Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่– 391 แผนสกปรก !
แม้ว่าการได้พบกับเซี่ยฉางห่ายนั้นจะไม่ได้แก้ข้อสงสัยเกี่ยวกับความลับของ AE แต่อย่างไรก็ตามการที่ได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับพ่อของตัวเองก็เพียงพอสำหรับเซี่ยเหล่ยแล้วเซี่ยฉางห่ายได้มอบชีวิตที่สองให้กับเขาซึ่งการที่เขาต้องหายตัวไปก็เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ CIA และองค์กร FA เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโกรธพ่อตัวเองอีกต่อไป
การที่ได้รับรู้ความจริงในอตีดเท่ากับเป็นการแก้ไขอารมณ์ที่เคยมีต่อพ่อของตัวเอง มันรวมถึงทัศนคติที่กลายเป็นด้านบวกด้วยเช่นกันระหว่างทางกลับไปยังสถานทูตเขาก็นึกภาพในวัยเด็กของตัวเองที่มีความทรงจำแสนสุขระหว่างเขาและพ่อของเขา มันทำให้เขายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ฝีมือของคุณยังยอดเยี่ยมเหมือนเคย”เยเลน่าพูด เธอทำลายความเงียบในรถ จากนั้นก็พูดต่อว่า “ไม่ใช่แค่มือปืนทั่วไปเท่านั้นแต่นี่ยังรวมถึงองค์กร FA ที่มีชื่อเสียงเรื่องการลอบฆ่า ซึ่งคุณแค่คนเดียวสามารถฆ่าพวกเขาไปถึงหกคน”
เซี่ยเหล่ยหันมายิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไรไป อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยก็รู้ตัวดีว่าถ้าเปลี่ยนสถานที่ในการต่อสู้รวมถึงตัวแปรอื่นๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะไม่ใช่แบบนี้แน่นอน
เยเลน่าถอนหายใจหนึ่งครั้งก่อนจะพูดต่อว่า “หลังจากส่งคุณเรียบร้อยแล้ว ทั้งฉันและพ่อของคุณก็จะต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบหลบหนีและหลีกเลี่ยงพวก CIA และ องค์กร FA เหมือนเดิมอีก”
“อ้อ…ใช่แล้ว……” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นกะทันหัน ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“มีอะไรงั้นเหรอ?” เยเลน่าถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ…ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรแล้ว” เซี่ยเหล่ยพูดในความเป็นจริงเขาต้องการจะขอความช่วยเหลือจากเธอให้ช่วยในการสืบเรื่องนักฆ่าชาวรัสเซียที่พยายามเข้ามาลอบฆ่าเขาเมื่อคืนแต่เขาก็นึกขึ้นมาได้อีกเช่นกันว่าทั้งเยเลน่าและเซี่ยฉางห่ายต้องคอยหลบหนีและหลีกเลี่ยงการไล่ล่าของ FA ซึ่งมันดูจะลำบากเกินไปสำหรับพวกเขา เซี่ยเหล่ยจึงไม่พูดออกไปดีกว่า
ก่อนหน้านี้เซี่ยฉางห่ายก็ได้พูดถึงนักฆ่าของ FA ให้ฟังแต่เขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอทันทีและเจอที่นี่เลย
เยเลน่ายิ้มและพูดขึ้นว่า “แม้ว่าตอนนี้คุณไม่ได้พูด แต่ฉันก็รู้ว่าคุณต้องการจะพูดอะไร ของที่คุณต้องการมันอยู่ในกล่องนั้นแล้ว ลองเปิดมันดูสิ”
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “คุณรู้ว่าผมต้องการอะไรงั้นเหรอ?”
“ลองเปิดมันดูก่อนสิ” เยเลน่าพูดอีกครั้ง
เซี่ยเหล่ยเปิดกล่องออกก็พบว่าภายในมีซองกระดาษที่มีเชือกมัดปากซองเอาไว้อยู่ ไม่รอช้าเซี่ยเหล่ยเปิดซองกระดาษทันที ภายในมีกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือมากมาย พร้อมกับรูปถ่ายจำนวนหลายรูป และทันทีที่สังเกตรูปถ่ายให้ดีก็ทำให้เขาพบกับใบหน้าของชายที่เพิ่งถูกเขาฆ่าตายไปเมื่อคืน
เยเลน่าพูดอีกว่า “พวกนักฆ่าที่คุณฆ่าไปเมื่อคืนเป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่มีชื่อว่า ฟิวเรียสแบร์โดยมีหัวหน้าชื่อ เซอร์เก้ คนพวกนี้มีธุรกิจส่วนตัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการลับลอบขนอาวุธ ค้ายาเสพติด และแน่นอนว่าเขาและอันซูฮยอนนั้นรู้จักกันทีนี้คุณพอจะรู้แล้วใช่ไหมว่าฉันต้องการจะพูดอะไร?”
เซี่ยเหล่ยตอบว่า “แน่นอน…คนเหล่านั้นถูกอันซูฮยอนจ้างมา”
เยเลน่าพูดต่อว่า “ที่นี่คือรัสเซีย ถ้าไม่จำเป็นอย่าต่อสู้กับพวกเขา มันไม่คุ้มค่าเพราะพวกเขาเป็นคนบ้าที่ไม่มีสมองคิดแถมยังมีจำนวนมากอีกด้วยแต่อย่างไรก็ตามถ้าตอนนี้คุณต้องการความช่วยเหลือ ฉันและพ่อของคุณจะช่วยจัดการให้เอง” เซี่ยเหล่ยตอบว่า “ไม่เป็นไร ผมจะจัดการเอง คุณคอยดูแลพ่อของผมจะดีกว่า”
เยเลน่าเป็นผู้ช่วยที่ดีที่คอยช่วยเหลือเซี่ยฉางห่ายอยู่ตลอดที่ผ่านมา เธอมีความสามารถล้นหลามแต่อย่างไรก็ตามการที่เขารู้ถึงสถานการณ์ของพ่อตัวเองที่โดนไล่ล่าทั้งจากเจ้าหน้าที่ CIA และพวก FA ดังนั้นการเปิดเผยร่องรอยที่มากเกินไปย่อมจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้พ่อของตัวเองต้องเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น
เยเลน่าพูดว่า “ฉันต้องทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามฉันไม่รู้หรอกว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร”
เซี่ยเหล่ยพยักหน้า
ในตอนนี้พวกเขาก็ใกล้ถึงสถานทูตแล้ว เยเลน่าจอดรถห่างจากประตูสถานทูตประมาณร้อยกว่าเมตร เซี่ยเหล่ยลงจากรถและเดินไปทันที ส่วนเยเลน่าเองก็ออกตัวด้วยความเร็วสูงและหายไปในการจราจรที่แออัด
เซี่ยเหล่ยหันหน้ากลับไปหาเยเลน่าแต่ก็พบว่าเธอหายไปเสียแล้วอย่างไรก็ตาม จู่ๆในตอนนี้หัวใจของเซี่ยเหล่ยก็คิดว่า “ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอพ่ออีก”
เซี่ยเหล่ยไม่ต้องการเข้าทางประตูหลัก เขาจึงพยายามหาทางเข้าทางอื่นโดยพยายามหาจุดอับของกำแพงแล้วปีนเข้าไป แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีอยู่เลย เขาจึงจำใจที่จะต้องเข้าทางประตูหลักอย่างเดียวเท่านั้น
ในช่วงแรก เซี่ยเหล่ยโดนทหารดักตัวเอาไว้ก่อนแต่เมื่อเขาแสดงบัตรผ่านก็สามารถเข้าไปได้
ด้านหลิงฮั่นยังคงอยู่ในสำนักงาน และดูเหมือนเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซี่ยเหล่ยแอบออกไปข้างนอกและก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่าเขายังไม่รู้อย่างแน่นอน นั่นก็เพราะอย่างน้อยถ้าเซี่ยเหล่ยหายตัวไป เขาจะต้องส่งคนออกไปตามหาแล้ว
ทุกอย่างในห้องยังคงปกติแต่จะมีเพียงแค่กล่องพลาสติกเท่านั้นที่เซี่ยเหล่ยหาไม่พบ เขารู้สึกกังวลว่าจะถูกขโมยโดยเย่คุนแต่อย่างไรก็ตามเขาไว้ใจทั้งถ่างหยู่เหยี่ยและหลิงฮั่นว่าสามารถปกป้องมันเอาไว้ได้!
“แต่ถ้าไม่ใช่เย่คุนแล้วใครเป็นคนเอาไป?” เซี่ยเหล่ยสงสัยอย่างมาก
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เซี่ยเหล่ยกระตุกตาซ้ายและมองออกไปข้างนอกประตูทันที เขาเห็นถ่างหยู่เหยี่ยยืนอยู่พร้อมกับในมือกำลังถือกล่องพลาสติกพิเศษ ภาพที่เขาเห็นอยู่นี้ทำให้เขาถอนหายใจออกมาเฮื้อกใหญ่ด้วยความโล่งใจ
เซี่ยเหล่ยเดินไปเปิดประตู ให้เธอเข้ามา
หลังจากเธอเข้ามาแล้วก็ถามทันทีเลยว่า “คุณไปไหนมา?”
โชคดีที่เซี่ยเหล่ยคิดหาข้อแก้ตัวไว้ก่อนแล้ว เขาจึงพูดออกไปทันทีเลยว่า ”หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ผมพบกับใครคนหนึ่งท่าทางน่าสงสัย ไม่แน่ใจว่าเขาคือคนที่มาลอบฆ่าผมเมื่อคืนหรือเปล่า ผมจึงไล่ตามมันไป” ถ่างหยู่เหยี่ยขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “อย่ามาโกหกฉันดีกว่า”
เซี่ยเหล่ยยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ทำไมผมจะต้องโกหกคุณหล่ะ?”
“ถ้าเป็นจริง คุณรู้อะไรเพิ่มเติมบ้างหล่ะ?” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดและพูดต่ออีกว่า “แต่อย่าบอกนะว่าไม่รู้อะไรเลย”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “ผมรู้ว่านักฆ่าที่พยายามฆ่าเราเมื่อคืนนี้เป็นกลุ่มหัวรุนแรงชาวรัสเซียที่เรียกตัวเองว่าฟิวเรียสแบร์ พวกเขามีหัวหน้าชื่อเซอร์เก้ซึ่งพวกเขาทำธุรกิจมืดหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทั้งลักลอบขนอาวุธหรือแม้แต่ค้ายาเสพติดที่สำคัญคือพวกเขารู้จักกับอันซูฮยอน ดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องพูดมากกว่านี้ คุณก็คงจะรู้แล้วว่าเรื่องเมื่อคืนนี้มีใครอยู่เบื้องหลัง”
“คุณกำลังจะบอกว่าอันซูฮยอนอยู่เบื้องหลังใช่ไหม?” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดอย่างประหลาดใจ
เซี่ยเหล่ยตอบว่า “ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวยังมีอีกหนึ่งคนและตอนนี้เขาก็อยู่ใกล้กับเรามาก”
“เย่คุนสินะ?” ถ่างหยู่เหยี่ยตอบ
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “ใช่แล้ว”
“ไอ้เวรเอ๊ยย!” ถ่างหยู่เหยี่ยสบทออกมาด้วยความโกรธจากนั้นก็พูดต่อว่า “พวกเขากล้ามากนะที่ทำแบบนี้ ฉันไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่!”
ถ่างหยู่เหยี่ยมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยความประหลาดใจพร้อมกับพูดว่า “ว่าแต่…คุณออกไปข้างนอกแค่สองชั่วโมงกว่า แต่ได้ข้อมูลมาขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าคุณยินดีที่จะจ่ายเงินมากพอก็ไม่ยากจนเกินไปหรอกนะสำหรับข้อมูลแต่แน่นอนว่ามันเป็นข้อมูลที่สำคัญจึงมีราคาค่อนข้างแพง ผมต้องเสียเงินราวๆหนึ่งแสนยูโรเลย”
ถ่างหยู่เหยี่ยยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะพูดว่า“ คุณไม่คิดว่าราคามันแพงเกินไปงั้นเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า “ตอนที่อยู่อัฟกานิสถานผมใช้เงินไปมากกว่านี้อีกแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก”
ถ่างหยู่เหยี่ยถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “เอาเถอะ ครั้งนี้ฉันจะปล่อยผ่านไปแต่ครั้งหน้า ถ้าคุณมีเรื่องอะไรอีกต้องบอกฉันก่อนเข้าใจไหม?”
“อื้ม” เซี่ยเหล่ยตอบตกลงอย่างง่ายดาย
ถือว่าโชคดีสำหรับเซี่ยเหล่ยมากที่เขารู้ความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบฆ่าเมื่อคืนนี้ ไม่อย่างนั้นคงจะหาแก้ตัวได้ยากมาก ไอรีนโนเวล
ตอนนี้ถ่างหยู่เหยี่ยได้ส่งกล่องพลาสติกพิเศษคืนให้กับเซี่ยเหล่ยพร้อมกับพูดว่า “เมื่อเห็นว่าคุณหายไป ด้วยความเป็นห่วงฉันจึงนำไปเก็บไว้ที่ห้องของฉันก่อนและเมื่อคุณกลับมาแล้วฉันจึงนำมาคืนให้กับคุณ”
เซี่ยเหล่ยเปิดกล่องพลาสติกพิเศษเพื่อเช็กความเรียบร้อยภายใน พร้อมกับพูดว่า“เย่คุนเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหม?”
ถ่างหยู่เหยี่ยตอบว่า “ไม่ พวกเขายังคงยุ่งอยู่กับการเตรียมงานแสดงในนิทรรศการ”
หลังจากหยู่เหยี่ยพูดจบเพียงแค่ครู่เดียว ก็มีเสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงพูดของผู้หญิงว่า “คุณเซี่ย อยู่ในห้องหรือไม่?”
ไม่จำเป็นจะต้องเปิดออกไปดูหรือใช้ตาซ้ายมองทะลุออกไป เขาก็รู้ว่าเธอคือ เฉียนเหม่ย เลขาของเย่คุน
เซี่ยเหล่ยเดินไปเปิดประตูจากนั้นก็พูดว่า “คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”
เฉียนเหม่ยยิ้มก่อนพูดอย่างสุภาพว่า “ประธานเย่ ต้องการดื่มชากับคุณเซี่ย ไม่ทราบว่าสะดวกหรือไม่?”
เซี่ยเหล่ยตอบว่า“ ไม่”
เฉียนเหม่ยไม่ยอมแพ้ เธอพยายามพูดต่อว่า “ประธานเย่ บอกกับฉันว่ามีใครบางคนต้องการจะพูดกับคุณ”
เซี่ยเหล่ยตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ผมและเขาไม่มีอะไรจะต้องพูดกันอีกดังนั้นคุณกลับไปเถอะ”
เฉียนเหม่ยยิ้มและพูดอีกครั้งว่า “ประธานเย่ คิดไว้แล้วว่าคุณคงจะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงฝากมาบอกว่า ถ้าคุณไม่ไป คุณจะต้องเสียใจ”
เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นทันทีว่า “นี่คุณกำลังขู่ผมงั้นเหรอ?”
เฉียนเหม่ย พูดว่า “ฉันไม่กล้าหรอก”
ในเวลานี้เย่คุนก็เดินมาพอดีเขาจึงพูดขึ้นว่า “คุณเซี่ย คุณไม่รู้สึกว่ามันจะหยาบคายไปหน่อยงั้นเหรอ?”
เซี่ยเหล่ยมองกลับไปที่เขาอย่างเย็นชา และไม่ตอบกลับอะไรไปเลย
เย่คุนยิ้มมุมปากและหัวเราะเยาะก่อนจะหยุดและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ผมได้รู้เรื่องที่น่าสนใจเข้า คุณเซี่ย คุณยังจำกลุ่มอุตสาหกรรมจีนได้หรือไม่? เครื่องจักรอัจฉริยะของพวกเขาดูเหมือนว่าจะนำมาจากประเทศเยอรมันยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงที่ชื่ออเลน่าเกี่ยวข้องด้วยใช่ไหม?”
ภายในใจของเซี่ยเหล่ยรู้สึกโกรธอย่างมากแต่เขาพยายามข่มไว้และพูดว่า “คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่?”
เย่คุนหัวเราะเยาะอีกครั้งก่อนจะพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าพวกเยอรมันรู้หรือไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นตอนนี้ทำงานให้กับบริษัทของคุณ ถ้าพวกเขารู้ มันจะเกิดอะไรขึ้นนะ”
“คิดจะขู่กันงั้นเหรอ!” เซี่ยเหล่ยพูดและคว้าคอเสื้อของเย่คุนพร้อมจ้องหน้าเขาด้วยสายตาแห่งความโกรธ
อย่างไรก็ตามเย่คุนไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย เขายิ้มและพูดว่า “ดูคุณจะเป็นห่วงเธอมากนะ ดังนั้นผมจะให้โอกาสสุดท้ายกับคุณ ห้าพันล้าน…สำหรับส่งมอบเทคโนโลโยและวิธีการสร้างปืนไรเฟิล XL2500 ให้ผมหากคุณตกลงเราจะกลายเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันทันทีและหลังจากนั้นบริษัทของผมจะส่งมอบคำสั่งซื้อล็อตใหญ่ให้กับคุณอีกด้วย ว่ายังไง…สนใจไหม?”
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาปล่อยมือข้างหนึ่งจากคอเสื้อของเย่คุนพร้อมกับกำหมัดและง้างมือไปด้านหลัง
“ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้” เป็นเสียงของหลิงฮั่น เขาพูดขึ้นอย่างเรียบง่าย
เซี่ยเหล่ยยังคงคว้าคอเสื้อของเขาอยู่ เขาเกลียดการถูกข่มขู่โดยที่เอาคนรอบข้างเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมาก เขาอยากจะต่อยเย่คุนให้หายโกรธซะตอนนี้เลยด้วยซ้ำ!
“ฮ่าฮ่าฮ่า” เย่คุนหัวเราะพร้อมกับพูดต่อว่า “ไม่กล้าต่อยผมใช่ไหมหล่ะ? ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยมือซะ อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณจะทำตัวหยาบคายกับผม แต่ผมก็ยังจะให้โอกาสสุดท้ายกับคุณอยู่นะ”
“เซี่ยเหล่ย ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้” หลิงฮั่นพูดขึ้นอีกครั้ง
ในที่สุดเซี่ยเหล่ยก็ปล่อยมือออกจากคอเสื้อของเขา แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ปล่อยมือแบบธรรมดา เพราะในจังหวะที่ปล่อย เขาได้ออกแรงผลักไปยังหน้าอกของ เย่คุนด้วย และด้วยแรงผลักนั้นทำให้เขาเสียหลักและกระเด็นไปด้านหลังก่อนจะล้มลงกับพื้น
“คุณ…” เย่คุนพูดอย่างไม่พอใจและพูดต่อว่า “คุณหลิง คุณดูสิ…ดูเขาทำกับผมสิ คุณจะทำยังไงกับเรื่องนี้?”
หลิงฮั่นพูดอย่างไม่แยแสว่า “ผมไม่ใช่ตำรวจ ผมไม่รู้หรอกนะว่าต้องจัดการยังไง แต่อย่างไรก็ตาม ผมมีข้อเสนอมาแนะนำคุณ โดยให้คุณสู้กับคุณเซี่ย คุณต้องการหรือไม่?”
เย่คุน “…… ”
จังหวะนี้เซี่ยเหล่ยได้เดินมาด้านหน้าของเย่คุนและกระซิบอย่างเยือกเย็นว่า ”คุณฟังผมให้ดีนะ ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีสกปรกขนาดไหนยังไงก็ตาม ผมจะไม่ขายโรงงานของผมให้คุณเด็ดขาด และถ้าคุณกล้าที่จะเดินทางไปประเทศเยอรมันหรือบอกอะไรกับพวกเขา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สำนักงานลับ101จะไม่ฆ่าคุณสบายใจได้เลย เพราะผมจะเป็นคนฆ่าคุณเอง…”
ปฏิกิริยาของเย่คุนเปลี่ยนไปทันที เขาหน้าซีดและไม่สามารถตอบกลับอะไรออกมาได้เลย
ติดตามตอนต่อไป……….