Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร - ตอนที่ 221
TXV – 221 การช่วยชีวิตด้วยแป้งขนมปัง !
ณ โรงแรมห่ายจูที่ห้องพัก 508
“มาร์คัส ราล์ฟ ทำไมคุณถึงซื้อตั๋วไปอเมริกา มันไม่ใช่กลับเยอรมันซะหน่อย ฉันไม่อยากไปอเมริกาและคุณก็ไม่มีสิทธิส่งฉันไปอเมริกาด้วย “อเลน่าพูดขึ้นด้วยอารมณ์โกรธ
มาร์คัสและราล์ฟคือเอเย่นต์ชาวเยอรมันที่พาเธอมายังประเทศจีน
มาร์คัสหัวเราะเยาะเย้ยก่อนพูดขึ้นว่า “ผมไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายอะไรให้คุณฟัง”
อเลน่าพูดขึ้นว่า “ฉันต้องการทนาย! ถ้าฉันมีความผิด ฉันก็จะผิดจากการตัดสินจากผู้พิพากษาและคณะเท่านั้น พวกคุณไม่มีสิทธิมาตัดสินฉันว่าผิดหรือถูก! “
ราล์ฟที่กำลังสูบบุหรี่อยู่บนโซฟาทันใดนั้นเขาได้เอาบุหรี่ออกจากปากแล้วก็เขี่ยบุหรี่ก่อนพูดขึ้นอย่างไม่แยแสว่า “พูดอะไรของคุณ? คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร คิดว่าตัวเองทำความผิดแค่ขับรถฝ่าไฟแดงอย่างนั้นเหรอ คิดให้ดีนี่คุณมีความผิดฐานทรยศประเทศนะ ฉะนั้นคุณไม่มีสิทธิเรียกร้องทนายหรืออะไรทั้งสิ้น “
“แล้วทำไมถึงพาฉันไปอเมริกา?” อเลน่ายังพูดด้วยความโกรธและยังพูดต่อว่า “ฉันเป็นชาวเยอรมัน ถ้าฉันผิดจริงก็ต้องเข้าคุกที่เยอรมันนี่!”
ราล์ฟยิ้มก่อนพูดขึ้นว่า “สมองของคุณคิดอะไรไม่ได้เลยงั้นเหรอ? พวกเราแบ่งปันข่าวกรองกับสหรัฐอเมริกา สายลับจีนได้ขโมยข้อมูลความลับด้านเทคโนโลยีของเราซึ่งนี่เป็นข้อมูลของคู่ค้าของเราที่เขามอบให้ ดังนั้นเราจะส่งตัวคุณให้กับพวกเขาเพื่อที่เขาจะได้จัดการตามวิธีการของเขา “
“ใครให้ข้อมูลกับคุณ?” อเลน่าถาม
ราล์ฟมองไปที่อเลน่าแล้วพูดอย่างระมัดระวังว่า “ก็มีหลายคน”
“ฉันก็แค่อยากรู้….” อเลน่าพูดและยังพูดต่อว่า “ฉันคิดว่าต้องเป็นหน่วยข่าวกรองของอเมริกาใช่มั้ย?”
“ซีไอเอ? บางทีนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะกังวลหรอกนะ “ มาร์คัสพูด
อเลน่าพูดขึ้นด้วยความอยากรู้เพิ่มเติมอีกว่า “ฉันรู้ว่าพวกเขาต้องเป็นซีไอเออย่างแน่นอนฉันเคยดูในหนังคนพวกนี้ทำได้ทุกอย่าง ฉันไม่อยากไปอเมริกา ฉันไม่อยากไป!”
“หุบปาก!” มาร์คัสตบอเลน่าจนทำให้เธอฟุปล้มไปที่พื้นจากนั้นมาร์คัสก็พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ผมจะให้เวลาคุณแค่ห้านาที จากนั้นเราจะไปที่อเมริกากัน ”
อเลน่าพยายามลุกขึ้นจากพื้นจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “แค่ห้านาทีมันไม่พอหรอก ฉันต้องอาบน้ำ”
“อย่าต้องมาพูดมาก” มาร์คัสพูดขึ้นอย่างรำคาญ
อเลน่าพูดขึ้นว่า “แค่นี้ก็ไม่ได้อย่างนั้นเหรอ หลังจากนี้ฉันจะต้องไปที่อเมริกาแล้ว ฉันคิดว่ามันคงไม่มีโอกาสอีก แค่นี้มันมากเกินไปงั้นเหรอ? “
ราล์ฟพูดขึ้นว่า “มาร์คัส ยังพอมีเวลา ให้เวลาเธอหน่อยก็แล้วกัน”
มาร์คัส พยักหน้าจากนั้นก็พูดกับอเลน่าว่า “รีบไปเร็วๆเข้า”
อเลน่าผายมือออกไปที่ประตูแล้วพูดว่า “จะไม่ออกไปเหรอ? นี่มันชั้นหกนะ คุณคิดว่าฉันจะกระโดดหน้าต่างแล้วหนีไปอย่างนั้นเหรอ? ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว “
มาร์คัสและราล์ฟมองหน้ากันจากนั้นก็เดินออกไปรอนอกห้อง
ซึ่งอเลน่ากำลังถอดเสื้อแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
มาร์คัสและราล์ฟคอยยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องอย่างระมัดระวัง…..
ราล์ฟพูดว่า “คิดๆไปแล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอบ้าง”
มาร์คัสพูดว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องที่เราควรกังวล เราเพียงแค่ทำตามคำสั่งก็เท่านั้น”
“สิ่งที่เซี่ยเหล่ยขโมยไปแล้วไปอยู่ที่กลุ่มอุตสาหกรรมจีนนั้น มันน่าเสียดายมากที่สถานที่แห่งนั้นถูกควบคุมโดยทหาร ทำให้เราไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้ๆได้ไม่งั้นเราคงได้หลักฐานกลับไปแน่ๆ ” ราล์ฟพูดขึ้นอย่างเสียดาย
มาร์คัสพูดว่า “แต่นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งดีเหมือนกัน เพราะการที่เราแค่พาอเลน่าไปส่งที่อเมริกา ก็ทำให้เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำภารกิจที่เสี่ยงในประเทศจีนต่อ “
ราล์ฟยิ้มแล้วพูดว่า “ผมก็คิดเหมือนกัน เพราะประเทศจีนก็เป็นประเทศที่เก่าแก่และลึกลับแถมยังแข็งแกร่งในระดับนึงเหมือนกัน ผมก็ไม่ค่อยชอบความรู้สึกนี้ซักเท่าไหร่ มาคิดๆดูแล้วหลังจากที่พาอเลน่าไปส่งที่อเมริกาเสร็จ ผมจะพักผ่อนที่อเมริกาซักหน่อย “
มาร์คัสยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน ผมคิดว่าเราน่าจะไปไนท์คลับ จากนั้นก็เรียกเด็กๆชาวอเมริกันมาดูแล นี่เป็นวิธีที่จะพักผ่อนและผ่อนคลายได้ดีที่สุด “
จังหวะนั้นมีหญิงวัยกลางคนเดินมาพร้อมกับรถทำความสะอาดจากนั้นก็ทำท่าจะเปิดประตูห้องของพวกเขา
มาร์คัสได้เอามือขวางไว้แล้วพูดกับหญิงวัยกลางคนในภาษาจีนแบบงูๆปลาๆไปว่า “ไม่เป็นไร”
หญิงวัยกลางคนได้ตีมือของมาร์คัสแล้วพูดขึ้นว่า “หลีกทางให้ฉัน ฉันจะต้องเข้าไปทำความสะอาด ไม่อย่างนั้นฉันจะโดนไล่ออก “
“คุณพูดอะไรหน่ะ?” ราล์ฟพูดขึ้นอย่างสับสน
มาร์คัสส่ายหัวแล้วก็พูดขึ้นว่า “ผมก็ไม่รู้”
ระดับการพูดภาษาจีนของเอเย่นต์ชาวเยอรมันทั้งสองคนนั้นอยู่ในระดับที่แค่พูดได้แค่นิดหน่อยพูดได้แค่บางคำก็เท่านั้น อย่างเช่น “สวัสดี” “ราคาเท่าไหร่”
หญิงวัยกลางคนมองไปที่มาร์คัสแล้วพูดขึ้นต่อว่า ” หลีกไปได้แล้ว ฉันจะเข้าไปทำความสะอาดห้อง “
เสียงพูดของเธอดังมาก จนทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมสองคนหันมาสนใจ และกำลังเดินเข้าไปที่พวกเขา……
“ช่างมัน…ให้เธอเข้าไป” ราล์ฟพูดขึ้นเพราะไม่อยากที่จะให้มีเรื่องนอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นจากนั้นก็พูดต่อว่า “อย่างไรก็ตาม เธอก็เป็นแค่ผู้หญิง”
หญิงวัยกลางคนเปิดประตูและดันรถทำความสะอาดเข้าไปในห้อง
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนก็เดินกลับไป
เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมเดินกลับไปแล้วราล์ฟก็ได้เปิดประตูและแง้มมองเข้าไปในห้องว่าหญิงวัยกลางคนนั้นได้ทำอะไรอยู่บ้าง จังหวะเดียวกันนั้นหญิงวัยกลางคนก็ได้หันมาสบตากับเขาพอดีจากนั้นเธอก็พูดบ่นอะไรซักอย่างในทันทีที่สบตากัน
ราล์ฟยังคงแง้มประตูไว้ดังเดิมเพื่อที่จะให้ทั้งเขาและมาร์คัสคอยสังเกตในห้องได้ชัดเจน
ตลอดเวลาหญิงวัยกลางคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดปกติเลย เธอยังคงยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดและพวกเขาก็ยังคงได้ยินเสียงน้ำไหลจากห้องน้ำตลอดเวลาเหมือนกัน
ไม่นานหลังจากนั้นหญิงวัยกลางคนก็ได้เข็นรถไปหน้าห้องน้ำ จากนั้นก็มีใครบางคนรีบวิ่งจากชั้นด้านล่างของรถทำความสะอาดเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ไม่นานเอเย่นต์ทั้งสองคนก็หันกลับเข้าไปในห้องเพื่อดูสถานการณ์อีกครั้ง โชคยังดีที่เขาไม่ได้เห็นใครบางคนแอบเข้าห้องน้ำไป พวกเขาเห็นเพียงแค่ว่าหญิงวัยกลางคนยังคงทำความสะอาดอยู่เหมือนเดิม
ในห้องน้ำอเลน่าได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เธอก็เปิดปากขึ้นด้วยความดีใจและตื่นเต้นจนเกือบจะทำให้เสียงหลุดออกจากปาก
ซึ่งคนที่แอบเข้าไปในห้องน้ำก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเซี่ยเหล่ยนั้นเอง
ในตอนนี้ร่างกายของอเลน่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแต่อย่างใด ทำให้เห็นร่างกายของเธอทุกส่วนได้อย่างชัดเจน เซี่ยเหล่ยชะงักไปชั่วหนึ่งแต่ไม่นานเขาก็กลับเป็นท่าทางจริงจังก่อนพูดขึ้นว่า “เรามีเวลาไม่มาก ฟังในสิ่งที่ผมจะพูดให้ดี ผมจะให้คุณอยู่ที่ประเทศจีนต่อ”
“อยู่ที่จีน?” อเลน่าพูดขึ้นจากนั้นก็พูดต่อว่า “แล้วจะให้ฉันทำอะไรที่นี่?”
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “เราจะคุยเรื่องนี้กันในภายหลัง ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้คุณอยู่ที่นี่ต่อได้ เพราะถ้าคุณไปถึงอเมริกาแล้วผมจะไม่มีทางช่วยเหลือคุณได้อีกแล้ว คุณเข้าใจใช่ไหมว่าผมหมายความว่ายังไง “
อเลน่ากัดริมฝีปากจากนั้นพยักหน้าแล้วพูดว่า “อืม ฉันเข้าใจและฉันจะอยู่ที่นี่ต่อเพราะเมื่อฉันอยู่ที่จีนทำให้ฉันสามารถเห็นคุณได้ตลอดเวลา มันจะทำให้ฉันรู้สึกดีมากๆ”
เมื่อได้ยินอเลน่าพูดแบบนี้ทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกเศร้าและลำบากใจจากนั้นก็พูดว่า “แผนของผมจะเริ่มขึ้นที่สนามบิน แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นคุณต้องทำบางอย่างก่อน”
“ทำอะไร?” อเลน่าพูดขึ้น
เซี่ยเหล่ยดึงถุงยางออกมาจากกางเกงของเขาและถือไว้อยู่ในมือสองอัน
เมื่ออเลน่าเห็นถุงยางในมือเซี่ยเหล่ย เธอแสดงท่าทางที่เปลี่ยนไป เธอแก้มแดงและรู้สึกเขินอายจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เวลานี้คงไม่ดีหรอกแต่ลูคัสฉันสัญญากับคุณได้เลยว่าคุณสามารถที่จะทำมันเมื่อไหร่ก็ได้ และฉันไม่สนใจว่าคุณจะมีแฟนแล้วหรือยังไงแต่ฉันสามารถที่จะตอบสนองความต้องการของคุณได้หากคุณต้องการไม่ว่าเมื่อไหร่นอกจากนี้… “
“คุณคิดอะไรของคุณ?” เซี่ยเหล่ยได้ขัดจังหวะการพูดของอเลน่าจากนั้นเขาก็ได้หยิบถุงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าภายในนั้นมีผงสีขาวอยู่จำนวนหนึ่ง
อเลน่าตะลึงแล้วพูดอย่างสงสัยไปว่า “มันคืออะไร?”
เซี่ยเหล่ยตอบว่า “ผงแป้งขนมปัง” เขาพูดจากนั้นก็ฉีกถุงของถุงยางอนามัยออกจากนั้นก็เอาผงแป้งขนมปังใส่เข้าไปข้างใน
“คุณจะให้ฉันกินอย่างนั้นเหรอ?” อเลน่ารู้สึกสับสนและพูดต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้นมันคือถุงยางอนามัย?”
เซี่ยเหล่ยตอบไปว่า “ตอนนี้ภายในถุงยางมันเต็มไปด้วยผงแป้งขนมปัง แต่มันจะถูกพบว่าเป็นยาเสพติดเมื่อผ่านการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินเพราะพวกเขาจะแยกไม่ออกว่ามันคืออะไรกันแน่เพียงแค่สแกนร่างกาย พวกเขาจะต้องพาตัวคุณไปตรวจอย่างละเอียดว่ามันคืออะไร แต่พวกเขาจะสงสัยว่ามันคือสารเสพติดไว้ก่อน ซึ่งตามกฏหมายแล้วหากพบมันที่นี่คุณจะต้องถูกตัดสินประหารชีวิต “
อเลน่ารู้สึกเครียดในทันที
เซี่ยเหล่ยมองไปที่อเลน่าแล้วพูดว่า “เชื่อผม มันจะต้องได้ผลหลังจากเป็นไปตามแผน คุณจะถูกพาตัวไปสอบปากคำเมื่อถึงเวลานั้นคุณก็ต้องขอน้ำพวกเขาดื่ม หลังจากดื่มน้ำแล้วคุณก็จะต้องแสดงว่าเจ็บปวดอย่างมากจากนั้นก็ตายในที่สุดซึ่งเราจะบอกไปว่าเพราะถุงยางอนามัยฉีกขาด ทำให้ผงที่อยู่ภายในไหลออกมาจำนวนมากในกรณีนี้จะทำให้เอเย่นต์ 2 ทั้งสองคนไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณอีกแน่ คุณเข้าใจแล้วใช่มั้ย? “
อเลน่าพยักหน้า
เซี่ยเหล่ยพูดขึ้นว่า “เปิดปากแล้วกลืนมันซะ”
อเลน่าเงยหน้าขึ้นแล้วเปิดปากจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็ใส่ถุงยางลงไปในปากของเธอ แต่ตอนนี้สายตาของเซี่ยเหล่ยอยู่ที่หน้าอกของอเลน่า เขานึกในใจว่ามันใหญ่มาก!
อเลน่ากำลังดิ้นลนเพื่อที่จะกลืนถุงยางอนามัยลงไป แต่เนื่องด้วยมันยากมากจึงทำให้เธอตักน้ำในอ่างมากรอกปากเพื่อช่วยให้มันลงท้องไปได้ง่ายขึ้น
หลังจากกลืนถุงยางอนามัยอันแรกไปแล้ว เธอก็หันไปมองหน้าเซี่ยเหล่ยไม่นานเธอก็กลืนอันที่สองลงไป จากนั้นเธอก็หันไปที่เซี่ยเหล่ยอีกครั้งครั้งนี้เธอเดินเข้าไปกอดและจูบทันที
จังหวะนั้นเองประตูห้องน้ำก็ได้ถูกเปิดขึ้น ชั้นด้านล่างของรถทำความสะอาดถูกเปิดออก
อเลน่ารู้สึกหงุดหงิดที่มีคนมาขัดจังหวะจากนั้นเธอก็ปล่อยตัวเซี่ยเหล่ย…
เซี่ยเหล่ยพูดว่า “ไม่เป็นไร เขาเป็นพวกเดียวกับเราแต่คุณต้องจำไว้ให้ดีว่า คุณต้องดื่มน้ำ “
อเลน่าพยักหน้า
เซี่ยเหล่ยได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในด้านล่างของรถทำความสะอาด
หญิงวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจไปว่า “คุณจะอาบน้ำอีกนานแค่ไหนกัน “
เมื่ออเลน่าได้ยินดังนั้น เธอหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วออกจากห้องน้ำ
มาร์คัสและราล์ฟมองไปที่อเลน่าอย่างหยาบคาย
อเลน่าพูดว่า “มันใช่เวลามั้ย พวกคุณมองฉันอยู่แล้วฉันจะแต่งตัวได้อย่างไร? “
มาร์คัสและราล์ฟมองหน้ากันจากนั้นก็ได้ปิดประตูออกไป…….
ติดตามตอนต่อไป……..