Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 427 หัวใจที่อ่อนโยน !
TXV– 427 หัวใจที่อ่อนโยน !
เซี่ยเหล่ยไม่เคยเป็นผู้ชายใจเหี้ยมมาก่อน แต่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นปีศาจที่โหดร้ายทารุณไปแล้ว แลนด์เบริกกรีดร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดจนต้องร้องขอความตาย แต่แววตาเซี่ยเหล่ยกลับปราศจากความสงสาร เขายังคงแทงหญ้าแหลมใส่แผลสดของแลนด์เบริกอย่างต่อเนื่อง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กดมันเข้าไป บิดมันไปมา ทุกการเคลื่อนไหวของเซี่ยเหล่ยสร้างความเจ็บปวดเจียนตายให้แลนด์เบริกเสมอ
”พูดสิ บอกผมเรื่องที่ผมอยากรู้มาซะ แล้วคุณจะรอด” เซี่ยเหล่ยยังคงฉีกสภาพจิตใจแลนด์เบริกเป็นชิ้นๆต่อไปด้วยการทรมานเขาทั้งเป็น “คุณควรรู้ไว้นะว่าเพราะตำแหน่งของคุณ คุณถึงไม่ถูกตัดสินคดีในประเทศจีนแต่จะถูกส่งกลับอเมริกา เพื่อเป็นฮีโร่ไงล่ะ”
”หยุด…” สติแลนด์เบริกเริ่มเลือนราง สายตาเขาเบลอมากขึ้นทุกขณะ
”ผมช่วยห้ามเลือดให้คุณได้นะ แค่ตอบคำถามผมมา” เซี่ยเหล่ยพูดต่อ
”กู๋เค่อเหวิน…” ในที่สุดแลนด์เบริกก็ยอมจำนน “กู๋เค่อเหวินเธอ… เธอเป็นหนึ่งในพวกเรา”
”เอ๋?” เซี่ยเหล่ยนิ่งอึ้ง
เขาพอจะเดาได้ว่ากู๋เค่อเหวินมีส่วนเกี่ยวกับการลักพาตัวเฉินตูเทียนหยินเพราะคิดว่าเธอคงอยากแก้แค้นเขา แต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่ากู๋เค่อเหวินจะทำงานให้ CIA ด้วย!
”พ่อของเธอหายตัวไป พี่ชายก็ติดคุก… เรารู้เรื่องนี้และคอยจับตาดูเธอเอาไว้ เราจับตัวเธอได้ครั้งหนึ่งในห่ายจูที่สโมสรกิตติมศักดิ์” แลนด์เบริกพูดต่อ “เรา เราก็เลยโน้มน้าวเธอและฝึกเธอ หลังจากนั้นกู๋เค่อเหวินก็กลับมาที่จีนและมาทำงานให้เฉินตูเทียนหยินเพื่อทำให้เธอเชื่อใจ”
”เป้าหมายของเธอที่พยายามเป็นผู้ช่วยของเฉินตูเทียนหยินก็เพื่อเข้าใกล้ผมงั้นเหรอ?” เซี่ยเหล่ยปะติดปะต่อเรื่องราว
”ใช่ เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เธอรู้ว่าคุณชอบเฉินตูเทียนหยิน เธอเลยพยายามจับคู่ให้คุณกับเฉินตูเทียนหยินเพื่อให้พวกคุณทั้งคู่ไว้ใจเธอ ระหว่างนั้นก็เตรียมตัวทำภารกิจนี้ไปด้วย”
กู๋เค่อเหวิน! แผนการของผู้หญิงคนนี้แยบยลมากจริงๆ!
”แล้วอันซูฮยอนล่ะ?” เซี่ยเหล่ยถามต่อ “เขามีบทบาทอะไรกับภารกิจนี้?”
”ข เขาวางกับดักให้เฉินตูเทียนหยินมาเจรจากับเขา ส่วนกู๋เค่อเหวินทำหน้าที่เป็นคนคอยติดต่อภายใน เราส่งคนสองคนล่วงหน้าไปซุ่มรอที่จุดนัดเจรจาและจัดการบอดี้การ์ดของเฉินตูเทียนหยิน แล้วค่อยจับตัวเธอมา…”
เซี่ยเหล่ยรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เขาจึงไม่รอให้แลนด์เบริกเล่าต่อ
”แล้วหลางซือเหยาล่ะ?” เซี่ยเหล่ยถามถึงเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง
”ไอ้เวร! นี่มีกี่คำถามกันเนี่ย?” แลนด์เบริกพูดด้วยความโมโห เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกลายเป็นของเล่นไปแล้ว
”คำถามสุดท้ายแล้ว” เซี่ยเหล่ยกล่าว
”เธอทำภารกิจล้มเหลวเลยถูกถอดออกจากภารกิจ” แลนด์เบริกตอบ “เธอได้รับมอบหมายให้เอาปืน XL2500 ที่คุณทำไปที่เวเนซุเอลาเมื่อเร็วๆนี้ ตอนนี้เธอคงอยู่ในอเมริกา ผมไม่แน่ใจตำแหน่งว่าเธออยู่ที่ไหน”
อย่างน้อยก็เป็นเรื่องดีที่หลางซือเหยาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับภารกิจนี้ เซี่ยเหล่ยนึกภาพตัวเองยิงเธอไม่ออกเลย เพราะแค่คิดว่าจะทำอะไรแบบนั้นหัวใจก็ปวดหนึบแล้ว
”ผมตอบคำถามหมดแล้ว ช่วยห้ามเลือดที เร็วเข้า!” แลนด์เบริกเร่ง หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆและเขาคงทนต่อไปได้อีกไม่นานนัก
”ไม่มีปัญหา ผมพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว” เซี่ยเหล่ยโยนหญ้าในมือทิ้งไปก่อนจะพูดต่อ “บ้าจริง ผมไม่มีของที่ใช้ห้ามเลือดได้ด้วยสิ ทำไงดีนะ?”
”แก…” แลนด์เบริกแทบอยากสาปส่งผู้ชายตรงหน้าเขาเสีย แต่ก็เลือกอ้อนวอนแทน “งั้นเรียกรถพยาบาลให้ผมหน่อยเถอะ ได้โปรด ผมขอร้อง”
เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “คุณบอกว่าคุณเป็นผู้อำนวยการ CIA ฝั่งเอเชียและเป็นบุคคลสำคัญเลยนี่ครับ แต่ดูเหมือนคุณจะอึดน้อยกว่าลูกน้องคุณอย่างแฮ้งส์อีกนะ คุณยังหวังจะมีชีวิตรอดในสถานการณ์แบบนี้อีกเหรอครับ? บางที… คุณคงกำลังคิดจะเอาเรื่องทั้งหมดที่รู้กลับไปอเมริกาใช่มั้ยล่ะ? คุณคิดว่าผมจะยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจริงๆเหรอ?”
”AE… AE ทำอะไรกับร่างกายคุณ?”
”จริงๆผมบอกคุณได้อยู่นะ แต่ผมไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้นเท่าไหร่นี่สิ” เซี่ยเหล่ยตอบนิ่มๆ “แล้วทำไมผมต้องตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคุณด้วยล่ะ?”
”ไปตายซะ! กู… สาปแช่งมึง!” เสียงของแลนด์เบริกเริ่มสั่นเครือ
”สนุกกับนาทีสุดท้ายของชีวิตไปนะ” เซี่ยเหล่ยพูดแล้วจึงหันไปมองแฮ้งส์
ร่างกายแฮ้งส์กระตุกสองสามครั้งก่อนที่ลมหายใจของเขาจะหยุดลงถาวร
ความตายของเขามาถึงเร็วกว่าที่เซี่ยเหล่ยคิดไว้เสียอีก
’แฮ้งส์เป็นเอเจนท์ที่แข็งแกร่งและอึดกว่าคนทั่วไปมาก เราคาดการณ์ไว้ว่าเขาคงใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงถึงจะตาย แต่นี่เวลาผ่านไปแค่ครึ่งนึงของที่เราคิดไว้เอง ทำไมเขาถึงตายเร็วขนาดนี้กัน? หรือว่าเป็นเพราะเจ้าหญิงหยงเหม่ย?’ เซี่ยเหล่ยคิด
เซี่ยเหล่ยหันไปมองทางเจ้าหญิงก่อนจะต้องนิ่งงง เมื่อเห็นเธอกำลังเผชิญหน้ากับศพของแฮ้งส์และกำลังยิ้มแย้มอยู่ รอยยิ้มนั้นช่างสดใสและงดงามมาก งดงามจนทำให้รู้สึกเหมือนมีดอกไม้บานในใจ
การตายของแฮ้งส์เมื่อครู่นี้เกี่ยวกับเธอจริงๆรึเปล่า?
เธอฆ่าคนได้ใช่มั้ย?
เมื่อคิดแบบนั้นเซี่ยเหล่ยก็รู้สึกขนลุกไปทั้งหลังพร้อมกับเม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นบนหน้าผาก
”อยากรู้ค- ความลับเกี่ยวกับ AE มั้ย? ช่วยผม… แล้วผมจะบอก…” เสียงเบาบางของแลนด์เบริกดังขึ้นอีกครั้ง
เซี่ยเหล่ยเย้ย “ดูจากตำแหน่งคุณแล้วคุณก็คงรู้แค่การมีอยู่ของ AE เท่านั้นแหละ จะบอกว่ารู้ความลับของมันงั้นเหรอ? หึ ผมว่าคุณไม่รู้หรอก ไม่งั้นผมคงถามคุณไปนานแล้วถ้าผมคิดว่าคุณรู้แน่ๆน่ะ”
”แก… อ่อก…” เสียงแปลกๆดังมาจากลำคอของแลนด์เบริก ก่อนที่หัวใจและลมหายใจของเขาจะหยุดตามไปอีกคน
เขายังคงหวังว่าจะมีชีวิตรอดจนถึงวินาทีสุดท้ายจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เซี่ยเหล่ยไม่ได้รู้สึกประทับใจกับความพยายามนั้นเท่าไหร่
มันคงกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่นอนถ้าเซี่ยเหล่ยปล่อยให้เอเจนท์ CIA สักคนรอดชีวิตไปได้ และคงดีที่สุดสำหรับเขาแล้วถ้าเอเจนท์ทุกคนตายหมด ประเทศจีนก็คงทำทีเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนอเมริกาก็คงปกปิดเรื่องภารกิจนี้เป็นความลับและปฏิเสธการมีตัวตนของคนเหล่านี้ด้วย ไอลีนโนเวล
สำหรับเซี่ยเหล่ยซึ่งเพิ่งฆ่ากลุ่มคนที่ทำการลักพาตัวไป ประเทศจีนจะถือว่าไม่มีปัญหาอะไรกับเขา ฝ่ายอเมริกายังไงก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว
เซี่ยเหล่ยเดินถอยห่างออกไปจากกลิ่นคาวเลือดประมาณ500เมตร เฉินตูเทียนหยินกำลังนอนอยู่เงียบๆบนพื้นหญ้า เธอไม่ได้รับรู้ถึงอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นจึงไม่รู้สึกหวาดกลัวเลย
เซี่ยเหล่ยนั่งลงแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ค่อยๆหยิบเศษใบหญ้าที่ติดบนผมเธอออกไป หญ้าแหลมพวกนั้นเกี่ยวเสื้อผ้าเธอขาดนิดหน่อยตอนที่เซี่ยเหล่ยวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด มีรอยขาดหลายจุดบนเสื้อผ้าเธอและรอยแผลแดงๆบนผิวขาวเนียน แผลพวกนั้นทำเอาเซี่ยเหล่ยรู้สึกปวดใจพอสมควร
ความรู้สึกที่แท้จริงมักปรากฏออกมาในช่วงเวลาแสนอันตรายเสมอ
ย้อนกลับไปตอนที่ยังอยู่ในโรงงานโทรมๆนั่น เฉินตูเทียนหยินยืนยันให้เขาหนีไปแม้ว่าเธอจะถูก CIA เป็นสิบๆคนล้อมเอาไว้แล้วก็ตาม เธอยืนยันที่จะให้เขาทิ้งเธอไว้ลำพัง และเสนอจ่ายเงิน5พันล้านเพื่อซื้อความปลอดภัยให้เขา เฉินตูเทียนหยินพยายามใช้ร่างเล็กอันแสนบอบบางของเธอปกป้องเขาตอนหลบหลัง Ford Raptor เพื่อไม่ให้แลนด์เบริกทำร้ายเขาได้ เธอทำทุกอย่างขนาดนี้ จะไม่ให้เซี่ยเหล่ยซาบซึ้งถึงก้นบึ้งของหัวใจได้ยังไงกัน?
ความสงสัยตอนแรกของเซี่ยเหล่ยที่ว่าเฉินตูเทียนหยินมีแรงจูงใจอย่างอื่นแฝงอยู่ในการตกลงหมั้นกับเขาหรือไม่นั้นได้จางหายไปหมดแล้วตอนนี้ หัวใจเขากำลังเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและชื่นชมเมื่อมองเฉินตูเทียนหยินในอ้อมกอดตัวเอง
ยุงตัวหนึ่งบินมาเกาะบนแผลตรงต้นขาที่ยังมีเลือดซึมและกำลังจะเริ่มดูดเลือด เซี่ยเหล่ยจึงเหวี่ยงฝ่ามือไปจัดการให้ แต่แรงเขาทำเอาต้นขาของเฉินตูเทียนหยินกระเพื่อม ลูกไม้สีม่วงใต้กระโปรงขาดวิ่นปรากฏออกมา ผิวสีพีชข้างล่างนั่นมีเสน่ห์มากทีเดียว
เซี่ยเหล่ยหลุดอมยิ้มพลางโทษตัวเองในใจที่ทำตัวเป็นโรคจิตในเวลาแบบนี้ เขาอุ้มร่างเฉินตูเทียนหยินขึ้นมาจากพื้นหญ้าแล้วเดินออกมาจนถึงถนน ในพงหญ้านั่นมีทั้งยุงและแมลงมากเกินไป และเขาก็คงปล่อยให้พวกมันมากัดหรือตอมผู้หญิงของเขาไม่ได้แน่ๆ
เมื่อกลับมาที่ถนนแล้ว เซี่ยเหล่ยก็ค่อยๆวางร่างเฉินตูเทียนหยินลงบนเบาะหลังของรถออฟโรดแล้วหยิบเอาชุดปฐมพยาบาลมาจากหลังรถ เซี่ยเหล่ยเริ่มทำความสะอาดแผลให้เธอด้วยยาฆ่าเชื้อ เริ่มจากแผลที่แก้ม แขน หน้าอกและไล่มาที่ต้นขา
ตอนแรกเขาเองก็ลังเลที่จะล้างแผลบนต้นขาและส่วนที่ลึกเข้าไปอีก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกดึงกระโปรงเธอขึ้นช้าๆและทำความสะอาดแผลต่อ ยังไงเฉินตูเทียนหยินก็เป็นคู่หมั้นของเขาแล้ว นั่นแปลว่ายังไงเธอก็คงมีลูกกับเขาหลังจากนี้ไม่ช้าก็เร็ว แล้วแบบนี้จะมีจุดไหนอีกบ้างล่ะที่เขาจะไม่มีวันได้เห็นหรือสัมผัสเลย?
จริงๆแล้วการจะมองร่างกายของเธอเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเซี่ยเหล่ยแต่เขาก็ไม่ทำ เพราะเขาอยากเก็บช่วงเวลาที่งดงามนั้นไว้ให้เธอและอยากให้เธอเป็นคนเปิดเผยร่างกายของเธอด้วยตัวเองให้มันเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ใช่การเห็นจากการใช้ตาซ้ายแอบมอง
เฉินตูเทียนหยินยังคงไม่ได้สติหลังจากที่เซี่ยเหล่ยดูแลบาดแผลของเธอจนครบทุกจุดแล้ว ดูเหมือนว่าฤทธิ์ยาสลบนั่นจะยังไม่หายไป
เซี่ยเหล่ยใช้โทรศัพท์ที่ CIA ทิ้งไว้กับฟู่หมิงเหม่ยโทรหาหลงบิง “นี่ผมเอง เซี่ยเหล่ย”
”เกิดอะไรขึ้น?” หลงบิงถามห้วนๆ
”พวก CIA ลักพาตัวเฉินตูเทียนหยิน”
”ว่าไงนะ?” เธอตอบกลับมาพร้อมเสียงบางอย่างราวกับเพิ่งเด้งตัวออกจากเตียง
”ผมคือเป้าหมายของพวกเขา” เซี่ยเหล่ยพูดต่อ
”ตอนนี้คุณอยู่ไหน? อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามล่ะ” หลงบิงพูดด้วยน้ำเสียงกังวล “ฉันจะรายงานอาวุโสฉือเดี๋ยวนี้ล่ะ!”
”ไม่จำเป็นหรอก พวกเขาตายหมดแล้ว”
”นี่…” หลงบิงเงียบไปเพราะพูดไม่ออก
”ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง” เซี่ยเหล่ยกล่าว “ตอนนี้ผมอยู่ในชานเมืองทางตะวันออกของเป่าติ้ง ใกล้กับโรงงานสารเคมีชุนเฟิง อย่าให้ตำรวจเป่าติ้งบึ่งมาที่นี่ล่ะ แค่พวกคุณรู้ก็พอแล้ว”
”ขอชั่วโมงครึ่ง อย่าไปไหนล่ะ” หลงบิงตัดบทแล้ววางสายไป
สิ่งเดียวที่คนของสำนักงานลับ 101 จะทำได้เมื่อพวกเขามาถึงจุดเกิดเหตุก็คือจัดการศพทั้งหมด
เซี่ยเหล่ยหันออกไปมองนอกหน้าต่าง อากาศเริ่มเย็นลงมากแล้ว “กู๋เค่อเหวิน อันซูฮยอน พวกคุณสองคนจะต้องชดใช้!”
ทันใดนั้น ใบหน้าที่งดงามก็ปรากฏขึ้นด้านนอกและจ้องตรงกลับมาที่เขา
เซี่ยเหล่ยตกใจเล็กน้อย เขาพูดขึ้น “คุณช่วยมาแบบให้ซุ่มให้เสียงหน่อยได้มั้ย? นี่ตั้งใจจะทำผมหัวใจวายตายเหรอ จู่ๆก็โผล่มาอย่างกับผีแบบนี้น่ะ? คุณเป็นผีเหรอ หา?” น้ำเสียงเซี่ยเหล่ยเริ่มขุ่นเคืองนิดๆ
”ฉันจำคุณได้” เจ้าหญิงหยงเหม่ยกล่าวอย่างจริงจัง
เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ
”ฉันรอคุณมานานมากแล้ว” เธอพูดอีกครั้ง
เซี่ยเหล่ยเลิกสนใจเธอไปแล้ว เพราะไม่ว่าเขาจะพูดกับเธอไปกี่ร้อยกี่พันคำ เธอก็ยังพูดสองประโยคนี้อยู่เหมือนเดิม นอกจากนั้นเขายังรู้สึกเหมือนถูกบังคับกลายๆให้ตระหนักถึงปัญหาหลังจากเรื่องวุ่นในคืนนี้จบลงแล้ว ซึ่งปัญหาที่ว่าก็คือ ถ้าเขายังคงปล่อยเจ้าหญิงหยงเหม่ยเป็นอิสระแบบนี้ต่อไป แล้วเกิดเธอไปฆ่าคนด้วยการวางมือบนหัวคนอื่นอีกครั้ง เขาควรทำยังไงดี?
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา เซี่ยเหล่ยก็อดหันไปมองเฉินตูเทียนหยินในอ้อมกอดไม่ได้ ก่อนจะหันไปมองเจ้าหญิงหยงเหม่ยข้างนอกอีกครั้ง เขาเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าหากเจ้าหญิงหยงเหม่ยเลือกทำร้ายเฉินตูเทียนหยินขึ้นมาล่ะ ใครจะหยุดเธอได้บ้างนะ?
ยิ่งเซี่ยเหล่ยคิดแบบนั้น เขาก็ยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว!
ติดตามตอนต่อไป……..