Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - 517 เตรียมพร้อมรบ
หัวใจแห่งโอะชิโนะเป็นโรงแรมขนาดเล็กที่อยู่ตรงเชิงเขาของภูเขาฟูจิในเวลานี้คือตอนกลางคืน แม้ว่าจะมืดแล้วแต่ก็ยังสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ มันพิเศษมากหิมะตรงยอดเขาส่องแสงระยิบระยิบเมื่อกระทบกับแสงของดวงจันทร์ ให้ความรู้สึกว่าภูเขาไฟฟูจิสวยงามมากยิ่งขึ้น
รถมิตซูบิชิขับไปที่รอบรอบนอกของหัวใจแห่งโอะชิโนะและหยุดลง เซี่ยเหล่ยแอบสังเกตโดยรอบจากระยะไกลเพราะถึงแม้ว่าที่นี่จะสวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่มันไม่ใช่สำหรับเขา ดังนั้นเขาต้องระวังตัวให้มากเป็นพิเศษ มันอันตรายมาก
ตอนนี้เราก็ถึงแล้ว ทีนี้คุณจะบอกผมได้หรือยัง? เซี่ยเหล่ยหันไปพูดกับหลงบิงที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังก่อนจะพูดต่อว่า คุณจะบอกแผนการจริงๆของคุณได้หรือยัง?
ฉันไม่ได้บอกแผนของฉันให้คุณฟังไปแล้วงั้นเหรอ? ฉันก็บอกแล้วนี่ว่าให้เราหาโรงแรมที่มีบ่อน้ำร้อนและพักผ่อนที่นั่นคืนนึง หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยมองไปที่หลงบิงด้วยสายตาที่ขึงขังก่อนจะพูดว่า หยุดพูดเล่นได้แล้ว ตอนนี้ไม่ใช้เวลาที่จะมาเล่นตลกหรอกนะ
หลงบิงชี้ไปที่โรงแรมเล็กๆใกล้กับทางเข้าของหมู่บ้านก่อนจะพูดว่า ที่นั่นดูดีพอใช้ เราพักนั่นกันเถอะ
เซี่ยเหล่ยถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินที่เธอพูด
หลงบิงวางมือบนไหล่ของเซี่ยเหล่ยก่อนจะบีบเบาๆพร้อมกับพูดว่า ฉันไม่ต้องการให้คุณเสี่ยงอันตรายถ้าไม่จำเป็น เรื่องนี้ก็เช่นกัน คุณเป็นคนบอกฉันเองว่ามีความเป็นไปได้สูงว่ากู๋เค่อเหวินอาจจะใช้พี่ชายของเธอเป็นเหยื่อล่อเพื่อล่อให้คุณมาที่ประเทศญี่ปุ่น ฉันรู้ว่าคุณเก่งแค่ไหนและก็รู้ว่ายังไงซะกู๋เค่อเหวินก็สู้กับคุณไม่ได้ ซึ่งฉันคิดว่าเธอเองก็รู้ในจุดๆนี้ ดังนั้นคุณไม่คิดว่าเธอจะเตรียมผู้ที่แข็งแกร่งไว้รอคุณหรือเตรียมกับดักชั้นยอดไว้รอคุณอย่างนั้นเหรอ? ฉันกำลังจะบอกว่าคุณอย่าเพิ่งผลีผลามรอดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง เราไม่ควรตามเกมของเธอตลอดเวลา
เอาล่ะ ผมเชื่อคุณ เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมออกรถอีกครั้งเพื่อไปที่โรงแรมที่อยู่ตรงทางเข้าของหัวใจแห่งโอะชิโนะ
ขณะเดียวกันกู๋เค่อหวู่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะมองออกไปข้างนอกหน้าต่างพร้อมกับพูดว่า พวกคุณจะพาผมไปที่ไหน?
ไปหาน้องสาวของคุณไง เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า รู้สึกดีมั้ยหล่ะที่ได้ยินแบบนี้?
ว่าไงนะ รู้สึกดีงั้นเหรอ? กู๋เค่อหวู่พูดด้วยความโกรธก่อนจะพูดต่อว่า ดูที่หัวผมสิ! คุณทุบท้ายทอยผมไปกี่ครั้งแล้ว ผมยังรู้สึก…
ปั๊ก! กู๋เค่อหวู่ยังพูดไม่ทันจบก็โดนสันมือของหลงบิงทุบเข้าที่ท้ายทอยอีกครั้ง เขาค่อยๆสลบไปอย่างช้าๆพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากท้ายทอยเล็กน้อย
เขาจะตายก่อนหรือเปล่าหน่ะ? เซี่ยเหล่ยพูดอย่างกังวล
หลงบิงพูดอย่างไม่แยแสว่า ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะตายก่อนมั้ยหรอกนะ เพราะความปลอดภัยของเราสำคัญที่สุด พวกเรามีหน้ากากแต่กู๋เค่อหวู่ไม่มีหากมีคนที่รู้จักเขาหรือคนของกู๋เค่อเหวินเห็นเขา มันจะเป็นอันตรายสำหรับเรา
งั้นคุณจะจัดการกับเขายังไง? เซี่ยเหล่ยถาม
หลงบิงหยิบเทปกาวม้วนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสะพายหลัง ก่อนจะใช้มันมัดมือและเท้าของกู๋เค่อหวู่เอาไว้ สุดท้ายแล้วก็แปะเทปกาวปิดปากเขาก่อนจะเปิดท้ายรถและขังเขาไว้ในนั้น
เซี่ยเหล่ยเห็นการกระทำของหลงบิงทั้งหมดแล้ว เขาไม่ได้ถามอะไรต่อ
ไม่กี่นาทีต่อมารถยนต์มิตซูบิชิก็เข้าจอดที่โรงแรมเล็กๆตรงทางเข้าของหมู่บ้าน เซี่ยเหล่ยและหลงบิงลงจากรถพร้อมกับหยิบกระเป๋าสัมภาระเดินเข้าไปที่โรงแรม ระหว่างทางที่เดินเข้าไปนั้นเซี่ยเหล่ยก็คอยมองรอบข้างตลอดเวลาเพื่อคอยสังเกตสถานการณ์
ขณะที่กำลังมองอยู่นั้นสายตาเขาก็ไปสะดุดเข้ากับรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ข้างทาง กระจกรอบคันของรถคันนั้นเป็นสีดำมืดสนิท เขารู้สึกแปลกใจทันที
ตาซ้ายของเซี่ยเหลียงกระตุกและน้อยพร้อมกับหน้าต่างของรถคันนั้นค่อยๆเลือนหายไปจากทัศนวิสัยการมองของเขา
เขาพบว่ามีชายสองคนนั่งอยู่ภายใน คนหนึ่งเป็นคนผิวขาวส่วนอีกคนหนึ่งเป็นคนผิวสี พวกเขาอายุประมาณ 30 ปี พวกเขามีร่างกายที่ดูแข็งแรงกำยำ ดวงตาของพวกเขาก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความแน่วแน่ ดูจากภายนอกแล้วพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ เวลานี้ก็เป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่บ้านหรือไม่ก็เข้านอนแล้ว พวกเขาก็เช่นกัน พวกเขาควรที่จะอยู่บนเตียงไม่ใช่ในรถแบบนี้
เห็นได้ชัดว่าชายทั้งสองคนนี้กำลังสังเกตุและตรวจเช็ครถทุกคันที่กำลังขับเข้าสู่ หัวใจแห่งโอะชิโนะ
เซี่ยเหล่ยต้องการที่จะตรวจสอบชายทั้งสองคนให้มากกว่านี้ เขาจึงเร่งความสามารถในการมองทะลุขึ้นไปอีกและก็เป็นอย่างที่เขาคาดเอาไว้ ชายทั้งสองคนนี้มีปืนพกติดที่เก็บเสียงคนละหนึ่งกระบอก
ปืนพกติดที่เก็บเสียงถือเป็นอาวุธลอบสังหารที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย!
รถคันนั้นมีอะไรงั้นเหรอ? หลงบิงถามเนื่องจากเห็นเขาชำเลืองมองรถคันนั้นมาซักพักแล้ว
เซี่ยเหล่ยส่ายหน้าก่อนจะตอบว่า ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ
อย่างไรก็ตามชายทั้งสองคนนั้นมองไปที่เซี่ยเหล่ยและหลงบิงที่กำลังจะเดินเข้าโรงแรมตลอดเวลา พวกเขาเลือกที่ละสายตาจากถนนทางเข้าและหันมาสนใจเซี่ยเหล่ยและหลงบิงแทนก็เพราะว่าในขณะนี้ไม่มีรถแล่นผ่านเลยซักคัน ชายทั้งสองคนจึงเลือกที่จะหันมาสังเกตเซี่ยเหล่ยและหลงบิงเผื่อว่าจะพบพิรุธอะไร อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่พบว่าทั้งคู่มีอะไรที่ผิดสังเกต ไม่นานพวกเขาจึงหันกลับไปเฝ้ามองตรงบริเวณทางเข้าตามเดิม
นี่ พวกเขากำลังมองเราอยู่ จู่ๆเซี่ยเหล่ยก็กระซิบเบาๆกับหลงบิง
หลงบิงเกาะแขนของเซี่ยเหล่ยทันทีก่อนจะเริ่มแสดงละครโดยพูดขึ้นว่า ที่รัก ฉันอยากกินซาชิมิจังเลย ฉันได้ยินมาว่าซาชิมิที่ญี่ปุ่นอร่อยมาก คุณต้องให้ฉันกินนะเพราะถ้าไม่ให้ฉันจะเลิกกับคุณ!
หลงบิงกลายเป็นนักแสดงชั้นเยี่ยมเมื่อเธอกำลังปฏิบัติภารกิจ เธอกลายเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาในทันที
โอเค โอเค พวกเราจะกินซาชิมิกัน ว่าแต่ทำไมเรากินอาหารด้วยกันตั้งเยอะแต่หุ่นของคุณยังดีอยู่เลย แล้วดูหุ่นผมสิ เซี่ยเหล่ยบ่นในขณะที่เขากำลังเดินเข้าโรงแรมไปพร้อมกับหลงบิง
อย่างไรก็ตามขณะที่กำลังเดิน เซี่ยเหล่ยยังคงใช้ความสามารถในการมองทะลุมองไปที่ชายทั้งสองคนตลอดเวลาเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของพวกเขา
ขณะเดียวกันนั้นชายทั้งสองคนในรถกำลังยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดอะไรบางอย่างอยู่
เซี่ยเหล่ยไม่สามารถอ่านอ่านริมฝีปากของพวกเขาได้ว่ากำลังพูดอะไรกัน เนื่องจากเป็นภาษาที่เขาไม่คุ้นเคยความสงสัยเกิดขึ้นในใจของเขาทันทีว่า ‘หากพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ทั้งสองคนนี้จะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร หากพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของประเทศญี่ปุ่น พวกเขาก็ควรจะใช้ภาษาญี่ปุ่น แต่นี่พวกเขากลับไม่ได้ใช้มันเหล่านั้นเลย พวกเขาเป็นใครและมาจากไหนกันแน่นะ? ‘
การค้นพบนี้ถือเป็นโชคดีของเขาอย่างมากเพราะมันจะทำให้เขาระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามมันกลายเป็นความโชคร้ายของเขาอย่างมากเช่นกันที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าใครกันที่อยู่ข้างเดียวกับกู๋เค่อเหวิน!
ในทันใดนั้นสมองของเซี่ยเหล่ยก็เริ่มทำงานด้วยความเร็วขั้นสุดยอด ข้อมูลค่อยๆทยอยผุดขึ้นมาในหัวของเขา ไม่ว่าจะเป็นทั้งซีไอเอ มอสสาด กองกำลังอัฟกานิสถานศูนย์วิจัย AE องค์กร FA ….
แต่แล้วความคิดของเซี่ยเหล่ยก็มาสะดุดที่ชื่อขององค์กร FA เขารู้สึกราวกับว่าเขาได้คำตอบจากการค้นหาความเป็นไปได้ด้วยสมองของเขา อย่างไรก็ตามหนึ่งวินาทีต่อมาเขาก็ปฏิเสธความคิดที่สมองมอบให้เพราะนี่เป็นการต่อสู้ระหว่างเขาและกู๋เค่อเหวิน ซึ่งเธอเป็นเจ้าหน้าที่ของซีไอเอดังนั้นมันไม่มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเป็นฝีมือขององค์กร FA
หลังจากเข้าโรงแรมไปแล้ว เซี่ยเหล่ยไม่ได้สอบถามราคาแม้แต่น้อย เขาเลือกห้องและอาหารที่แพงที่สุดทันทีกับเจ้าของโรงแรม
เจ้าของโรงแรมเป็นผู้หญิงและเธอก็ชอบลูกค้าแบบเซี่ยเหล่ยอย่างมากเพราะลูกค้าประเภทนี้จะเป็นคนที่ยอมจ่ายหนักและไม่ค่อยเรื่องมาก
เมื่อมาถึงห้องแล้วเซี่ยเหล่ยก็ต้องตกใจกับห้องของเขาอย่างมากเพราะนอกจากมันจะใหญ่แล้ว มันยังมีสระน้ำพุที่สร้างอยู่กลางห้องอีกด้วย
หลังจากที่เจ้าของโรงแรมส่งพวกเขาเสร็จแล้วก็ออกจากห้องไปภายในจึงเหลือเพียงแค่เซี่ยเหล่ยและหลงบิง เธอเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยเหล่ยด้วยดวงตาที่เร่าร้อนก่อนจะพูดขึ้นว่า คุณตั้งใจเลือกห้องนี้ใช่ไหม?
เซี่ยเหล่ยมองหน้าเธอโดยที่ไม่ได้พูดอะไร เขาแอบคิดในใจว่าต่อให้พูดหรือไม่พูดอะไรออกไปมันก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปละงอยู่ดี
อย่างไรก็ตามห้องที่พวกเขาอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถมองเห็นบริเวณที่จอดรถตรงทางเข้าของ หัวใจแห่งโอะชิโนะ ได้เลย
ขณะเดียวกันนี้โทรศัพท์ดาวเทียมก็ดังขึ้นมา