Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 366 แมลงบินรอบกองไฟ !
TXV –
ในห้องสอบสวนอันซูฮยอนดูสงบมาก เขาไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย
”ผมงั้นเหรอลักพาตัวคนอื่น? คนอย่างผมจะต้องไปลักพาตัวใครหล่ะ?” อันซูฮยอนพูดพร้อมพูดต่ออีกว่า “ข้อกล่าวหาที่คุณว่ามาผมไม่มีส่วนรู้เห็นเลยนอกจากนี้ผมต้องการจะโทรบอกพ่อของผมเพื่อขอให้เขาส่งทนายส่วนตัวที่ดีที่สุดมาให้นี่เป็นสิทธิ์ตามกฏหมายของผม จัดการให้ผมด้วยหล่ะ”
คำพูดของเขาดูจะเรียบง่ายและธรรมดาแต่ความจริงมันแฝงไปด้วยการข่มขู่ นั่นก็เพราะพ่อของเขาเป็นบุคคลสำคัญระดับประเทศของเกาหลีใต้!
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการสอบสวนอันซูฮยอนทุบโต๊ะอย่างรุนแรงก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ทุกคนมีสิทธิเสมอภาคตามกฏหมายแต่เรื่องของคุณมันร้ายแรงมาก คุณคิดว่าพ่อของคุณจะช่วยคุณได้อย่างนั้นเหรอ?”
อันซูฮยอนยักไหล่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ผมแค่บอกสิทธิที่ผมสามารถใช้ได้ก็เท่านั้นเอง นี่คุณกำลังขู่ผมอยู่หรือเปล่า?”
”ใครขู่คุณ?” เจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการสอบปากคำพูด เขาปวดหัวกับการพูดจาของอันซูฮยอนอย่างมาก
การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไปแต่จังหวะนี้เซี่ยเหล่ยหันมาไปฉือโบเหยิยนก่อนจะถามเขาว่า “เราสามารถทำอะไรกับเขาได้บ้าง?”
ฉือโบเหยิยนเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า “ผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะลงโทษเขาตามกฏหมายหรืออาจจะต้องปล่อยเขาไป”
ในใจของเซี่ยเหล่ยยังคงมีความแค้นต่ออันซูฮยอนอย่างมากนั่นก็เพราะอันซูฮยอนสั่งให้อันซูจุนมาหลอกลวงและหวังจะทำร้ายเซี่ยเสวียแถมอันซูฮยอนยังคิดจะฆ่าลู่เชิง เจ้าหน้าที่หวู่และหลงบิงอีกต่างหากซึ่งถ้าหากร่างกายของเขาไม่สามารถต้านทานแก๊สยาสลบในตอนนั้นได้ละก็ ทั้งเขาและหลงบิงคงไม่ได้มีโอกาสมายืนอยู่ตรงนี้แน่ๆ เรื่องราวมันจะไปจบตรงที่เซี่ยเหล่ยถูกส่งตัวไปให้กับพวกอเมริกันส่วนคนที่เหลือก็จะถูกฆ่าและอำพรางศพ!
”นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย” เซี่ยเหล่ยพูดอย่างคนโกรธแค้น
ฉือโบเหยิยนยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะพูดขึ้นว่า “เซี่ยเหล่ย ผมรู้ว่าคุณอึดอัดและไม่พอใจแต่ผมจะบอกคุณไว้ก่อนเลยว่าแม้แต่ประเทศใหญ่ๆอย่างสหรัฐเมริกาหรือแม้แต่เยอรมนีที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องกฏหมายที่แข้มงวดแต่แล้วยังไงหล่ะ ดูเพื่อนของคุณสิอเลน่า…เธอไม่ได้ทำผิดอะไรเลยแต่ก็เกือบที่จะไปติดคุกที่กวนตานาโมแล้ว ”
ถ่างหยู่เหยี่ยที่ฟังอยู่เช่นกันจู่ๆเธอก็ขัดจังหวะขึ้นมาว่า “เซี่ยเหล่ย คุณต้องใจเย็นๆก่อนนะ”
ถ่างปั่วฉ่วนเองก็พูดขึ้นว่า “อันซูฮยอนได้ทำผิดกฏหมายจริงแม้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวแต่ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขด้วยไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นอิสระไปเลยแถมสถานะของเขารวมถึงพ่อของเขาก็มีผลกับทางการเมืองอย่างมากไม่ว่าจะเป็นทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นเราต้องชิงความได้เปรียบจากเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด“
เซี่ยเหล่ยยิ้มเล็กน้อยแม้ว่าคำพูดของถ่างปั่วฉ่วนจะทำให้เขาใจเย็นลงบ้างแต่ภายในใจของเขายังอึดอัดอยู่ตลอดเวลา
”คุณกลับไปก่อน” ฉือโบเหยิยนพูดต่อว่า “และหยุดคิดเรื่องนี้ซะ”
หลงบิงเองก็พูดขึ้นว่า “เซี่ยเหล่ย เราไปกันเถอะ ไปหาอะไรดื่มกันดีกว่า”
เซี่ยเหล่ยและหลงบิงกำลังจะเดินออกไปแต่ก่อนจะออกไปนั้นเซี่ยเหล่ยก็ได้หันไปมองอันซูฮยอนก่อนหนึ่งครั้งจากนั้นก็พูดกับตัวเองว่า “เรื่องนี้ยังไม่จบหรอกนะ ”
”เซี่ยเหล่ย” ถ่างหยู่เหยี่ยเรียกและพูดต่อว่า “พ่อของฉันบอกว่าสิ่งที่คุณขอให้เขาช่วยนั้น จัดการเรียบร้อยแล้ว ”
เซี่ยเหล่ยหันไปหาเธอด้วยความสนใจทันทีพร้อมกับพูดขึ้นว่า “จัดการอะไรงั้เนหรอ?”
ถ่างหยู่เหยี่ยตอบกลับไปว่า “เรื่องที่คุณจะไปที่บ้านในวันพรุ่งนี้ไง”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “อ๋อ…ผมจะไปที่บ้านของคุณในวันพรุ่งนี้เพื่อทักทายลุงถ่าง”
ถ่างหยู่เหยี่ยยิ้มก่อนจะพูดว่า “ดี…ซื้อของติดไม้ติดมือมาให้ผู้ใหญ่ด้วยหล่ะ”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “ได้เลย” หลังจากพูดจบหลงบิงก็คว้ามือของเซี่ยเหล่ยและลากเขาออกไปทันที
ถ่างปั่วฉ่วนถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “หลงบิง ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่กับเรื่องนี้นะ”
ฉือโบเหยิยนพูดว่า “เธอก็เป็นแบบนี้แหละ ปล่อยเธอไปก่อนอีกสองสามวันก็คงจะดีขึ้น ”
เซี่ยเหล่ยเดินออกจากสำนักงานลับ 101 ในตอนนี้บนถนนและทางเท้าเงียบมากแทบจะไม่มีแม้แต่รถหรือคนที่เดินบนทางเท้าเลย เซี่ยเหล่ยกำลังจะเดินไปขึ้นรถแต่ก็ถูกหลงบิงหยุดไว้ก่อนที่เธอจะพูดว่า “ไม่ต้องใช้รถหรอก เราไปเดินเล่นกันดีกว่า”
เซี่ยเหล่ยถาม “ไม่ดื่มแล้วงั้นเหรอ?”
”อืม ที่บาร์มันเสียงดังเกินไป ฉันว่าเรามาเดินเล่นแก้เซ็งคงจะดีกว่าหน่ะ” หลงบิงตอบพร้อมทำท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าจากนั้นก็เดินตามหลงบิงไปตามทางเท้า ข้างทางมีไฟของถนนช่วยให้แสงสว่าง รอบๆดวงไฟมีแมลงพากันบินวนตอมอยู่มากมาย
เซี่ยเหล่ยไม่เคยเห็นปฏิกิริยาของเธอเป็นแบบนี้มาก่อนจึงถามออกไปว่า “คุณคิดอะไรอยู่?”
หลงบิงถอนหายใจเบาๆก่อนจะพูดว่า “คุณไม่คิดว่าเราเหมือนแมลงพวกนี้งั้นเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มและตอบกลับไปว่า “ไม่นะ ผมคิดว่าตอนนี้ผมควรจะพาคุณกลับไปที่โรงพยาบาลก่อน”
หลงบิงยกกำปั้นและต่อยไปที่หน้าอกของเซี่ยเหล่ยเบาๆก่อนจะพูดว่า “ฉันรู้สึกว่าโลกนี้มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย คงเหมือนกับที่แมลงพวกนี้”
เป็นเรื่องแปลกมาที่เธอพูดขึ้นในลักษณะนี้ เซี่ยเหล่ยรู้สึกแปลกอยู่ในใจ จากนั้นก็ถามออกไปว่า “แล้วคุณคิดว่าแมลงพวกนี้เป็นอย่างไรงั้นเหรอ?”
”โง่และทำได้แค่บินวนไปมา” หลงบิงตอบ
เซี่ยเหล่ยเงียบอยู่ครู่หนึ่งตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อกี้นี้เธอถึงพูดอะไรแปลกๆขึ้นมา
หลงบิงพูดว่า “ฉันรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมทำงานที่สำนักงานลับ101 ฉันได้ปกป้องความมั่นคงของประเทศชาติ ปกป้องศักดิ์ศรีของกฏหมายและบางครั้งในขณะที่เราต้องปฏิบัติภารกิจ เราจะต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วงแม้แต่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวม ซึ่งที่สุดแล้วหากเราสามารถจับพวกคนเลวได้นั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเราพลาดเราอาจจะตายในหน้าที่ได้เลยและไม่สามารถจับหรือจับมาแล้วแต่ทำอะไรพวกคนเลวไม่ได้ ฉันคิดว่าชีวิตของเราก็เหมือนกับแมลงพวกนี้ หากมันเข้าไปเล่นกับไฟท้ายที่สุดพวกมันก็จะโดนเผาและตายไปโดยไม่มีใครจำได้ ”
ซี่ยเหล่ยพูดปลอบเธอว่า “ความจริง ผมไม่สนหรอกว่ามันจะมีผลทางเมืองอย่างไรแต่อันซูฮยอนสมควรจะได้รับบทลงโทษอย่างสาสม จากมุมมองของเรื่องนี้เราจึงต้องใช้อันซูฮยอนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศเรามากที่สุด”
”คุณว่ามันดีอย่างนั้นเหรอ?” หลงบิงพูดพร้อมหยุดเดินก่อนจะหันไปมองหน้าเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “แน่นอนว่าผมไม่ชอบหรอกนะ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ ”
”เอาล่ะ งั้นเราอย่ามาพูดถึงเรื่องนี้กันอีกดีกว่า” หลงบิงพูด เธอไม่อยากจะคิดถึงเรื่องที่ทำให้เธอหงุดหงิดและไม่พอใจแล้ว Aileen-novel
”ครั้งนี้เราจะต้องปล่อยให้พวกเขาเป็นคนจัดการไปก่อน น่าจะดีกว่า” เซี่ยเหล่ยพูดต่ออีกว่า “แต่ถ้ามีครั้งหน้าผมจะไม่จับเขามาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกแล้ว ผมจะจัดการเขาด้วยวิธีของผมเอง ”
”อืม …… ” หลงบิงพูดพร้อมลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ขอยืมไหล่คุณซบหน่อยได้มั้ย?”
เซี่ยเหล่ยถามว่า “ทำไมหล่ะ?”
”ไม่ได้หรอ?” หลงบิงถามกลับ
”คุณต้องการจะร้องไห้ใช่ไหม?” เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมพยักหน้าและพูดต่อว่า “โอเค ใช้ไหล่ของผมเป็นที่พักพิง คุณอยากจะร้องเท่าไหร่ก็ร้องออกมาให้หมดได้เลย”
หลงบิงพิงไหล่ของเซี่ยเหล่ยอย่างเงียบๆ
เซี่ยเหล่ยโอบเอวของเธอก่อนจะพูดว่า “ร้องไห้ซะให้พอ ผมจะไม่หัวเราะคุณหรอกนะ ไม่ต้องกังวล”
”อืม …… ” หลงบิงพูด
แต่จู่ๆเธอก็อ้าปากและกัดไปที่ไหล่ของเซี่ยเหล่ยอย่างรวดเร็ว
เธอกัดแค่เพียงครู่เดียวก่อนจะปล่อยและพูดขึ้นว่า “เป็นยังไงบ้างหล่ะ?”
เซี่ยเหล่ยจับไปที่ไหล่ที่โดนกัดพร้อมถามว่า “เจ็บสิถามได้ แล้วกัดผมทำไม?”
หลงบิงยิ้มและตอบกลับไปว่า “ก็ใครใช้ให้คุณโกหกฉันว่าใช้เสื้อชุบปัสสาวะแล้วจะป้องกันแก๊สยาสลบได้หล่ะ แถมตอนนั้นคุณยังมองตอนที่ฉัน…. ”
นี่คือเหตุผลทั้งหมดของเธอ….
จู่ๆในหัวของเซี่ยเหล่ยภาพของหลงบิงก็ผุดขึ้นมา มันเป็นผิวที่เรียบเนียนสีขาวพร้อมกับเนินหน้าอกที่ใหญ่โต ภาพที่เขากำลังคิดอยู่นี้ทำให้ไหล่ที่โดนกัดเมื่อครู่นี้หายเจ็บปวดอย่างสิ้นเชิง เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า “ผม ผมมองตอนที่คุณกำลังอะไรงั้นเหรอ?”
”นี่…ฉันขอยืมไหล่อีกครั้งสิ” หลงบิงไม่ตอบคำถาม เธอพูดพร้อมเตรียมจะกัดเขาอีกครั้ง
เซี่ยเหล่ยรีบพูดทันทีว่า “คุณเป็นสุนัขงั้นเหรอ? หยุดอยู่ตรงนั้นเลย ไม่ต้องเข้ามา!”
หลงบิงไม่สนใจที่เซี่ยเหล่ยพูด เธอพุ่งไปหาเซี่ยเหล่ยพร้อมกับจะกัดเขาให้ได้ ด้านเซี่ยเหล่ยก็พยายามจะหยุดเธอเอาไว้แต่ทั้งคู่ไม่ได้สู้กันอย่างจริงจัง มันเป็นเหมือนเพียงการหยอกล้อกันเท่านั้น
จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้ทั้งคู่หยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ทั้งหมด
เป็นเสียงโทรศัพท์ของหลงบิง เธอหยิบขึ้นมาพร้อมกับกดรับสายโดยมีเซี่ยเหล่ยยืนดูอยู่ข้างๆเธอด้วย
”เราอยู่ข้างนอกไม่ไกลเท่าไหร่จากสำนักงานลับ101เท่าไหร่ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” หลงบิงถามด้วยความสงสัย
เซี่ยเหล่ยคิดในใจว่า “ฉือโบเหยิยนงั้นเหรอ? หรือเรื่องของอันซูฮยอนจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง? ”
”โอเค ฉันจะรีบไป” หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยรีบถามทันทีว่า “ผู้บริการฉืองั้นเหรอ?”
หลงบิงพยักหน้าพร้อมตอบไปว่า “ใช่ ผู้บริหารฉือ ตอนนี้มีเรื่องฉุกเฉิน ”
”เกี่ยวกับอันซูฮยอนไหม?” เซี่ยเหล่ยถาม
”ไม่ใช่ แต่เป็นกลุ่มนักวิจัย” หลงบิงตอบ
เซี่ยเหล่ยอยากรู้เรื่องราวทันที เขารีบถามออกไปว่า “มีอะไรงั้นเหรอ?”
หลงบิงตอบกลับไปว่า “ผู้บริหารฉือบอกฉันว่าตอนนี้มีนักวิจัยเสียสติไปแล้ว สถานการณ์อันตรายอย่างมาก”
”เสียสติเนี่ยนะ?” เซี่ยเหล่ยถามซ้ำด้วยความประหลาดใจ
หลงบิงพูดต่อว่า “ใช่ แต่ผู้บริหารฉือไม่ได้พูดรายละเอียดอะไรมากนัก ตอนนี้คุณกลับไปก่อน ฉันต้องไปทำงานแล้ว ”
”เดี๋ยวก่อน ” เซี่ยเหล่ยพูดต่อทันทีว่า “ให้ผมไปด้วยได้รึป่าว?”
หลงบิงพูดว่า “ผู้บริหารฉือบอกกับฉันว่าไม่ให้พาคุณไปด้วย”
ในขณะนี้เซี่ยเหล่ยรู้สึกอึดอัดในใจอย่างมาก
”คุณปล่อยวางเรื่องนี้ไปเถอะ” หลงบิงพูดต่ออีกว่า “ผู้บริหารฉือบอกกับฉันให้บอกกับคุณว่า คุณมีหน้าที่นำเหล่านักวิจัยกลับมาประเทศของเราแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”
เซี่ยเหล่ยหมดคำพูดไปในทันที
มันเป็นความจริงที่ว่าช่วยเหล่านักวิจัยกลับมาจากอัฟกานิสถานได้แต่พวกเขาไม่ได้มองให้ไกลออกไปว่าเรื่องนี้มันจะเชื่อมโยงและส่งผลกับอะไรได้บ้าง ซึ่งหากเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุด พวกเขารับมือไม่ไหวแน่ๆ
หลงบิงยังคงพูดกับผู้บริหารฉือต่อดูเหมือนเธอกำลังพยายามจะขอให้พาเซี่ยเหล่ยไปด้วยให้ได้
เซี่ยเหล่ยยังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อเขาคิดในใจว่า “ถ้าผู้บริหารฉือไม่อนุญาต คงไม่มีทางเสาะหาความลับของอัลลอยโบราณได้ ซึ่งความจริงมันอาจจะ……”
หลงบิงวางสายโทรศัพท์พร้อมกับพูดขัดจังหวะขึ้นว่า “ยังไงเขาก็ยืนยันคำเดิมคือไม่ให้พาคุณไปด้วย !”
ติดตามตอนต่อไป………..