Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 442 รูปร่างที่แท้จริง !
TXV– 442 รูปร่างที่แท้จริง !
ถ่างหยู่เหยี่ยและหลงบิงนั่งกินข้าวอยู่ที่ปากหลุม พวกเธอกำลังนั่งมองไปที่เซี่ยเหล่ยที่กำลังขุดหลุมต่ออยู่คนเดียวอย่างไรก็ตามสายตาของพวกเธอก็มองไปที่ก้นของเขาที่กลายเป็นจุดสนใจสำหรับพวกเธอ
“ผู้ชายที่ใส่กางเกงแบบนี้แล้วดูน่าเกลียดมากจริงๆ” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดพร้อมกับเคี้ยวข้าวในปากไปด้วย
“มันก็ไม่ใช่ของคุณอยู่ดี แม้ว่ามันจะน่าเกลียดก็ตาม” หลงบิงพูด
ถ่างหยู่เหยี่ยกัดน่องไก่พร้อมกับมองหน้าของหลงบิงไปด้วย
แต่ระหว่างที่ปากหลุมมีการถกเถียงกันอยู่ระหว่างถ่างหยู่เหยี่ยและหลงบิง ดูเหมือนด้านเซี่ยเหล่ยจะมีความคืบหน้า ที่เท้าของเขามีแผ่นหินสีน้ำตาลปรากฏขึ้นให้เห็นเป็นลางๆ แม้ว่ายังไม่ชัดเจนแต่ก็ถือว่าเป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้นเลยทีเดียว
เซี่ยเหล่ยไม่รอช้า เขารีบขุดไปบริเวณรอบๆแผ่นหินสีน้ำตาลนั้น ซึ่งหลังจากขุดโดยรอบจนทั่วแล้ว เขาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เจอแล้ว! ที่ที่เรากำลังมองหามันอยู่ด้านล่างนี่!”
“ข้างใต้คืออะไร?” ถ่างหยู่เหยี่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“สุสานงั้นเหรอ? สุสานอยู่ด้านล่างนี้เลยงั้นเหรอ?” หลงบิงถามเสริม
เซี่ยเหล่ยเงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงทั้งสองคนก่อนจะพูดว่า “น่าจะเป็นสุสาน รีบเอาอุปกรณ์เจาะหินมาให้ผม ผมต้องการจะเปิดมัน”
หลงบิงรีบเดินไปหยิบก่อนจะส่งมันให้กับเซี่ยเหล่ย
“ต้องการให้เราช่วยมั้ย?” ถ่างหยู่เหยี่ยถาม
“ไม่เป็นไร ผมทำคนเดียวน่าจะเร็วกว่า” เซี่ยเหล่ยตอบ
เซี่ยเหล่ยรีบเจาะแผ่นหินด้วยพลั่วและสว่านขุดเจาะแบบพิเศษ โดยปกติแล้วแผ่นหินในสมัยโบราณจะจับตัวกันด้วยปูนแบบพิเศษ มันค่อนข้างจะแข็งแรงแต่ก็ไม่มากพอเมื่อเทียบกับปูนซีเมนต์ในสมัยนี้ ดังนั้นเซี่ยเหล่ยจึงใช้เวลาไม่นานในการเจาะปูนทั้งสี่ด้านนั้นก่อนจะใส่หัวเชื้อลงไปในรูเพื่อให้มันกล่อน
ตัวทำปฏิกิริยาเกิดปฏิกิริยาเคมีขึ้นในไม่ช้า สามารถได้ยินเสียงแตกจากช่องว่างระหว่างแผ่นหินได้อย่างชัดเจน มันเกิดขึ้นพร้อมกับแผ่นหินที่ค่อยๆคลายตัวจนในที่สุดมันก็คลายจนหลุดออกจนหมด
ใต้แผ่นหินเป็นหลุมที่มืดมิด กลิ่นเหม็นอับโชยขึ้นมาจากมันทันทีที่หินคลายตัว เซี่ยเหล่ยไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นก๊าซพิษหรือเปล่าดังนั้นเขาจึงรอบถอยออกมา
ถ่างหยู่เหยี่ยและหลงบิงเองก็ถอยออกมาจากปากหลุมอยู่ครู่หนึ่งเช่นกัน ก่อนที่จะเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงหยิบไฟฉายก่อนที่จะกระโดดลงไปในหลุม หลังจากนั้นก็ส่องไฟลงไปภายในหลุมที่มืด
ภายในหลุมเป็นทางเดินหินที่มีความชันประมาณ 40 ถึง 50 องศา ทางเดินมันค่อนข้างที่จะคดเคี้ยวจนไม่สามารถเป็นปลายทางได้
หลงบิงหยิบไม้ชีดขึ้นมาก่อนจะจุดแล้วโยนลงไปในหลุม ผลที่ได้คือเปลวไฟดับลงอย่างรวดเร็ว มันแสดงให้เห็นว่าภายในหลุมไม่มีออกซิเจนเลย
นี่เป็นเรื่องปกติ สุสานโบราณถูกสร้างขึ้นภายใต้การอ้างอิงระบบระบายน้ำดังนั้นมันจึงได้รับการปิดตายทุกช่องทางเป็นอย่างดี ก็ไม่แปลกที่จะไม่มีช่องระบายอากาศ
“รอผมอยู่ที่นี่ ผมจะเข้าไปสำรวจดูก่อน” เซี่ยเหล่ยพูด
“ข้างในไม่มีอากาศ มันอันตรายนะที่จะไปคนเดียว” หลงบิงพูดด้วยความเป็นห่วง
“ใช่” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดเสริมก่อนจะพูดต่อว่า “ไปกันทั้งหมดนี้แหละ ปลอดภัยกว่า”
เซี่ยเหล่ยส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ไม่ ภายในไม่มีอากาศแต่ผมสามารถใช้ถังออกซิเจนแก้ปัญหาได้แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ผมเคยบอกไปแล้วว่ามันอาจจะทำให้กลายเป็นบ้าหรือตายได้ ดังนั้นผมจะไปคนเดียว พวกคุณก็รอผมอยู่ที่นี่”
“แต่…” หลงบิงกำลังจะพูด แต่ก็พูดได้ไม่จบประโยค
เซี่ยเหล่ยยิ้มให้ก่อนจะพูดขัดเธอว่า “ไม่ต้องกังวลอะไรหรอก ผมจะไม่เป็นอะไร ผมเข้าไปที่สุสานในอัฟกานิสถานด้วยตัวคนเดียวและผมก็ยังเอาชิ้นส่วนอัลลอยโบราณกลับมาได้โดยที่ผมไม่เป็นอะไร ด้วยเหตุผลอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าผมจะเป็นผู้ที่สามารถทำเรื่องนี้ได้คนเดียว ดังนั้นผมไม่อยากให้พวกคุณไปเสี่ยง ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะลงไปคนเดียว”
ไม่กี่นาทีต่อมาเซี่ยเหล่ยก็เตรียมความพร้อมก่อนจะเริ่มถือแท่งไฟพร้อมกับกระโดดลงไปในหลุมและเดินไปตามทางเดิน
”ระวังตัวด้วยนะ” ถ่างหยู่เหยี่ยพูด
เซี่ยเหล่ยมองกลับไปที่ถ่างหยู่เหยี่ยและหลงบิงที่ปากหลุม หน้าตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความกังวลและเป็นห่วง อย่างไรก็ตามพวกเธอเปลี่ยนมาเป็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มก่อนจะโบกมือให้เขาเดินต่อไป
ทางเดินนั้นคดไปคดมาเล็กน้อย เซี่ยเหล่ยเดินไปประมาณห้าสิบเมตรก็ต้องหยุดลง เขาไม่สามารถไปต่อได้
การที่ไม่สามารถไปต่อได้ไม่ใช่เพราะมันเป็นทางตันแต่เป็นเพราะมันมีประตูปิดกั้นเอาไว้อยู่ ประตูนั้นมีขนาดใหญ่มาก มันใหญ่กว่าประตูสุสานของเจ้าหญิงหยงเหม่ยซะอีก เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปใกล้กับประตูหินก่อนจะใช้ความสามารถในการมองทะลุ อย่างไรก็ตามในตอนแรกเขาไม่สามารถมองผ่านไปได้เพราะเหมือนมีของเหลวที่ลักษณะคล้ายกาวปิดกันไว้อยู่
กาวนั้นก็เป็นเหมือนกับค้างคาวยักษ์ที่อยู่ในสุสานของเจ้าหญิงหยงเหม่ย พวกมันดุร้ายมาก มันทั้งทำร้ายและกัดเนื้อคนแต่ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีค้างคาวแบบนั้นอยู่ เพราะที่สุสานแห่งนี้ไม่มีอากาศ ค้างคาวจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากไม่มีออกซิเจน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปของเหลวที่มีลักษณะคล้ายกาวก็หายไป เขาสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของประตูหินขนาดใหญ่นี้ได้ ภายในเต็มไปด้วยความมืดมิด แม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะสามารถมองทะลุผ่านเข้าไปได้แล้ว แต่เขาก็ยังมองไม่เห็นอะไรเลยอยู่ดี อย่างไรก็ตามเขาใช้เวลาไม่นานในการที่สายตาจะปรับความคุ้นเคยให้ชินกับความมืด สิ่งที่เขาเห็นหลังจากนั้นก็เป็นภาพโครงสร้างลางๆของเสากับโลงหิน
เซี่ยเหลี่ยตรวจดูสภาพแวดล้อมโดยรอบก่อนจะติดตั้งระเบิดไว้ที่มุมประตูทั้งสี่ เขาถอยกลับไปยังระยะปลอดภัยก่อนจะกดระเบิด
ตูม ตูม ตูม ตูม! ประตูหินหล่นพังทลายพร้อมกับการแตกกระจายของหินออกเป็นชิ้นๆ ฝุ่นหมุนตลบอบอวนไปทั่วทั้งทางเดินแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะใส่หน้ากากออกซิเจนอยู่ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงอัดอากาศที่เกิดจากแรงระเบิดปะทะเข้าที่หน้าได้อย่างชัดเจน
เซี่ยเหล่ยส่องไฟไปยังประตูทางเข้า เขาเรียนรู้จากประสบการณ์ก่อนที่จะเดินเข้าไป เขาใช้ความสามารถในการมองทะลุมองไปยังพื้นโดยรอบก่อนที่จะเดินเข้าห้อง นั่นก็เพื่อเช็คให้แน่ใจว่ามีกับดักซ่อนอยู่หรือไม่
สุสานแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าสุสานของเจ้าหญิงหยงเหม่ยมาก มันถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายซึ่งเทียบไม่ได้กับสุสานของเจ้าหญิงหยงเหม่ยเลย ไม่มีทั้งหีบสมบัติ อัญมนี หรือเครื่องปั้นดินเผาที่สวยงาม มันมีเพียงรูปปั้นหินหยาบๆเพียงสี่รูปเท่านั้น รูปปั้นหินเหล่านั้นเป็นรูปปั้นของนักรบโบราณในชุดเกราะที่ถือดาบถือโล่อยู่
ด้านหลังของรูปปั้นนักรบโบราณนั้นมีแท่นบูชาพร้อมกับโลงศพหินตั้งอยู่ด้านบน โลงศพนี้ก็สวยเทียบไม่ได้กับโลงศพของเจ้าหญิงหยงเหม่ยเลยเช่นกัน
เพื่อความแน่ใจเซี่ยเหล่ยหยิบเข็มทิศขึ้นมาก่อนจะตรวจสอบดู เขาพบว่าเข็มของเข็มทิศชี้ไปที่โลงศพหินนั้น ในขณะนี้มันสั่นรุนแรงมาก
เซี่ยเหล่ยขึ้นไปที่แท่นบูชาจากนั้นก็ใช้ความสามารถในการมองทะลุเข้าไปยังโลงศพหินก่อนที่จะเปิดมันออกเพราะเห็นว่าไม่มีอันตรายอะไร
มีศพผู้ชายนอนอยู่ในโลงศพ มันถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ผิวของศพดูเหมือนว่าจะยังคงความยืดหยุ่นเอาไว้เหมือนกับศพของเจ้าหญิงหยงเหม่ยไม่มีผิด เขาเป็นชายที่ดูมีอายุหกสิบถึงเจ็ดสิบปี เขาอ้วนมีเคราและมีผมสีทอง เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าทำจากผ้าฝ้ายและผ้าไหม มันถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย มันเรียบง่ายจนไม่สามารถบอกได้เลยว่าเขาเป็นคนของยุคไหน ไอรีนโนเวล
นอกเหนือจากศพในโลงแล้วก็มี ‘เข็มทิศทมิฬ’
“มันยังมีที่อื่นอีกสินะ” เซี่ยเหล่ยพูดกับตัวเองพร้อมกับขมวดคิ้ว
การค้นพบเข็มอีกอันหมายความว่ามันยังมีสมบัติที่ซ่อนอยู่ชิ้นอื่นอีก และดูเหมือนเข็มของเข็มทิศอันนี้จะใช้สำหรับค้นหาสถานที่ที่ซ่อนสมบัติชิ้นต่อไป
เซี่ยเหล่ยเก็บเข็มนั้นไว้ก่อนที่จะเปิดปากศพชายชราคนนั้นจากนั้นก็เอาชิ้นส่วนอัลลอยโบราณออกมา
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเอาอัลลอยโบราณออกมาจากปากของชายชราคนนั้นแล้ว แต่สภาพศพของเขาก็ยังคงอยู่สภาพเดิมเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ได้สลายหายไปเหมือนกับศพของเจ้าหญิงหยงเหม่ย
“เอ๊ะ?” เซียเหล่ยรู้สึกแปลกใจก่อนจะพูดกับตัวเองว่า “มันเกิดอะไรขึ้น?”
เขาปลุกความสามารถของตาข้างซ้ายก่อนจะมองไปที่สภาพศพโดยรอบ เขาพบกับสิ่งที่ทำให้เขาต้องตกใจอย่างมาก นั่นก็เพราะภายในท้องของเขายังมีอัลลอยโบราณอีกหลายชิ้น!
ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่ศพของชายคนนี้จะไม่ได้สลายหายไปเหมือนกับศพของเจ้าหญิงหยงเหม่ย
‘ชายชราคนนี้เป็นใครกันนะ?’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ เขาหยุดใช้ความสามารถ ก่อนจะคิดต่อว่า ‘เจ้าหญิงหยงเหม่ยมีอัลลอยโบราณแค่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น แต่ชายคนนี้กลับมีหนึ่งอันในปากและยังมีในท้องอีกตั้งสี่ชิ้นเลยนะ! สภาพศพของเขาก็ไม่มีมงกุฎไม่มีคทาแสดงว่าเขาไม่ใช่เจ้าคนนายคนหรือเป็นราชาแต่สุสานแห่งนี้ถูกซ่อนอยู่ภายใต้the Church of the Holy Sepulchre ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่สุด ?
เซี่ยเหล่ยตะลึงกับความคิดนี้
เซี่ยเหล่ยพยายามคิดและไตร่ตรองแต่ก็ไม่สามารถเดาตัวตนของชายชราคนนี้ได้เลย อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่เขาแน่ใจในตอนนี้ก็คือชายชราคนนี้มีอายุอยู่ในช่วงเวลาก่อนที่จะมีการสร้างthe Church of the Holy Sepulchre ซึ่งในความเป็นจริงเขาอาจจะมีอายุก่อนคริสตศักราชราวๆ 300 ปีก่อนก็เป็นได้
เซี่ยเหล่ยเปิดเสื้อผ้าของชายชราคนนั้นเพื่อต้องการตัดเนื้อของเขาด้วยมีด อย่างไรก็ตามเขาเห็นภาพวาดประหลาดบนหน้าอกของชายชราคนนั้น ภาพวาดนั้นทำให้เซี่ยเหล่ยถึงกับต้องหยุดทุกการกระทำเอาไว้ก่อน
ภาพวาดนี้มีลักษณะคล้ายกับรอยสักมากเพราะดูเหมือนมันจะใช้สีพิเศษหรือเลือดในการวาด เพราะแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดแต่สภาพของรูปวาดยังอยู่ครบสมบูรณ์ทุกอย่าง ภาพวาดนั้นเป็นภาพที่ประกอบไปด้วยค้างคาวยักษ์ กล่องสี่เหลี่ยมสีดำ เปลวไฟและประตูหินโค้ง
จังหวะที่มองไปเห็นรูปกล่องนั้น เซี่ยเหล่ยไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้เลย
เขาสงสัยมาตลอดว่าเมื่อชิ้นส่วนอัลลอยโบราณทั้งหมดถูกรวมเข้าด้วยกันจะมีเป็นรูปร่างของกล่องหรือไม่ ตอนนี้สมมติฐานข้อนี้ได้รับการยืนยันแล้ว มันตรงกันทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นขนาดและรูปร่างของอัลลอยโบราณแต่ละชิ้น เมื่อรวมกันแล้วมันจะได้กล่อง!
จากนั้นเขาก็มองไปที่ค้างคาวยักษ์ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ‘ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมก่อนหน้านี้เราถึงมองไม่เห็นภาพวาด เพราะภาพเหล่านี้ถูกวาดด้วยเลือดของค้างคาวยักษ์พวกนั้นนี่เอง ด้วยพลังของมันจะทำให้พลังในการมองทะลุของเราไม่เป็นผล’
เซี่ยเหล่ยเหลือบมองไปที่ประตูหินโค้ง เขาก็รู้สึกงงและสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ก่อนจะคิดว่า ‘ทำไมมันถึงถูกวาดลงไปบนตัวชายชราคนนี้ด้วยหล่ะ…หรือว่ามันจะเป็นเบาะแสของอะไรซักอย่าง?’
ค้างคาวยักษ์กล่องปริศนา ประตูหินโค้งทั้งสามสิ่งนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
ถ้าเขารวบรวมชิ้นส่วนอัลลอยโบราณทั้งหมดและประกอบกันเป็นกล่องเสร็จเรียบร้อยแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นนะ?
คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของเขาแต่ด้วยข้อมูลที่มีในตอนนี้เขาไม่สามารถตอบอะไรได้เลย
ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ใช้มีดผ่าลำตัวของชายชราใบมีดที่คมกริบแยกผิวและหนังออกจากกันแม้ว่าตอนนี้จะผ่าจนเห็นอวัยวะภายในทั้งหมดแต่ในระหว่างนี้ก็ไม่มีเลือดไหลออกมาจากแผลเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไปกว่านั้นส่วนเนื้อของเขาตอนผ่าก็นุ่มนิ่มราวกับว่ามันเป็นเพียงก้อนชีสเท่านั้น
แม้ว่าตอนนี้ภายในสุสานจะไม่มีใครอยู่เลยก็ตามแต่ดูเหมือนเซี่ยเหล่ยจะได้ยินเสียงกระสิบจากมุมห้องราวกับว่ากำลังสาปแช่งเขาอยู่
หลังจากเปิดเนื้อของชายชราแล้ว เซี่ยเหล่ยกลับรู้สึกสะอิดสะเอียนในขณะที่เขาดึงอัลลอยโบราณสี่ชิ้นออกจากท้อง
ศพของชายชราค่อยๆสลายและกลายเป็นฝุ่นในที่สุด
อย่างไรก็ตามเมื่อเซี่ยเหล่ยเก็บอัลลอยโบราณมาหมดแล้ว เขาก็มองไปที่อัลลอยโบราณชิ้นหนึ่งพร้อมกับกระตุกตาซ้าย …
ติดตามตอนต่อไป…….