Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 469 ปิดตาย ?
การต่อสู้เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆแต่มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่เท่าเทียมกันเลยเพราะอีกฝ่ายหนึ่งแทบจะทำอะไรไม่ได้ซึ่งมันก็คือกลุ่มมือปืนนั่นเองแม้ว่าพวกเขาจะมีกำลังคนที่มากกว่าก็ตามแต่ด้วยประสิทธิภาพของอาวุธรวมกับพื้นที่ที่เสียเปรียบทำให้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่ได้เลย
ในขณะนี้การต่อสู้ได้ผ่านไปประมาณสิบนาที เซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่ยังคงสบายดีส่วนกลุ่มมือปืนของอันซูฮยอนนั้นตายไปหลายคนแล้ว ใครที่ตามที่ออกมาจากแนวป่าทึบจะตายทันที เซี่ยเหล่ยเป็นเหมือนกับยมทูตที่คอยตัดสินความตายให้กับพวกเขา!
ในขณะนี้มือปืนทุกคนต่างตระหนักได้ถึงความสามารถของเซี่ยเหล่ย พวกเขารู้ดีว่าเซี่ยเหล่ยอยู่ในตำแหน่งที่สูงและได้เปรียบกว่าพวกเขาแม้ว่าพวกเขาต้องการจะหาตำแหน่งของเซี่ยเหล่ยเพื่อตอบโต้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะกลัวว่าจะโดนสวนกลับมา พวกเขาจึงทำได้แค่เพียงยิงสุ่มออกไปในตำแหน่งที่คิดว่าเซี่ยเหล่ยจะหลบอยู่
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ศพก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บรรดาศพที่นอนตายเกลื่อนกลาดอยู่นี้มีการตายในลักษณะเดียวกันทั้งหมดคือมีรูกระสุนอยู่ที่หน้าผากของพวกเขา และมีเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น!
อันซูฮยอนเริ่มรู้สึกกังวลเมื่อได้รับการแจ้งข่าวผ่านวิทยุสื่อสาร เขานำมือปืนมาด้วยกว่าสามสิบคน แต่ตอนนี้ถูกเซี่ยเหล่ยจัดการไปประมาณครึ่งหนึ่งแล้ว แถมเวลาเพิ่งจะผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อออกไปมากกว่านี้?
ทุกคน…ถอย! อันซูฮยอนออกคำสั่งทันทีก่อนจะพูดต่อว่า เราจะกลับมาจัดการกับเซี่ยเหล่ยอีกครั้งทันทีที่ดวงอาทิตย์ขึ้น
กลุ่มมือปืนที่ซ่อนตัวอยู่ในแนวป่าทึบถอนกำลังอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้รับคำสั่งของอันซูฮยอน อย่างไรก็ตามอันซูฮยอนไม่ได้ให้พวกเขาถอยไปไกลมากเนื่องจากมันเป็นป่าทึบอยู่แล้ว ดังนั้นแม้จะถอยไปไม่ไกลมันก็สามารถหลีกเลี่ยงเซี่ยเหล่ยได้อย่างแน่นอน
ไฮยีน่า ? อันซูฮยอนพูดผ่านวิทยุสื่อสารก่อนจะพูดต่ออีกว่า เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? คุณเอาเงินของผมไปเพิ่มแล้วแต่นี่มันอะไรกันทำไมมือปืนของเราถึงตายไปครึ่งหนึ่ง ส่วนคุณกลับไม่ทำอะไรเลย นี่มันอะไรกัน?
ไม่มีการตอบสนองจากวิทยุสื่อสาร
ได้ยินมั้ย? พูดอะไรซักอย่างสิไฮยีน่า! อันซูฮยอนพูดผ่านวิทยุสื่อสารด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
และเป็นอีกครั้งที่ไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น
บ้าเอ๊ยยย! อันซูฮยอนพูดด้วยความโกรธพร้อมกับกำลังจะขว้างวิทยุสื่อสารลงพื้นแต่เสี้ยววินาหนึ่งเขาก็หยุดตัวเองไว้เพราะเขายังจำเป็นที่จะต้องใช้มันในการสื่อสาร ผู้ชายคนนั้นเป็นคนโกหกหรือเปล่า? มือปืนคนหนึ่งพูดกับอันซูฮยอน
บางทีเขาอาจจะเป็นแค่คนโกหกคนหนึ่งก็เท่านั้น มือปืนคนอื่นพูดเสริมก่อนจะพูดต่อว่า พวกเราเข้าร่วมการต่อสู้และต้องเสียกำลังไปมากมายแต่เขายังคงซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักแห่งโดยไม่ทำอะไรด้วยซ้ำ ฮอฟฟ์แมนไปพาคนแบบนี้มาได้ยังไง? เขาเป็นราชาแห่งโลกนักฆ่าอย่างนั้นเหรอ? ผมไม่เชื่อเด็ดขาด!
ปัง! จู่ๆเสียงปืนก็ดังขึ้นโดยที่พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัว
เป็นจังหวะเดียวกับที่หมวกทหารของมือปืนคนหนึ่งมีรอยเฉี่ยวของกระสุน และด้วยแรงกระสุนทำให้เขาล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น เขาคือมือปืนที่เพิ่งจะพูดดูถูกฝีมือและหาว่าไฮยีน่าเป็นคนโกหก โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแค่รู้สึกมึนหัวและบาดเจ็บเล็กน้อย นั่นก็เพราะคนที่ยิงไม่ได้ตั้งใจเอาชีวิตของเขา มันดูเหมือนเป็นการยิงขู่ ไม่อย่างนั้นเขาคงตายโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว กลุ่มมือปืนเริ่มกังวลทันทีเพราะแม้ว่าเขาจะอยู่ในเขตป่าทึบแล้วแต่ก็ยังถูกซุ่มโจมตีอยู่
แต่จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากมุมหนึ่งของป่า เป็นเสียงของผู้ชายที่พูดเป็นภาษาอังกฤษว่า ผมจะฆ่าทุกคนที่ดูถูกผม ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม!
เขาคือไฮยีน่า เสียงของเขานั้นดูเย็นชาอย่างมากดูเหมือนกระสุนนัดนั้นและคำพูดของเขาจะเป็นคำเตือนให้กับกลุ่มมือปืนให้ระมัดระวังเรื่องคำพูด
จากเหตุการณ์นี้ทำให้อันซูฮยอนตระหนักในฝีมือที่ยอดเยี่ยมของไฮยีน่าอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ตระหนักได้ว่าตัวเองและมือปืนคนอื่นๆสามารถตายได้ตลอดเวลาเช่นกัน
อันซูฮยอนสงบสติอารมณณ์ก่อนจะพูดขึ้นว่า คุณไฮยีน่า โปรดยกโทษให้กับความหยาบคายของพวกเขาด้วยแต่ถึงอย่างนั้นผมเองก็มีข้อสงสัยอยู่เหมือนกัน เราเสียกำลังคนไปตั้งเยอะ แถมเราก็พอจะเดาตำแหน่งของเซี่ยเหล่ยได้แล้ว พวกเราพยายามจะไปยังจุดที่เขาอยู่แต่ก็ไม่สามารถไปได้ เพราะงั้นในช่วงเวลาที่พวกเราพยายามบุกเข้าไปนั้น คุณมัวทำอะไรอยู่?
ไฮยีน่าตอบกลับมาอย่างเรียบง่ายว่า ผมขึ้นไปบนยอดเขาก่อนที่พวกคุณจะถูกยิงซะอีก แต่เขาซ่อนอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ มันเป็นที่ซุ่มโจมตีชั้นดี นั่นทำให้ผมไม่สามารถยิงเขาได้ผมจึงต้องกลับมาที่นี่ อย่างไรก็ตามผมเคยเตือนคุณไปแล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาที่จะฆ่าได้ง่ายๆ และถ้าให้ผมวิเคราะห์ การที่คุณจะฆ่าเขานั้นต้องพาคนมามากกว่านี้
ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่ตอบผมก่อนหน้านี้หล่ะ อันซูฮยอนถามด้วยความสงสัย
เขาฆ่าฮอฟฟ์แมนและคนที่คุณส่งมาก่อนทั้งหมดดังนั้นเขาอาจจะมีวิทยุสื่อสารที่เก็บได้จากพวกเขา ทีนี้เข้าใจหรือยัง เขาอาจจะได้ยินทุกอย่างที่เราคุยและรู้สถานการณ์ของเรา ถ้าเลวร้ายกว่านั้นเขาอาจจะรู้ตำแหน่งของเราด้วยซ้ำ เข้าใจหรือยัง?
หึ! อันซูฮยอนทำเสียงในลำคอด้วยความไม่พอใจ
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งไฮยีน่าก็พูดต่อว่า คุณอัน หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่า…
ว่าอะไร คุณต้องการจะพูดอะไร อันซูฮยอนถามแทรกขึ้นทันทีด้วยความไม่พอใจ
จากสถานการณ์ทั้งหมด ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่คุณที่ต้องการฆ่าเขาแต่ดูเหมือนเขาเองก็ต้องการฆ่าคุณเช่นกัน
อันซูฮยอนชะงักไปในทันที
อย่างไรก็ตามไฮยีน่ายังพูดต่ออีกว่า เขาเป็นคนฉลาด ไม่มีทางที่เขาจะมองไม่ออกว่านี่เป็นกับดักที่สร้างขึ้นมาเพื่อจะฆ่าเขา ถึงแม้จะรู้อย่างนั้นแล้วเขาก็ยังมา แถมเขาก็นำปืนไรเฟิลซุ่มยิงติดตัวมาด้วย เขาเตรียมการมาเป็นอย่างดี คุณอัน…ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณและเขามีอะไรที่ไม่พอใจต่อกัน แต่ผมอยากจะเตือนคุณไว้หน่อยว่าถ้าคุณคิดที่จะเป็นศัตรูกับเขา คุณจะต้องเจอกับฝันร้ายที่คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน นอกจากนี้มีโอกาสอย่างมากที่คุณจะไม่สามารถฆ่าเขาได้ ไอรีนโนเวล
พูดอะไรไร้สาระ ผมมาที่นี่ก็เพื่อฆ่าเขา อันซูฮยอนพูดอย่างเย็นชาก่อนจะพูดต่อว่า คุณไฮยีน่า คุณเป็นนักฆ่าที่มือดีที่สุดในโลก คุณได้รับสมญานามว่าเป็นราชาแห่งโลกนักฆ่าดังนั้นคุณต้องมีวิธีฆ่าเขาสิบอกกับผมว่าผมต้องทำยังไง?
ไฮยีน่าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า มันเต็มไปด้วยเมฆ เขามองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า ฝนจะตกในเร็วๆนี้ จุดที่เซี่ยเหล่ยเลือกใช้ในการซุ่มยิงตอนนี้สมบูรณ์แบบยากที่จะเข้าจู่โจม แต่อย่างไรก็ตามบริเวณนั้นไม่มีต้นไม้เลย ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปทั้งลมทั้งฝนจะทำให้ร่างกายของพวกเขาอ่อนแอลง นอกจากนี้ร่างกายของพวกเขาจะต้องทนต่อความหิวด้วย เมื่อรวมทั้งสองเมื่อเวลาผ่านไป มันจะทำให้ความสามารถของเขาลดลงอย่างมาก
อันซูฮยอนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า คุณกำลังจะบอกว่าให้เราคอยไปเรื่อยๆจนพวกเขาเริ่มหมดแรงอย่างนั้นเหรอ?
ไฮยีน่าพยักหน้าก่อนจะพูดว่า ที่นี่เป็นเกาะร้างและไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นเราไม่ต้องกังวลว่าเขาจะติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครได้ ที่นี่ไม่มีทั้งน้ำและอาหาร พวกเขาจะต้องอดอย่างแน่นอนดังนั้นเราควรจะรอซัก 30 ชั่วโมง เมื่อครบเวลามันจะเป็นรุ่งเช้าของวันถัดไปพอดี เราจะโจมตีเขาอีกครั้งในเวลานั้นและนั่นจะเป็นจุดจบของชีวิตเขา นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด
การโอบล้อมและปิดตายเส้นทางหนีเป็นหนึ่งในยุทธวิธีทั่วไปที่ดีในระดับหนึ่งตามตำราสงครามในสมัยโบราณ แม้ว่าที่นั่นจะเป็นป้อมปราการที่ดีที่สุดแต่ถ้าป้อมปราการไม่มีทั้งน้ำและอาหาร สุดท้ายป้อมปราการแห่งนี้ก็ต้องพังลงในที่สุด มันจะขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น! อันซูฮยอนหัวเราะก่อนจะยกนิ้วให้ไฮยีน่าพร้อมกับพูดเยินยอว่า คุณไฮยีน่า ผมต้องยอมรับในความสามารถของคุณจริงๆ
ไม่มีปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อคำเยินยอของอันซูฮยอน เขาเพียงแค่ตอบกลับไปอย่างเรียบง่ายว่า บอกให้คนของคุณเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ต่อจากนี้
คุณต้องการให้ผมทำอะไรบ้าง? อันซูฮยอนถาม
เราจะโจมตีพวกเขาทันทีที่ครบ 30 ชั่วโมง ดังนั้นคุณจะต้องให้คนของคุณหากิ่งไม้และเศษไม้จำนวนมากมามัดรวมกันไว้ เมื่อถึงเวลาก็จุดไฟเผา ควันจะช่วยลดทัศนวิสัยการมองของเซี่ยเหล่ยลงได้ นอกจากนี้ให้แบ่งกำลังคนซักสองคนเพื่อให้พวกเขาไปทำการโจมตีทางอากาศผ่านเฮลิคอปเตอร์
อันซูฮยอนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันไปพูดกับกลุ่มมือปืนที่เหลือว่า รีบไปจัดการทุกอย่างตามที่คุณไฮยีน่าพูด
มีอีกเรื่อง ไฮยีน่าพูดก่อนจะพูดต่อว่า เซี่ยเหล่ยและผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่โดยใช้เรือสองลำ คุณต้องให้คนไปทำลายเรือของพวกเขาซะ ป้องกันการหลบหนีของพวกและและป้องกันการตรวจหาตำแหน่งของเรือโดยคนอื่น
อันซูฮยอนมองไปที่มือปืนคนหนึ่งก่อนจะพูดว่า จะมัวยืนอยู่ทำไม รีบไปจัดการเร็วเข้า
มือปืนคนนั้นวิ่งลงจากภูเขาและตรงไปยังชายฝั่งทันที
หลังจากเวลาผ่านไปฝนก็ตกจริงๆ มันค่อยๆตกมาทีละนิดจนสุดท้ายก็เป็นฝนห่าใหญ่
นอกจากฝนแล้วก็ยังมีลมที่พัดค่อนข้างแรง ต้นไม้ต่างพากันสั่นไหวไปตามแรงลม ทะเลก็มีคลื่นสูงซัดเข้าฝั่งจนสามารถได้ยินเสียงกระทบได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ห่างจากชายฝั่งก็ตาม
บนก้อนหินที่เซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่ใช้เป็นจุดซุ่มโจมตี เซี่ยเหล่ยวางวิทยุสื่อสารลงเพราะตอนนี้ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะดักฟังแล้ว อันซูฮยอนเปลี่ยนคลื่นความถี่ตามคำเตือนของไฮยีน่า
ฝนที่ตกอย่างไม่ลดละทำให้เซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่ที่ไม่มีต้นไม้ไว้ใช้กำบัง ทำให้อุณหภูมิร่างกายของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็ว
กะ… กึก… เจียงหยูยี่พยายามจพูดอะไรบางอย่าง แต่ด้วยความเย็นและอุณหภูมิของร่างกายที่ลดลงทำให้เธอพูดได้ไม่ถนัด อย่างไรก็ตามเธอยังพยายามที่จะพูดต่อว่า ละ… เหล่ย ฉันหนาวมาก ทำไมพวกเขาถึงไม่บุกเข้ามาหล่ะ? เราจะต้องอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน?
เซี่ยเหล่ยมองลงไปสำรวจโดยรอบก่อนจะพูดว่า ผมเดาว่าอย่างน้อยก็หนึ่งวัน
หือ? เจียงหยูยี่ส่งเสียงออกมาทันทีก่อนจะพูดว่า หนึ่งวันงั้นเหรอ? ทำไมมันนานขนาดนั้นหล่ะ? ตอนนี้ฝนตกลงมาและฉันก็หนาวมาก พวกเราอาจจะเป็นหวัดเพราะฝนนี้ก็ได้อีกอย่างเราก็ไม่มีอาหารและน้ำเลยด้วย เราอยู่ที่นี่นานไม่ได้นะ
ใครบอกคุณว่าเราไม่มีหล่ะ? เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะพูดต่อว่า คุณคิดว่าผมจะไม่เตรียมตัวก่อนมาเลยอย่างนั้นเหรอ?
เจียงหยูยี่มองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยความสับสน เธอสงสัยว่าเซี่ยเหล่ยเตรียมอะไรเอาไว้บ้าง
เซี่ยเหล่ยหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากเสื้อแจ็กเก็ตของเขา มันถูกบรรจุอยู่ในพลาสติกสุญญากาศเป็นอย่างดี เซี่ยเหล่ยรีบแกะพลาสติกสุญญากาศออกภายในมีเสื้อ rain-proof poncho บรรจุอยู่ มันทำมาจากวัสดุพิเศษชนิดใหม่ที่ทั้งเบาและบางแต่ก็สามารถป้องกันลมและน้ำได้เป็นอย่างดี เซี่ยเหล่ยใช้มันคลุมไปที่ตัวของพวกเขาทั้งคู่ เมื่ออยู่ภายใต้ rain-proof poncho พวกเขารู้สึกอุ่นขึ้นทันที
นอกจากนี้ถือเป็นโชคดีของพวกเขาที่เลือกจุดนี้เป็นจุดซุ่มโจมตีเพราะมันช่วยลดแรงลมปะทะให้กับพวกเขาได้มากเลยทีเดียว
เจียงหยูยี่รู้สึกดีอย่างมาก เธอยิ้มก่อนจะพูดว่า ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเตรียมอะไรแบบนี้มาด้วย คุณนี่สุดยอดจริงๆ แต่ยังไงก็เถอะ…เรื่องหนาวและฝนเราแก้กันได้แล้ว แต่เรื่องอาหารและน้ำหล่ะ เราจะทำยังไง?
เซี่ยเหล่ยหยิบบาร์พลังงาน(น่าจะเหมือนกับแคปซูลอาหารของนักบินอวกาศ)ออกมาจากเสื้อแจ็กเก็ตของเขาพร้อมกับถอดหมวกออกมารองน้ำฝน
เซี่ยเหล่ยแก้ปัญหาเรื่องน้ำและอาหารได้เรียบร้อย
เขาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้บนเกาะร้างมาอย่างดีนี่เป็นเพราะประสบการณ์การต่อสู้ทั้งหมดที่ผ่านมาของเขาหรือไม่?