำลังหลบหนี
ปืนที่ใช้ในการยิงไล่ล่านี้เป็นปืนกลหนัก ระยะหวังผลและประสิทธิภาพของมันค่อนข้างดีเยี่ยมแม้ว่าจะเป็นคนตาบอดก็สามารถยิงได้เนื่องจากจำนวนกระสุนของมันต่อหนึ่งแม็กกาซีนมีเยอะจนน่าเหลือเชื่อและอัตราการลั่นกระสุนก็เร็วอย่างมากด้วยเช่นกัน
ด้วยจำนวนกระสุนที่ถูกยิงออกไปในขณะนี้มีจำนวนไม่น้อยที่ยิงไปใกล้กับพวกเขาทั้งสอง บางนัดก็เฉี่ยวพวกเขาไปเพียงแค่นิดเดียว ฉากนี้ถือว่าเป็นฉากที่น่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกันสำหรับพวกเขาทั้งสองคน
ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยก็คิดที่จะโต้กลับเพื่อทำให้ศัตรูไล่ล่าได้ลำบากขึ้น เขาหยิบปืนไรเฟิลขึ้นมาแล้วหันหลังไปครึ่งตัวจากนั้นก็ยกปืนขึ้นพร้อมเล็งไปที่มือปืนบนรถบรรทุก
แม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะได้รับแรงกดดันจากลูกกระสุนปืนมากมายที่ถูกกระหน่ำมาไม่ขาดสายในตอนนี้ แต่มันก็ไม่มีผลกระทบต่อสมาธิในการเล็งของเขา
ปัง! กระสุนปืนพุ่งออกจากปลายกระบอกปืนพร้อมกับเขม่าดินปืน มันตรงไปยังหัวของมือปืนที่ยิงปืนกลหนักของรถกระบะ มีผลทำให้มือปืนคนนั้นล้มลงไปกอง ซึ่งแน่นอนว่าเขาตายในทันที
หลังจากมือปืนคนดังกล่าวตายไปก็ไม่มีใครกล้าขึ้นมายิงปืนกลหนักต่อจากเขาเลย
ในการจะขึ้นภูเขา รถออฟโลดและรถบรรทุกไม่สามารถขับขึ้นไปได้ ทำให้กองกำลังราวๆครึ่งหนึ่งไม่สามารถเดินทางต่อได้แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีกองทัพม้าและกองทัพเดินเท้าที่ยังคงออกตามล่าได้อยู่
ในตอนนี้ทีน่าเองไม่กล้าที่จะเอาหัวและร่างกายส่วนบนของตัวเองโผล่ออกไปให้เซี่ยเหล่ยเห็นแม้แต่น้อย เธอได้แต่ก้มหน้าและหมอบร่างกายให้แนบติดกับหลังม้าอยู่ตลอดเวลานั่นก็เพราะเธอรู้ว่าเซี่ยเหล่ยยิงปืนแม่นแค่ไหน เธอตระหนักได้ว่าความสามารถของเขาสามารถฆ่าเธอได้ภายในกระสุนนัดเดียว
”ทีน่ายังคงไล่ตามเรามาอยู่ ต้องการให้ผมฆ่าเธอหรือไม่?” เซี่ยเหล่ยถาม
”ไม่ต้อง ฉันจะเป็นคนจัดการเธอเอง!” บนใบหน้าของแคนลามี่เต็มไปด้วยความโกรธในขณะที่เธอกำลังพูดจากนั้นก็พูดต่อทันทีว่า “เธอไม่เพียงแต่ต้องการที่จะฆ่าฉัน แต่ด้วยการกระทำของเธอทั้งหมดจนถึงในตอนนี้ ฉันไม่ให้อภัยเธอแน่ ฉันต้องการที่จะสู้กับเธอตัวต่อตัว เอาชนะเธอให้ได้และขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าคนใหม่!”
”ตกลง ผมจะปล่อยให้คุณจัดการเรื่องนี้เอง” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมยิ้มที่มุมปาก
การสูญเสียความไว้วางใจและการทรยศของทีน่าถือเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเขา แต่เซี่ยเหล่ยก็ไม่สามารถทำอะไรเกินกว่าเหตุได้นั่นก็เพราะยังมีตัวประกันที่ถูกจับอยู่ในชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์ ถ้าเกิดเขาเป็นคนฆ่าทีน่าเองตัวประกันก็จะตายไปด้วยแต่จะให้เรื่องราวไม่แย่เป็นกว่านี้ เขาจึงตัดสินใจให้แคนลามี่เป็นคนฆ่าเธอ และขึ้นเป็นหัวหน้าคนใหม่แทน!
การเปลี่ยนหัวหน้าเผ่าของชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์ไม่ได้เกิดจากการเลือกตั้งหรือหาเสียง แต่มันเกิดจากการต่อสู้กันระหว่างบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือมีความสำคัญกับชนเผ่ามากที่สุด แคนลามี่ถือว่าอยู่ในตัวเลือกพวกนี้เพราะการที่เซี่ยเหล่ยช่วยนำดาบกลับมาซึ่งเป็นดาบที่สำคัญของชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์ นี่ถือเป็นดาบที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ของชาวฮั่นและตอนนี้แคนลามี่ที่มีดาบอยู่ในมือ เธอจึงมีฐานะมากพอที่จะไปขอท้าสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าชนเผ่า!
ถ้าแคนลามี่สามารถขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าคนใหม่ได้สำเร็จอะไรหลายๆอย่างก็คงจะง่ายขึ้นทั้งเรื่องตัวประกันหรือแม้แต่การสำรวจเมืองโบราณ.ไอลีนโนเวล.
นี่คือแผนการที่เซี่ยเหล่ยวางไว้และดูเหมือนตอนนี้มันจะเป็นไปอย่างราบรื่น
ในพื้นที่ที่เซี่ยเหล่ยอยู่ในตอนนี้ มีเพียงโขดหินและต้นไม้เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่พอจะใช้เป็นกำบังได้ เขาค่อนข้างที่จะพอใจกับพื้นที่และสภาพแวดล้อมรอบข้าง เพราะในจุดนี้เขาสามารถมองเห็นรอบข้างได้อย่างชัดเจนและตราบใดที่เขายังอยู่ในบริเวณนี้ หากมีใครบุ่มบ่ามบุกเข้ามา เขาก็สามารถจะจัดการคนเหล่านั้นได้อย่างไร้กังวล
บนเนินเขาในตอนนี้ เซี่ยเหล่ยและแคนลามี่ลงจากหลังม้าพร้อมกับปลดกระเป๋าสัมพาระบางส่วนออก จุดที่พวกเขาอยู่ห่างจากทีน่าประมาณ 350 เมตร เซี่ยเหล่ยเองก็เลือกที่จะหามุมและกำบังที่ใช้ในการยิง แคนลามี่เองก็เช่นกันในมือของเธอมีปืนยิงลูกระเบิดนี่เป็นผลงานการผลิตของสำนักงานลับ 101 แต่ไม่ใช่เพียงแค่นี้ ในกระเป๋าสัมพาระของพวกเขายังมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพอีกหลายอย่าง
หลังจากเวลาผ่านไปกองกำลังติดอาวุธชนเผ่าอิกคาก็มองเห็นพวกเขาทั้งคู่ด้วยภูมิประเทศและจำนวนคนทำให้ตระหนักได้ว่าด้วยกองกำลังที่มีมากกว่าเป็นสิบๆเท่า การที่จะจับตัวคนเพียงแค่สองคนนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร มันคงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
ปัง!! เสียงกระสุนนัดแรกดังขึ้น
ลูกกระสุนพุ่งออกไปใส่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังวิ่งขึ้นมาอย่างเร่งรีบ กระสุนพุ่งตรงเข้าหัวอย่างจัง ทำให้ทั้งเลือดและสมองของเขากระจัดการจายไปรอบๆ
ปังปัง……
ปังปังปัง……
หลังจากเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นทำให้กองกำลังของชนเผ่าอิกคาเริ่มยิงสวนออกไปแต่ด้วยระยะห่างที่มากกว่าสามร้อยเมตร ปืนของพวกเขาไม่สามารถยิงและหวังผลกับเซี่ยเหล่ยและแคนลามี่ได้
”ยิงพวกเขาด้วยปืนยิงลูกระเบิด!” หนึ่งในชนเผ่าตะโกนออกมา
สิ้นเสียงตะโกนมีชายวัยกลางคนของชนเผ่าคนหนึ่งได้หยิบปืนยิงลูกระเบิดออกมาเพื่อเตรียมยิงแต่ในขณะที่เขากำลังเล็งและล็อกเป้าอยู่ จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้น ไม่นานหัวของมือปืนยิงลูกระเบิดก็เป็นรูพร้อมกับมีของเหลวสีแดงไหลออกมา…..
”บ้าเอ๊ยย! จริงๆแล้วมันเป็นใครกันแน่นะ?” หนึ่งในชนเผ่าตะโกนออกมาและดูเหมือนหลายๆคนก็จะคิดเช่นเดียวกับเขา
ขณะเดียวกันนี้ก็มีเสียงยิงออกมาหนึ่งนัด มันไม่ใช่เสียงปืนกลหนักหรือเสียงปืนไรเฟิลแต่เป็นเสียงปืนยิงลูกระเบิด มันถูกยิงโดยแคนลามี่โดยที่เป้าหมายของมันอยู่ที่กำบังของกองกำลังชนเผ่ อิกคา
ตูม!! เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับการแตกกระจายของก้อนหินและประกายไฟ การยิงครั้งนี้ทำให้กองกำลังของชนเผ่าอิกคาบาดเจ็บไปมากกว่ายี่สิบคน
โดยปกติแล้วระยะการยิงหวังผลของปืนยิงลูกระเบิดนี้มีน้อยกว่าสามร้อยเมตรอย่างแน่นอนแต่สิ่งที่ทำให้แคนลามี่ยิงไปถึงกองกำลังของชนเผ่าอิกคาได้นั่นก็คือตำแหน่งที่เธออยู่แม้ว่าจะอยู่ห่างกกว่าสามร้อยเมตรแต่ตำแหน่งของเธอก็อยู่สูงกว่ามาก มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ที่ลูกระเบิดจะไปตกถึงเป้าหมายที่อยู่ไกลได้
ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาไม่กี่นาทีแต่กองกำลังของชนเผ่าอิกคา สูญเสียกำลังพลไปมากกว่าสี่สิบคนแล้วแต่อย่างไรก็ตามการสูญเสียนี้ไม่ทำให้พวกเขาล่าถอยกลับ พวกเขายังคงเดินหน้าบุกต่อโดยพยายามใช้บังเกอร์เป็นที่กำบังเพื่อให้ระยะใกล้ขึ้น ส่วนสไนเปอร์ของฝั่งกองกำลังก็พยายามเล็งยิงเซี่ยเหล่ยอยู่ตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะไม่โดนเลยก็ตาม
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ฉากการต่อสู้ในตอนนี้เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้ากว่าในหนังฮอลีวูดเลย ผิดกันก็ตรงแค่ที่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง เซี่ยเหล่ยในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากพระเอกในหนังซักเท่าไหร่ เนื่องจากการต่อสู้จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทำให้เขาบาดเจ็บได้เลย!
ตอนนี้อาบูตูลูสามารถนำกำลังตามมาได้ เมื่อมาถึงเขาก็ต้องพบกับซากศพมากมาย เขาไม่เห็นเซี่ยเหล่ยและแคนลามี่แต่เห็นทีน่าแทน ทำให้เขาถามออกไปว่า “คุณปกปิดอะไรอยู่? จริงๆแล้วชายชาวจีนคนนั้นเป็นใครกันแน่? ”
”เจ้าหน้าที่ชาวจีนธรรมดาๆคนหนึ่ง! ก่อนหน้านี้ก็เคยบอกไปแล้วนี่” ทีน่าพูดพร้อมมองไปที่เขา
“บ้าเอ๊ยยย! แต่คุณก็ไม่ได้บอกนี่ว่าเขาจะเก่งขนาดนี้!” อาบูตูลูหันไปพูดกับทีน่าพร้อมพูดต่ออีกว่า “เรื่องตอนนี้ดูเหมือนว่ามันเกินกว่าที่ตกลงกันไว้! คุณจะแก้ปัญหานี้อย่างไรตอนนี้ผมต้องการที่สองแสนดอลล่า?!”
”ฉัน …… ” ทีน่าพูดอย่างกระอักกระอ่วมเพราะก่อนหน้านี้เธอมั่นใจอย่างมากว่าจะได้รับการตอบแทนจากชาวอเมริกันในการจับกุมตัวเซี่ยเหล่ยแต่ตอนนี้เธอยังจับตัวเขาไว้ไม่ได้ เธอจึงไม่สามารถจะหาเงินจำนวนสองแสนดอลล่ามาให้อาบูตูลูตอนนี้ได้
อาบูตูลูโกรธมากพร้อมพูดต่อทันทีว่า “คุณยังไม่มีเงิน? แต่ต้องการที่จะให้ผมจับตัวพวกเขาเลยงั้นเหรอ! ”
สิ้นเสียงคำพูดกองกำลังอิกคาหลายคนที่อยู่ในบริเวณนั้นก็หันปากกระบอกปืนไปที่ทีน่าโดยไม่ต้องมีคำสั่งออกมา
”ท่านหัวหน้าอาบูตูลู คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ” ทีน่าพูดอย่างกลุ้มใจ จากนั้นก็พูดต่อทันทีว่า “ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถหนีไปจากที่นี่ได้ พวกเขาก็ทำได้แค่ยื้อเวลาเท่านั้นเมื่อถึงเวลาเราก็สามารถไปจับตัวพวกเขาได้ ถึงตอนนั้นฉันจะให้คุณทั้งหมดสามแสนดอลล่า! ”
”คุณจะไปเอาสามแสนดอลล่ามาจากไหน?” อาบูตูลูพูดออกมาด้วยความโกรธจนเกือบจะควบคุมไม่ได้และตะคอกต่ออีกว่า “ไปหามาเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นผมจะฆ่าคุณซะ! ”
ปังปัง! หนึ่งในกองกำลังยิงไปที่ใต้เท้าของทีน่าเพื่อกระตุ้นเธอ
”แล้วคุณจะต้องเสียใจ!” ทีน่าพูด
”หึ!” อาบูตูลูพูดในลำคอ
ทีน่ายกปืน AK-47 ขึ้นอย่างช้าๆและกำลังจะเดินไปบนเนินเขาพร้อมกับคอยสังเกตุสถานการณ์รอบข้างอย่างระมัดระวัง
ติดตามตอนต่อไป……..