Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 340 ออกล่าสมบัติ !
TXV –
TXV– 340 ออกล่าสมบัติ ! แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วทุกพื้นที่
พวกเขาทั้งหมดเตรียมตัวออกเดินทาง
”หัวหน้า คุณเจ็บเท้าอย่างนั้นเหรอ? ท่าทางการเดินของคุณดูแปลกไปนะ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นจากด้านหลังของเธอ
”แน่นอน ฉันเดินไม่ระวังเองแหละ” แคนลามี่พูดโดยไม่ได้หันกลับไปมองพร้อมใบหน้าที่เริ่มจะแดง
”หัวหน้า เมื่อคืนในห้องเกิดอะไรขึ้นใช่มั้ย?” ทหารหญิงคนหนึ่งแซวถาม
”อยากตายงั้นสินะ!” แคนลามี่พูดกึ่งอายกึ่งไม่พอใจ
”ฮ่าฮ่า …… ” กลุ่มทหารหญิงด้านหลังที่ตามเธอมาต่างพากันหัวเราะ
จู่ๆในตอนนี้ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งนำหน้าเธอไปและหยุดอยู่ตรงหน้าจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พี่แคนลามี่ เมื่อคืนคุณร้องอยู่นานมาก มีใครทำร้ายคุณอย่างนั้นใช่มั้ย บอกฉันมา ฉันจะไปจัดการให้”
ใบหน้าของแคนลามี่แดงเพิ่มขึ้นอีก เธอจ้องไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางอึดอัดใจเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง
หากว่าเป็นทีน่าที่ดำรงหัวหน้าเผ่าในตอนนี้ คงไม่มีใครกล้าล้อเล่นและแกล้งแซวเธอแบบนี้แน่แต่เพราะนี่คือแคนลามี่ที่คนในชนเผ่าต่างหยอกล้อและเห็นเธอเติบโตมาตั้งแต่ยังเด็กดังนั้นหลายๆคนในชนเผ่าจึงกล้าหยอกล้อและพูดล้อเล่นกับเธอ
เซี่ยเหล่ยเองก็ตกเป็นเป้าในการหยอกล้อเช่นกันแม้ว่าเขาจะไม่ชอบเรื่องตลกที่กำลังหยอกล้อกันอยู่ในตอนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธหรือรังเกียจอะไรพวกเธอเมื่ออยู่ในชนเผ่านี้เป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร เขาจึงพอจะเข้าใจการพูดและความคิดของคนในชนเผ่าอยู่บ้าง การที่พวกเธอมีการแสดงออกเช่นนี้ทำให้ดูเป็นคนตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย
หลังจากเวลาผ่านไปเซี่ยเหล่ยและแคนลามี่ก็ได้เดินไปขึ้นหลังม้าพร้อมกับกองกำลังทหารหญิงจำนวนหนึ่งเพื่อเตรียมจะไปที่เมืองรุ่งอรุณสู่แสงสว่างเนื่องจากตอนนี้ไม่มีทีน่าอยู่แล้วเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กก็ไม่จำเป็นต้องรีบ
หลังจากเตรียมตัวเสร็จ ทุกคนก็เริ่มออกเดินทาง…..
”ไม่รู้ว่าอีกกี่วันต่อจากนี้ อุปกรณ์สำหรับการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจะถูกส่งมาถึงที่นี่เมื่อถึงเวลานั้นผมจะสร้างมันให้กับพวกคุณ” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นเสียงดังเพื่อต้องการให้แคนลามี่และคนอื่นๆได้รับรู้ด้วยจากนั้นก็พูดต่อว่า “นอกจากนี้ผมได้เตรียมลงทุนเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาชนเผ่าให้พวกคุณอีกด้วย”
”มันจะทำให้เราได้กินเนื้อแกะทุกวันไหม?” ทหารหญิงคนหนึ่งถาม
เซี่ยเหล่ยยิ้มและพูดขึ้นว่า “แน่นอน ไม่เพียงแค่พวกคุณจะได้กินเนื้อแกะทุกวัน แต่พวกคุณยังจะได้กินเนื้อวัว ขนมปังและข้าวอีกด้วย”
”นี่…เอ่อ! รวมถึงเราจะมีผ้าอนามัยใช้กันด้วยไหม?” ทหารหญิงคนหนึ่งถาม
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป นั่นเพราะเขาตกใจจนเกือบจะพลัดตกจากหลังม้า
”เซี่ยเหล่ย คุณได้ช่วยนำดาบอาทิส์ล่ากลับมาให้พวกเราได้สำเร็จดังนั้นเรื่องโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำฉันคงจะรับไว้ไม่ได้หรอก” แคนลามี่หันไปพูดกับเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยยิ้มและยังพูดต่ออีกว่า “ไม่เพียงแค่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเท่านั้น ผมยังคิดที่จะสร้างฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ศูนย์สุขภาพที่ทันสมัย หรือแม้แต่โรงงานหัตถกรรมก็ด้วย ส่วนเรื่องผลผลิตที่จะได้จากการขายเราค่อยมาแบ่งกัน คุณคิดว่าอย่างไรบ้าง?”
ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ต้องการรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากหัตถกรรมของชนเผ่าแต่เนื่องจากไม่อยากให้คนที่นี่คิดว่าทุกอย่างนี้ให้พวกเขาไปฟรีๆ จึงสร้างเงื่อนไขนี้ขึ้นมา
”ดี!” แคนลามี่พูดขึ้นดูเหมือนว่าเธอก็พอจะสนใจอยู่บ้างจากนั้นก็พูดต่ออีกว่า “รายได้ที่ได้จากการขายสามารถเปลี่ยนเป็นปืนและกระสุนได้ไหม? พวกเรามีปืนและกระสุนเหลือน้อยเต็มทีแล้ว”
ทหารหญิงคนหนึ่งได้พูดเสริมว่า “ใช่ ถ้าหากเปลี่ยนเป็นปืนและลูกกระสุนปืนคงจะดีกว่านี้เพราะสิ่งของพวกนี้จะช่วยให้เราไม่ถูกรุกรานจากชนเผ่าอื่นๆ เราต้องปกป้องชนเผ่าของเรา ดังนั้นปืนและกระสุนจะจำเป็นกับเรามากกว่าเงินทอง ”
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “เรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องรอจนถึงตอนได้กำไรหรอก เมื่อคืนนี้ผมได้โทรหาคนของผมเพื่อบอกให้พวกเขาส่งปืนและกระสุนมาบ้างแล้ว”
”จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย!” แคนลามี่ตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน
ทหารหญิงหลายคนที่ตามมาด้วยก็รู้สึกตื่นเต้นและต่างพากันมองไปยังเซี่ยเหล่ย ด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเคารพ นั่นก็เพราะว่าเซี่ยเหล่ยทำอะไรหลายอย่างให้กับชนเผ่าของพวกเธออย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนำดาบอาทิส์ล่ากลับมา การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ฟาร์ม หรือแม้แต่เอาอาวุธและกระสุนมาให้ด้วย
ในระหว่างการเดินทางเซี่ยเหล่ยและแคนลามี่ได้กระซิบกันหลายครั้งก่อนที่จะถึงเมืองรุ่งอรุณสู่แสงสว่างหลังจากไปถึงซากปรักหักพัง แคนลามี่ก็ได้เดินไปสั่งการกับทหารหญิงของเธอเพื่อจัดกำลังคนให้เรียบร้อยโดยให้พวกเธอทั้งหมดรออยู่ด้านหน้าตามจุดต่างๆใกล้ๆกัน
ในความเป็นจริงนี่คือสิ่งที่เซี่ยเหล่ยต้องการ ความต้องการของเขาก็คือไม่อยากให้พวกเธอเหล่านั้นรู้ว่าเขาต้องการที่จะค้นหาอะไรกันแน่แต่แคนลามี่ถือเป็นข้อยกเว้น เขาเชื่อใจเธอแต่ยังไงก็ตามเขาก็ไม่คิดจะบอกความจริงทุกอย่างกับเธอทั้งหมด
หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็เดินเข้าไปภายในของซากปรักหักพังพร้อมกับนำเข็มทิศจากราชวงศ์หมิงขึ้นมาใช้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้มัน เขาประหลาดใจอย่างมาก เข็มทิศนี้ไม่ได้มีโครงสร้างที่ซับซ้อน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยหรือแม้แต่ชิ้นส่วนดาวเทียมก็ตาม แต่เข็มทิศของมันมักจะชี้ไปแค่จุดๆเดียวเท่านั้นเหมือนกับว่าเข็มทิศอันนี้มีเวทมนตร์
”ตกลงมันคือเข็มทิศใช่ไหม? มันชี้ไปที่ไหนงั้นเหรอ?” แคนลามี่พูดขึ้นดูเหมือนเธอจะสนใจมันไม่น้อยเลย
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “มันก็เป็นเข็มทิศอยู่หรอกแต่มันเป็นเข็มทิศในสมัยโบราณถึงอย่างนั้นมันก็ยังสามารถใช้การได้อยู่ซึ่งเราจะใช้มันในการหาสมบัติแม้ว่ามันจะถูกฝังอยู่ก็ตาม เราก็จะหามันเจอ”
”ฉันชอบเรื่องพวกนี้นะ” แคนลามี่พูด
เซี่ยเหล่ยยิ้มพร้อมพูดว่า “คุณชอบเรื่องพวกนี้งั้นเหรอ?”
”ครั้งก่อนที่คุณมาบ้านของฉัน ฉันรู้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะเข็มทิศอันนี้ ในตอนนั้นคุณคงจะไม่เข้าไปใกล้บ้านฉันหรอกใช่ไหม” แคนลามี่เปลี่ยนเรื่อง เธอพูดด้วยท่าทางและอารมณ์ที่ดูไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่
เซี่ยเหล่ยเอื้อมมือไปกอดเอวเล็กๆของเธอพร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณอย่าคิดอะไรเอาเอง.. เอางี้คราวหน้าผมจะอาบน้ำให้คุณดีมั้ย?”
”ฮ่าฮ่า…. ” แคนลามี่ยิ้มพร้อมหัวเราะจากนั้นก็พูดต่อว่า “คุณดูคล้ายกับใครคนหนึ่ง ซึ่งนิสัยแย่มากๆ”
หลังจากแคนลามี่พูดจบ เซี่ยเหล่ยก็ปล่อยมือออกจากเอวเล็กๆของเธอทันที
แคนลามี่ยิ้มก่อนมองไปที่เซี่ยเหล่ยพร้อมกับกระโดดไปบนก้อนหินก้อนหนึ่งจากนั้นก็เดินไปหลังก้อนหินก้อนนั้น
เซี่ยเหล่ยยิ้มพร้อมพูดว่า “คุณจะทำอะไร?”
”หันไป ฉันไม่ให้คุณมองมาทางนี้” แคนลามี่พูดในขณะที่ยืนอยู่หลังก้อนหิน
เซี่ยเหล่ยมองไปที่เธอเงียบๆ ก้อนหินที่เธอไปอยู่ด้านหลังนั้นมีความสูงเพียงแค่หนึ่งฟุตเท่านั้น มันไม่สามารถปิดบังร่างกายของเธอได้เลย มีคำถามเกิดขึ้นในหัวของเซี่ยเหล่ยหลายคำถาม ด้วยก้อนหินขนาดนี้เธอต้องการจะทำอะไรกันแน่?
จังหวะนี้แคนลามี่ก็ปลดกระโปรงออกเผยให้เห็นต้นขาที่ขาวเรียบเนียนราวกับหิมะจากนั้นเธอก็นั่งยองลงกับพื้น
”อย่าหันมามอง” แคนลามี่พูดด้วยความโกรธพร้อมหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเห็นว่าเซี่ยเหล่ยยังคงมองเธออยู่
เซี่ยเหล่ยยักไหล่หนึ่งครั้งก่อนหันไปทางอื่น
“เห้ย…งู! ” เสียงแคนลามี่กรีดร้อง.ไอรีนโนเวล.
แค่เซี่ยเหล่ยได้ยินเสียงร้อง เขาก็รีบหันไปและพูดขึ้นทันทีว่า “อยู่ไหน ที่ไหน?”
”ฮ่าฮ่า ฉันล้อเล่น!” แคนลามี่พูดพร้อมรอยยิ้ม
จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็จำได้ว่าทีน่าเคยพูดว่าแคนลามี่ถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญการจับงูของชนเผ่า ฝีมือของเธอยังได้รับการยอมรับจากทุกคน เซี่ยเหล่ยลืมเรื่องนี้ไปครู่หนึ่ง
”หันกลับไป! ไม่ต้องกังวล มันไม่มีอะไรหรอก!” แคนลามี่พูด
ก่อนจะหันไปทางอื่นเซี่ยเหล่ยได้ใช้เท้าเตะไปที่ก้นของเธอเบาๆ
แคนลามี่คว้ากอหญ้าและขว้างไปที่เซี่ยเหล่ย
หลังจากแคนลามี่ทำธุระส่วนตัวเสร็จทั้งคู่ก็ออกเดินทางกันต่อ
หลังเดินไปได้ซักพัก ทั้งคู่ก็ไปหยุดอยู่ตรงใจกลางเมืองโบราณ มันมีรูปปั้นขนาดใหญ่มากอยู่รูปหนึ่ง มันตั้งอยู่ด้านหน้าของสิ่งก่อสร้างที่สภาพไม่สมบูรณ์แต่ถึงแม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์ไปตามการเวลาแล้วแต่ขนาดของมันก็กินพื้นที่ไปมากกว่าหนึ่งพันตารางเมตร เซี่ยเหล่ยก็สามารถจินตนาการไปถึงช่วงเวลาที่เคยงดงามของมันได้
ในหัวของเซี่ยเหล่ยตอนนี้มีภาพแผนที่ในหนังสือโบราณปรากฏขึ้นมา เขาพยายามหาตำแหน่งของตัวเองในตอนนี้ซึ่งพบว่าเขาอยู่ด้านหน้าพระราชวังของเมืองรุ่งอรุณสู่แสงสว่างจากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่เข็มทิศอีกครั้งหนึ่ง มันยังคงชี้ไปยังทิศตะวันออก
”ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคุณหรอกนะแต่สถานที่แห่งนี้มีนักล่าสมบัติมากมายได้เข้ามาสำรวจพร้อมกับเครื่องมือที่แปลกประหลาด แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาอะไรพบ สุดท้ายคนเหล่านั้นก็ตกมาเป็นทาสของพวกเรา ส่วนพวกเราเองก็เคยเข้ามาหากันหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่พบอะไรแล้วเข็มทิศที่อยู่ในมือของคุณจะช่วยให้เราเจองั้นเหรอ? ” แคนลามี่ถามออกไปดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อในทิศทางที่เข็มทิศชี้ไปซักเท่าไหร่
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับไป เขาเอาเข็มทิศชี้ออกไปและเดินไปยังทิศตะวันออก คราวนี้เมื่อเขาเดินไปด้านหน้าแค่ราวๆยี่สิบเมตร ตัวเข็มทิศก็สั่นทันทีเมื่อเป็นเช่นนั้น เขาก็เดินไปทางซ้าย ทางขวา และสุดท้ายก็ถอยหลัง เขาหันไปมองเข็มทิศตลอดเวลาในขณะที่เดินไปมานั้น ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหนเข็มทิศก็ยังคงชี้ลงเสมอ
เซี่ยเหล่ยมองไปที่พื้นอย่างละเอียดพร้อมกับขมวดคิ้ว พื้นของพระราชวังถูกสร้างขึ้นจากหินขนาดใหญ่ทั่วทุกพื้นที่ เป็นหินขนาดใหญ่หลายพันก้อนวางเรียงต่อกัน ยังไม่รู้ว่าก้อนหินเหล่านี้มีความหนาเท่าไหร่ นี่ยังไม่รวมความลึกลงไปในชั้นดินอีกด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการขุดเจาะจะยากขนาดไหน
”คุณเจออะไรแล้วงั้นเหรอ?” แคนลามี่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเนื่องจากเธอก็เห็นเข็มทิศสั่นเช่นกัน
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “ผมก็ยังไม่แน่ใจ ตอนนี้คุณช่วยกลับไปหยิบพลั่วให้ผมหน่อยได้ไหม? ผมจะขุดมันที่นี่ ตรงนี้”
เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการขุดถูกเตรียมพร้อมไว้แล้วเพียงแต่ตอนนี้มันอยู่ที่กระเป๋าของม้าที่พวกเขาขี่มา
”ฉันจะไปเอามันมาให้เดี๋ยวนี้” แคนลามี่พูดพร้อมกับวิ่งไปที่ม้าทันที
เมื่อแคนลามี่วิ่งออกไปแล้ว เซี่ยเหล่ยก็หยิบโทรศัพท์ดาวเทียมขึ้นมาเพื่อโทรออก
”ผู้บริหารฉือ ผมเจอสถานที่ที่เราตามหาแล้ว” เมื่อฉือโบเหยิยนรับโทรศัพท์เซี่ยเหล่ยก็รีบพูดขึ้นทันที “แต่ดูเหมือนจะไม่ราบรื่นซักเท่าไหร่เพราะมันถูกฝังอยู่ภายใต้ก้อนหินขนาดใหญ่และไม่รู้ว่ามันจะถูกฝังลึกไปจากชั้นดินอีกแค่ไหน ดูเหมือนว่าภารกิจนี้จะต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าที่คิด”
”รีบจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยิ่งอยู่นานความปลอดภัยของคุณก็จะยิ่งน้อยลง” ฉือโบเหยิยนพูดและยังพูดต่ออีกว่า “คุณต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่? ตอนนี้เราได้จัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆไว้แล้วที่ปากีสถาน คิดว่าคงจะไปถึงคุณในคืนวันพรุ่งนี้”
เซี่ยเหล่ยพูดไปว่า “ปัญหาคือผมยังมีสิ่งที่ต้องการอีก ”
”ไม่มีปัญหา คุณพูดมาได้เลย” ฉือโบเหยิยนตอบ
”นอกจากมีโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กแล้วผมต้องการปืนไรเฟิลร้อยกระบอกรวมถึงปืนอื่นๆพร้อมกระสุนอีกหนึ่งแสนนัด” เซี่ยเหล่ยพูด
”เดี๋ยวก่อนนะ คุณจะเอาปืนและกระสุนจำนวนมากขนาดนั้นไปทำอะไรกัน?” ผู้บริหารฉือถามอย่างสงสัย
”นี่คือสิ่งที่ชนเผ่าเฮ็ปตาไลท์ต้องการหากไม่มีสิ่งเหล่านี้ พวกเขาจะไม่อนุญาตให้ผมทำการสำรวจและขุดเจาะซากปรักหักพัง คุณต้องการแบบนั้นหรือไม่?” เซี่ยเหล่ยถาม
”โอเค ผมจะจัดการให้ คุณยังต้องการอะไรอีกไหม?” ฉือโบเหยิยนถาม
”คิดว่าถ้าเป็นเครื่องมือในการขุดที่มีขนาดเล็กและทันสมัยคงจะช่วยให้ทำงานสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ผมต้องการเงินจำนวนสองล้านดอลล่าด้วย” เซี่ยเหล่ยพูด
“อะไรนะ?” ฉือโบเหยิยนตกใจอุทานออกไป
”ผู้บริหารฉือ คุณอย่างเพิ่งกังวล สบายใจได้เงินเหล่านี้ผมจะคืนให้กับคุณเอง เพียงแต่ตอนนี้ผมต้องการเงินของคุณก่อนก็เท่านั้น” เซี่ยเหล่ยพูด
”โอเค งั้นเรื่องนี้ไม่มีปัญหา” ฉือโบเหยิยนตอบ
”ดี งั้นค่อยติดต่อกันใหม่ในภายหลัง” เซี่ยเหล่ยพูดเสร็จก็วางสายทันที
หลังจากเซี่ยเหล่ยวางสายได้ไม่นาน แคนลามี่ก็วิ่งกลับมาพร้อมกับในมือที่ถือชแชลงและพลั่ว ในขณะที่เธอวิ่งนี้หน้าอกของเธอก็แกว่งไปมาซ้ายขวาขึ้นลงสลับกันไปตลอดทาง
”ฉันกลับมาแล้ว!” แคนลามี่ตะโกนพร้อมชูพลั่วขึ้นเหนือหัวพร้อมกับเดินเข้ามาหาเซี่ยเหล่ย
แต่เพียงแค่หนึ่งวินาทีหลังพูดจบ เธอก็สะดุดเข้ากับก้อนหินก้อนหนึ่งทำให้เธอล้มลงไปที่พื้นค่อนข้างจะรุนแรงและแน่นอนว่าการล้มแบบนี้หน้าอกขอกเธอจะเป็นอวัยวะส่วนแรกที่สัมผัสกับพื้น………
ติดตามตอนต่อไป………