Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 507 พูดคุย ?
บริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนได้ทำการสนับสนุนโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ย เรื่องนี้ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเรื่องการร่วมมือระหว่างพวกเขาทั้งสามบริษัทนี้แทบจะไม่มีใครรู้ เพราะมันเป็นสัญญาลับ
การส่งชิ้นส่วนจำนวนมากจากบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนที่ได้ทำข้อตกลงไว้นั้นเมื่อมาถึงโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ย เขาจำเป็นจะต้องทำการทดสอบคุณภาพของชิ้นส่วนเหล่านั้นอีกครั้งหนึ่งก่อนจะนำไปใช้ประกอบ
ด้วยการสนับสนุนชิ้นส่วนจากบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นและกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนทำให้ความเร็วของการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม Gust เป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น
ยิ่งความเร็วในการผลิตมากขึ้นเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งเคลียคำสั่งซื้อภายในประเทศได้เร็วเท่านั้น ซึ่งมันส่งผลโดยตรงต่อคำสั่งซื้อจำนวนมากจากต่างประเทศ พวกเขาจะทำการเคลียร์ยอดสั่งซื้อได้ทั้งหมดในเวลาที่สั้นลงมาก
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะได้ประโยชน์อย่างมากจากเรื่องนี้แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกสบายใจมากนักเพราะเขาจะเป็นจะต้องทำงานร่วมกับเย่คุนและมู๋เจียนเฟิงในระยะยาว
เนื่องจากสิ้นช่วนล็อตแรกที่ได้รับนั้น เซี่ยเหล่ยจะได้มาในราคาที่ถูก มันจะทำให้เขาได้กำไรมากขึ้นซึ่งกำไรในส่วนนี้จะส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาสายการผลิต การคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่รวมไปถึงโบนัสให้กับพนักงานทุกคนด้วย
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เซี่ยเหล่ยก็ยังไม่ได้หยุดพักอยู่ดีเพราะเขายังมีภารกิจสำคัญที่จะต้องทำอยู่นั่นก็คือการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น บนรถจิ๊ป…
พวกเราจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ คุณเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วหรือยัง? หลงบิงพูดด้วยท่าทางที่เย็นชาและเยือกเย็นเช่นเคย
ผมได้เตรียมทุกอย่างที่จำเป็นไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วคุณหล่ะ? เซี่ยเหล่ยพูด
ฉันทำเอกสารปลอมด้วยหน้ากากซิลิโคนที่คุณมอบให้ฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันชื่อโอกะ มิกะ อายุ 25 ปี ฉันมาจากฮอกไกโดและฉันเป็นแฟนสาวในวัยเด็กของคุณ นี่คือข้อมูลของฉัน คาโตะ ทาคาซึเกะ หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะพูดว่า ไม่จำเป็นต้องท่องทั้งหมดหรอกนะ คุณเพียงแค่จำเท่าที่จำเป็นก็เพียงพอแล้ว
โดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่ของสำนักงานลับ101 จำเป็นจะต้องจดจำข้อมูลภูมิหลังของตัวเองที่สร้างขึ้นมาให้ได้ทั้งหมดก่อนที่จะไปปฏิบัติภารกิจจริง นี่คือพื้นฐานของการปฏิบัติภารกิจที่ต้องปลอมตัว หลงบิงพูดก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วก็พูดต่อว่า อ้อใช่อย่าให้เฉินตูเทียนหยินรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของข้อมูลนี้หล่ะ มันอาจจะทำให้เธอเข้าใจผิดและไม่พอใจได้
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดว่า คุณคิดว่าผมจะบอกเธออย่างนั้นเหรอ?
หลงบิงมองไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า คุณหมายความว่า…คุณไม่ได้บอกอะไรเธอเลยงั้นเหรอ?
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
เขาไม่ใช่คนที่กลัวภรรยาแต่เขาเป็นผู้ชายที่รักเคารพและให้เกียรติภรรยาของเขา เขาไม่ต้องการให้เธอเสียใจ เขาไม่ต้องการให้เธอคิดมากดังนั้นบางเรื่องเขาจึงไม่เล่าให้เธอฟัง
อ้อใช่ ปืนไรเฟิลซุ่มยิง XL2500 และปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ของพวกเราได้ถูกส่งไปยังประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเราข้ามชายแดนไปจะมีคนนำพวกมันมาส่งให้กับเรา หลงบิงพูด เซี่ยเหล่ยถอนหายใจก่อนจะพูดว่า อันที่จริงผมไม่อยากให้เราต้องใช้ปืนในภารกิจนี้เลย ที่นั่นไม่ใช่เยรูซาเล็มและไม่ใช่ประเทศอัฟกานิสถาน มันจึงค่อนข้างปลอดภัยในระดับหนึ่งสำหรับพวกเราที่ได้ปลอมตัวตนใหม่ขึ้นมา เว้นแต่ว่าจะมีซีไอเอหรือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอยู่ที่นั่นด้วย
นี่คุณคงไม่ได้ลืมกู๋เค่อเหวินไปแล้วใชั่มั้ย? หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยชะงักไปครู่หนึ่งพร้อมกับขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อนี้
เพราะภัยอันตรายที่ใหญ่ที่สุดในภารกิจนี้สำหรับเขาคือกู๋เค่อเหวิน
หลงบิงพูดอย่างเรียบง่ายว่า ฉันไม่มีความรู้สึกเป็นมิตรกับประเทศญี่ปุ่นเลย หากจำเป็นจะต้องต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของที่นั่น ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเขารอดไปได้อย่างแน่นอน ฉันจะจัดการกับทั้งเจ้าหน้าที่ซีไอเอ กู๋เค่อเหวิน กู๋เค่อหวู่และเจ้าหน้าที่ทุกๆคนที่ขวางหน้า
หลงบิงก็คือหลงบิง นักฆ่าสาวที่เยือกเย็นของสำนักงานลับ101 คำพูดของเธอนั้นดูเยือกเย็นอย่างมาก
เซี่ยเหล่ยไม่พูดอะไรเลย เขาพยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้น เขาเข้าใจทุกอย่างที่หลงบิงพูด เนื่องจากประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันซักเท่าไหร่ สืบเนื่องมาจากเรื่องราวในสมัยสงครามโลกที่ประเทศญี่ปุ่นได้ทำกับประเทศจีนเอาไว้ดังนั้นถ้าต้องฆ่า เธอจะไม่ลังเลเด็ดขาด เซี่ยเหล่ยเองก็จะทำแบบนั้นเช่นกัน
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา รถจี๊ปก็เดินทางมาถึงคุกหลงบิงแสดงเอกสารประจำตัวของเธอให้กับเจ้าหน้าที่รักษาประตูตรวจสอบ ไม่นานรถจิ๊ปก็ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าไป
ภายใต้การต้อนรับของผู้คุมเรือนจำ เขาได้นำหลงบิงและเซี่ยเหล่ยเดินไปยังห้องขังที่พวกเขาต้องการ
ไม่กี่นาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึงห้องขังห้องหนึ่ง ผู้คุมเปิดประตูห้องขังห้องนี้และเปิดทางให้หลงบิงและเซี่ยเหล่ยได้เข้าไป เซี่ยเหล่ยผลักประตูเข้าไปก็พบว่ากู๋เค่อหวู่นั่งอยู่ที่นั่น เสียงประตูทำให้พวกเขาหันหน้ามาสบตากัน
คุณ… กู๋เค่อหวู่พูดพร้อมกับยืนขึ้นก่อนจะแสดงท่าทางประหลาดใจและพูดต่อว่า คุณมาทำอะไรที่นี่…เซียเหล่ย?
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดเยาะเย้ยว่า ไม่เจอกันนานเลยนะกู๋เค่อหวู่ ดูเหมือนคุณจะอ้วนขึ้นนิดนึงนะ
การแสดงออกของกู๋เค่อหวู่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาเกลียดชังเซี่ยเหล่ยอย่างมาก ยิ่งเขาได้ยินคำพูดเยาะเย้ยจากปากของเซี่ยเหล่ยแล้ว ความโกรธแค้นและเกลียดชังยิ่งทวีคูณเพิ่มเข้าไปอีก
หากเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงจะต่อปากต่อคำเซี่ยเหล่ยกลับไปในทันทีแต่กู๋เค่อหวู่ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เขาดูเจียมตัวมากขึ้น อาจเป็นเพราะการที่เขาติดคุกมานานทำให้ความเย่อหยิ่งและทนงตนในตัวเองสูญหายไป หลงบิงโผล่หัวเข้ามาในห้องขังก่อนจะพูดขึ้นว่า คุณพูดกับเขาไปนะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก
โอเค เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับพยักหน้าแต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ละสายตาไปจากกู๋เค่อหวู่เลย
ขณะที่หลงบิงโผล่หน้าเข้ามา กู๋เค่อหวู่ก็หันไปมองเธอเช่นกัน เขาชะงักไปครู่หนึ่งด้วยความกลัวก่อนจะพูดขึ้นว่า พวกคุณมาที่นี่ทำไม พวกคุณต้องการอะไร?
ไม่เจอกันตั้งนาน ดูเหมือนความเย่อหยิงและทนงตนของคุณจะหายมากเลยนะหลังจากที่มาอยู่ในคุก เซี่ยเหล่ยพูด
กู๋เค่อหวู่กัดริมฝีปากด้วยความเกลียดชัง แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป
เอาหล่ะ เรามานั่งลงก่อนดีกว่า ผมมีอะไรจะพูดกับคุณ เซี่ยเหล่ยพูด
กู๋เค่อหวู่ไม่ได้นั่งลง เขาหัวเราะก่อนจะพูดว่า พูดงั้นเหรอ ดูเหมือนว่าไม่น่าจะใช่นะคุณมาเพื่ออะไรกันแน่เพื่อหัวเราะเยาะผมงั้นเหรอ เอาสิ…เอาเลย ถ้าเสร็จแล้วก็ออกไปได้แล้ว
ผมบอกแล้วไงว่ามีเรื่องจะพูดกับคุณ เซี่ยเหล่ยพูด
พอได้แล้ว! กู๋เค่อหวู่พูดเพราะไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว เขาพูดด้วยความโกรธต่อว่า คุณต้องการอะไรกันแน่เซี่ยเหล่ย? คุณต้องการจะทำร้ายผมงั้นเหรอ? เอาสิ…ผมอยู่ตรงนี้! มาเลย! รออะไรอยู่!
ขณะนี้เซี่ยเหล่ยตระหนักได้เรื่องหนึ่งนั่นคือสภาพของกู๋เค่อหวู่นั้นน่าสงสารมากจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้นึกเห็นใจกู๋เค่อหวู่เลย
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจก่อนจะตะคอกว่า นั่งลงซะ!
กู๋เค่อหวู่ยอมนั่งลงในที่สุดเป็นจังหวะเดียวกับที่เขากำลังเดาว่าเซี่ยเหล่ยมาพบเขาทำไมกันแน่ ผมกำลังจะบอกคุณว่า… เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า คุณกำลังจะได้รับอิสรภาพ
ว่าไงนะ? กู๋เค่อหวู่พูดพร้อมกับแสดงท่าทางไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งจะได้ยิน
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณกู๋เค่อเหวินนะ…น้องสาวของคุณ อ้อใช่ ตอนนี้เธอกลายเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอแล้วด้วย เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับเฝ้าดูปฏิกิริยาตอบสนองของเขาหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้
กู๋เค่อหวู่ไม่ได้แสดงท่าทีว่าตกใจมากมายอะไร นอกจากนี้เขาก็ยังไม่สบตาเซี่ยเหล่ยอีกด้วย
เซี่ยเหล่ยตระหนักได้ทันทีว่า ‘เขาจะรู้อยู่แล้วสินะว่าน้องสาวของเขาทรยศต่อประเทศและกลายเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ดูเหมือนพวกเขาก็ยังไม่ได้หมดสิ้นซึ่งอำนาจไปซะทีเดียวสินะ’
ผมไม่เชื่อคุณ น้องสาวของผมเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา เธอจะเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอไปได้ยังไง? เซี่ยเหล่ย ผมว่าคุณจะเสียเวลาเปล่านะ ถ้าจะมาสืบข้อมูลเกี่ยวกับน้องสาวของผมเพราะผมไม่รู้อะไรเลย กู๋เค่อหวู่พูด
เซี่ยเหล่ยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า มันไม่สำคัญว่าคุณจะรู้หรือไม่ ผมมาที่นี่เพื่อบอกกคุณว่าผมจะไปประเทศญี่ปุ่นในอีกสองวัน และผมจะส่งคุณคืนให้กับน้องสาวของคุณที่นั่น
นี่… กู๋เค่อหวู่พูดพร้อมแสดงท่าทางชะงักไป
เซี่ยเหล่ยพูดเยาะเย้ยว่า หยุดเสแสร้งได้แล้ว คุณแสดงไม่เนียนเลย ผมรู้ว่าคุณรู้ทุกอย่างอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องแสดงปฏิกิริยาเห่ยๆแบบนั้นหรอกนะ มันไร้ประโยชน์ ผมไม่ได้มาเพื่อจะสืบข้อมูลจากคุณ
กู๋เค่อหวู่แสดงสีหน้าประหลาดใจทันที เขาจ้องหน้าเซี่ยเหล่ยอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า ผมจะไปประเทศญี่ปุ่นกับคุณ
ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ากู๋เค่อหวู่ เขายื่นมือออกไปจับไหล่ของกู๋เค่อหวู่ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า ก่อนอื่น ผมจะเตือนอะไรคุณหน่อยก็แล้วกันนะ อย่าคิดวิ่งหนีหรือเปิดเผยตัวตนของผู้ที่เกี่ยวข้องเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นความตายจะเป็นสิ่งเดียวที่คุณจะได้เจอ เข้าใจนะ?
กู๋เค่อหวู่เงียบและไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
เข้าใจใช่ไหม? เซี่ยเหล่ยถามซ้ำพร้อมกับบีบไหล่แรงขึ้น
อ๊ากก กู๋เค่อหวู่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บ
ผมจะถามครั้งสุดท้าย คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม! เซี่ยเหล่ยถามซ้ำอีกครั้ง
โอเค! โอเค! ผมเข้าใจ! กู๋เค่อหวู่รีบพูดทันที
เซี่ยเหล่ยปล่อยเขาก่อนจะพูดอย่างเย็นชาต่อว่า เป็นเรื่องดีที่คุณเข้าใจแล้วและหวังว่าคุณจะเข้าใจมันจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อยากจะเตือนอะไรเอาไว้อีกซักข้อ เนื่องจากตัวตนของน้องสาวคุณทำให้ผมมีสิทธิที่จะฆ่าคุณเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะงั้น…อย่าทำอะไรที่ไม่ควรทำและจงทำแต่สิ่งที่ควรทำ คุณเป็นคนฉลาด จำเอาไว้ให้ดีหล่ะ
ผู้ชายคนนี้เคยเป็นคู่ปรับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาแต่ตอนนี้เขากลับเป็นเพียงแค่คนจนที่น่าสงสารคนหนึ่งเท่านั้น….