Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 482 สายลับแฝงตัว !
หลังจากที่มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนกลับไปแล้ว วันต่อมาเซี่ยเหล่ยก็เรียกพนักงานทั้งหมดเข้าร่วมประชุมครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เปิดโรงงานมา เขากางแผนภาพกองใหญ่ที่อเลน่าใช้เวลาคิดเป็นเวลาทั้งหมดหนึ่งเดือนบนโต๊ะด้านหน้าตัวเอง
อเลน่านั่งถัดจากเซี่ยเหล่ยส่วนถัดจากอเลน่าก็เป็นฉิงเสวียง พวกเธอทั้งสองมีหน้าที่สำคัญและมีบทบาทอย่างมากกับโรงงานผลิตอาวุธ พวกเธอจึงได้นั่งข้างๆเซี่ยเหล่ยผู้เป็นเจ้าของโรงงานผลิตอาวุธแห่งนี้
หลังจากที่ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องประชุมแล้ว เซี่ยเหล่ยก็ยืนขึ้นพร้อมกับโบกมือเพื่อให้ทุกคนเงียบและอยู่ในความสงบ
หลังจากนั้นทุกคนก็เงียบและอยู่ในความสงบทันที
ผมเรียกทุกคนมาในวันนี้ก็เพื่อจะประกาศเรื่องสำคัญให้ทุกคนได้ทราบ ในเร็วๆนี้จะมีงานจัดแสดงอาวุธเบา เราจะเข้าร่วมในงานนิทรรศการครั้งนี้ เป้าหมายของเราในครั้งนี้คือการกำจัดคู่แข่งอย่างบริษัทยุทโธปกรณฮั่นและขโมยคำสั่งซื้อของกองทัพมาจากพวกเขาให้ได้มากที่สุดหรือไม่ก็ทั้งหมดเลย! เซี่ยเหล่ยพูดต่อหน้าผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน
หลังจากเซี่ยเหล่ยพูด ทุกคนในห้องก็หันมาพูดคุยกันทันทีนั่นก็เพราะสิ่งที่เซี่ยเหล่ยพูดนั้นมีความสำคัญอย่างมากกับอนาคตการเติบโตของโรงงานผลิตอาวุธซึ่งแปรผันตรงต่อรายได้ของพวกเขา
เซี่ยเหล่ยกวาดสายตาอย่างรวดเร็วไปที่ปฏิกิริยาการตอบสนองของผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้เพราะไม่สามารถรับประกันได้ว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่จะภักดีต่อเขาได้ตลอด แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะกำจัดสายสืบของบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าตอนนี้จะไม่มีสายสืบแอบแฝงตัวเข้ามาอีก ในความเป็นจริงสำหรับคนเพียงคนเดียวไม่มีทางที่จะสังเกตปฏิกิริยาของคนจำนวนนับร้อยคนได้ภายในช่วงเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่กับเซี่ยเหล่ยเพราะเขาคือ The One ดวงตาข้างซ้ายของเขาสามารถกวาดและมองเห็นปฏิกิริยาของทุกคนได้อย่างชัดเจนแม้ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เมื่อรวมกับการทำงานพร้อมสมองของเขาทำให้เขาหาผู้ต้องสงสัยได้ไม่ยากเย็น
เพราะแค่เพียงห้าวินาที เซี่ยเหล่ยก็พบผู้ต้องสงสัยสองคน คนหนึ่งเป็นชายที่กำลังบันทึกเสียงอยู่ ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงที่มีท่าทางตื่นตัวมากกว่าปกติเมื่อเซี่ยเหล่ยพูดจบ อย่างไรก็ตามเธอพยายามรีบทำตัวให้กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ไม่อาจรอดพ้นดวงตาของเซี่ยเหล่ยไปได้
เซี่ยเหล่ยเห็นการกระทำทุกอย่างของพวกเขาทั้งสองคน แต่เขายังไม่ได้จัดการอะไร เขาพูดต่ออีกว่า เรายังมีเวลาอีกประมาณ 20 วัน ซึ่งระยะเวลาที่เหลือนี้เราจำเป็นจะต้องย้ายฐานการผลิตเดิมของเรา 60% ไปผลิตอาวุธชนิดใหม่
อาวุธใหม่คืออะไรงั้นเหรอผู้อำนวยการเซี่ย? วิศวกรคนหนึ่งถาม ก่อนจะพูดต่ออีกว่า พวกเราไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย
ผมจะบอกพวกคุณในภายหลัง เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมแอบสังเกตไปยังผู้ต้องสงสัยทั้งสองคน
เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ ทั้งสองคนมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนมากเพราะขณะที่เซี่ยเหล่ยกำลังพูดอยู่นั้น ชายคนนั้นก็หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาจากกระเป๋าก่อนจะยื่นไปข้างหน้าเพื่อบันทึกเสียงของเซี่ยเหล่ย ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็จัดเสื้อของตัวเอง แม้ว่ามันจะดูเป็นท่าทางที่คนปกติก็ทำกัน แต่เซี่ยเหล่ยสังเกตเห็นกล้องรูเข็มที่แอบติดอยู่ที่เสื้อของเธอ เธอเองบันทึกภาพการประชุมของเซี่ยเหล่ยเอาไว้เหมือนกัน
ทั้งผู้ชายและผู้หญิงคนนั้นกำลังรอให้เซี่ยเหล่ยพูดรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธใหม่ต่อแต่เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
เซี่ยเหล่ยหยิบแก้วน้ำที่เตรียมไว้สำหรับการประชุมขึ้นมาบังปากของตัวเองก่อนจะกระซิบเบาๆกับฉิงเสวียงว่า ฉิงเสวียง ผู้ชายคนที่สามแถวที่ห้า ผู้หญิงคนที่สองแถวที่ห้า
เซี่ยเหล่ยพูดต่ออีกว่า พวกเขาเป็นสายลับของบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน คุณโทรหาลู่เชิงให้เขามาพาตัวทั้งสองคนนี้ออกไปเดี๋ยวนี้เลย
ห๊ะ? ฉิงเสวียงอุทานด้วยความประหลาดใจก่อนจะถามต่อด้วยความสงสัยว่า คุณรู้ได้ยังไง?
ไม่ต้องสนใจหรอก ทำตามที่ผมสั่ง เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับวางแก้วน้ำลง
ฉิงเสวียงลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกจากห้องประชุมไป
ผู้คนที่เข้าร่วมประชุมต่างค่อยๆเพิ่มความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขารอที่จะให้เซี่ยเหล่ยพูดต่อจนทั้งห้องเริ่มพูดถึงเรื่องนี้กันเสียงดังมากขึ้น อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยยังคงเงียบอยู่ นอกจากนี้แม้ว่าทั้งห้องจะค่อยๆคุยกันเสียงดังมากขึ้นแต่เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้มีท่าทีจะให้พวกเขาเงียบลงเลย
ไม่กี่นาทีต่อมา ลู่เชิงก็เดินเข้ามาในห้องประชุมพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกสองคน ลู่เชิงหันไปมองที่เซี่ยเหล่ย เซี่ยเหล่ยเองก็หันไปมองที่ลูเชิงพร้อมกับพยักหน้าให้เขาหนึ่งที
ลู่เชิงเดินไปจับสายลับทั้งสองคนพร้อมกับพาพวกเขาออกจาห้องประชุมไปทันที
พวกคุณจะทำอะไร? ชายคนนั้นมีท่าทางตกใจก่อนจะพูดต่ออีกว่า ผู้อำนวยการเซี่ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ผมทำงานให้คุณมาโดยตลอด ผมไม่เคยทำผิดกฎอะไรเลย คุณมาทำแบบนี้กับผมได้ยังไง?
ผู้หญิงคนนั้นเองก็โวยวายพร้อมกับร้องไห้และพูดว่า ผู้อำนวยการเซี่ย! คุณต้องเข้าใจอะไรผิดแล้ว คุณกำลังกล่าวหาคนผิดฉันยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อโรงงานผลิตอาวุธของเราเลย!
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดอย่างเรียบง่ายว่า พวกคุณทั้งสองคนก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าทำอะไรลงไป
ผมขอลาออก! ปล่อยผม! ผมต้องการลาออก! ชายคนนั้นตะโกนโวยวายทันที
ใช่แล้ว! ฉันก็จะลาออกด้วยเหมือนกัน! ฉันจะไม่ทำงานที่นี่อีกแล้ว! ผู้หญิงคนนั้นเองก็ตะโกนโวยวายเหมือนกัน
ทั้งห้องเริ่มคุยกันอีกครั้ง ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประชุมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยเหล่ยต้องทำแบบนี้ด้วย ดังนั้นจึงมีพนักงานไม่น้อยที่สนิทกับผู้หญิงและผู้ชายคนนั้นพูดคุยกันด้วยความไม่พอใจ
เซี่ยเหล่ยใช้ฝ่ามือตบไปที่โต๊ะของห้องประชุมก่อนจะชี้ไปที่พนักงานทั้งสองพร้อมกับพูดด้วยความโกรธออกไปว่า ผมปฏิบัติต่อพวกคุณดีทุกอย่างแต่คุณกลับตอบแทนผมด้วยการเป็นสายสืบอย่างนั้นเหรอ? ผมจะบอกอะไรให้คุณรู้ไว้อย่างหนึ่งนะ สิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้คือการขายความลับระดับประเทศ! แน่นอนว่าการทำแบบนี้คุกกำลังรอพวกคุณอยู่! พูดจบก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสริมว่า ลู่เชิง ยึดมือถือของผู้ชายคนนั้นไว้ นอกจากนี้ก็ยึดกล้องรูเข็มที่ผู้หญิงคนนั้นด้วย มันคือหลักฐานมัดตัวพวกเขา
ลู่เชิงทำตามที่เซี่ยเหล่ยสั่งอย่างเคร่งครัด เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์จากผู้ชายคนนั้นพร้อมกับหยิบกล้องรูเข็มจากผู้หญิงไปวางไว้ด้านหน้าของเซี่ยเหล่ย
ทั้งห้องประชุมเงียบเสียงลงทันที ไม่มีใครพูดอะไรกับใครเลยแน่นอนว่าทุกๆคนจะไม่พอใจถ้าเซี่ยเหล่ยทำเรื่องแบบนี้โดยไร้ความหมาย แต่ในกรณีนี้แบบนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เซี่ยเหล่ยสามารถจับสายสืบได้ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิที่จะทำแบบนี้ นอกจากนี้ยังสามารถจับได้คาหนังคาเขาอีกด้วย
เซี่ยเหล่ยเล่นเสียงที่ถูกบันทึกในโทรศัพท์ของชายคนนั้น พร้อมกับแสดงภาพจากกล้องรูเข็มให้พนักงานคนอื่นๆที่เข้าร่วมประชุมได้ประจักษ์แก่สายตาตัวเอง!
ในเวลานี้ไม่มีใครสงสัยการกระทำของเซี่ยเหล่ยอีกต่อไป
เอาล่ะ ผมจะจัดการกับสายลับทั้งสองคนนี้เอง เราไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงพวกเขาอีกต่อไปแล้ว เรามาเริ่มการประชุมกันต่อกันต่อดีกว่า เซียเหล่ยพูดเปลี่ยนหัวข้อเพื่อเริ่มการอภิปรายอีกครั้ง
การประชุมดำเนินต่อไปอีกเป็นชั่วโมงเพราะเซี่ยเหล่ยต้องอธิบายและกระจายภาระงานออกไปให้แต่ละแผนก
หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง เซี่ยเหล่ยได้ประกาศอีกครั้งเพื่อจบการประชุมว่า นับจากนี้ไป มันจะดีที่สุดถ้าทุกคนทำงานอยู่แต่ในโรงงาน ผมต้องพวกคุณทำงานล่วงเวลาเพื่อผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมที่มากพอสำหรับการจัดแสดงอาวุธ นอกจากนี้มันเป็นมาตรการป้องความลับหลุดออกไปภายนอกอีกด้วย ทั้งห้องประชุมส่งเสียงพึมพำกันอีกครั้งทันที
เซี่ยเหล่ยยกมือของเขาขึ้นมาเพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบก่อนที่จะพูดว่า มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยากและยาวนานมากถึง 20 วันสำหรับพวกคุณ แต่การทำงานหนักของคุณจะไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน ผมตัดสินใจจะให้โบนัสกับพวกคุณทุกคนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีค่าล่วงเวลาอีกด้วย
พนักงานเริ่มบ่นพึมพัมกันตอนที่เซี่ยเหล่ยยังไม่ยืนข้อเสนอเงินค่าล่วงเวลาและโบนัสให้กับพวกเขา แต่หลังจากที่เซี่ยเหล่ยพูดเรื่องนี้ออกไปพวกเขาก็ไม่ซุบซิบกันอีก ดูเหมือนพวกเขาจะพอใจและค่อนข้างจะมีกำลังใจในการทำงานเพิ่มมากขึ้น
การประชุมสิ้นสุดลง เซี่ยเหล่ยออกจากห้องประชุมและตรงไปที่แผนกรักษาความปลอดภัยทันที
ทันทีที่เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไป สายลับทั้งสองคนก็ก้มหน้าก้มตากันอย่างเดียว พวกเขาไม่กล้าที่จะสบตากับเซี่ยเหล่ยเลย
ผู้อำนวยการเซี่ย ผู้ชายคนนี้ชื่อ ‘หวู่บิง’ ส่วนผู้หญิงคนนี้ชื่อ ‘ฮู่ฮุย’ ผมได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นแล้วแต่พวกเขาก็ไม่พูดอะไร เราจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี? ลู่เชิงพูด
ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมมองไปที่หวู่บิงและฮู่ฮุยก่อนจะพูดต่อว่า อย่าคิดว่าบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนจะปกป้องพวกคุณได้ ผมจับพวกคุณได้คาหนังคาเขาพร้อมกับหลักฐานดังนั้นสิ่งที่พวกเขาจะทำกับพวกคุณคือไล่พวกคุณและไม่ต้อนรับพวกคุณ ตอนนี้ถ้าพวกเขารู้ว่าคุณโดนจับได้ พวกเขาจะไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผมจะจัดการอย่างไรกับพวกคุณ
หวู่บิงและฮู่ฮุยหันมามองหน้าซึ่งกันและกันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แต่… ผมยินดีที่จะให้โอกาสครั้งที่สองกับพวกคุณให้พวกคุณทำงานกับผมต่อไปได้ คุณไม่เพียงแต่จะรับเงินค่าจ้างจากบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนเท่านั้น แต่คุณจะยังได้รับค่าจ้างจากผมด้วย
ผู้อำนวยการเซี่ย ผม… หวู่บิงพูดด้วยความลังเลแต่แล้วก็ตัดสินใจพูดว่า ขอโอกาสให้ผมได้ทำงานกับคุณต่อนะ
ฮู่ฮุยก็พูดด้วยท่าทางกล้าๆกลัวว่า ผู้อำนวยการเซี่ย ฉันเองก็จะทำงานต่อกับคุณด้วย ฉัน… ฉันถูกบังคับให้ทำเรื่องนี้ ลูกของฉันกำลังป่วยและฉันต้องการเงินสำหรับการผ่าตัด นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องทรยศคุณ
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจก่อนจะพูดว่า ผมเข้าใจพวกคุณทั้งสองคนนะ ไม่ว่าใครก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน เอาหล่ะ…ก่อนอื่นบอกผมมาว่าบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ใช่หรือไม่?
ผม…คนที่ติดต่อผมเป็นคนของบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่น หวู่บิงพูดก่อนจะพูดเสริมว่า เขาให้เงินกับผม 100,000 หยวนในตอนแรกและเขาบอกว่าจะให้อีก 100,000 หยวนถ้าผมสืบข้อมูลมาให้พวกเขาได้
ฮู่ฮุยเองก็พูดขึ้นว่า คนที่ติดต่อฉันเป็นคนของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน เขาให้เงินกับฉัน 90,000 หยวน และพวกเขาจะให้มากกว่านี้ถ้าฉันสามารถสืบข้อมูลไปให้กับพวกเขาได้
หลังจากที่พวกเขาทั้งสองพูดจบ ลู่เชิงก็พูดด้วยความโกรธทันทีว่า พวกคุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับเศษขยะ! ผู้อำนวยการเซี่ยจ่ายเงินให้พวกคุณมากกว่าเงินที่พวกเขาให้พวกคุณซะด้วยซ้ำ แบบนี้แล้วคุณก็ยังกล้าทรยศอย่างนั้นเหรอ?
ฮู่ฮุยและหวู่บิงไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะต้องมาลงเอยแบบนี้ พวกเขาคิดว่าเพียงแค่รอเวลาและนำข้อมูลออกไปก็เพียงพอแล้วสำหรับภารกิจนี้
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า เอาหล่ะ ผมจะเอาข้อมูลให้คุณไปบอกกับบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตาสาหกรรมจีน คุณรับเงินมาจากพวกเขาตามปกติ ทำทุกอย่างเหมือนปกติให้เหมือนกับว่าพวกคุณสืบความลับมาจากผมได้ ทำตามนี้แล้วผมจะไม่ไล่พวกคุณออก พวกคุณคิดว่ายังไง?
ฮู่ฮุยและหวู่บิงหันมามองหน้ากันทันที พวกเขาไม่คิดว่าตัวเองจะโดนได้รับข้อเสนอแบบนี้จากเซี่ยเหล่ย
ลู่เชิงพูดขึ้นทันทีว่า ผู้อำนวยการเซี่ย คุณกำลังกำลังพูดอะไรอยู่รู้ตัวหรือเปล่า!
หวู่บิงรีบตอบด้วยเสียงที่สั่นกลัวว่า ผมจะทำตามที่คุณบอก คุณต้องการให้ผมส่งข้อมูลอะไรกลับไปให้บริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นอย่างนั้นเหรอผู้อำนวยการเซี่ย?
เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ผมมีให้คุณแน่นอน เซี่ยเหล่ยตอบ
ฉัน…ฉันก็จะทำด้วยเหมือนกัน ฮู่ฮุยพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเพราะกำลังกลัว
เซี่ยเหล่ยหันไปพูดกับลู่เชิงว่า พี่ลู่ เข้ามานี่หน่อย พูดจบลู่เชิงก็เดินเข้ามา จากนั้นเซี่ยเหล่ยก็กระซิบอะไรบางอย่างใส่หูของลู่เชิง
ลู่เชิงฟังพร้อมกับพยักหน้าก่อนจะพูดว่า ไม่ต้องกังวล ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง
เซี่ยเหล่ยหันไปพูดกับสายลับทั้งสองว่า จำเอาไว้ว่า พวกคุณเหลือแค่เพียงโอกาสเดียวเท่านั้น ถ้าทำอะไรตุกติกขึ้นมา ผมส่งพวกคุณเข้าคุกทันที
ฮู่ฮุยคุกเข่าลงกับพื้น เธอร้องไห้พร้อมกับพูดว่า ฉันจะไม่ทำอะไรโง่ๆอีก ฉันจะทำตามที่คุณสั่งอย่างไม่มีข้อแม้
หวู่บิงไม่ได้พูดอะไรแต่เขาก็คุกเข่าต่อหน้าเซี่ยเหล่ยเช่นกัน
เซี่ยเหล่ยคิดในใจว่า ‘มู๋เจียนเฟิง เย่คุน พวกคุณต้องการล้วงความลับจากโรงงานของเราใช่มั้ย? ได้เลย…ผมจะเป็นคนส่งมันให้กับพวกคุณเอง