Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 476 ชักใยเบื้องหลัง
อันกวนยืนตัวตรงพร้อมกับพูดอย่างจริงจังว่า ผมคิดว่าคุณจะยอมรับข้อเสนอของผม ผมรู้จักคุณดี ดียิ่งกว่าตัวคุณเองด้วย
ทันทีที่อันกวนพูดจบเซี่ยเหล่ยก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ เขาหัวเราะอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า คุณรู้จักผมดีกว่าที่ผมรู้จักตัวเองงั้นเหรอ…คุณอัน? คุณกำลังประเมินตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า? ยังไงก็ตามผมขอชื่นชมความหน้าด้านของคุณนะ คุณต้องมั่นใจขนาดไหนกันถึงจะสามารถพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้
อันกวนไม่โกรธแม้แต่น้อยกับคำพูดดูถูก เขาพูดขึ้นอย่างเรียบง่ายว่า คุณเซี่ย คุณจะได้อะไรจากการมอบหลักฐานพวกนั้นให้กับสื่อของเกาหลีใต้กัน หรือเพียงเพราะต้องการแก้แค้นอย่างนั้นเหรอ? ซึ่งหากคุณมอบหลักฐานให้กับสื่อจริง ผมก็ต้องไปลงเอยอยู่ในคุก คุณจะไม่ได้อะไรนอกจากความพอใจ แต่ถ้าคุณทำข้อตกลงกับผม คุณจะได้ประโยชน์มากกว่าความพอใจแน่นอน อีกอย่างผมไม่ได้หน้าด้าน เพียงแค่ตอนนี้ผมไม่ได้ตาบอดและจดจ่ออยู่กับการแก้แค้นเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง มันน่าสนใจมาก เขาพบว่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ไม่ใช่ศัตรูที่ธรรมดาเลยจริงๆ แม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะฆ่าลูกชายของเขาไปแล้วแต่ผู้ชายคนนี้ก็เข้ามาขอโทษเขาและทำทุกอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง คนที่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ลึกๆภายในแล้วเขาเป็นคนยังไงกันแน่?
อันที่จริงการที่คุณฆ่าลูกชายของผม ซึ่งผมควรจะเกลียดคุณ ในความเป็นจริงมันควรจะเป็นแบบนั้นแต่ความเกลียดชังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้เลยดังนั้นเรามาตกลงกันดีกว่า อันกวนพูดอย่างจริงใจก่อนจะพูดต่อว่า คุณเซี่ย นี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากนักปรัชญาในประเทศของคุณ ดังนั้นผมจึงต้องการเจรจาและทำข้อตกลงกับคุณ บอกมาว่าคุณต้องการเงินเท่าไหร่? คุณต้องการซื้อหลักฐานเหล่านั้นด้วยเงินงั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยถาม
อันกวนพยักหน้าก่อนจะพูดว่า ใช่ บอกราคามาได้เลย พูดจบก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสริมว่า อย่างไรก็ตามผมหวังว่ามันจะเป็นราคาที่สมเหตุสมผลนะ
คุณคิดว่าตอนนี้ผมต้องการเงินอย่างนั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยถาม
อันกวนจ้องหน้าของเซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า ถ้าไม่ใช่เงิน แล้วคุณต้องการอะไร?
เซี่ยเหล่ยยังไม่ได้บอกความต้องการของเขา เขาจ้องไปที่อันกวนก่อนที่จะคิดในใจว่า ‘ตอนนี้เงินไม่ได้มีความหมายอะไรกับเรา แต่การที่เขายื่นข้อเสนอแบบนี้เพราะอะไรกันแน่ก่อนหน้านี้เราไม่คิดว่าเขาจะชนะการเลือกตั้งเลยด้วยซ้ำแต่ดูจากท่าทางของเขาในตอนนี้แล้ว เขามีโอกาสที่จะชนะอย่างนั้นเหรอ…’
คุณเซี่ย อันกวนเรียกเซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดขึ้นว่า ถ้าคุณไม่ต้องการเงิน คุณสามารถร่วมมือกับผมในเรื่องของธุรกิจก็ได้ คุณจะได้กำไรมากมายจากการลงทุนในเกาหลีใต้ด้วยความช่วยเหลือของผม บริษัทของคุณจะสามารถเติบโตในเกาหลีใต้ได้อย่างแน่นอน
เซี่ยเหล่ยส่ายหัวกับข้อเสนอนี้
ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอะไรหล่ะ? อันกวนถามพร้อมแสดงแววดาของความไม่พอใจ
เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะพูดว่า คุณกลับไปเกาหลีใต้เถอะคุณอัน เมื่อกลับไปแล้วผมจะช่วยคุณในการเลือกตั้งเอง
อะไรนะ? อันกวนโผล่งออกมาด้วยความตกใจก่อนจะรีบถามต่อทันทีว่า คุณหมายความว่ายังไง?
เป้าหมายเดียวในชีวิตของคุณตอนนี้คือการเป็นประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ใช่มั้ย? ผมไม่ได้พูดผิดหรอกนะ ผมจะช่วยคุณในการเลือกตั้งและจะทำให้คุณเป็นประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ให้ได้ เซี่ยเหล่ยพูด
คุณเซี่ย ได้โปรดอย่าล้อเล่นแบบนี้ คุณจะช่วยอะไรผมได้ อันกวนพูด เขาพยายามควบคุมอารมณ์ที่กำลังเดือดอยู่ภายในใจก่อนจะพูดต่อว่า ผมแสดงความจริงใจกับคุณไปตั้งมากมายแล้วแต่ถ้าคุณยังทำแบบนี้ ผมว่าเราคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้วแหละ
คุณคิดว่าผมล้อเล่นงั้นเหรอ? คุณถามผมเองว่าผมต้องการอะไร ผมก็ตอบไปแล้วนี่ไง ผมจะช่วยคุณโดยส่วนหนึ่งคือเก็บความลับเรื่องนี้เอาไว้ คุณไม่พอใจงั้นเหรอ?
อันกวนไม่สนใจอะไรแล้วในขณะนี้ เขาควบคุมความโกรธของตัวเองไว้ไม่ได้ก่อนจะพูดขึ้นว่า เซี่ยเหล่ย นี่คุณต้องการจะให้ผมขึ้นเป็นประธานาธิบดีแล้วคอยควบคุมผมอย่างนั้นใช่มั้ย มันจะมากเกินไปแล้ว!
เซี่ยเหล่ยยักไหล่หนึ่งครั้งก่อนจะพูดอย่างเรียบง่ายว่า ถ้าคุณไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร งั้นคุณไปนอนเล่นอยู่ในคุกก็แล้วกัน
คุณ… อันกวนถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำว่า คุก ความโกรธของเขาก็สลายหายใจทันที
เซี่ยเหล่ยพูดอย่างเรียบง่ายต่อว่า จะกลายชายผู้เป็นประธานาธิบดีหรือจะเป็นชายที่นอนเน่าอยู่ในคุก คนอย่างคุณน่าจะรู้อยู่แล้วว่าต้องเลือกอะไร?
อ๊ากกกกกกกก อันกวนกรีดร้องออกมาก่อนจะพูดว่า บ้าเอ๊ยย! คุณจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้!
ทำไมจะไม่ได้หล่ะ…เอาหล่ะเลือกมาได้แล้ว เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะพูดต่อว่า มันก็ไม่ได้มีอะไรยากเลย ผมจะเก็บหลักฐานเอาไว้อย่างปลอดภัยหากคุณชนะในการเลือกตั้ง ผมต้องการให้คุณทำอะไรบางอย่างให้กับผมเมื่อครบแล้วผมถึงจะคืนหลักฐานให้แต่หากคุณไม่ชนะการเลือกตั้ง ผมจะมอบหลักฐานเหล่านั้นให้กับตำรวจและสื่อของเกาหลีใต้ทันที
มันไม่ยุติธรรมเลย อีกอย่างผมไม่สามารถรับประกันได้ด้วยว่าผมจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้! อันกวนพูดอย่างไม่พอใจ
ผมบอกไปแล้วว่าผมจะช่วยคุณเอง เซี่ยเหล่ยทวนคำพูดของเขาอีกครั้งก่อนจะพูดต่ออีกว่า ผมสามารถหาหลักฐานที่คุณทำผิดกฏหมายได้ ดังนั้นผมก็สามารถหาหลักฐานการทำผิดกฏหมายของฝ่ายตรงข้ามคุณได้เช่นกัน
อันกวนเงียบทันที เขากำลังใช้ความคิด
นี่คือสิ่งที่ผมต้องการและผมจะให้เวลากับคุณแค่หนึ่งนาทีเท่านั้นในการตัดสินใจ ถ้าครบหนึ่งนาทีแล่วคุณยังติดสินใจไม่ได้ข้อเสนอของผมจะสิ้นสุดทันทีและมันจะไม่มีข้อตกลงใดๆเกิดขึ้นอีกหลังจากนี้ เซี่ยเหล่ยพูดอย่างเคร่งขรึม
อันกวนขมวดคิ้วทันทีดูเหมือนเขากำลังใช้ความคิดและการตัดสินใจอย่างหนักในช่วงเวลานี้
อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยคอยมองดูนาฬิกาตลอดเวลา จนเมื่อครบหนึ่งนาทีเขาก็พูดขึ้นว่า หมดเวลา บอกมาว่าคุณจะเอายังไง
อันกวนถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้นว่า ตกลง ในความเป็นจริง อันกวนไม่ได้อยากที่จะยอมรับข้อตกลงนี้เลยแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาไม่มีทางเลือกอีกอย่างเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองอะไรได้อีกด้วย ดังนั้นเขาจึงมีทางออกเดียวคือการตอบตกลง
ครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง อันกวนมุ่งหน้าออกจากเมืองไป๋ลู่ส่วนเซี่ยเหล่ยก็มุ่งหน้าไปยังโรงงานผลิตอาวุธ
เซี่ยเหล่ยยิ้มตลอดทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังโรงงานผลิตอาวุธ เขาอารมณ์ดีอย่างมากนั่นก็เพราะถ้าอันกวนได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของเกาหลีใต้แล้ว เขาซึ่งสามารถควบคุมอันกวนได้อีกทีนั้น เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าในเวลานั้นเขาจะได้รับอะไรบ้างจากการควบคุมอันกวน
‘ถ้าเราต้องการเทคโนโลยีของเครื่องบินขับไล่ F35 ที่เกาหลีใต้มีอยู่ในตอนนี้ อันกวนจะมอบมันให้กับเราโดยดีมั้ยนะ?’ เซี่ยเหล่ยพยายามจินตนาการถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่านี่จะเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นแต่มันก็ทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่คิดถึงมัน
เมื่อกลับมาที่โรงงานผลิตอาวุธ เซี่ยเหล่ยก็เลิกคิดเรื่องของอันกวนและกลับมาคิดถึงเรื่องปืนไรเฟิลจู่โจมซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้
ผู้บริหารระดับสูงของโรงงานผลิตอาวุธมาพบเซี่ยเหล่ยทันทีที่เขากลับมาที่โรงงาน เซี่ยเสวียก็อยู่ที่นั่นด้วยพวกเขาดูสนิทกันมากในการประชุม
เธอมาทำอะไรที่นี่? ทำไมไม่ไปโรงเรียน? เซี่ยเหล่ยถาม
พี่ยุ่งมากเกินไปจนลืมวันลืมเดือนหรือเปล่า? วันนี้วันเสาร์ ไม่มีเรียนหรอกนะ อีกอย่างฉันมาเพื่อช่วยพี่ดังนั้นพี่ต้องจ่ายค่าจ้างให้ฉันด้วย
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดว่า พี่ก็ให้บัตรเครดิตไปแล้วนี่ บัตรนั่นมีวงเงินหนึ่งล้านหยวน วงเงินนั้นมันไม่พอจ่ายงั้นเหรอ?
ฉันไม่ได้หมายถึงเงิน ฉันหมายถึงความรัก เซี่ยเสวี่ยพูดจบก็หัวเราะก่อนจะพูดต่อว่า ฉันยังแห้งเหี่ยวอยู่คนเดียวแต่ในทางกลับกันพี่ไปจดทะเบียนสมรสกับเฉินตูเทียนหยินแล้ว นอกจากนี้ฉันยังเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้ นี่พี่ยังเห็นฉันเป็นน้องอยู่หรือเปล่า?
อย่าพูดอย่างนั้น เธอไม่รู้หรอกว่าพี่ชายของเธอเป็นคนแบบไหน? เอาหล่ะ…เย็นนี้เราจะไปที่บ้านของเฉินตูเทียนหยินกัน เธอจะได้เจอกับพี่สะใภ้
จริงๆงั้นเหรอ? เซี่ยเสวี่ยพูดอย่างตื่นเต้นก่อนที่จะยิ้มแล้วพูดว่า พี่สะใภ้ของฉันเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน เธอเป็นคนเก่งและน่าชื่นชมอย่างมาก ฉันอยากเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากเธอแต่จะทำยังไงดี…ฉันค่อนข้างกังวลเวลาที่ได้เจอคนที่ฉันแอบประทับใจมานานแสนนาน
ไม่ต้องกังวลหรือตื่นตูมไปหรอก แม้ว่าคนที่บ้านของเธอจะไม่น่าคบหาก็ตาม แต่เธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่อ่อนโยนมาก
โอเค งั้นฉันจะรีบทำงานของฉันให้เสร็จเพื่อเตรียมตัวไปที่บ้านของพี่สะใภ้กัน เซี่ยเสวี่ยพูดอย่างมีความสุข
เซี่ยเหล่ยจัดการงานที่ออฟฟิศอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะกลับไปที่วิลล่าเพื่อเจอกับอเลน่า ตั้งแต่เขากลับมา เธอเป็นคนเดียวที่เขายังไม่ได้เจอแต่นี่ก็ไม่ใช่เพราะว่าเขาแต่งงานกับเฉินตูเทียนหยินแล้วจะหลบหน้าเธอแต่เป็นเพราะว่าเวลาของพวกเขาไม่ตรงกันเนื่องจากเธอต้องทำงานหนักมาก
วิลล่าอยู่ภายใต้การดูแลของหวู่เซี่ยวกู๋และทหารของเขา ที่นี่มีระบบการรักษาที่ดีมากแม้กระทั่งนกกระจอกก็ไม่สามารถบินผ่านเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยมีอำนาจเข้าออกที่นี่ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ใด ๆ
เซี่ยเหล่ยเข้าไปที่ห้องของอเลน่าก็พบว่าเธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำว่าเซี่ยเหล่ยกำลังเข้ามาในห้องของเธอ บนโต๊ะทำงานของเธอมีภาพวาดและเอกสารวางกองสูงมาก ถัดออกไปก็มีกาแฟที่ถูกกินไปแล้วครึ่งแก้ววางอยู่
เซี่ยเหล่ยอดที่จะถอนหายใจเล็กน้อยด้วยความหนักใจ เขารู้สึกผิดกับเธอที่ไม่สามารถอยู่กับเธอได้ มันเป็นความรู้สึกที่คล้ายๆกับของเจียงหยูยี่
เซี่ยเหล่ยดูอเลน่าที่กำลังนอนหลับอยู่เงียบๆอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะทำงานของเธอ เขาหยิบปากกาและกระดาษโน๊ตออกมาพร้อมกับเขียนข้อความทิ้งเอาไว้ว่า: ผมกลับมาแล้ว ผมเห็นคุณกำลังหลับอยู่ผมจึงไม่อยากรบกวนคุณ พักผ่อนให้เยอะๆนะ ผมค่อยกลับมาคุยกับคุณเรื่องปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ในวันพรุ่งนี้
เขาออกจากห้องของอเลน่าก่อนจะตรงไปยังห้องชั้นใต้ดิน
เขาหยิบอัลลอยโบราณทั้งหมดเจ็ดชิ้นพร้อมกับหนังสือสำริดออกมาวางบนโต๊ะทำงานของเขาจากนั้นก็กระตุกตาซ้ายเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่อัลลอยโบราณ เจ้าหญิงหยงเหม่ยปรากฏตัวขึ้นทันที เธอไร้ซึ่งเสื้อผ้าและยังดูงดงามเหมือนเคย
อย่าจับฉันขังไว้ที่นั่นอีก! ทันทีที่เจ้าหญิงหยงเหม่ยปรากฏตัวขึ้นนั้น เธอก็ตะโกนออกมาด้วยความโมโหทันที
คุณ… เซี่ยเหล่ยไม่สามารถพูดอะไรได้เลยเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอโกรธมากขนาดนี้
ฉันไม่ต้องการที่จะอยู่ในที่ที่เย็นแบบนั้นอีกแล้ว! ไม่…ไม่! เจ้าหญิงหยงเหม่ยพูดพร้อมกับอุณหภูมิของห้องค่อยๆลดลง
น้ำที่อยู่ในแก้วบนโต๊ะทำงานของเขาถูกแช่แข็งในพริบตา…..