Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 422 ปาร์ตี้สละโสด
TXV– 422 ปาร์ตี้สละโสด
อเลน่ารู้อยู่แก่ใจตั้งแต่แรกแล้วอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงเซี่ยเหล่ยก็จะไม่ตกหลุมรักเธอแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังต้องการจะอยู่ข้างๆเซี่ยเหล่ยอยู่ดี แม้ว่าความสุขที่มีนั้นอาจจะหมดไปวันไหนก็ได้หากเซี่ยเหล่ยไปรักกับใครเหมือนอย่างในตอนนี้ที่ไปรับกับเฉินตูเทียนหยิน แต่เธอก็ไม่เสียใจอยู่ดีกับการที่ได้อยู่กับเขาจนถึงตอนนี้
ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยคิดในใจว่า ‘ดูเหมือนว่าในอนาคตเราต้องหลีกเลี่ยงเธอหน่อยแล้ว มันคงจะทำให้เธอตัดใจจากเราได้เร็วขึ้นและอีกอย่างคือต้องทำตามฝันเธอให้เป็นจริงเร็วที่สุด’
ความฝันของอเลน่านั้นคือการสร้างปราสาทหลังใหญ่สไตล์บาวาริข้างแม่น้ำMunich Isar ด้านข้างปราสาทก็สร้างฟาร์มขนาดใหญ่และมีโรงผลิตไวน์ การจะสร้างให้เธอนั้นเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาอยู่ที่เธอยังคงโดนไล่ล่าจากเยอรมันอยู่ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้พวกเขายอมแพ้กับเรื่องนี้ดี ดังนั้นทุกๆครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องนี้เขาก็จนปัญญาทุกครั้ง เขาไม่สามารถหาทางออกได้จริงๆ
หลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไป เซี่ยเหล่ยก็เดินกลับไปที่โรงงานผลิตอาวุธเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนจะไปที่ชั้นใต้ดิน ตอนนี้มีแต่งานเท่านั้นที่จะสามารถปลดปล่อยเขาออกจากปัญหาที่น่าปวดหัวเหล่านี้ได้
เซี่ยเหล่ยเดินไปที่โต๊ะทำงานพร้อมกับนั่งลงจากนั้นก็มองไปยังหนังสือสำริดและเปิดมันขึ้นมา เขามองไปยังตัวอักษรลึกลับเหล่านั้น พร้อมกับนึกถึงเสียงที่เคยบันทึกเอาไว้ในหัว สำหรับในตอนนี้มันยากเกินกกว่าจะตีความได้
จากนั้นเขาก็ใช้ความสามารถของดวงตาซ้ายมองไปที่อัลลอยโบราณทันใดนั้นร่างกายผิวขาวเรียบเนียนก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเขา
เธอคือเจ้าหญิงหยงเหม่ย
เธอเดินเข้ามาหาเซี่ยเหล่ยอย่างช้าๆ ท่าทางการเดินของเธอนั้นสง่างามมาก แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าระหว่างที่เธอกำลังเดินมานั้น เธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เธอจะพูดอยู่สองประโยคเท่านั้น หนึ่งคือ“ ฉันจำหน้าของคุณได้” และประโยคที่สองคือ“ ฉันรอคุณมานานแล้ว นานมากจริงๆ” แต่คราวนี้เธอแปลกไป ตั้งแต่เธอปรากฏตัวขึ้นมาเธอยังไม่ได้พูดแม้แต่คำเดียว แถมดูเหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่อีกต่างหาก
“หรือว่าเธอจะมีวิวัฒนาการ(การเปลี่ยนแปลง)?” เซี่ยเหล่ยพูดกับตัวเองด้วยความสงสัย
“เฮ้อ ” เจ้าหญิงหยงเหม่ยถอนหายใจก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้
เซียเหล่ยตะลึงในทันทีเพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งจะนึกไปเองว่าเธออาจจะมีวิวัฒนาการก็เป็นไปได้ จนถึงตอนนี้เธอถอนหายใจและนั่งบนเก้าอี้อีกด้วย ดูเหมือนการกระทำทั้งสองอย่างนี้จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า เธอมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ!
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การถอนหายใจแต่มันก็ทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ถ้าเธอไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึก เธอจะถอนหายใจได้อย่างไร?
หลังจากนั่งเรียบร้อยแล้ว เจ้าหญิงหยงเหม่ยก็จ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างไม่กระพริบตา
ในตำแหน่งนี้หน้าอกของเธอถูกปิดเอาไว้แต่ด้วยท่านั่งของเธอที่ไม่ระวังทำให้เซี่ยเหล่ยสามารถเห็นส่วนลับของเธอได้อย่างชัดเจน ด้วยความสวยสง่ารวมกับส่วนลับที่เขาเห็น ทำให้เซี่ยเหล่ยตื่นเต้นจนเกือบจะมีเลือดกำเดาไหลออกจากจมูกเลยก็ว่าได้
ด้วยความสับสนเซี่ยเหล่ยไม่รู้ว่าจะมองไปที่ไหนดีแต่ยังไงเขาก็ไม่มีทางเลือก เขายังต้องมองที่เธอต่อไป เนื่องจากเขาต้องการจะดูความเปลี่ยนแปลงว่าจะมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นอีกหรือไม่?
เพื่อเป็นการทดสอบเขาจึงลองถามออกไปว่า “รูดซิปลงเดี๋ยวนี้”
เจ้าหญิงหยงเหม่ยแสดงท่าทางไม่พอใจและจ้องเขม็งไปที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยคิดในใจทันทีเลยว่า ‘เธอเข้าใจที่เราพูดงั้นสินะ!’
แต่วินาทีต่อมาเจ้าหญิงหยงเหม่ยก็ทำให้เซี่ยเหล่ยผิดหวังอีกครั้งเพราะเธอพูดออกมาว่า “ฉันจำหน้าของคุณได้”
เซี่ยเหล่ย “ …… ”
จินตนาการทั้งหมดของเซี่ยเหล่ยก่อนหน้านี้ถูกโยนทิ้งทันทีเมื่อเธอกลับมาพูดประโยคเดิมอีกครั้ง
หลังจากความพยายามติดต่อกันหลายครั้งเพื่อมองหาสิ่งที่เปลี่ยนแปลงของเธอ เซี่ยเหล่ยก็ต้องยอมแพ้ เพราะนอกจากถอนหายใจที่ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงเกิดขึ้น ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่สำหรับเขาอีกแล้ว ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิมดังนั้นเขาจึงไม่ทำอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องไปที่เยรูซาเล็มเพื่อไขความลับของอัลลอยโบราณและหนังสือสำริดเพิ่มเติมสินะ อยากรู้จริงๆว่าชิ้นส่วนชิ้นต่อไปจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร มันจะเหมือนกับชิ้นอื่นๆรึปล่าว? และถ้าประกอบมันเข้าด้วยกันจนครบทุกชิ้นมันจะมีรูปร่างเหมือนกล่องรึเปล่า? ถ้าเป็นกล่องหล่ะ? มันจะเป็นเหมือนกับกล่องแพนโดล่าไหมนะ?“ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ ในตอนนี้เขามีคำถามมากมาย
เซี่ยเหล่ยหยุดคิดทุกอย่างพร้อมกับเดินขึ้นมาจากห้องทดลองชั้นใต้ดินทันทีที่เซี่ยเหล่ยเดินออกมาแม้ว่าเขาจะไม่ได้ถือหนังสือสำริดหรืออัลลอยโบราณออกมาด้วยแต่พวกทหารที่คอยเฝ้ารักษาการซึ่งสวมชุดป้องกันอยู่ก็มีท่าทางกลัวและผวาเล็กน้อยอยู่ดี
ก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะเดินออกมา เขายังไม่ได้ทำให้เจ้าหญิงหยงเหม่ยหายตัวไป
การที่เซี่ยเหล่ยไม่ยอมให้เธอหายไปนั้นก็เพราะเขามีความคิดว่าหากเธอได้อยู่ในโลกภายนอกนานกว่านี้ เธออาจจะเรียนรู้กับสิ่งรอบข้างและอาจจะทำให้เธอแสดงออกออกมาเพิ่มเติมอีกก็ได้
อย่างไรก็ตามการที่ปล่อยเธอออกมาและให้อิสระกับเธอนั้น เซี่ยเหล่ยไม่กลัวว่าเธอจะหายไปไหนเลยเนื่องจากทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวขึ้นมา เธอก็จะคอยตามเซี่ยเหล่ยไม่เคยห่าง
หลังจากออกจากห้องชั้นใต้ดิน เซี่ยเหล่ยก็รู้สึกหิว เขาจึงเข้าครัวพร้อมกับทำสเต็กสองที่โดยที่แรกสำหรับตัวเขาเองส่วนชิ้นที่สองสำหรับอเลน่า
หลังจากทำเสร็จเขาก็เดินออกจากห้องครัวจังหวะนี้อเลน่าก็กลับมาที่วิลล่าพอดี เธอได้กลิ่นหอมของอาหารจึงพูดว่า ”ว้าว…ลูคัส คุณทำสเต็กเนื้อหรือเปล่า? กลิ่นหอมมากเลย! มีส่วนของฉันด้วยไหม?” Aileen-novel
“ผมรู้ว่าคุณจะต้องหิวแน่นอน ผมจึงเตรียมไว้เผื่อคุณแล้วด้วย” เซี่ยเหล่ยตอบ
อเลน่าเดินตามเซี่ยเหล่ยเข้าไปในห้องอาหาร ก่อนจะตรงไปหอมแก้มของเขาและนั่งลง
ด้านเซี่ยเหล่ยที่นั่งลงก่อนแล้วกำลังรินไวน์แดงสองแก้ว แก้วหนึ่งสำหรับตัวเขาเอง ส่วนอีกแก้วสำหรับอเลน่า
“ขอบคุณนะ” อเลน่าพูดพร้อมจิบไวน์เล็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่า ”สำหรับปาร์ตี้สละโสด คุณมีสิ่งที่ต้องการแล้วรึยัง? ถ้ายังไม่มีฉันได้เตรียมไว้แล้ว มันจะเป็นปาร์ตี้สละโสดที่คุณจำต้องจดจำมันอย่างแน่นอน”
ทันทีที่เซี่ยเหล่ยได้ยินคำพูดของเธอทำเอาเขามือไม้อ่อนปวกเปียกไปเลย!
ในเวลานี้จู่ๆ เจ้าหญิงหยงเหม่ยก็เดินเข้ามาใกล้กับเซี่ยเหล่ยก่อนที่เธอจะค่อยๆชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆกับแก้วไวน์
เซี่ยเหล่ยรู้สึกประหลาดใจทันที เขาคิดในใจว่า ”เธอต้องการจะทำอะไรหน่ะ? เธอจะดื่มไวน์งั้นเหรอ?”
ด้วยความสูงของเธอเมื่อโน้มตัวลงไปทำให้จมูกอยู่ห่างจากแก้วไวน์ประมาณหนึ่งฟุต เธอทำจมูกฟุตฟิตเหมือนกับว่าต้องการจะสูดกลิ่นหอมของไวน์ยังไงยังงั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากการสูดดมกลิ่นของเธอแล้ว เธอพยายามที่จะหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแต่ไม่เป็นผล มือของเธอไม่สามารถจับแก้วได้ มันทะลุผ่านไปอย่างง่ายดาย
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจพร้อมกับนึกในใจว่า “คุณไม่มีมือจริงๆคุณจะหยิบแก้วไวน์ได้อย่างไร?”
ทันใดนั้นเจ้าหญิงหยงเหม่ยก็ได้ก้มตัวเอาหัวจุ่มเข้าไปในแก้วไวน์ดูเหมือนเธอต้องการจะดื่มไวน์ด้วยวิธีนี้
เซี่ยเหล่ยยิ้มมุมปากพร้อมกับคิดว่า “ ไร้ประโยชน์”
ในความเป็นจริงขณะที่หน้าของเธอจุ่มลงไปในแก้วไวน์นี้ ไวน์แดงในแก้วก็เกิดคลื่นเป็นวงกลมเล็กน้อย(เหมือนเวลาหยดน้ำหนึ่งหยดลงไปในแก้วที่มีน้ำนิ่งมันจะมีเกิดคลื่นวงกลม)
เซี่ยเหล่ยตะลึงอย่างมาก
โชคดีที่อเลน่าไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงสิ่งประหลาดนี้
เธอทำท่าทางเหมือนกำลังเลว่าจะพูดดีไหม ก่อนจะพูดว่า ”ก่อนอื่นเราจะเริ่มจากอาบน้ำด้วยกัน คุณคิดว่ายังไง?”
“อะไรนะ?” เซี่ยเหล่ยพูดด้วยความตกใจ
“ไม่เห็นต้องตกใจเลยนี่ ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับไวน์ของคุณหน่ะ ทำไมไวน์มันกระเพื่อมหล่ะ?” อเลน่าถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เซี่ยเหล่ยรีบตอบไปว่า “ผมไม่ระวังเอง เข่าเลยชนเข้ากับขาโต๊ะ”
ในระหว่างนี้เจ้าหญิงหยงเหม่ยก็ได้แลบลิ้นออกมาพร้อมกับใช้ลิ้นวนไปรอบๆไวน์แดงแต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าลิ้นของเธอไม่สามารถรับรสได้
‘จะให้เธอสลายตัวไปตอนนี้ดีไหมนะ? หรือจะปล่อยเธอเอาไว้อย่างนี้แล้วคอยดูว่าเธอจะทำอะไรแปลกๆอีกบ้าง’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ ในขณะนี้เขาค่อนข้างจะลังเลกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
อเลน่ารีบกินสเต็กอย่างรวดเร็วเมื่อกินเสร็จแล้วก็เช็ดปากและพูดว่า “ลูคัส ฉันจะขึ้นไปรอที่ห้องน้ำนะ คุณรีบกินหน่อยก็แล้วกัน ปกติคุณกินเร็วนนี่ ทำไมวันนี้ช้าหล่ะ? แต่ช่างเถอะ เร็วๆหน่อยนะ เพราะวันนี้เป็นปาร์ตี้สละโสด เราไม่ควรจะเสียเวลาไปกับการกินหรอก”
เซี่ยเหล่ย “ …… ”
ไม่นานหลังจากอเลน่าเดินออกไปก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“หมิงเหม่ย มีอะไรงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยรับสายและพูดขึ้นก่อนเนื่องจากเขารู้ว่านี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ของเธอ
“คุณรู้จักกับเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ใช่ไหม?” เสียงของผู้ชายออกมาจากโทรศัพท์ของฟู่หมิงเหม่ย
เซี่ยเหล่ยนึกในใจว่าเขาเป็นใครกัน ก่อนจะถามออกไปว่า “คุณเป็นใคร?”
“ผมเป็นหมอจากโรงพยาบาล universal love ตอนนี้เพื่อนของคุณได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่นี่ แต่เธอไม่มีบัตรประชาชน ผมไม่รู้จะทำอย่างไรจึงใช้โทรศัพท์ของเธอโทรหาคุณ”
“ตอนนี้เธอเป็นยังไรบ้าง?” เซี่ยเหล่ยถามด้วยความเป็นห่วงและถามต่อว่า ”บอกผมมาเร็วๆสิ!”
“เธอบาดเจ็บสาหัส เธอได้รับบาดเจ็บตรงถนน โชคดีที่มีพลเมืองดีโทรแจ้งเข้ามา เราจึงรีบส่งรถพยาบาลออกไปรับเธอแต่ด้วยอาการของเธอในตอนนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน ดังนั้นคุณจำเป็นจะต้องเอาหลักฐานยืนยันตนของเธอมาด้วยนะ” หมอพูด
เซี่ยเหล่ยรีบตอบกลับไปอย่างร้อนรนว่า “เข้าใจแล้ว ผมจะรีบเตรียมและรีบไปทันที หมอรีบผ่าตัดให้เธอได้เลย!”
“แต่ …… ” หมอเริ่มพูด ดูเหมือนเขาลังเลอยู่ว่าจะพูดดีไหม
เซี่ยเหล่ยเข้าใจทันที เขารีบพูดว่า “หมอ! ผมคือเซี่ยเหล่ย ผมมีเงิน หมอรีบผ่าตัดเธอได้เลย เรื่องเงินไม่มีปัญหา นอกจากนี้เธอยังเป็นบอดี้การ์ดของเฉินตูเทียนหยินอีกด้วย คุณไม่ต้องห่วงว่าเราจะไม่มีเงินจ่าย!”
“โอ้ ดีมากเลย ผมเข้าใจแล้ว ผมจะผ่าตัดให้เธอทันที!” หมอตอบ
เมื่อคุยเสร็จ เซี่ยเหล่ยก็รีบวางสายและออกไปทันทีด้วยความกังวลและความรีบร้อน เขาจึงไม่สามารถไปที่ห้องน้ำเพื่อบอกรายละเอียดกับเธอได้
ปาร์ตี้สละโสด จบก่อนเวลาที่กำหนดไว้….
ในตอนนี้เจ้าหญิงหยงเหม่ยก็ยังคงตามเซี่ยเหล่ยอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะเดินเร็วขนาดไหน แต่เธอก็ตามเซี่ยเหล่ยได้ทันและห่างเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาไม่ได้สังเกตเธอเลย เนื่องจากเขาค่อนข้างเป็นห่วงทั้งฟู่หมิงเหม่ยและเฉินตูเทียนหยิน!
ติดตามตอนต่อไป……..