Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 365 ผลการตรวจเลือด
TXV –
ณ โรงพยาบาลกองทัพ ที่ห้องเจาะเลือด
”กำมือของคุณหน่อย” แพทย์สาวในห้องเจาะเลือดพูดกับเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยทำตามที่เธอสั่งหลังจากเขากำมือแล้ว แพทย์สาวก็ได้ใช้เข็มฉีดยาแทงเข้าไปในเส้นเลือดพร้อมกับดูดเลือดของเขาออกมาเก็บไว้ในหลอดแก้ว
”เราจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงถึงจะได้ผลตรวจเลือดจากนั้นเราจะทราบผลการตรวจเลือดของคุณว่ามีความผิดปกติหรือไม่” แพทย์สาวพูด
เมื่อไม่มีอะไรแล้ว เซี่ยเหล่ยก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องเจาะเลือดในตอนนี้เป็นตอนกลางคืนทำให้ที่นี่เงียบมาก จึงเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับให้เซี่ยเหล่ยได้ใช้เวลาคิดเงียบๆอยู่คนเดียว
“ในห้องใต้ดิน หลงบิงสูดแก๊สยาสลบเข้าไปมากนั่นทำให้เธอสลบไปมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่กับเราที่สูดแก๊สยาสลบเข้าไปเต็มๆในปริมาณที่มากกว่าของเธอ แต่กลับไม่มีท่าทีสลึมสลือหรือหมดสติสลบไปเลย มันเพราะอะไรกันแน่นะ” เซี่ยเหล่ยพูดกับตัวเอง
นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆสำหรับเขานั่นก็เพราะในอนาคตหากเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแต่เมื่อดมยาสลบแล้วไม่หมดสติไป มันจะทำให้เขาเข้ารับการผ่าตัดไม่ได้….
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผลการตรวจเลือดของเขาออกมาเป็นที่เรียบร้อยเขารีบกลับไปยังห้องเจาะเลือดทันที
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดขึ้นอย่างสุภาพว่า “เลือดของผมมีอะไรผิดปกติหรือไม่?”
แพทย์สาวมองไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะตอบกลับไปว่า “คุณควรจะไปที่ห้องตรวจเพื่อพบแพทย์จากนั้นก็ให้เขารายงานผลมากกว่าที่จะเป็นฉัน”
เซี่ยเหล่ยยิ้มและตอบกลับไปว่า “คุณไม่สามารถบอกได้อย่างนั้นเหรอ? ผมต้องการรู้เพียงแค่ว่าผลเลือดของผมมีปัญหาหรือไม่แค่นั้นเอง ผมไม่อยากไปเจอหมอ”
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แพทย์สาวที่ทำหน้าที่เจาะเลือดให้กับเซี่ยเหล่ยได้หยิบผลการตรวจเลือดของเขาขึ้นมาอ่านจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เลือดของคุณไม่ได้มีปัญหาอะไร แถมมันยังบ่งบอกอีกว่าสุขภาพของคุณดีมาก” เธอพูดพร้อมยิ้มก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ว่าแต่ทำไมคุณถึงไม่อยากไปเจอหมอหล่ะ? คุณทำอาชีพอะไรงั้นเหรอ”
”ผมทำงานอยู่ในไซต์ก่อสร้างเป็นช่างเชื่อม” เซี่ยเหล่ยตอบกลับ
”คุณนี่….. ” แพทย์สาวขี้เกียจเกินกว่าจะพูดให้จบหลังจากนั้นเธอก็เดินออกไปทันที
สาเหตุที่แพทย์สาวขี้เกียจเกินกว่าจะพูดกับเซี่ยเหล่ยต่อนั่นก็เพราะ เธอสามารถรู้ได้ทันทีว่าเซี่ยเหล่ยโกหก เขาไม่ใด้ทำในงานไซต์ก่อสร้างและเป็นช่างเชื่อมอย่างแน่นอนนั่นก็เพราะคนที่จะเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้ได้ต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดา
เซี่ยเหล่ยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหยิบผลตรวจเลือดของตัวเองขึ้นมาและฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนจะทิ้งลงถังขยะไป
เซี่ยเหล่ยเดินออกจากห้องเจาะเลือดพร้อมพูดกับตัวเองว่า “เลือดของเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร อวัยวะภายในก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้วทำไมถึงสูดแก๊สยาสลบเข้าไปแล้วแต่ไม่หมดสติไปหล่ะ? หรือว่าการตรวจเลือดแบบปกติไม่สามารถหาสิ่งที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ ”
แม้ว่าผลการการตรวจเลือดจะทำให้เซี่ยเหล่ยผ่อนคลายมากขึ้นแต่ความสงสัยของเขาก็ยังคงไม่หมดไป
เซี่ยเหล่ยเดินมาถึงหอผู้ป่วยในของโรงพยาบาล
ลู่เชิงรักษาตัวอยู่ที่นี่ เขากำลังทรมานจากบาดแผลที่ได้รับจากการโดนทำร้ายร่างกาย เขาบาดเจ็บไปทั้งตัวแต่ตอนนี้อาการก็ทุเลาลงบ้างแล้วเนื่องจากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและดีเยี่ยม
ลู่เชิงที่เห็นว่าเซี่ยเหล่ยกำลังเดินเข้ามาจึงได้ถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “เซี่ยเสวียเป็นอย่างไรบ้าง?”
”เธอไม่เป็นอะไร เธอปลอดภัยดี” เซี่ยเหล่ยตอบ
ลู่เชิงรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากที่รู้ว่าเซี่ยเสวียไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
”พักผ่อนเยอะๆ จะได้หายไวๆ” เซี่ยเหล่ยพูด
ลู่เชิงถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “เซี่ยเหล่ย จริงๆแล้ว….ผมไม่รู้ว่าจะมาเจอหน้าและอธิบายให้คุณฟังว่ายังไงดี หากว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเซี่ยเสวีย ”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรผมต่างหากที่ควรจะขอบคุณมากกว่า คุณได้ทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว”
”ก่อนหน้านี้ผมควรที่จะบอกคุณเหมือนกันว่าเซี่ยเสวียกำลังติดต่อกับเด็กคนนั้น แต่….. ” ลู่เชิงพูด
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นจังหวะลู่เชิงขึ้นว่า “ผมรู้ว่าเซี่ยเสวียต้องห้ามไม่ให้คุณบอกเรื่องนี้กับผม ผมรู้จักน้องสาวของผมดีดังนั้นคุณไม่ต้องคิดมาก ผมไม่ได้โทษอะไรคุณเลย และผมก็จะให้เธอมาขอโทษคุณด้วย ”
”ขอโทษงั้นเหรอ? ไม่ต้องหรอกนะ ” ลู่เชิงรีบปฏิเสธทันที
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนพูดว่า “ต้องสิ ผมจะให้เธอมาดูว่าตอนนี้คุณเป็นอย่างไร ผมอยากให้เธอมาเห็นถึงผลลัพธ์ที่เธอได้ก่อมันขึ้นมา ”
ลู่เชิงยิ้มเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีก
หลังจากพูดคุยกับลู่เชิงเรียบร้อย เซี่ยเหล่ยก็เดินออกจากหอผู้ป่วยใน เขาคิดในใจขณะที่กำลังเดินไปด้วยว่าหลังจากลู่เชิงรักษาตัวจนหายดีแล้ว เขาจะซื้อรถหรูพร้อมกับบ้านให้กับเขาเป็นของขวัญแต่จะจดทะเบียนในชื่อของบริษัทนั่นก็เพราะหากจดทะเบียนในชื่อของเขาเองแน่นอนว่าลู่เชิงจะไม่รับมัน!
ตรงทางเดินมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานลับ101 พยักหน้าทักทายให้กับเซี่ยเหล่ยหลายต่อหลายคน
เซี่ยเหล่ยเองก็ยิ้มทักทายกลับกับพวกเขาพร้อมกับเดินไปยังหอผู้ป่วยอื่นของโรงพยาบาล
หอผู้ป่วยที่เซี่ยเหล่ยเดินมานี้เป็นที่ที่หลงบิงกำลังรักษาตัวอยู่ เธอสูดแก๊สยาสลบเข้าไปมากจึงต้องเข้ารับการตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด
เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในห้องของเธอโดยที่ไม่ได้เคาะประตูทำให้เห็นว่าเธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่สภาพของเธอในตอนนี้ใส่เพียงแค่ชุดชั้นในลายลูกไม้สีดำเท่านั้น
หลงบิงจ้องเขม็งมาที่เซี่ยเหล่ยทันทีที่เขาเปิดประตู
เซี่ยเหล่ยรีบพูดอย่างตะกุกตะกักทันทีว่า “ผมขอโทษ ผมไม่ได้เห็นอะไรเลยนะ….”
ฟิ้ววว! จู่ๆหลงบิงก็คว้ารองเท้าแตะและเขวี้ยงใส่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยเอี้ยวตัวหลบทันทีพร้อมพูดขึ้นว่า “คุณทำอะไร?”
ฟิ้ว! หลงบิงเขวี้ยงรองเท้าอีกข้างไปยังเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยก็ยังคงหลบรองเท้าที่ถูกเขวี้ยงมาอีกครั้ง
ที่เธอทำแบบนี้ก็เพราะเธอยังคงโกรธเซี่ยเหล่ยเมื่อตอนที่พวกเขายังอยู่ในชั้นใต้ดินของโรงแรม เขาขอให้เธอถอดเสื้อออกพร้อมกับปัสสาวะไปที่เสื้อก่อนให้เอามาปิดปากและจมูกของตัวเอง!
”นั่น …… อาการคุณดีขึ้นแล้วงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยรีบพูดเปลี่ยนหัวข้อทันที
”ดีขึ้นแล้ว” หลงบิงตอบและยังพูดต่ออีกว่า “คุณพาฉันมาส่งโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “ไม่ใช่ผมแต่เป็นคนของสำนักงานลับ 101 เพราะเมื่อผมออกจากชั้นใต้ดินได้แล้วผมก็รีบติดต่อไปยังถ่างหยู่เหยี่ยและถ่างปั่วฉ่วนเพื่อไปหาอันซูฮยอนทันที ”
หลงบิงเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “คุณไม่ได้โดนแก๊สยาสลบจนหมดสติไปงั้นเหรอ?” ไอลีนโนเวล
”โชคดีที่ผมไม่ได้หมดสติไปด้วยหลังจากคุณสลบไปประมานหนึ่งนาที พวกมันก็หยุดปล่อยแก๊สยาสลบและส่งลูกน้องมาเพื่อจัดการกับเราแต่ผมอาศัยจังหวะนี้ดักซุ่มรอและจัดการฆ่าพวกเขาทั้งหมดหกคน” เซี่ยเหล่ยตอบ
”หกคน? คุณยังน่าทึ่งเหมือนเคยเลยนะ” หลงบิงพูดต่ออีกว่า “งั้นการที่ใช้เสื้อชุบน้ำปัสสาวะพร้อมนำมาปิดปากและจมูกเป็นวิธีการที่ถูกต้องงั้นใช่ไหม? แต่ทำไมฉันถึงยังหมดสติไปหล่ะ”
เซี่ยเหล่ยได้เตรียมคำตอบของคำถามไว้ก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว เขาตอบกลับไปอย่างเรียบง่ายว่า “ก็นะ บางทีปัสสาวะของคุณคงจะน้อยเกินไป ”
หลงบิงได้ยินก็หน้าแดงทันทีพร้อมพูดขึ้นว่า “คุณเป็นม้างั้นเหรอ มันต้องมากขนาดไหนกันหล่ะ?”
เซี่ยเหล่ย “…… ”
”ฉันไม่มีเวลามากตอนนี้คุณออกไปก่อน ฉันจะเปลี่ยนเสื้อแล้วรีบออกจากที่นี่” หลงบิงรีบเปลี่ยนหัวข้อ
”หมอบอกว่าคุณต้องพักผ่อนและคอยสังเกตการณ์อยู่ที่นี่ก่อนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แล้วคุณจะออกไปที่ไหนกันหล่ะ?” เซี่ยเหล่ยถาม
”ฉันมีเรื่องที่ต้องรีบตรวจสอบ” หลงบิงตอบ
”แต่……” เซี่ยเหล่ยพูดเพื่อจะให้เธอพักผ่อนและคอยดูอาการเสียก่อน
”ออกไปได้แล้วหรือว่าคุณต้องการจะดูฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า?” หลงบิงพูดพร้อมจ้องตาโตไปที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยรีบออกไปจากห้องทันที……
หลังจากผ่านไปหลายนาที หลงบิงก็เดินออกมาจากหอผู้ป่วยพร้อมกับมีเซี่ยเหล่ยที่เดินตามอยู่ด้านหลังระหว่างทางมีเจ้าหน้าที่หลายคนมองไปที่เธอด้วยท่าทางสงสัยแต่ก็ไม่มีใครกล้าถามเธอซักคนว่าทำไมถึงออกมาเดินเช่นนี้
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไปหลงบิงและเซี่ยเหล่ยก็รีบเดินทางไปถึงสำนักงานลับ101 เมื่อไปถึงแล้วเธอก็รีบพาเซี่ยเหล่ยลงไปชั้นใต้ดินทันที
เซี่ยเหล่ยเพื่งจะเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกแต่ความรู้สึกของเขาชัดเจนมากว่าที่นี่ทั้งมืดมนและหดหู่
”ที่นี่เป็นที่ที่มีไว้สำหรับสอบสวนผู้ก่อการร้ายหรือบุคคลที่มีความเสี่ยง” หลงบิงแนะนำให้เซี่ยเหล่ยฟังจากนั้นก็พูดต่ออีกว่า “พวกคนเหล่านี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดา ดังนั้นพวกเขาจะถูกขังและสอบสวนเหมือนทั่วๆไปไม่ได้หรอกนะ”
แม้ว่าตอนนี้เซี่ยเหล่ยจะยังไม่ได้เข้าไปในห้องเตรียมสอบสวนแต่เขาก็สามารถมองเห็นได้ว่าภายในห้องได้อย่างชัดเจนมีฉือโบเหยิน ถ่างหยู่เหยี่ยและถ่างปั่วฉ่วนยืนมองกระจกที่ทำขึ้นมาพิเศษให้สามารถเห็นได้แค่เพียงด้านเดียว
ไม่ต้องเดาเลยว่าใครที่กำลังถูกสอบสวนอยู่ในตอนนี้
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมฉือโบเหยินจึงมาอยู่ที่นี่ด้วยนั่นก็เพราะสถานะของอันซูฮยอนถือว่าไม่ธรรมดาเลย เขาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ดูแลบริษัทก็อดโดเมนแถมเขายังมีพ่อผู้ซึ่งอาจจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของเกาหลีใต้อีกด้วย
”หลงบิง ทำไมคุณไม่อยู่ในโรงพยาบาลหล่ะ? คุณมาทำอะไรที่นี่?” ฉือโบเหยินพูดเมื่อเห็นว่าเซี่ยเหล่ยและหลงบิงกำลังเดินเข้ามา
ถ่างปั่วฉ่วนและถ่างหยู่เหยี่ยก็หันไปมองที่หลงบิงและเซี่ยเหล่ยเช่นกันแต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
”ฉันต้องการมีส่วนร่วมในการสอบสวนอันซูฮยอนด้วย” หลงบิงพูดต่ออีกว่า “จริงๆถ้าฉันไม่ได้เซี่ยเหล่ยช่วยเอาไว้ทั้งฉันและเจ้าหน้าที่หวู่คงตายอยู่ในชั้นใต้ดินไปแล้ว ”
”ดังนั้น….คุณต้องการที่จะทรมานเขางั้นเหรอ?” ฉือโบเหยินถาม
หลงบิงตอบกลับไปอย่างเยือกเย็นว่า “แน่นอน ฉันต้องการให้เขาได้รับบทเรียนเสียบ้าง”
ฉือโบเหยินส่ายหน้าพร้อมพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ดีหรอกนะ”
”ทำไม?” หลงบิงถามออกไปด้วยความไม่พอใจ
ฉือโบเหยินขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า “รู้ไหมว่าทำไมผมถึงมาที่นี่? นั่นก็เพราะกลัวว่าพวกคุณจะทำอะไรเกินเหตุยังไงหล่ะ สถานะของเขาไม่ใช่สถานะที่เราจะทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ประเทศของเราและประเทศของเขามีความสัมพันธ์บางอย่างที่ซับซ้อนกันอยู่ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นพวกคุณไม่สามารถรับผิดชอบมันได้เลย”
หลงบิงขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีก
เพราะมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง มันจึงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้นมาทันทีเพราะมันอาจจะเกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศขึ้นมาได้ง่ายๆ
ตอนนี้เซี่ยเหล่ยมองเข้าไปในห้องสอบสวน เขาเห็นผู้ที่ควบคุมการสอบสวนพร้อมกับผู้จดบันทึกคำให้การไม่ใช่คนของสำนักงานลับ101 แต่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูเหมือนว่าฉือโบเหยินไม่ต้องการให้อันซูอยอนรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน….
ติดตามตอนต่อไป…………..