Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 360 เจอตัว !
TXV –
ตอนนี้อันซูฮยอนและเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลทั้งหมดต่างแยกตัวกันกลับเรียบร้อยแล้ว อันซูฮยอน ชูคูรีและคิมจียอนกำลังเดินทางไปยังโรงแรมที่มีชื่อว่าเจียงหนานดูเหมือนว่าที่นี่จะมีเจ้าของและผู้ถือหุ้นเป็นคนเกาหลีด้วยแต่ที่สำคัญเลยคือโรงแรมแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนในชื่อของบริษัทก็อดโดเมนดังนั้นโรงแรมนี้จึงมีอันกวนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอันซูฮยอนถึงจะเดินทางไปที่โรงแรมแห่งนี้
หลงบิงขับรถมาเรื่อยๆและจอดตรงข้างทางใกล้กับโรงแรม เจียงหนาน หลังจากนั้นเธอก็มองไปที่หน้าต่างของโรงแรมและพูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่าลู่เชิงไม่น่าจะอยู่ที่นี่”
”ทำไมหล่ะ?” เซี่ยเหล่ยถาม
”โรงแรมค่อนข้างจะมีคนพลุกพล่านเดินไปมาเข้าออกมากมายถ้าฉันเป็นเขาฉันจะไม่พาเขามาที่นี่อย่างแน่นอน “หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยถามว่า “มันอาจจะไม่ใช่ห้องทั่วไปอาจจะเป็นชั้นใต้ดิน”
”ชั้นใต้ดินงั้นเหรอ? ก็พอจะเป็นไปได้ ” หลงบิงพูด
”ยังไงอันดับแรกก็ต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าที่นี่มีชั้นใต้ดินหรือไม่? และปัญหาต่อไปคือเราจะทำยังไงถึงจะได้พิมพ์เขียวของโรงแรมนี้?” เซี่ยเหล่ยถาม
”แน่นอนว่าสถานีดับเพลิงจะต้องมีพิมพ์เขียวของตึกและอาคารทั้งหมดบริเวณนี้ ฉันจะโทรไปหาพวกเขาก่อน” หลงบิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดเบอร์โทรออก
เธอใช้เวลาคุยกับเจ้าหน้าที่อยู่ประมานห้านาทีก็ได้สิ่งที่ต้องการ
เมื่อโทรและจัดการพูดคุยรายละเอียดกันเรียบร้อยแล้ว ผ่านไปไม่กี่นาทีหลงบิงก็ได้รับเอกสารซึ่งเป็นพิมพ์เขียวของโรงแรมเจียงหนานมา
เซี่ยเหล่ยขยับตัวเข้าไปใกล้กับหลงบิงเพื่อจะดูพิมพ์เขียวของโรงแรมด้วยกัน ใบหน้าของพวกเขาตอนนี้แทบจะติดกันอยู่แล้ว สิ่งที่แปลกก็คือหลงบิงไม่ได้มีท่าทีว่าจะขยับใบหน้าหนีห่างออกไปเลย เธอกลับมองไปที่พิมพ์เขียวเหมือนกับว่าไม่ได้มีเซี่ยเหล่ยอยู่ใกล้ๆเธอ
ในความเป็นจริงเซี่ยเหล่ยใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งถึงสองวินาทีก็สามารถจดจำพิมพ์เขียวในแผ่นนั้นๆได้แล้วแต่เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่หลงบิงใช้จดจำซึ่งจะนานกว่าเซี่ยเหล่ยดังนั้นเมื่อเซี่ยเหล่ยจดจำพิมพ์เขียวเสร็จ สายตาของเขาก็จะเหลือบไปมองที่ขอบเสื้อของหลงบิงโดยบังเอิญหลายครั้ง สิ่งที่เขาเห็นก็คือเนินหน้าอกสีขาวเรียบเนียนอยู่ภายในเสื้อของเธอ
ถึงแม้ว่าจะเป็นการแอบมองโดยบังเอิญแต่เซี่ยเหล่ยก็ตำหนิตัวเองในใจว่า “ตอนนี้เราแอบมองหน้าอกคนอื่นได้ยังไงกันนะ บ้าจริงๆ…… ”
หลงบิงใช้เวลานานพอสมควรสำหรับดูและจดจำพิมพ์เขียวทั้งหมดเมื่อเธอดูและจดจำเสร็จเรียบร้อยเธอจึงหันมาถามเซี่ยเหล่ยว่า “จำได้ทั้งหมดหรือยัง?”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับว่า “เรียบร้อยแล้ว”
”คิดว่าดูพอหรือยังหล่ะ?” หลงบิงถาม
เซี่ยเหล่ยตกใจทันทีและถามออกไปว่า “หมายความว่ายังไง?”
“หน้าอกของฉันดูน่าสนใจไหม?” หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ย “…… ”
”เงยหน้าขึ้นและมองที่ตาของฉัน” หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยยิ้มพร้อมแสดงท่าทางงุ่มง่าม เขาไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้กับเธอได้เพราะมันจะทำให้อึดอัดมากขึ้น…..
”คุณเห็นพิมพ์เขียวของโรงแรมแล้วคุณมีแผนจะจัดการยังไงต่อหล่ะ?” หลงบิงถาม
เซี่ยเหล่ยมองดูท้องฟ้าและพูดขึ้นว่า “รอให้มืดก่อนดีกว่า พวกเราค่อยแอบเข้าไป”
”แต่ก่อนอื่นบอกฉันมาหน่อยว่าหากลู่เชิงตายแล้วคุณจะทำยังไงต่อไป?” หลงบิงถามพร้อมมองไปที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่นและตอบกลับไปว่า “ถ้าผมบอกว่าจะแก้แค้นให้กับเขา ผมเชื่อว่าคุณจะต้องไม่เห็นด้วยและคุณจะหยุดผมไว้อย่างแน่นอนดังนั้นถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ”
”นี่เป็นคำตอบแบบไหนกัน?” หลงบิงค่อนข้างไม่พอใจกับคำตอบของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “เอาไว้รู้แน่ชัดแล้วเราค่อยมาพูดเรื่องนี้กันอีกครั้งก็ได้” เซี่ยเหล่ยพูดเสร็จก็ถอนหายใจเบาหนึ่งครั้งก่อนจะพูดอีกว่า “ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นใจของคนเราก็เช่นกัน มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ”
”แล้วตอนนี้คุณกับหลางซือเหยา?” หลงบิงถาม
เซี่ยเหล่ยได้แต่ปิดปากเงียบ
หลงบิงจึงพูดขึ้นต่ออีกว่า “หลังจากที่หลางซือเหยาเลิกกับคุณ คุณก็เปลี่ยนไปจริงๆ”
”อย่าพูดถึงเธอเลย” เซี่ยเหล่ยพูดและเขาไม่อยากพูดเรื่องของหลางซือเหยาโดยเฉพาะกับหลงบิง
”เอาล่ะงั้นเราจะไม่พูดถึงเธอกัน” หลงบิงพูดต่ออีกว่า “สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกจริงๆก็คือไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก่อนอื่นคุณจะต้องเชื่อมั่นในประเทศและกฏหมายของเรา ไม่ว่าลู่เชิงจะยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วคุณก็ไม่ควรจะผลีผลามทำอะไรด้วยตัวเอง มันไม่ใช่วิธีการที่ฉลาดเลยเพราะมันจะเป็นการกระทำที่จะกลับมาทำร้ายคุณเองในอนาคตและสุดท้ายคุณจงรู้ไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวลำพังเพียงคนเดียว คุณยังมีคนอื่นๆที่คอยห่วงใยคุณ ”
“ใครหล่ะ?” เซี่ยเหล่ยถาม
”น้องสาวของคุณ” หลงบิงตอบอย่างตะกุกตะกัก
บรรยากาศภายในรถตอนนี้เงียบมากจึงทำให้อึดอัดเล็กน้อย
ตอนนี้ก็เป็นเวลาค่ำแล้วดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นดำสนิทมีเพียงแค่แสงไฟจากหลอดไฟเท่านั้นที่คอยส่องสว่างอยู่ในตอนนี้
เมื่อเวลาผ่านไปมีคู่รักคู่หนึ่งเดินออกมาจากร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งคู่เดินจับมือกันตลอดเวลาและเดินหน้าไปทางโรงแรมเจียงหนาน ด้านผู้ชายเขาสวมหมวก ใบหน้าของเขาไว้หนวดที่สวยงามเรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่ค่อนข้างจะเซ็กซี่เลยทีเดียว ส่วนผู้หญิงก็ใส่กระโปรงยาวแม้ว่าจะดูเรียบร้อยแต่ก็ดูเซ็กซี่และมีเสนห์ไปอีกแบบ เธอสวมหมวกสีน้ำเงินที่มีริ้บบิ้นสีขาวและสีฟ้าประดับอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่ทั้งคู่แล้วจะรู้สึกว่าเห็นใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่ไม่ค่อยถนัดเพราะหมวกที่พวกเขาใส่อยู่ค่อนข้างจะกดลงมาเพื่อปิดใบหน้าของพวกเขาเอง
ไม่ต้องสงสัยเลยคู่รักคู่นี้ก็คือเซี่ยเหล่ยและหลงบิง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาแสดงว่าเป็นคู่รักกันเพราะที่เยอรมันพวกเขาก็ได้แสดงว่าเป็นคู่รักกันนานกว่าหนึ่งเดือน นี่จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขา
ทั้งสองคนเดินไปเปิดห้องที่ล็อบบี้และพวกเขาได้ห้องที่ชั้นสี่ของโรงแรม
หลังจากที่ทั้งคู่เข้าห้องพักเรียบร้อย ก็มีพนักงานเสิร์ฟเข็นรถอาหารไปที่ห้องของพวกเขา เมื่อเขาเข็นรถไปถึงห้องแล้วก็รีบเข็นรถเข้าไปด้านใน จากนั้นก็หยิบเอาชุดพนักงานของโรงแรมออกมา รวมถึงปืนสั้น โน้ตบุค และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางส่วนให้กับเซี่ยเหล่ยและหลงบิง
พนักงานเสิร์ฟที่เข็นรถอาหารมานี้คือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานลับ 101 ที่ปลอมตัวเหมือนกัน
”นี่คือคุณหวู่ ” หลงบิงพูดแนะนำ
เจ้าหน้าที่หวู่และเซี่ยเหล่ยได้ทักทายกันจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณเซี่ยเป็นเรื่องน่ายินดีมากที่ผมได้พบกับคุณ ผมได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้เจอเลย ครั้งนี้ผมจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก”
เมื่อทักทายกันเสร็จเซี่ยเหล่ยที่ดูปฏิกิริยาของหวู่ก็รู้ได้เลยทันทีว่าตอนนี้เขากลายเป็นคนดังในสำนักงานลับ 101 ไปแล้วแน่นอนว่าอาจจะเกิดขึ้นเพราะเรื่องราวในการขโมยดาบอาทิส์ล่าหรือการช่วยเหลือตัวประกันในอัฟกานิสถาน
หลังจากการแนะนำตัวและทักทายผ่านไปเจ้าหน้าที่หวู่ก็เข้าไปจัดการเชื่อมต่อกับแลปท็อปและเริ่มทำการลักลอบเข้าไปในระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรม
ด้านเซี่ยเหล่ยและหลงบิงก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่เตรียมไว้
หลงบิงไม่ได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ เธอถอดเสื้อผ้าออกเลยทันที เธอถอดออกจนเหลือไว้เพียงแค่ชุดชั้นในสีดำลายลูกไม้เท่านั้นแน่นอนว่ามันไม่สามารถปกปิดส่วนลับทุกอย่างของเธอได้ ….
ด้านเจ้าหน้าที่หวู่ที่กำลังมุ่งมั่นในการลักลอบเข้าเข้าระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรมอยู่ทำให้ไม่ทันได้สังเกตไปที่หลงบิงแต่ไม่ใช่กับเซี่ยเหล่ยเพราะเขาเห็นทุกอย่างแต่อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เซี่ยเหล่ยเห็นเธออยู่ในสภาพที่มีแต่ชุดชั้นใน แต่ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นมาก่อนแล้วเขาก็ยังรู้สึกว่ามันช่างน่าสนใจอย่างมากทุกครั้งที่ได้มอง.ไอลีนโนเวล.
ร่างกายสัดส่วนและความสูงของหลงบิงคล้ายกับหลางซือเหยาอย่างมาก เซี่ยเหล่ยสามารถมองเห็นเงาของหลางซือเหยาลางๆได้จากร่างกายของหลงบิง
หลงบิงมองไปที่เซี่ยเหล่ย เธอไม่ได้มีท่าทางที่รังเกียจหรือเขินอายเลยแม้แต่น้อย
เซี่ยเหล่ยรีบหันกลับมามองที่ตัวเองและรีบเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็วพร้อมกับจัดเตรียมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้พร้อมสำหรับการสอดแนม
”อันซูฮยอนอยู่ชั้นบนสุดของที่นี่” หวู่พูดพร้อมกับมองจอภาพจากนั้นก็พูดขึ้นอีกว่า “ชั้นบนสุดไม่ได้เปิดให้บริการกับแขกทั่วไปมีเพียงแค่อันซูฮยอนกับบอดี้การ์ดของเขาและผู้หญิงไม่กี่คนเท่านั้น ”
จังหวะนี้เซี่ยเหล่ยเองก็มองไปที่จอภาพเหมือนกันภายในจอเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่หรูหรารอบๆตัวเขามีผู้หญิงใส่บิกินี่อยู่สี่คนสองคนกำลังเต้นอยู่ ส่วนอีกสองคนก็กำลังรินไวน์ลงในแก้วให้กับคนอื่นๆที่เหลือ ผู้หญิงทั้งสี่คนนั้นมีสองคนที่เป็นชาวเอเชียแต่ทั้งหมดล้วนสวยและเซ็กซี่อย่างมาก
เซี่ยเหล่ยยังมองเห็นอันซูฮยอนอยู่ภายในห้องนั้นด้วยรวมถึง ชูคูรีและคิมจียอน ด้วยเช่นกันแต่พวกเขาโผล่มาในจอแค่เพียงไม่นานก็เดินหายไป
นั่นก็เพราะสถานที่แห่งนั้นไม่เหมาะกับจะมีบอดี้การ์ดมากมายต้องคอยคุ้มกัน
เซี่ยเหล่ยยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมพูดขึ้นว่า “ดูเขาจะสนุกอยู่เลยนะ หวู่เก็บภาพวีดีโอนี้ไว้แล้วส่งให้ผมด้วยนะ”
เจ้าหน้าที่หวู่ยิ้มก่อนพูดว่า “ไม่มีปัญหาครับ ที่ปรึกษาเซี่ย“
หลงบิงได้พูดขึ้นว่า “นี่ เราควรจะไปกันได้แล้ว”
พูดเสร็จเซี่ยเหล่ยและหลงบิงก็เดินออกไปจากห้องในความเป็นจริงเซี่ยเหล่ยไม่ได้อยากจะเก็บวีดีโอของอันซูฮยอนเท่าไหร่นักแต่เพราะวีดีโอนี้มันจะมีประโยชน์กับเขาในอนาคตไม่ว่าจะนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะชน สื่อมวลชนหรือแม้แต่กับเฉินตูเทียนหยินก็ตาม……
แม้ว่าคืนนี้อาจจะไม่พบลู่เชิงแต่การที่เขาแอบเข้ามาในโรงแรมครั้งนี้ก็ไม่เสียเปล่าแล้ว
เซี่ยเหล่ยและหลงบิงเดินเข้าไปในลิฟท์สำหรับพนักงานเพื่อจะลงไปชั้นใต้ดิน มันเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หวู่จึงทำให้พวกเขาไม่เจอเข้ากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือแม้แต่พนักงานคนอื่นๆของโรงแรมเลย
เมื่อมาถึงชั้นใต้ดิน เขาก็เจอเข้ากับประตูที่น่าสงสัย มันเป็นประตูอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องใช้รหัสผ่านและการระบุตัวตนเพื่อจะเปิดมันแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาเพราะเพียงแค่ไม่กี่วินาทีประตูก็เปิดออกเองแน่นอนว่าเป็นผลงานของเจ้าหน้าที่หวู่
หลังจากเปิดได้แล้วเขาก็พูดผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็กออกไปว่า “เข้าไปได้ ตอนนี้กล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้การได้แล้ว”
หลงบิงและเซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในประตูทันที
ทางเดินที่ผ่านมามีกล้องวงจรปิดถูกติดตั้งไว้มากมายหากไม่ได้ความสามารถของเจ้าหน้าที่หวู่ทั้งสองคนคงมาไม่ได้ไกลถึงขนาดนี้
เมื่อเข้าไปภายในมันเป็นห้องที่มีลิฟท์อยู่หนึ่งตัวและมันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
จู่ๆเสียงของเจ้าหน้าที่หวู่ก็ออกมาจากเครื่องสื่อสารขนาดเล็กว่า “จากนี้ไป ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้มากไปกว่านี้แล้ว พวกคุณต้องระวังตัวเองเอาไว้ให้ดี”
หลงบิงได้ออกคำสั่งผ่านเครื่องสื่อสารขนาดเล็กไปเหมือนกันว่า “เข้าใจแล้ว ตอนนี้ก็คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของอันซูฮยอนรวมถึงคนของเขาไว้ด้วย”
”รับทราบ” เจ้าหน้าที่หวู่ตอบรับคำสั่ง
เมื่อออกคำสั่งเสร็จทั้งเซี่ยเหล่ยและหลงบิงก็เดินเข้าไปภายในลิฟต์พร้อมกดลงไปชั้นใต้ดินที่ลึกลงไป
ลิฟต์หยุดลงและประตูลิฟท์ได้เปิดออก เซี่ยเหล่ยและหลงบิงเดินออกมาจากลิฟท์อย่างระมัดระวังภายในชั้นใต้ดินชั้นนี้เป็นพื้นที่โล่งกว้างหลายร้อยตารางเมตรที่แห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นสถานที่สำหรับเก็บสินค้าเพราะมันได้รับการตกแต่งจนสวยงามและหรูหราเกินกว่าที่ควรจะเป็น
เมื่อสำรวจโดยรอบเสร็จทั้งเซี่ยเหล่ยและหลงบิงก็ได้มองไปยังกลางห้อง มันมีเวทีอยู่ตรงกลางและก็มีลู่เชิงที่ร่างของเขาถูกผูกมัดติดไว้กับเสา….ทั่วร่างกายของเขาในตอนนี้มีรอยแส้นับไม่ถ้วน…..
ติดตามตอนต่อไป…….