Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่– 385 คำเตือน !
มีทั้งปืน AK-12 M16 ที่กราดยิงเข้ามา!
จากทั้งอาวุธและจำนวนคนในตอนนี้ ทำให้แน่ใจขึ้นไปอีกว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการข่มขู่เซี่ยเหล่ยเพราะนี่มันหมายถึงการเอาชีวิต!
หลังจากกราดยิงมาซักพักหนึ่ง มือปืนคนหนึ่งก็ได้ส่งสัญญาณมือให้กับมือปืนที่เหลือเข้าไปภายในห้อง
มือปืนคนหนึ่งพยักหน้าพร้อมเดินเข้าไปภายในห้องอย่างช้าๆ แต่หลังจากเข้าไปในห้องได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น จู่ๆมือปืนคนนั้นก็ล้มลงนอนกองอยู่กับพื้นพร้อมปืนที่กระเด็นหายไปจากมือ
อย่างไรก็ตามคนอื่นๆไม่รู้ว่าภายในห้องเกิดอะไรขึ้น ทำให้มือปืนอีกคนเดินเข้าไปเช่นกันแต่ครั้งนี้เพียงแค่หัวโผล่เข้าไปในห้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กระสุนปืนก็พุ่งทะลุหัวของเขาทันที
มือปืนที่ยืนอยู่ตรงบริเวณประตูได้รีบลากศพมือปืนที่โดนยิงก่อนหน้านี้ออกอย่างรวดเร็วเพื่อเคลียร์เส้นทางให้โล่งที่สุด เพราะตอนนี้มือปืนอีกแปดคนที่รออยู่ภายนอกห้องเตรียมกลยุทธ์พร้อมจะบุกเข้าไปใหม่
ด้วยปืน AK-12 และ M16 ที่เหล่ามือปืนเลือกใช้แม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะมีวิชากังฟูติดตัว แต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าอาวุธสงคราม!
สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างจะตึงเครียด!
แต่จังหวะนี้เองจู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้นที่ประตูห้องฝั่งตรงข้ามกับเซี่ยเหล่ย พร้อมกับมือปืนคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าห้องล้มลงไปกองกับพื้น
ในเวลาเดียวกันประตูห้องที่ถัดจากห้อง 410 ก็แง้มออกพร้อมกับมีปากกระบอกปืนสีดำโผล่ออกมา
“พุก พุก!” เสียงปืนดังขึ้นสองนัดพร้อมกับมือปืนหน้าห้องของเซี่ยเหล่ยล้มลงไปอีกสองคน
ตอนนี้ทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและหลิงฮั่นได้เข้าร่วมการต่อสู้แล้ว
เวลาที่ทั้งคู่เข้ามาในการต่อสู้นี้ถือว่าช้ากว่าที่เซี่ยเหล่ยคาดเอาไว้มากแต่ยังไงซะนี่ก็ถือว่าเป็นปกติสำหรับพวกเขา
พุ๊ก พุ๊ก พุ๊ก! พุ๊ก พุ๊ก พุ๊ก ……
หลังจากพบว่าทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและหลิงฮั่นเข้ามามีส่วนร่วมกับการต่อสู้แล้ว เหล่ามือปืนก็ได้ให้ความสนใจกับพวกเขาโดยการระดมยิงไปที่ประตูห้องทั้งสอง
สำหรับมือปืนคนที่ลากศพเพื่อนออกมาในตอนแรกนั้นได้เลือกที่จะเข้าไปหลบในห้องของเซี่ยเหล่ยแทนนั่นก็เพราะหากอยู่ตรงทางเดินต่อมันจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากอาจจะโดนยิงจากปืนของทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและหลิงฮั่นได้
พุก พุก พุก!
ในตอนนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเองมือปืนที่นำศพเพื่อนเข้ามาในห้องของเซี่ยเหล่ยได้ใช้ศพเป็นที่กำบังให้ตัวเองก่อนที่เขาจะสอดปากกระบอกปืนออกมาใต้รักแร้ของศพ จากนั้นก็คอยส่องหาเซี่ยเหล่ยที่กำลังหลบอยู่ในห้อง
พุก พุก พุก!
ด้วยความหวาดกลัวและตกใจเมื่อหาเซี่ยเหล่ยไม่เจอ จึงยิงปืนสุ่มไปที่ประตูห้องน้ำแตกกระจายรวมถึงโซฟาที่มีขนเป็ดออกมาปลิ่วว่อน อย่างไรก็ตามกระสุนปืนที่ยิงเข้ามาอีกชุดนี้ไม่โดนเซี่ยเหล่ยเลยเพราะเขาไม่ได้ซ่อนอยู่ที่นั่น
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไร มือปืนคนนั้นก็วางศพไว้กับพื้นพร้อมกับมองไปที่ระเบียงอย่างรวดเร็ว จังหวะเดียวกันนี้มือปืนอีกสองคนก็เข้ามาในห้องของเซี่ยเหล่ยเช่นกัน
ตรงระเบียงไม่มีใครยืนอยู่ มีเพียงแค่ลมที่พัดเข้ามาเท่านั้น มันทำให้มือปืนทั้งสามคนที่เข้ามาในห้องรู้สึกสงสัยอย่างมากว่าเซี่ยเหล่ยหายไปไหน “เขาหายไปไหนนะ?” มือปืนคนหนึ่งพูดอย่างประหม่า
พุ๊ก พุ๊ก พุ๊ก!
ทันใดนั้นกระสุนปืนก็พุ่งลงมาจากเพดานด้านหลังของมือปืนทั้งสามคน ทุกคนถูกยิงเข้าที่หัวและตายในทันทีโดยที่ไม่ทันจะได้หันหลังกลับไปมองด้วยซ้ำ
หากมีโลกวิญญาณอยู่จริง มือปืนทั้งสามคนนี้คงได้เห็นว่าเซี่ยเหล่ยหลบอยู่ที่สามเหลี่ยมของมุมกำแพงในท่าทางที่คล้ายกับตุ๊กแกกำลังเกาะฝาผนังอยู่ เขาใช้แค่ขาสองข้างและมือหนึ่งข้างสำหรับเกาะกำแพงส่วนอีกมือก็ถือปืนเอาไว้! ไอรีนโนเวล
เมื่อมือปืนทั้งสามตายแล้ว เซี่ยเหล่ยก็กระโดดลงมาที่พื้นพร้อมกับหยิบปืน M16 มาไว้ในมือ จากนั้นก็กลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิมอีกครั้ง
ตั้งแต่เริ่มต้นที่มือปืนพังประตูเข้ามาจนถึงตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาที่ยาวนานมากแต่ในความเป็นจริงมันผ่านไปแค่เพียงสองนาทีเท่านั้นที่สำคัญตอนนี้ช่วงวินาทีที่อันตรายที่สุดของเซี่ยเหล่ยได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ตรงทางเดิน ตอนนี้เหลือมือปืนทั้งสามคน พวกเขาไม่หวังว่าจะสามารถฆ่าเซี่ยเหล่ยได้แล้ว พวกเขาคิดเพียงแค่ว่าตอนนี้จะทำอย่างไรให้มีชีวิตรอดออกไปเท่านั้น ผ่านไปครู่หนึ่งพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะยิงฝ่าออกไปโดยการระดมยิงสะกดไปที่ประตูห้องของทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและหลิงฮั่นก่อนจะตรงไปที่บันไดหนีไฟอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์การฝ่าวงล้อมของพวกเขาได้ผล ทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและหลิงฮั่นไม่กล้าที่จะยิงสวนออกมาแต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ลืมไปหนึ่งคน นั่นก็คือเซี่ยเหล่ยที่ยังอยู่ภายในห้องและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างด้ายตาซ้ายของเขา
เมื่อมือปืนทั้งสามวิ่งผ่านหน้าห้องของถ่างหยู่เหยี่ยไปแน่นอนว่าห้องของถ่างหยู่เหยี่ยอยู่ตรงข้ามกับเซี่ยเหล่ย เวลาเดียวกันนี้เซี่ยเหล่ยก็รีบออกมาจากห้องพร้อมกับปืน M16ในมือของเขา จากนั้นก็ยิงออกไปที่มือปืนทั้งสามคนนั้น
กระสุนพุ่งออกไปยังศีรษะมือปืนคนที่หนึ่ง เข้าหลังมือปืนคนที่สอง ส่วนคนที่สามกระสุนปืนเข้าที่ก้นและต้นขา
มือปืนที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะและหลังไม่สามารถหันกลับมายิงตอบโต้ได้เลยย เนื่องจากพวกเขาตายในทันที แต่มือปืนที่ถูกยิงเข้าที่ก้นและขาได้หันกลับมาและกำลังจะยิงตอบโต้ไปที่เซี่ยเหล่ย
“ฟืบ!” เสียงมีดบินผ่านหลังของเซี่ยเหล่ยไปและปักอยู่ที่มือของมือปืนคนนั้น ทำให้ปืน AK-12 ที่อยู่ในมือของเขาร่วงลงพื้น
แน่นอนว่าถ่างหยู่เหยี่ยเป็นคนปามีดสั้นออกไป เธอไม่ได้เล็งไปที่หัวของมือปืนนั่นก็เพราะเธอต้องการไว้ชีวิตเขาเพื่อกันไว้เป็นพยานสำหรับหาข้อมูลผู้บงการ
เซี่ยเหล่ยและถ่างหยู่เหยี่ยได้มองหน้ากันและเดินตรงไปยังมือปืนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลิงฮั่น เองก็เดินออกมาจากห้องเช่นกัน เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปหามือปืนคนนั้นพร้อมกับเหยียบไปที่แผลตรงขาของเขา
“อ๊ากกกกก !” ตะโกนออกมาอย่างน่าเวทนา
ถ่างหยู่เหยี่ยเองก็เดินไปหยุดตรงหน้ามือปืนพร้อมกับเล็งปากกระบอกปืนไปที่หัวของเขา
“ไปตายซะ!” มือปืนคนสุดท้ายตะโกนและยังพูดต่ออีกว่า “พี่ชายของกูจะแก้แค้นแทนกูแน่!”
ฟังจากคำพูดของเขาแล้วทำให้เซี่ยเหล่ยค่อนข้างจะแน่ใจว่าเขาไม่ใช่นักฆ่ามืออาชีพเพราะนักฆ่ามืออาชีพจะไม่มีทางพูดประโยคลักษณะนี้อย่างแน่นอน ความเป็นไปได้ในตอนนี้เหลือเพียงแค่พวกเขาเป็นมือปืนธรรมดาชาวรัสเซียเท่านั้นเพราะมือปืนในประเทศนี้ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่ารับจ้างฆ่าใครก็ได้ขอเพียงได้เงินเท่านั้น
เซี่ยเหล่ยพูดเป็นภาษารัสเซียขึ้นว่า “บอกผมมาว่าคุณทำงานให้กับใคร?” “หึ!” มือปืนคนสุดท้ายได้พูดในลำคอ
ถ่างหยู่เหยี่ยเตะไปที่หัวของมือปืนทันทีพร้อมกับใช้เท้าเหยียบไปที่ใบหน้าของเขาจากนั้นก็พูดว่า ”พูดมา! ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?”
แต่น่าเสียดายที่มือปืนคนนั้นไม่เข้าใจภาษาจีนที่เธอพูด เขาจ้องไปที่ถ่างหยู่เหยี่ยด้วยความเกลียดชังและไม่มีความกลัวในแววตาแม้แต่น้อย
“โอเค พอแล้ว” เซี่ยเหล่ยพูดและพูดต่ออีกว่า “ปล่อยเขาไป”
“มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะ!” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดและพูดต่อว่า “ถ้าเขาไปอยู่ในมือตำรวจแล้ว เราจะไม่มีทางสืบต่อได้อีกแล้วนะ”
เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปใกล้เธอพร้อมกับกระซิบข้างหูเธอว่า “ถ้าคุณยังเหยียบเขาอยู่อย่างนี้ เขาจะเห็นใต้กระโปรงคุณหมดนะ”
“หืม?” ถ่างหยู่เหยี่ยเองก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้เธอรีบเอาเท้าออกจากใบหน้าของมือปืนทันทีแต่อย่างไรก็ตามทันทีที่ถ่างหยู่เหยี่ยยกเท้าขึ้นก็พบว่ามือปืนคนนั้นสลบไปเรียบร้อยแล้ว
ถ่างหยู่เหยี่ยมองไปที่เซี่ยเหล่ยทันทีแม้ว่าปากของเธอจะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ในใจก็คิดว่า “ทำไมจู่ๆเขาถึงให้ความสนใจกับเรื่องกระโปรงของเราได้นะ?”
หลิงฮั่นเดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งสองคนพร้อมพูดว่า “พวกคุณไม่บาดเจ็บกันใช่ไหม?”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับว่า “ผมไม่เป็นอะไร”
ถ่างหยู่เหยี่ยเองก็ตอบว่า “ฉันก็ไม่เป็นอะไรเหมือนกัน”
“ว่าแต่มือปืนพวกนี้เป็นใครกันแน่?” หลิงฮั่นถามด้วยความสงสัย
ถ่างหยู่เหยี่ยสายหน้าพร้อมพูดว่า “เพราะมีใครบางคนขัดขวาง ทำให้เราอดที่จะรู้ว่าใครบงการพวกเขาอยู่”
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นว่า “ผมคิดว่าพวกเขาเป็นมือปืนรับจ้างชาวรัสเซีย พวกเขาทำได้ทุกอย่างเพียงแค่จ้างพวกเขา” เซี่ยเหล่ยพูดและยังพูดต่อว่า “คิดว่าปืนในห้องของผมคงเป็นเป้าหมายของพวกเขาและนั่นอาจจะรวมถึงชีวิตของผมด้วย”
หลิงฮั่นขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า “นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”
หลังจากนั้นไม่นานนอกจากถ่างหยู่เหยี่ยและหลิงฮั่นแล้ว แขกที่พักในห้องที่ติดกับเซี่ยเหล่ยต่างทยอยเปิดประตูและออกมายืนดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงทางเดินด้วยความสังสัยและในบรรดาแขกที่เข้าพัก เย่คุน บอดี้การ์ด รวมถึงพนักงานบริษัทของเขาก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมายืนตรงบริเวณทางเดิน
เมื่อมองไปตรงทางเดินก็พบศพจำนวนมากนอนกองอยู่ตามจุดต่างๆ ในขณะนี้สีหน้าของเย่คุนดูไม่ดีนัก มันแทบจะกลายเป็นใบหน้าที่น่าเกลียดเลยก็ว่าได้ เขานึกสงสัยภายในใจว่าด้วยจำนวนมือปืนขนาดนี้เซี่ยเหล่ยสามารถรอดจากการถูกยิงมาได้อย่างไร!
ถ่างหยู่เหยี่ยค่อยๆเดินเข้าไปหาเย่คุนพร้อมมองเขาเหมือนอยากจะฆ่าให้ตาย
หลิงฮั่นได้พูดขึ้นทันทีว่า “ถ่างหยู่เหยี่ย นั่นคุณจะทำอะไร?”
“เรื่องนี้มีความเป็นไปได้มากที่เขาจะอยู่เบื้องหลัง!” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดด้วยความโกรธ
“คุณต้องใจเย็นก่อน!” หลิงฮั่นพูดและยังพูดต่อด้วยน้ำเสียงโทนต่ำอีกว่า “นี่คือคำสั่ง!”
ถ่างหยู่เหยี่ยยังคงจ้องไปที่เย่คุนแต่ที่สุดแล้วเธอก็ไม่ได้ทำอะไรผลีผลามออกไป เนื่องจากการมารัสเซียในครั้งนี้ หลิงฮั่นมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ถ่างหยู่เหยี่ยจึงต้องฟังคำสั่งของเขา
อย่างไรก็ตามคำสั่งที่หลิงฮั่นออกไปก็สามารถทำให้ถ่างหยู่เหยี่ยใจเย็นลงได้บ้างเช่นกัน ถ้าตัดอารมณ์ออกไปแล้ว เธอเองก็จะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ดีว่าควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไร!
อีกด้านหนึ่ง เย่คุนที่แสดงท่าทางลังเลอยู่ครู่หนึ่งได้ตัดสินใจพูดขึ้นในที่สุดว่า ”เกิดอะไรขึ้น? นั่นคุณไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม? นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
หลิงฮั่นและถ่างหยู่เหยี่ยมองไปที่เขาแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรไป
จังหวะนี้เซี่ยเหล่ยได้ยกปืนขึ้นมาแต่ด้วยความบังเอิญ องศาของปากกระบอกปืนได้หันไปทางเย่คุนยืนอยู่พอดี
“คุณ…” เย่คุนอุทานอย่างตกใจและพูดขึ้นทันทีว่า “คุณจะทำอะไร?”
เซี่ยเหล่ยยิ้มและตอบกลับไปว่า “ประธานเย่ คุณคิดว่าผมจะทำอะไรงั้นเหรอ?”
“ดูก็รู้แล้ว คุณ…คุณต้องการจะยิงผม!” เย่คุนพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
จังหวะนี้เซี่ยเหล่ยได้ลดปากกระบอกปืนลงพร้อมกับยิ้มและพูดว่า “ต้องขอโทษด้วย เมื่อครู่นี้ผมเพิ่งจะผ่านการยิงต่อสู้ที่ดุเดือดมาจึงยังตื่นตัวอยู่ โปรดอย่าถือสา ว่าแต่…ประธานเย่ คุณเคยเห็นหน้ามือปืนเหล่านี้หรือไม่?”
”อะไรนะ? ทำไมผมจะต้องเคยเห็น……” เย่คุนพูดด้วยความไม่พอใจแต่ก็พูดไม่หมดในทีเดียว เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยความโกรธต่อว่า “คุณพูดเรื่องอะไรไร้สาระ ผมจะเคยเห็นหน้าตาคนเหล่านี้ได้ยังไง? คุณไปมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า…พวกเขาจึงได้ส่งคนมาไล่ล่าคุณอย่างนี้?”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับทันทีว่า “ก็คงจะมีอยู่แหละนะดูจากมือปืนที่ถูกส่งมา ผมเดาว่าเขาคงไม่หยุดแค่นี้แน่ๆ แต่อย่างไรก็ตามผมพร้อมเผชิญหน้ากับศัตรูเสมอ ดูอย่างศพพวกนี้สิ พวกเขาส่วนใหญ่ตายด้วยน้ำมือของผมทั้งนั้น”
ทันทีที่เซี่ยเหล่ยพูดจบเย่คุนก็หน้าซีดทันทีเพราะเขารู้ดีว่านี่ถือเป็นคำเตือนจากเซี่ยเหล่ย แต่การที่เขาจะหน้าซีดก็ไม่แปลกเนื่องจากขนาดมือปืนมากกว่าสิบคนแต่ก็ยังไม่สามารถฆ่าเซี่ยเหล่ยได้ แถมเซี่ยเหล่ยยังสามารถฆ่าพวกเขาตายทั้งหมดอีกต่างหาก!
เซี่ยเหล่ยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ประธานเย่ คุณเองก็ต้องระวังตัวดีๆ แม้ว่าคุณจะมีเงินมากมายขนาดไหนก็ไม่สามารถทำให้คุณฟื้นจากความตายได้หรอกนะ”
เย่คุนรู้สึกไม่พอใจทันทีที่ได้ยินเซี่ยเหล่ยพูด เขาพูดต่อทันทีเลยว่า “คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่? คุณกำลังพูดข่มขู่ผมอยู่หรือเปล่า?” พูดเสร็จก็หันไปหาหลิงฮั่น และพูดต่ออีกว่า “คุณหลิงดูสิ คุณเซี่ยเหล่ยกำลังข่มขู่ผม!”
หลิงฮั่นได้ตอบกลับอย่างไม่แยแสว่า “คุณเซี่ยก็แค่พูดเรื่อยเปื่อยเท่านั้น เขาเป็นห่วงคุณนะ ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นการข่มขู่คุณตรงไหนเลยนี่ ว่าแต่คุณไม่รู้จักหรือเคยเห็นมือปืนเหล่านี้จริงๆงั้นเหรอ?”
“หึ!” เย่คุนทำเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ
หลังจากนั้นไม่นานเสียงไซเรนก็ดังขึ้นที่บริเวณหน้าโรงแรมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนแจ้ง แต่ตอนนี้ตำรวจมอสโกได้มาถึงเรียบร้อยแล้ว……
ติดตามตอนต่อไป…………