Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 485 ลูกไก่ในกำมือ
เย่เสี่ยวฉีปรากฏตัวขึ้นที่ลานจอดรถใต้ดินตอน 17:10 น. เธอกดรีโมทคอนโทรลก่อนที่รถ BMW 510li สีเชมเปญจะส่งเสียงพร้อมไฟกระพริบ เธอเดินตรงไปที่รถด้วยขาเรียวระหงและเตรียมตัวขับรถกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
‘ไม่มีการเลื่อนขั้นแถมรางวัลยังแค่ 50,000 เอง! ไปตายเถอะ เย่คุน!’ เย่เสี่ยวฉียังคงสาปส่งเขาอยู่
แต่เมื่อมาถึงรถแล้วเธอก็หยุดยืนนิ่ง เพราะรถ Ferrari FF สีแดง 4 ที่นั่งที่จอดอยู่ข้างๆรถเธอ
BMW เองก็เป็นแบรนด์รถที่มีชื่อเสียง แต่ 520li ของเธอก็คงเป็นแค่สกู๊ตเตอร์ถ้าเทียบกับ Ferrari FF นั่น ราคารถทั้งคันของเธอคงเท่ากับแค่ราคายางเส้นหนึ่งของ Ferrari เท่านั้น
‘คงจะดีถ้าเรามีแบบนี้สักคัน’ เย่เสี่ยวฉีอดวาดฝันถึงการขับรถแบบ Ferrari FF ไม่ได้
แต่จู่ๆรถคันหรูก็ค่อยๆลดกระจกลง เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลากำลังมองออกมา และส่งยิ้มให้เย่เสี่ยวฉี
คุณคาโต้ ทากาสุเกะ นี่คุณ… เธอยกมือปิดปาก รู้สึกตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก
เซี่ยเหล่ยยิ้มรับ เราเจอกันอีกแล้วนะครับ คุณเย่
เย่เสี่ยวฉียกยิ้มพราว คุณคาโต้ ทากาสุเกะ ทำไมไม่โทรมาหาฉันล่ะคะ? เราตกลงกันแล้วนี่? ฉันรอสายคุณทั้งบ่ายเลยนะ
เซี่ยเหล่ยตอบด้วยน้ำเสียงเปี่ยมเสน่ห์ ผมว่าแทนที่จะโทรหา ถ้ามารอคุณเลิกงานคงจะดูจริงใจกว่านะครับ ผมจ่ายค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆให้รปภ.แล้วเขาก็พาผมมาที่นี่ ผมเลยรอคุณอยู่ตรงนี้ไงครับ
ไม่ค่ะ ไม่ เย่เสี่ยวฉีตอบเสียงอ้อนแอ้น ฉันรอคุณโทรมาทั้งบ่ายเลยแต่คุณก็ไม่โทร ตอนนี้ฉันอยากให้คุณไปกันฉันหน่อย ไม่มีปัญหาครับ ขึ้นรถเลย ผมจะพาคุณไปทานข้าว แล้วเราค่อยคุยกันว่าผมจะชดเชยยังไงดี ตกลงมั้ยครับ? เซี่ยเหล่ยเอื้อมมือไปเปิดประตู Ferrari ให้เย่เสี่ยวฉี
เธอหันไปมอง BMW 520li ของตัวเองก่อนจะกลับมามองที่ Ferrari FF ของเซี่ยเหล่ย เธอลังเลอยู่เพียงวินาทีหนึ่งแล้วจึงขึ้นรถเซี่ยเหล่ยไป
เมื่อเสียงรถ Ferrari FF ดังกระหึ่มขึ้นมา เซี่ยเหล่ยก็เริ่มขับออกไปจากลานจอดรถ ทั้งสองคนเคลื่อนตัวเข้าสู่เส้นถนนแน่นขนัด ไม่นานตึกบริเวณก็ค่อยๆหายไปจากสายตา ความคิดของเย่เสี่ยวฉีเองก็ไปไกลจากตึกนั่นแล้วเช่นกัน เธอกำลังวาดฝันไว้เต็มห้วงความคิด ใครจะสนเรื่องการเลื่อนตำแหน่งกับรางวัลกันล่ะ? การจับปลาตัวใหญ่อย่างคาโต้ ทากาสุเกะนี่สิสำคัญกว่า!
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป Ferrari FF คันหรูก็มาถึงโรงแรมฮิลตัน เซี่ยเหล่ยยืนกุญแจให้กับพนักงานแล้วจึงนำทางเย่เสี่ยวฉีเข้าไปในโรงแรม มุ่งหน้าไปยังห้องอาหารด้านใน
เซี่ยเหล่ยสั่งฟัวกราส์และทรัฟเฟิลฝรั่งเศส คู่กับสเต็กและไวน์แดงฝรั่งเศสนั่นทำให้เขาดูราวกับอยู่ในฝรั่งเศสและกำลังทานอาหารฝรั่งเศสอยู่จริงๆ
เย่เสี่ยวฉีจ้องมองเมนูที่บริกรนำมาให้แล้วถึงกับนิ่งอึ้ง อาหารพวกนี้ราคาอย่างต่ำคือหลักหมื่น แม้เธอจะไม่ใช่คนในชนบททั้งยังทำเงินได้หลายหมื่นต่อปี แต่เธอก็คงไม่กล้ามากินมื้อเย็นที่ภัตตาคารหรูระดับนี้อยู่ดี
เซี่ยเหล่ยไม่แม้จะมองอาหารและไวน์บนโต๊ะเลย เขาเพียงแต่เท้าคางและมองเย่เสี่ยวฉีเงียบๆ สายตาเขาดูอ่อนโยน เต็มไปด้วยความรู้สึกและเจือความเศร้าไว้เล็กน้อย
ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าสายตาแบบนั้นแล้ว
คุณคาโต้ ทากาสุเกะ คุณ… ทำไมมองฉันอย่างนั้นล่ะคะ? เย่เสี่ยวฉีรู้สึกดีใจแต่ก็ต้องสวมหน้ากากความเขินอายไว้ก่อน เซี่ยเหล่ยก็พลันได้สติและรีบกลับมานั่งตัวตรง เขาค้อมศีรษะเป็นการขอโทษ ผมต้องขอโทษจริงๆที่ทำให้คุณลำบากใจนะครับ คุณเย่
เย่เสี่ยวฉียกยิ้ม นี่คนญี่ปุ่นสุภาพแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่าคะ คุณคาโต้?
ไม่ทุกคนหรอกครับ ก็มีคนที่หยาบคายอยู่บ้าง เซี่ยเหล่ยตอบ
งั้นคุณก็เป็นข้อยกเว้นใช่มั้ยคะ?
เขาหัวเราะ ผมได้นิสัยจากแม่มาเยอะน่ะครับ แม่สอนเรื่องศีลธรรมให้ผมตั้งแต่เด็กๆ สอนให้ผมเป็นคนสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตนและอ่อนโยนกับผู้หญิงครับ
แม่ของคุณเนี่ยเป็นคนที่วิเศษมากเลยนะคะ
เธอคงมีความสุขมากแน่ๆถ้าเธอได้มาเจอคุณ เซี่ยเหล่ยพูดต่อ
เจอแม่คุณเหรอคะ? เย่เสี่ยวฉีลังเลเล็กน้อย นี่มัน… คือเรา… เซี่ยเหล่ยพูดอย่างนุ่มนวล คุณสองคนดูคล้ายกันมากเลยล่ะครับ ถ้าแม่ผมได้มาเจอคุณ เธอต้องคิดว่าคุณคือเคียวกะ มินาโกะแน่ๆ
ฉันไม่อยากเป็นตัวแทนใครเลยค่ะ เย่เสี่ยวฉีพูดเบาๆ
ไม่ คุณไม่ใช่ตัวแทนของมินาโกะนะครับ เซี่ยเหล่ยกล่าว ช่วงสองปีมานี้ผมไม่มีความสุขเลยก็จริง แต่ในที่สุดผมก็หาทางจัดการกับความเศร้าเพราะการจากไปของมินาโกะได้แล้ว คุณรู้มั้ยครับว่าผมรู้สึกราวกับมีความอบอุ่นแผ่ซ่านในตัวผมตอนที่เห็นคุณตรงประตูคาเฟ่วันนี้? คุณเหมือนมินาโกะมากก็จริงแต่คุณไม่ใช่เธอและผมก็จะไม่มองคุณเป็นตัวแทนเธอด้วย คุณก็คือคุณครับ คุณเย่ เชื่อผมเถอะนะครับ ผม…
ในใจคนฟังตอนนี้เต็มไปด้วยความกังวลตื่นเต้นและความสุข เย่เสี่ยวฉีพูดขึ้นอย่างคาดหวัง คุณพยายามจะบอกอะไรคะเนี่ย?
ผม… เซี่ยเหล่ยลังเลก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมา ผมชอบคุณครับ ชอบตั้งแต่ตอนที่ได้เจอคุณ คุณเย่ได้โปรดคบกับผมเถอะนะครับ
หา? เพียงได้ฟังเย่เสี่ยวฉีก็ทำอะไรไม่ถูก
ผมรู้ว่ามันกะทันหันเกินไปหน่อยแต่ผมต้านทานเสน่ห์และแรงดึงดูดของคุณไม่ไหว เซี่ยเหล่ยจ้องมองเธอ ได้โปรดตอบตกลงเถอะครับ คุณเย่ ผมจะเป็นแฟนที่ดีของคุณ และผมจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเลย
คุณคาโต้ ฉัน… เรา… นี่มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอคะเนี่ย? เธอตอบออกไปแม้ว่าในใจจะตะโกนว่าตกลงอยู่ก็ตาม
คุณเย่ ความรักเป็นสิ่งสากลและไม่ต้องการเวลานะครับได้โปรดเชื่อใจผม การที่เราพบกันเป็นเพราะโชคชะตาขีดไว้ คุณคือผู้หญิงที่พรหมลิขิตส่งมาให้ผมแต่งงานด้วย และผมคือผู้ชายที่ถูกกำหนดมาเพื่อคู่กับคุณ เซี่ยเหล่ยโน้มน้าว ฉัน… เรา… เย่เสี่ยวฉียังคงแกล้งทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวต่อไป
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจ เรื่องนี้มันก็เร็วเกินไปจริงๆแหละครับ ผมจะให้เวลาคุณตัดสินใจสักหน่อย ระหว่างนั้นผมก็จะแสดงให้คุณเห็นไปด้วยว่าผมจริงใจแค่ไหน อืม มาดื่มกันเถอะครับ
เย่เสี่ยวฉีทั้งหยิกและบ่นตัวเองเงียบๆ ‘ทำไมเราต้องทำตัวเป็นสาวบริสุทธิ์ด้วยนะ? ชีวิตเราคงหาโอกาสดีๆแบบนี้รอบสองไม่ได้อีกแล้วแท้ๆ!’
เซี่ยเหล่ยรินไวน์แดงลงในแก้วทั้งสอง ส่งแก้วหนึ่งให้เย่เสี่ยวฉี ก่อนจะชนแก้วกับเธอ แด่อนาคตของเรา
เย่เสี่ยวฉีดื่มไวน์ของเธอจนหมดในครั้งเดียว
คุณทำธุรกิจแบบไหนในจีนเหรอคะ คุณคาโต้? เย่เสี่ยวฉีเริ่มถามถึงภูมิหลังของเขา ผมกำลังทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศครับ อืม ผมมาที่จีนคราวนี้ก็เพื่อซื้ออาวุธให้กับลูกค้าฝั่งตะวันออกกลางน่ะครับ อา จริงๆผมยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกบริษัทไหนดี บริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์ของจีนเองก็อยู่ในแวดวงนี้มานานแล้วแต่โรงงานทหารอาชาสายฟ้าก็ทำกระแสได้ดีเหมือนกัน ทางบริษัทเขาก็ทำได้ดีเลยโดยเฉพาะสไนเปอร์ไรเฟิล XL2500 ได้ยินมาว่านั่นเป็นสไนเปอร์ไรเฟิลที่ดีที่สุดในโลกเลยนะครับ
คุณเป็นพ่อค้าอาวุธเหรอคะ? เย่เสี่ยวฉีถามอย่างตกใจ
เซี่ยเหล่ยยิ้ม ไม่ใช่แค่อาวุธหรอกครับ แต่มีเพชรพลอยจากแอฟริกาใต้ น้ำมันจากอิรัก ผมทำทุกอย่างที่ได้เงินแหละครับ ผมแค่ยุ่งนิดหน่อย ต้องบินไปนู่นมานี่บ่อยเลยล่ะ มันคงจะดีมากแน่ๆถ้าได้คุณมาช่วย ผมคงผ่อนคลายได้มากขึ้นอีกหน่อย
เย่เสี่ยวฉีนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉันไม่คุ้นเคยกับธุรกิจอื่นๆเท่าไหร่นะคะ แต่การค้าอาวุธเนี่ยฉันถนัดเลย คุณอาจจะยังไม่รู้ แต่ฉันน่ะเป็นเลขาของเย่คุน ประธานบริษัท บริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์เองค่ะ
เอ๋? คุณเป็นเลขาของเย่คุนเหรอครับ? สีหน้าเซี่ยเหล่ยดูประหลาดใจก่อนจะยิ้มออกมา งั้นคุณก็ต้องช่วยผมได้แน่นอน คุณเลือกให้ผมได้มั้ยครับระหว่างบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์กับโรงงานทหารอาชาสายฟ้า? ลูกค้าจากตะวันออกกลางของผมจ่ายไม่อั้นอยู่แล้ว พวกเขาต้องการของที่ดีที่สุด
ฉันคงให้คำแนะนำเรื่องแบบนี้กับคุณทันทีไม่ได้หรอกค่ะ งั้นขอเวลาฉันหนึ่งวันได้มั้ยคะ? ฉันจะกลับไปคิดให้ดีแล้วค่อยให้คำตอบคุณทีหลัง เย่เสี่ยวฉีตอบ
ไม่มีปัญหาครับ เอาล่ะ มาดื่มกันอีกรอบดีกว่า เซี่ยเหล่ยยิ้มพลางรินไวน์เพิ่มให้เธอ แล้วจึงชนแก้วกันอีกครั้ง
เย่เสี่ยวฉีเริ่มเมาอย่างรวดเร็วไม่ใช่เพราะเธอคออ่อนแต่เพราะเซี่ยเหล่ยได้เพิ่มส่วนผสมพิเศษบางอย่างไว้ในไวน์ของเธอต่างหาก เซี่ยเหล่ยพาเธอไปยังห้อง royal suite สุดหรูของโรงแรมฮิลตันและวางตัวเธอลงบนที่นอน ห้องนี้กว้างจนน่าเหลือเชื่อด้วยพื้นที่กว่า 200 ตารางเมตร ทั้งหมดถูกตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิก ดูชั้นสูงและไฮโซหรูหรา
ฉันยังไม่เมานะ ยังดื่มได้อีก… เย่เสี่ยวฉีพึมพำ
เซี่ยเหล่ยดึงอุปกรณ์ดักฟังจากคอเสื้อของเธอออกมาแล้วใส่มันลงในกระเป๋าของเขา จากนั้นจึงสำรวจกระเป๋าถือและข้าวของต่างๆของเธอ โดยเฉพาะโทรศัพท์ เซี่ยเหล่ยถอดเอาเมมโมรี่การ์ดออกมาและคัดลอกข้อมูลใส่ลงโทรศัพท์ตัวเอง
เย่คุน ไอ้เลว… ไปลงนรกซะ! ฉันไปเอาแบบวาดมาให้แล้ว ต- แต่แกก็ไม่เลื่อนขั้นให้ ไม่เพิ่มเงินเดือนเลยด้วยซ้ำ! ฉันเกลียดแก! เย่เสี่ยวฉีพูดออกมาเพราะฤทธิ์เหล้า
เซี่ยเหล่ยปลดกระดุมเสื้อผ้าเธอออก ถอดกระโปรงรวมทั้งชุดชั้นในของเธอ นี่ไม่ใช่เพราะเขาหลงเธอแต่เพราะต้องการทำตามแผนที่วางเอาไว้
ไปซะ… อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ฉันอยากแต่งกับคุณนะคะ คุณคาโต้ของฉัน… เย่เสี่ยวฉีพึมพำต่อไป
แล้วผิวขาวราวกับหิมะก็ปรากฏให้เห็นแก่สายตาเซี่ยเหล่ย เนินอกสวยงาม หน้าท้องแบนเรียบ ต้นขาขาวเนียนและ… เธอทั้งยังสาว สวย มีร่างกายเป็นผู้ใหญ่และเซ็กซี่มาก เธอคือภาพของผู้หญิงที่ผู้ชายส่วนใหญ่วาดฝันถึงและเต็มใจจะนอนกับเธอ ไม่ว่าเธอจะมีแรงจูงใจอะไรก็ตาม
แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหล่ยก็เลือกทำให้สิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ทำ
เซี่ยเหล่ยหยิบของเล่นออกมาจากกระเป๋าของเขาและพูดอย่างจริงจังกับตัวเอง ‘เทียนหยิน ผมไม่ได้หลงผิดนะ แต่นี่ก็เพื่อโรงงานทหารอาชาสายฟ้า’
ของเล่นเริ่มส่งเสียง เซี่ยเหล่ยนั่งลงที่เตียงขมวดคิ้วมองเย่เสี่ยวฉีที่เริ่มบิดเร้าไปมา เมื่อของเล่นนั่นเริ่มหลวมมากขึ้น เซี่ยเหล่ยก็เอื้อมมือไปจับมันให้มั่นคงและประคองสถานการณ์ให้แน่ใจว่าของเล่นชิ้นนั้นจะทำงานได้ปกติดี
คาโต้ คาโต้ของฉัน… คุณคือทุกอย่างของฉันเลยค่ะ… เย่เสี่ยวฉีร้องออกมาราวกับพร่ำเพ้อ
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจ ‘ผมไม่ได้หลงผิดไปนะ หยูยี่ ผมทำไปก็เพราะ… เดี๋ยว ทำไมเราต้องขอโทษหยูยี่ด้วยล่ะ? เธอคงไม่คิดอะไรหรอกถ้าเราจะทำเรื่องแบบนี้ เธอนอนกับเราลับหลังเทียนหยิน เพราะงั้นเธอคงไม่เป็นไรหรอกนะถ้าเราจะนอนกับคนอื่นนอกจากเธอกับเทียนหยินจริงมั้ย?’
ความคิดที่ว่างเปล่าไร้ความหมายนั่นวนเวียนอยู่ในหัวเขา จะเฉินตูเทียนหยินหรือเจียงหยูยี่ก็ไม่มีทางได้ยินเขาอยู่แล้ว แต่ถ้าพวกเธอได้ยินจริงๆ ชีวิตเซี่ยเหล่ยก็คงไม่มีวันได้พบกับความสงบสุขอีกเลย